px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 668: มุ่งหน้าไปทางใต้


Chapter 668: มุ่งหน้าไปทางใต้
แค่ใน 10 วัน กองทัพแนวหน้าก็ได้กวาดอาณาเขตรัฐซิมเบียนส่วนมากได้แล้ว  ด้วยการที่มาด้วยกันกับกองทัพกลาง จางเทีย ได้เห็นเมืองที่ถล่มแล้วทีละเมืองๆ
เมืองดีแลน,เพอริกู,เอเดรีน, โซมิเบ, โฮลบีช, คอสเลียนและเมืองเรย์...

เมืองพวกนี้ทั้งหมดต่างก็เคยเจริญรุ่งเรือง ไม่มีเลยสักเมืองที่แย่กว่าแบล็คฮ็อตแต่ในตอนที่กองทัพกลางไปถึง หลายเมืองโดนเผากลายเป็นซาก  ในตอนที่ผ่านหมู่บ้านและเมืองไป พื้นที่ต่างๆนั้นเต็มไปด้วยศพ  จางเทีย ประทับใจกับความโหดร้ายของสงครามและอันตรายที่มีต่อมนุษย์กว่า 10 วันที่ผ่านมา

หลังจากที่ยึดเมืองดีแลนได้ กองทัพซอมบี้ไม่ได้เจอกับการต่อสู้ขนาดใหญ่ที่คอยต้านทานอีกต่อไป เมืองทุกเมืองนั้นถูกเผากลายเป็นซากก่อนที่พวกซอมบี้จะมาถึง  แม้ว่าทั้งเมืองจะรกร้าง ผู้หญิงและเด็กต่างก็อพยพไปเมื่อสองปีก่อนแล้ว ทหารได้พากันอพยพไปหลังจากที่แนวป้องกันเซลเนสนั้นพังลงโดยเฉพาะหลังจากที่เมืองดีแลนพังไปแล้ว ทหารที่เหลือในซิมเบียนต่างก็เริ่มผิดหวัง ผลก็คือไม่มีใครเลยที่อยากอยู่ในเมืองต่อคอยการมาของพวกกองทัพปิศาจ

การรวมกันของพวกกองทัพซอมบี้และปิศาจนั้นไร้เทียมทานอย่างมาก

พูดถึงสุดยอดกองทัพปิศาจแล้ว ในที่สุด จางเทีย ก็ได้เห็นมันที่เมืองโฮลบีช

จางเทีย ไม่รู้ว่าจะอธิบายถึงมันยังไง  เขาช็อกกับการที่ปิศาจระดับ 9 กว่าแสนตัวปรากฏตัวต่อหน้าเขา
ก่อนที่กองทัพปิศาจจะปรากฏตัว  จางเทีย ได้เห็นปิศาจปีกระดับ 9 กว่าแสนตัวบินมาที่กำแพงเมืองโฮลบีชเหมือนกับพายุร้อนที่พัดมาจากไกลๆ ในตอนที่มันหยุด กองทัพปิศาจกว่าแสนตัวได้ยืนหยุดนิ่งราวกับภูเขาแต่เมื่อเผชิญหน้ากับพลังฉีที่ร้ายกาจ,ซอมบี้กว่าล้านตัวที่มารวมตัวกันด้านนอกกำแพงเมือง ทุกคนก็ล้วนแต่ต้องกลัวและหนีไป

ตอนนั้นสมาชิกของตระกูลซีเนลและตระกูลอาเทอร์ที่ดูแลกองทัพกลางอยู่ต้อนรับสุดยอดกองทัพปิศาจด้านนอกเมือง เมื่อเห็นฉากนั้น หน้าตาของแต่ละคนต่างก็ซีดรวมไปถึงอัศวินที่ตระกูลซีเนลจ้างมาด้วย
แม้แต่ จางเทีย ที่เข้าสิงด้วงซึ่งเกาะอยู่บนก้อนอิฐเองก็ช็อกกับพลังแบบนี้

ถ้าปิศาจเกราะเหล็กระดับ 9 อยู่ตรงหน้าเขา  จางเทีย จะไม่สนใจมัน ถ้าปิศาจเกราะเหล็กระดับ 9 สิบตัวมายืนอยู่ต่อหน้าเขา จางเทีย ก็สามารถจัดการมันได้ง่ายๆ หากมีร้อยตัว จางเทีย จะรู้สึกเครียดขึ้นมา หากมีพันตัว  เขาจะหันกลับแล้วหนีทันที ถ้ามีหมื่นตัวอยู่ต่อหน้าเขา แม้แต่อัศวินก็ยังต้องหลีกเลี่ยง นี่ไม่ต้องพูดถึง จางเทีย เลย แต่นี่มีเกือบแสนตัวอยู่ต่อหน้าเขา   จางเทีย ไม่รู้ว่ามีพวกระดับ 10-15 กี่ตัวในหมู่พวกมันแต่ จางเทีย รู้จากพวกคนกลุ่มสามตาว่ามีอัศวินปิศาจ 6 ตัวในกองทัพนี้ภายใต้การดูแลของแม่ทัพปิศาจ แม้ว่าหนึ่งในนั้นจะโดนฆ่าในเซลเนสแล้วก็ตาม

‘ ข้าจะต้านทานกองทัพแบบนี้ได้ยังไง ? ‘  จางเทีย เทียบกับกองทัพอื่นๆที่เขาเคยได้ยินมันมาก่อนกับกองทัพปิศาจนี้และพบว่ามันไร้เทียมทานในบรรดาสมาคมแบล็คซอน  กองทัพมนุษย์ใดก็ตามเมื่ออยู่ต่อหน้ากองทัพปิศาจนี้ไม่อาจทำอะไรได้นอกจากต้องโดนฆ่า แม้ว่าจะมีจำนวนมากกว่าก็ตามเพราะใบมีดของพวกปิศาจเกราะเหล็กนั้นสามารถฝ่าวงล้อมของมนุษย์ได้ง่ายๆ
บางทีกองทัพมนุษย์อาจจะทำการล้อมกองทัพปิศาจนี้ได้ด้วยจำนวนของกองทัพเกราะในสภาพแวดล้อมพิเศษก่อนที่จะโจมตีร่วมมือกับกองทัพอากาศได้แต่การพังของแนวป้องกันที่เซลเนสได้บ่งบอกว่าของแบบนั้นไม่มีทางที่จะเกิดขึ้น  เซลเนสที่เคยเป็นที่รวมตัวของกองทัพยานที่ทรงพลังที่สุดและรถเกราะต่างๆมากมาย แล้วเป็นยังไง ? มนุษย์ถูกลากลงไปในรกโดยพวกกองทัพปิศาจปีกและซอมบี้  ปิศาจนั้นไม่ได้โง่ พวกมันไม่อาจยืนอยู่เฉยๆและรอยให้โจมตี ในทางกลับกันแม่ทัพปิศาจของกองทัพนี้นั้นฉลาดและเจ้าเล่ห์มากกว่าพวกแม่ทัพของคนที่โด่งดังอีก
กองทัพปิศาจปีกสร้างแนวกั้นขึ้นมาและเป็นสายตาให้กับกองทัพนี้  ส่วนพวกซอมบี้นั้นจะทำตัวเป็นโล่และหนวดให้กับกองทัพนี้ สุดยอดกองทัพนี้ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังแนวกั้น,สายตา,โล่และหนวดซึ่งสามารถทำให้พวกมนุษย์นั้นได้รับความเสียหายอย่างมาก

มันก็เหมือนกับตอนนี้หลังจากที่กองทัพซอมบี้ได้พังแนวป้องกันเซลเนสมาได้ มันได้แบ่งออกเป็นสามส่วนและเดินหน้าไปยังทางใต้ กองทัพปิศาจนี้ได้ซ่อนตัวอยู่ในบรรดากองทัพหน้า,กลางและหลัง  แม้แต่สมาชิกของพวกกลุ่มสามตาก็ไม่รู้ว่าพวกมันอยู่ที่ไหน พวกเขารู้แค่ว่ากองทัพปิศาจนี้อยู่ภายใต้แม่ทัพปิศาจนี้มักจะอยู่ห่างไม่ถึง 300 ม.จากหนึ่งในสามกองทัพซอมบี้ บางครั้งกองทัพนี้จะทิ้งพวกกองทัพซอมบี้ไป พวกมันแค่คอยสั่งการกองทัพซอมบี้ ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกมันจะไปอยู่ที่ไหนกันบ้าง

นอกจากนี้  จางเทีย ยังพบกฎข้อหนึ่งเกี่ยวกับที่ที่พวกนี้อยู่ --- พวกมันไม่มีทางตั้งแคมป์ในเมืองแม้แต่ในเมืองโฮลบีช กองทัพนี้ตั้งแคมป์ห่างจากกำแพงเมืองไป 100 ม.
ผู้เชี่ยวชาญจีนมักจะอธิบายถึงกองทัพที่แข็งแกร่งไว้ดังนี้ : ในตอนที่เคลื่อนทัพ พวกเขาจะรวดเร็วดังสายลมและสายฟ้า  ในตอนที่ลดความเร็ว พวกเขาจะหนาแน่นราวกับป่า ในตอนที่ออกโจมตี พวกเขาจะดุดันราวกับไฟ ในตอนที่อยู่นิ่ง พวกเขาจะมั่นคงราวกับภูเขา  ในตอนที่ซ่อนตัว พวกเขาจะดูลึกลับราวกับพระอาทิตย์และพระจันทร์ในวันที่เต็มไปด้วยเมฆ  หลังจากที่เห็นกองทัพนี้แล้ว แม้ว่า จางเทีย จะไม่อยากยอมรับแต่ก็ต้องยอมรับว่าเขารู้ว่ากองทัพนี้ถือว่าเทียบเท่าได้กับคำอธิบายที่ จางเทีย เคยเห็นมาได้
ในตอนที่ จางเทีย มองไปที่มัน  จางเทีย ก็กระจ่างขึ้นมาว่าไม่มีกองทัพมนุษย์ไหนที่สามารถเอาชนะกองทัพปิศาจนี้ได้ยกเว้นแค่หนึ่งในกองทัพที่มีจำนวนนักสู้ระดับ 9 จำนวนเท่ากัน จากประสบการณ์การต่อสู้ที่เซลเนส มีแค่กองทัพมนุษย์ระดับ 9 รึสูงกว่าที่สามารถเอาชนะกองทัพนี้ได้ กองกำลังที่ทำความเสียหายให้กับพวกกองทัพปิศาจพวกนี้ได้มากที่สุดนั้นไม่ใช่กองทัพยาน,กองทัพรถเกราะรึกองกำลังมนุษย์พื้นดินแต่เป็นพวกทีมนักล่าและพาราดินที่อยู่ในที่ราบเซลเนส

ปิศาจเกราะเหล็กกว่า 3 พันตัวถูกพวกนักล่าและพาราดินฆ่าเอาแต่กองทัพอื่นๆนั้นทำให้พวกปิศาจเกราะเหล็กตายไปแค่ 1,000 ตัว
จางเทีย รู้ว่าการพังของแนวป้องกันเซลเนสนั้นจะเสียหายให้กับระบบกองทัพของมนุษย์ตอนนี้แน่นอน เขาหาช่องโหว่ของระบบการก่อตั้งกองทัพมนุษย์ตอนนี้ได้ คนอื่นก็ต้องได้เช่นกัน  มาตรฐานก่อนของกองทัพมนุษย์นั้นกลายเป็นไร้ความหมาย  บางทีในอนาคต กองทัพมนุษย์นั้นอาจจะแบ่งเป็นสองฝ่าย ทีมหนึ่งไว้จัดการกับพวกซอมบี้ อีกพวกไว้จัดการกับพวกกองทัพปิศาจ  กองทัพซอมบี้นั้นสามารถป้องกันได้ด้วยกำแพงสูง,หน้าไม้ไอ้น้ำ,รถเกราะและระเบิดเจลซึ่งมันก็อาจจะเป็นอันตรายต่อพวกกองทัพปิศาจธรรมดา ในทางกลับกันมีแค่พวกนักสู้ที่สุงกว่าระดับ 9 ซึ่งสามารถรับมือกับกองทัพปิศาจแบบนี้ได้  แม้ว่าจะเป็นทีม,หน่วยรึกลุ่มของนักสู้ระดับ 9 ขึ้นไปก็ยังมีประสิทธิภาพมากกว่ากองทัพธรรมดาที่มีคนเป็นแสน
เพื่อที่จะป้องกันกองทัพปิศาจแบบนี้ กองทัพธรรมดาต้องซ่อนตัวอยู่ด้านหลังป้อมปราการซึ่งขับเคลื่อนโดยระบบไอน้ำแต่พื้นที่ต่อสู้ที่สามารถเผชิญหน้ากับพวกกองทัพปิศาจภายใต้การสั่งการของอัศวินที่ซึ่งเคลื่อนที่ได้เร็วราวกับสายฟ้านั้นมันเลวร้ายกว่านั้น พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีจำนวนมากกว่าแต่พวกเขาควรเป็นพวกระดับสูง มีแค่วิธีนี้ที่พวกเขาจะสามารถรับมือกับพวกปิศาจได้....

 

รีวิวผู้อ่าน