px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 669: เมืองแสตนซี่


Chapter 669: เมืองแสตนซี่
ในตอนที่อยู่ในเมืองโฮลบีช  จางเทีย นั้นอยู่ใกล้กับแม่ทัพปิศาจมาก เขาถึงกับต้องการบินเข้าไปในแคมป์เพื่อตรวจสอบแม่ทัพปิศาจแต่สุดท้าย จางเทีย ก็ยกเลิกความคิดนั้น หลังจากที่มีการรับรู้ของอัศวินแล้ว  จางเทีย รู้อย่างชัดเจนว่าการรับรู้นี้ทรงพลังขนาดไหน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกอยากเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง อีกอย่างแล้ว จางเทีย ได้ยินว่าแม่ทัพปิศาจเองก็ไม่ใช่อัศวินธรรมดาด้วย

อันที่จริงมันโง่เกินไปหาก จางเทีย จะเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงเพื่อแอบดูใครบางคน

แม้ว่าการตายของสัตว์ที่เข้าสิงนี้จะไม่ได้ฆ่าเขาโดยตรงแต่ตามที่สูตรป่าเถื่อนอธิบายเอาไว้แล้ว ถ้ามันจะเกิดความเสียหายต่อร่างกายหลักด้วย ในกรณีที่แย่ที่สุดเขาอาจจะเป็นอัมพาตไปเลยก็ได้ หลังจากที่คิดได้ไม่นาน จางเทีย ก็รู้สึกว่ามันไม่คุ้มที่เขาจะทำแบบนั้น ‘ ข้าแค่อยากรู้ว่าแม่ทัพปิศาจนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน ถ้ามีโอกาส ข้าจะไปดูให้ได้ แม้ว่าจะไม่เห็นมันไม่ได้แต่ข้าก็จะไม่เสี่ยงตัวเอง ‘

‘ ข้าควรไล่ตามบางอย่างที่ใกล้เคียงกับความจริงอย่างการฆ่าพวกบัดซบซีเนลแทน ‘ จางเทีย คิด

สุดยอดกองทัพปิศาจได้ตั้งแคมป์อยู่ด้านนอกเมืองทั้งคืน ก่อนที่จะเช้า พวกมันก็หายไป ในเช้าวันที่สอง กองทัพกลางก็เดินหน้าต่อไปยังทางใต้ ในเวลาไม่กี่วันเมืองคอสเซียนและเมืองเรย์ก็ได้พังทลายลงไปด้วย

พูดถึงตระกูลซีเนลแล้วสิ่งที่ทำให้ จางเทีย สลดที่สุดคือ แบตตี้ และ ฮุค นั้นมักจะอยู่ในสายตาของ คอส และ เควียนติน ในหลายวันมานี้ เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะเข้าใกล้พวกนั้น นี่ไม่ต้องนับการฆ่าเลย  มันไม่เป็นไรหากมีแมลงตามคนของพวกซีเนลไปแต่ถ้าแมลงนั้นตามอยู่ตลอด มันคงทำให้เกิดความน่าสงสัยขึ้นมา

เควียนติน นั้นมีการรับรู้ของอัศวินที่มีความสามารถพื้นฐานในการจดจำทุกอย่างในตอนที่เห็นได้  จางเทีย มั่นใจว่าหากเขาโดนเห็นเป็นครั้งที่สองโดย ผู้อาวุโสเควียนติน ในเมืองอื่นอีก  เขาคงมีปัญหาอย่างแน่นอน  ดังนั้น จางเทีย จึงมักจะรักษาระยะห่างกับ เควียนตินเอาไว้ 100 ม.ในตอนที่จับตามองพวกสมาชิกของซีเนล  เขาเกือบจะไม่ได้โผล่ออกไปในสายตาของ เควียนตินเลย  เมื่อเป็นแบบนั้นมันก็ยิ่งยากที่เขาจะฆ่า แบตตี้ และ ฮุค ได้
ในวันที่ 15 เมษายน ปี 895 ฝนได้เริ่มตกลงมา...
ในวันนี้กองทัพกลางก็ได้มาถึงเมืองแสตนซี่....

ในตอนที่เห็นเมือง ฝนก็เริ่มตกหนัก เมืองนี้เองก็ถูกทำลายโดยมนุษย์ก่อนที่ปิศาจจะมาถึงแต่เทียบกับเมืองอื่นๆแล้ว เมืองนี้ถูกทำลายไปมากกว่า มันเหมือนกับว่ามันพังยับเยินไปโดย ‘ ผู้พัฒนา ‘ อาชีพที่แข็งแกร่งก่อนภัยพิบัติในตำนานคนจีน  กำแพงเผยให้เห็นท่อและโครงสร้างด้านในที่ดูสะดุดตายิ่งกว่าเดิมในตอนฝนตกหนัก ฝนที่ตกลงมาทำให้เกิดหมอกซึ่งดูเหมือนกับกลุ่มควันที่คนพ่นออกมาเยาะเย้ยพวกกองทัพปิศาจ....

เทียบกับเมืองที่ยังพอใช้งานได้รึปรับปรุงขึ้นใหม่หลังจากที่โดนทำลายทิ้ง เมืองนี้น่ะโดนทำลายอย่างสมบูรณ์แบบ ที่เหลืออยู่มีเพียงแค่ซากตึกที่โผล่มาในป่าเท่านั้น

บนกำแพงนั้นมีตัวหนังสือสีแดงที่ดูสะดุดตาอย่างมากแม้แต่ในตอนที่ฝนตกหนัก

“ พวกปิศาจบัดซบ ไปกินขี้ซะ พ่อคนนี้จะไม่ทิ้งอะไรไว้ให้พวกเจ้า ! “
...
“ พวกลูกหมากลุ่มสามตา พ่อคนนี้หนีไปแล้ว ไปล้างตูดรอพ่อคนนี้กลับมาซะ... “
...
“ ห้องน้ำในเมืองยังใช้งานได้ พ่อคนนี้จะบอกให้ไอ้พวกบัดซบ ล้างตูดรอไว้ดีๆเลย .... “
...
มีคำพูดมากมาย แม้ว่าบางอันจะโดนคนอื่นลบไปแต่ก็ยังมีหลายอันที่หลงเหลือเอาไว้อยู่

หลายวันมานี้ จางเทีย เห็นเมืองที่ถูกทำลายไปมากมาย เมื่อเขาเห็นเมืองนี้ ตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมา  มันน่าสงสัยจริงๆที่เห็นข้อความพวกนี้มากมายในเมืองที่กลายเป็นซากแห่งนี้

“ บัดซบ ใครทิ้งคำพูดพวกนี้เอาไว้ ถ้าข้าจับมันได้  ข้าจะลอกหนังมันและเอาตัวมันไปจุ่มน้ำ...” – เสียงที่หงุดหงิดดังขึ้นมาจากพวกคนที่ขี่ม้าปิศาจด้านหน้า ตัดสินจากน้ำเสียงแล้ว จางเทีย รู้ว่ามันคือ แบตตี้  แม้ว่าเขาจะไม่เห็น แบตตี้ แต่ จางเทีย ก็ยังคิดภาพออกว่า แบตตี้ แสดงหน้าตายังไง

“ แบตตี้ ถ้าเจ้าดูข้อมูลที่ได้หลายวันมานี้ เจ้าจะรู้ว่าคนสั่งการที่รับหน้าที่ป้องกันเมืองนี้ชื่อว่า แมทริว มันคือเขาที่สั่งให้ทำลายเมืองนี้และทิ้งคำพูดพวกนี้เอา  แมทริว นั้นตัวคนเดียว เขาไม่มีครอบครัว แม้ว่าเจ้าจะจับเขาได้แต่เจ้าก็ได้แค่ลอกหนังเขาและเอาเขาแช่น้ำ ไม่ใช่สมาชิกครอบครัวของเขาทั้งหมด ! “ - ฮุค พูดขึ้น

หลังจากที่ผู้สืบทอดอย่าง สกาล่า ตายไป  ฮุค ก็เริ่มเหมือนจะคึกมากขึ้น

“ ฮุค เจ้าหมายถึงอะไร ? “ - แบตตี้ ถามด้วยความหงุดหงิด แม้ว่าคนโง่ก็คงเข้าใจความหมายของ ฮุค ได้  แบตตี้ ไม่คิดว่าจะโดนตลบหลังโดย ฮุค เพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้

“ ไม่มีอะไร ข้าแค่เตือนเจ้าด้วยความหวังดี  ! “

“ บัดซบ ! “

ในตอนที่ ฮุค ต้องการที่จะเยาะเย้ย แบตตี้  คอส ได้มองมาที่เขาและ แบตตี้ ด้วยสายตาเย็นชา  ทั้งคู่เริ่มตัวสั่นแล้วก้มหัวลงหยุดทะเลาะกันทันที

“ ลบคำพูดพวกนี้หลังจากตั้งแคมป์เสร็จ ข้าไม่ต้องการเห็นมันในวันพรุ่งนี้ ! “ - คอส สั่งการออกมา
“ ได้ครับ ! “ - บางคนตอบกลับมาทันที
หลังจากที่ได้ยินเสียงของ คอส  จางเทีย ก็โผล่หัวตัวเองออกมาจากรูเล็กๆที่แผ่นไม้ของเกวียนที่มีวัวดำสองตัวลากมาและเขาก็ได้มองไปที่ คอส อีกครั้ง...

ในวันที่ฝนตก พวกม้าปิศาจนั้นจะใส่ชุดกันฝน ยกเว้นแค่ คอส กับ เควียนติน  ฝนที่ตกลงมานั้นถูกกันด้วยพลังฉีต่อสู้ ‘ เจ๋งจริงๆที่พวกนี้ใช้พลังฉีต่อสู้กันฝนได้ ! ‘ จางเทีย น้ำลายไหลออกมา....

‘ หากข้าขึ้นไปถึงระดับ 14 ได้ ข้าก็จะสามารถสร้างพลังป้องกันได้ ‘ จางเทีย ลังเลในตอนที่ตระหนักได้ว่าการเส้นทางการบ่มเพาะของเขายืดยาวออกไปอีกหลังจากที่ตามตระกูลซีเนลมากว่า 10 วันโดยไม่ได้อะไรกลับมาเลย...
 

รีวิวผู้อ่าน