px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 671: พลังอันไร้เทียมทานของผู้อาวุโสมูเร


Chapter 671: พลังอันไร้เทียมทานของผู้อาวุโสมูเร
ในตอนที่ จางเทีย มาถึงแคมป์ เขาก็เห็น ผู้อาวุโสมูเร ยืนอยู่ในอากาศลอยสูงกว่า 20 ม. และได้ปล่อยพลังฉีที่แข็งแกร่งพร้อมมองลงมาที่แคมป์

จางเทีย กระพือปีกของตนแล้วไปเกาะที่ต้นไม้ที่ห่างไป 100 ม. หลังจากนั้นเขาก็กลั้นหายใจและมองไปยังฉากนั้น

แคมป์ของตระกูลซีเนลนั้นดูวุ่นวายเล็กน้อย ซอมบี้จำนวนนับไม่ถ้วนได้แห่กันมาเข้ามาที่แคมป์

ตอนนั้น คอส และ อัศวินที่ตระกูลซีเนลจ้างมานั้นได้เดินออกมาจากแคมป์เต็นท์หลัก ในตอนที่ เควียนติน เห็น มูร  เขาก็ได้เดินขึ้นไปบนอากาศทีละก้าวๆอย่างกับมีบันไดและมองไปยัง มูเร ที่ห่างไป 50 ม.

ลูกดอกบางอันถูกยิงเข้าใส่ มูเร จากหน้าไม้หนักแต่ มูเร ไม่สนใจ เขาทำราวกับปัดแมลงวัน เขาโบกมือแล้วทำให้ลูกดอกนั้นบินกลับไปด้วยความเร็วที่สูงกว่าเดิม  หลังจากที่บินมาได้ 100 ม. พวกมันก็ได้ทำการระเบิดนักรบสองคนของตระกูลซีเนลที่ซึ่งถือหน้าไม้หนักพร้อมกับเสียงระเบิดของเสียง  ตั้งแต่แรก  มูเร นั้นไม่ได้มองไปด้านข้างเลย  เควียนติน เองก็เหมือนกับไม่เห็นว่า มูเร ได้ทำการฆ่าคนต่อหน้าเขาด้วย

เมื่อเห็นฉากนั้น จางเทีย ก็กลืนน้ำลาย – “ ทรงพลังเกินไปแล้ว ! แค่โบกมือธรรมดาก็ทำให้ลูกดอกบินกลับไปด้วยพลังที่พอๆกับหอกซึ่งสามารถฆ่านักสู้ระดับต่ำว่า 12 ได้ทันที “

“ เจ้าคือ คอส งั้นเหรอ ? “ – มูเร ถาม เควียนติน อย่างเย็นชา

“ ข้าคือ เควียนติน ผู้ที่ตระกูลซีเนลจ้างมา  เจ้าเป็นใคร ?”

“ จางมูเร จากวังไฮหยวน ! “ - มูเร ตอบกลับด้วยน้ำเสียงอันดัง
หลังจากที่ได้ยินคำตอบ คอส ที่เพิ่งเดินออกมาจากเต็นท์หลักนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย  สีหน้าของ เควียนติน เองก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที
“ บอกเหตุผลที่เจ้ามาที่นี่หน่อยได้รึเปล่า ?” - เควียนติน ถามด้วยท่าทีระมัดระวัง ตอนนั้น เควียนติน หวังว่าจะได้ยินคำว่า ‘ ผ่านมา ‘  น่าเสียดายที่คำตอบของ มูเร ทำให้ความหวังของเขาพังลง

“ ตระกูลซีเนลเคยใส่ร้าย จางเทีย  ศิษย์ของวังไฮหยวน แน่นอนว่าผู้อาวุโสของเขาต้องมาแก้แค้นให้ ไม่งั้นแล้วคนอื่นๆคงสงสัยในวังไฮหยวนว่าอ่อนแอเกินไปที่จะปกป้องคนของตัวเอง ข้าแค่มาเอาหัวของ คอส ในวันนี้ ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ ? “ - มูเร  ถามอย่างใจเย็น

อัศวินของตระกูลอาเทอร์ ที่อยู่ห่างออกไปรีบพุ่งมารวดเร็วดั่งสายฟ้า

“ ฆ่าเขา .. “ - ก่อนที่ เควียนติน จะเปิดปากพูด เสียงของคอส ก็ดังไปทั่วแคมป์
...
ก่อนที่ จางเทีย จะได้สติจากคำพูดของ มูเร  การต่อสู้อันดุเดือดก็ได้เริ่มต้นขึ้น

เกือบจะในเวลาเดียวกัน สัญลักษณ์พลังฉีก็ได้พุ่งขึ้นไปในอากาศราวกับสัญญาณระเบิดจาก เควียนติน ซึ่งดูสดใสในตอนกลางคืนและสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนในระยะ 100 ไมล์  นี่บ่งบอกได้ว่าอัศวินที่ตระกูลซีเนลจ้างมานั้นได้ทุ่มเต็มตัวตั้งแต่เริ่มการต่อสู้

ในเวลาเดียวกันลูกน้องของตระกูลซีเนลนับไม่ถ้วนทั้งด้านในและด้านนอกต่างก็ใช้อาวุธระยะไกลของตัวเอง บางคนถึงกับลากเอาเครื่องยิงหน้าไม้ออกมาเล็งใส่ มูเร ด้วย
ใบหน้าของพกวซอมบี้เริ่มเข้ามาใกล้แคมป์มากกว่าเดิมเรื่อยๆ...
...
หลังจากที่ คอส บอกให้ฆ่า  เขาก็ได้หนีห่างไปกว่า 50 ม. แล้ว....

ตอนนั้น เควียนติน ได้สร้างการโจมตีพลังฉีระดับอัศวินขึ้นมาแล้ว...

ลูกดอกนับไม่ถ้วนต่างก็ถูกยิงออกมา...

ธนูปรากฏขึ้นในมือของ มูเร ซึ่งมันสูงพอๆกับตัวของเขา  แม้แต่ จางเทีย ก็ยังต้องเบิกตากว้าง เขายังคงไม่เห็นว่ามันโผล่มาในมือของ มูเร ได้ยังไง นี่ไม่ต้องพูดถึงลักษณะของมัน ในตอนเย็นนี้ธนูได้เปล่งแสงออกมาราวกับอาวุธที่เกิดขึ้นจากแสง  มูเร ได้ก้าวมาข้างหน้าแล้วดึงสายธนูนั้นทันที...

เมื่อเห็นธนูนั่น เควียนติน ก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันที สัญลักษณ์พลังฉีของเขาสั่นไหวจนแทบที่จะพังลงไป...
...
หลังจากคำว่า ‘ เขา ‘  คอส ก็หนีไปกว่า 100 ม.และหายไปในหมู่ซอมบี้

พลังฉีต่อสู้ของ มูเร นี้ได้กายเป็นสิ่งมีชีวิตขึ้นมา พลังฉีขนาดเท่ากับหมาป่าได้พุ่งเข้าใส่ มูเร   ไม่นานหลังจากที่ปล่อยการโจมตี  เควียนติน ก็รีบถอยไปอีกทางโดยเร็วกว่า คอส หลายเท่า

ลูกดอกนับไม่ถ้วนเข้ามาใกล้ร่างกายของ มูเร

ธนูยาวในมือนั้นเหมือนกับพระจันทร์เต็มดวง ในตอนที่เขาดึงสายของธนูออกมา แคมป์นั้นเริ่มเปล่งแสงราวกับมีพระอาทิตย์โผล่ขึ้นมาในท้องฟ้า   จางเทีย รู้สึกว่าตรงหน้าของเขาขาวโพลนไปหมด….

ลูกดอกทุกลูกที่เข้าใกล้ มูเร นั้นถูกทำลายไปทันที  พลังฉีหมาป่าที่ออกมาจากมือ เควียนติน เหมือนกับมนุษย์หิมะที่ละลายไปเมื่อเจอกับลาวาซึ่งโดนทำลายไปทันที  ในเวลาเดียวกันลำแสงก็ได้พุ่งออกไปจากธนูและพุ่งเข้าใส่ คอส

เต็นท์และซอมบี้หลากหลายตัวต่างก็ถูกลำแสงนั้นกำจัดในพริบตา...

คอส ยังคงแสดงสีหน้าตะลึงและเหลือเชื่อนั้นได้หายไปในลำแสงนั้นทันที

เมื่อเห็นฉากนั้น อัศวินของตระกูลอาเทอร์ ที่อยู่ไกลออกไปนั้นหันกลับและหนีไปทันที....
...
ในตอนที่ จางเทีย ได้สติ เขาพบว่าเกิดความวุ่นวายขึ้นในแคมป์

หลังจากที่ใช้ธนูไปแล้ว มูเร ก็ได้ทำการไล่ตาม เควียนติน และหายไปจากสายตาของ จางเทีย ....

มีรอยยาวกว่า 1,000 ม.เกิดขึ้นจากที่ที่ธนูถูกยิงออกไปซ่งทำให้ครึ่งหนึ่งของเต็นท์หลักในแคมป์นั้นหายไป

คอส หายไปพร้อมกับลูกชาย แบตตี้ และ ฮุค  จางเทีย เห็นของสองอย่างที่พังกระจายอยู่ที่พื้นซึ่งเต็นท์มากมายถูกลบทิ้งไปมด   จางเทีย ยากที่จะบอกลักษณะก่อนหน้านี้ของพวกมันได้ อันหนึ่งคือหมวกเขาวัวของ แบตตี้ อีกอันคือดาบของ ฮุค

จางเทีย จำได้ว่าธนูที่ มูเร ยิงออกมานั้นยิงทะลุเต็นท์หลักต่างๆจากที่ที่ คอส และ เควียนติน เพิ่งหนีไป ในตอนที่ มูเร มาถึง ดูเหมือนว่า แบตตี้ และ ฮุค นั้นยังคงอยู่ในเต็นท์  คอส คงต้องการปกป้องพวกนี้โดยการให้พวกนั้นอยู่ในเต็นท์หลักในตอนวิกฤตแต่ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แค่ไม่กี่วินาที ทุกอย่างก็จบลง  แบตตี้ และ ฮุค นั้นไม่มีเวลาตอบโต้ด้วยซ้ำ

คอส คิดว่าเขาแค่เผชิญหน้ากับอัศวิน  เขาลืมไปว่าอัศวินนั้นมาจากวังไฮหยวน..

จางเทีย ไม่คิดว่าที่เขาล้มเหลวกับการไล่ตามตระกูลซีเนลมากว่า 10 วันนั้นถูกจัดการด้วยธนูลูกเดียวของ มูเร ในเวลาไม่ถึง 30 วินาที หลังจาก คอส หัวหน้าของตระกูลซีเนล ผู้สืบทอดสองคนก็โดนฆ่าไปด้วย

สมกับเป็นอัศวิน !
‘ อาหารอันหรูหราที่พวกคนจนฝันถึงอาจจะเป็นอาหารธรรมดาที่คนรวยไม่อยากกิน ที่ข้าไม่อาจทำได้อาจเป็นแค่ตัวเลือกสำหรับผู้อื่น ‘ จางเทีย สรุป

จางเทีย ประทับใจกับธนูและลูกศรที่ถูกยิงออกมา จนตอนนี้ จางเทีย ตระหนักได้ว่าทำไม มูเร ถึงอารมณ์ร้อนเหมือนที่ทุกคนในวังไฮหยวนบอกมา  เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาปล่อยการโจมตี เขาจะทำให้คนตายไปจำนวน….
สิ่งที่ทำให้ จางเทีย รู้สึกซับซ้อนไปมากกว่าเดิมคือคำพูดของ มูเร ที่ว่า ‘ ตระกูลซีเนลเคยป้ายความผิดให้กับ จางเทีย ศิษย์ของวังไฮหยวน แน่นอนว่าผู้อาวุโสของเขาต้องมาที่นี่เพื่อแก้แค้นให้ ‘

ตอนนั้นความบาดหมางของ จางเทีย และวังไฮหยวน ได้หายไปทันที

‘ สมกับเป็นตระกูลจางของวังไฮหยวน ! ‘

จางเทีย สูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะบินออกไป ไม่นานเขาก็ได้บินออกมาจากแคมป์และไปยังที่ลับที่เขาได้ทำการเข้าสิงเหยี่ยวสายฟ้าและพุ่งขึ้นไปสูงกว่าพันเมตร  ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้พุ่งไปยังทิศทางที่ เควียนติน จากไปตามที่เขาจำได้ด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิมสิบเท่า

เควียนติน นั้นหนีไปทางตะวันออก

จางเทีย ทำการไล่ตามจนถึงเช้า เขาไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนแต่เขาไม่เห็น เควียนติน และ มูเร ระหว่างทางเลย สุดท้ายเขาก็ได้หยุดตรงหน้าทะเลอันกว้างใหญ่ซึ่งเขาไม่อาจตามหาเป้าหมายของเขาได้ ....

รีวิวผู้อ่าน