px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 672: ทะเลหมอกพันไมล์ ... แก้ไข


Chapter 672: ทะเลหมอกพันไมล์

ไม่ว่าเขาจะโชคดีแค่ไหนแต่เขาก็ไม่อาจจะพบกับอัศวินที่ใกล้จะตายได้ทุกครั้ง ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะหาเป้าหมายไม่เจอ
หลังจากที่ปรับอารมณ์ตัวเอง จางเทีย ก็ได้บินไปตามแนวชายฝั่ง

‘ เควียนติน อาจจะทำการเลี้ยวในตอนที่หนีไปทางทิศตะวันตกแต่ข้าทำการบินมาทิศตะวันตกมาตลอด ดังนั้นข้าจึงตามเป้าหมายไม่เจอ ง

‘ ผู้อาวุโสมูเร จะตาม เควียนติน ทันรึเปล่า ? ‘  จางเทีย ไม่รู้เรื่องนี้ อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เห็นร่องรอยการต่อสู้ระหว่างอัศวินที่นี่ ดินแดนของอัศวินนั้นเต็มไปด้วยความลึกลับ  เควียนติน อาจจะมีทางปกป้องชีวิตตัวเองเอาไว้ได้
จางเทีย ไม่รู้ว่าทำไมธนูนั้นอยู่ๆถึงได้โผล่มาในมือของ ผู้อาวุโสมูเร ได้, ทำไม เควียนติน ถึงได้เปลี่นสีหน้าไปหลังจากที่เห็นธนูนั่นและหนีไปอย่างกับกระต่ายตื่นตูม ดูเหมือนว่า เควียนติน นั้นจะรู้ว่าธนูนั้นไร้เทียมทาน  เพราะเขารู้ว่าไม่อาจที่จะเอาชนะ มูเร ได้ เขาจึงเลือกที่จะหนี อัศวินจากตระกูลอาเทอร์ก็เช่นกัน  หลังจากที่เห็น มูเร ฆ่า คอส ได้ในพริบตา อัศวินจากตระกูลอาเทอร์ก็รีบหนีไปทันที
จางเทีย ไม่รู้ว่ามันคุ้มค่ารึเปล่ากับการเห็นฉากน่าตกใจแบบนั้นหลังจากที่ตามตระกูลซีเนลมานานกว่า 10 วัน
จางเทีย ไม่ได้ผลไม้อะไรใหม่มา เขาไม่ได้ฆ่าใครด้วยแต่การโจมตีของ มูเร นั้นเปิดมุมมองให้กับ จางเทีย อีก ทำให้เขามองเห็นหลายสิ่งที่เขาคิดไม่ถึง
ในสายตาของ จางเทีย แล้ว คอส นั้นเป็นคนที่แข็งแกร่งที่ซึ่งเจ้าเล่ห์และยากที่จะจัดการได้ แม้ว่า จางเทีย จะสร้างกับดักให้อีกฝ่ายหลงกลได้แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถฆ่าศัตรูที่แข็งแกร่งแบบนั้นได้เมื่อไหร่แต่ มูเร นั้นทำให้อีกฝ่ายหายไปได้แค่เพียงหมัดเดียว ดังนั้น จางเทีย จึงได้ข้อสรุป --- ในสายตาของอัศวินแล้วพวกที่ต่ำกว่าอัศวินล้วนไม่ต่างจากมด
‘ ข้าต้องเป็นอัศวินอย่าง ผู้อาวุโสมูเร รึดียิ่งกว่านั้น ‘
ความรู้สึกคึกประดังเข้ามาในหัวของ จางเทีย  ‘ ด้วย Castle of Black Iron, ต้นไม้เล็กและสูตรราชาร็อก ข้าไม่มีเหตุผลที่จะแข็งแกร่งเทียบเท่า ผู้อาวุโส มูเร ไม่ได้ ‘
‘ แม้ว่าข้าจะไม่ได้ทำการโจมตี ตระกูลซีเนลก็โดนกำจัด เป้าหมายต่อไปของข้าคืออะไรกัน ?  ‘ จางเทีย คิดในใจ
‘ กลับไปที่วังไฮหยวน ?  ไม่ ผู้อาวุโสมูเร ต้องมาที่นี่ก็เพื่อข้า ถ้าข้ากลับไปวังไฮหยวน แน่นอนว่าข้าจะถูกคุมขัง ข้าไม่มีทางเป็นอิสระได้อย่างตอนนี้ แม้ว่าข้าจะไม่ได้ถูกขังแต่ข้าก็มักจะมีผู้อาวุโสอยู่ด้วยเสมอเป็นคนคุ้มกัน หากเป็นแบบนั้นข้าคงไม่อาจเข้า Castle of Black Iron เพื่อกินผลไม้ได้และยากที่จะเป็นอัศวินได้ ดังนั้นข้าจะไม่กลับไป ‘ จางเทีย คิด
หลังจากที่ คอส โดนฆ่าแล้ว  กองทัพกลางของซอมบี้ก็ปั่นป่วนแต่มันไม่ได้ส่งผลอะไรกับแผนของปิศาจ  หลังจากที่บุกเข้ารัฐซิมเบียน กองทัพแนวหน้าของปิศาจก็เล็งเป้าหมายไปที่อาณาจักรนอแมน
‘ อาณาจักนอแมนจะทิ้งเมืองให้กับปิศาจรึเปล่า ? ‘ จางเทีย ไม่คิดแบบนั้น ‘ เพราะอาณาจักนอแมนไม่ได้อพยพคนทั้งหมด ถ้าอาณาจักนอแมนไม่ต่อต้าน หลังจากที่จับคนในอาณาเขตของอาณาจักนอแมน จำนวนซอมบี้ก็จะเพิ่มขึ้นจนน่ากลัว  นี่จะทำให้เกิดผลเสียต่อคนที่เหลือ ดังนั้นอาณาจักนอแมนจะสู้กับซอมบี้และปิศาจจนตายแม้ว่าจะเพื่อยื้อเวลาก็ตาม  นอกจากนี้ถ้ากองทัพของอาณาจักนอแมนหนีไป ตระกูลจักรพรรดิของอาณาจักนอแมนก็จะเสียชื่อเสียง ในตอนที่พวกเขายอมยกอาณาจักนอแมน พวกเขาก็จะทิ้งฐานะของตัวเองไปด้วย  ดังนั้นตระกูลจักรพรรดิต้องมี่ทางหนีโดยที่ไม่สู้ หลังจากที่ปิศาจฝ่าแนวป้องกันในเซลเนสเข้ามาได้ การต่อสู้อันโหดร้ายที่สุดของมนุษย์และปิศาจก็จะเริ่มขึ้นในอาณาจักนอแมน ‘
‘ ข้าไม่ต้องกังวลเรื่องอาณาจักนอแมน จากฐานของ แฮนนา ตอนตี้แล้ว พวกเธอคงสามารถหนีอกอจากอาณาจักนอแมนโดยยานได้ง่ายๆ  รินฮาท เองก็เป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่ซึ่งตัดสินโชคชะตาตัวเองด้วยความแข็งแกร่งที่เขามี ดังนั้นมันไร้ความหมายหากข้าจะไปที่อาณาจักนอแมนในตอนนี้ ‘
‘ ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการดูดซับความสำเร็จที่ได้มาหลายวันมานี้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง หลังจากที่ขึ้นเป็นระดับ 12 ได้ ข้าจะหาโอกาสฆ่ากลุ่มปิศาจเกราะเพื่อให้ได้ Fruit of Source ของพวกมัน หลังจากนั้นข้าจะไปที่ป่าน้ำแข็งหิมะ ‘
ไม่นานเมื่อตัดสินใจแล้ว จางเทีย ก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลายลง
เมื่อมองไปยังทะเลอันกว้างใหญ่ด้านล่าง  จางเทีย ก็จำได้ว่า Castle of Black Iron กำลังจะขาดพลังงานและแผนของเขาที่จะสร้าง ‘ บ้านใหม่ ‘ ที่บนยอดเขาอมตะใน Castle of Black Iron ก็ต้องชะงัก ใจของเขาเต้นรัวขึ้นมา ‘ ก่อนที่จะเลื่อนขั้นเป็นระดับ 12 ได้ ข้าจะเพิ่มพลังงานให้กับ Castle of Black Iron ให้มากที่สุด ง
จางเทีย บินลงไปในทะเลทันที

หลังจากที่ผ่านมากว่าครึ่งชั่วโมง จางเทีย ก็อยู่ห่างจากชายฝั่งมากว่า 100 ไมล์ จากที่เขาอยู่ตอนนี้เขาได้กลิ่นกำมะถันในลมที่พัดมาจากไกลๆ เกาะแห่งหนึ่งได้โผล่มาตรงหน้าสายตาเขา
มีภูเขาไฟในเกาะแห่งนี้กำลังพ่นไปอกมา ในเวลาเดียวกันก็มีลาวาจำนวนมากไหลออกมาจากด้านบนภูเขาไฟลงมาสู่ทะเล ในตอนนี้ไฟนั้นเจอกับน้ำเย็นๆมันก็ได้เกิดควันกินพื้นที่จำนวนมากซึ่งดูเหมือนกับหมอกหนาที่ครอบคลุมทะเลแห่งนี้ ทั้งเกราะนั้นปกคลุมไปด้วยหมอก  ถ้าไม่ได้อยู่ด้านบนเกาะนี้ จางเทีย คงไม่มีทางเห็นทั้งเกาะได้
ตั้งแต่เกาะ ควันก็เริ่มแผ่กันไปกว่าหลายร้อยตารางไมล์บนทะเล  หมอกนี้ปกคลุมท้องฟ้า ดังนั้น จางเทีย จึงรู้สึกชอบที่จะเข้าไปยังทะเลหมอกแห่งนี้
ในหมอกนั้น จางเทีย เห็นแสงบนทะเลได้อยู่ จากพื้นที่ขนาดใหญ่ของหมอกและน้ำที่เดือดขึ้นมา มีอากาศที่พ่นตัวสูงขึ้นมากว่า 100 ม.
หลังจากที่นึกถึงแผนที่เขตทะเลของสมาคมแบล็คซอนอยู่หลายวินาที   ความคิดหนึ่งก็แว็บเข้ามาในหัวของเขา --- ทะเลหมอกพันไมล์
! ‘ ข้าอยู่ในทะเลหมอกพันไมล์ ‘
นี่คือที่ที่ถูกทอดทิ้งของแบล็คซอน ลาวาจำนวนมากได้ไหลมายังทะเลแห่งนี้  ภูเขาไฟปะทุในเขตนี้บ่อยอย่างมาก ลาวาถูกพ่นออกมาตลอดปี  หลังจากที่ไปถึงระดับน้ำทะเล ลาวาก็เผาน้ำทะเลและทำให้เกิดหมอกขึ้นกว้างกว่า 1,000 ตารางไมล์  นี่เพราะภูมิประเทศของเขตนี้ หลังจากผ่านมากว่าหมื่นปี พื้นที่ทะเลแห่งนี้ก็กลายเป็นชายแดนของแบล็คซอนแต่ตอนนี้มันถูกทิ้งไป
ไม่มีเรือลำไหนเข้ามาในทะเลหมอกแงนี้ การมองเห็นในหมอกต่ำอย่างมาก  ความมืดนั้นมีตั้งแต่ระดับน้ำทะเล อีกอย่างแล้วมีพวกแนวปะการังเกิดขึ้นมาจากลาวาที่เย็นตัวลงขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกวันซึ่งจะทำให้กระแสน้ำที่นี่เปลี่ยนไปเพราะการไหลขอลาวาด้านล่าง  ทางน้ำเปลี่ยนไปทุกวินาที  ไม่มีใครรับมือมันไหว  ดังนั้นเรือทุกลำของแบล็คซอนจึงเลือกที่จะเดินทางอ้อม
สำหรับน้ำทะเลที่เย็นตัวลงไปกับลาวาจำนวนมากแบบนี้ น้ำทะเลที่นี่จะร้อนและมีสารตั้งต้นบางอย่างของลาวา ผลก็คือน้ำทะเลแห่งนี้ได้เป็นกรดอ่อนๆซึ่งทำให้ไม่มีปลารึสิ่งมีชีวิตอยู่ในพื้นที่เหล่านี้
นี่คือที่ที่อันตรายในทะเลแต่มันคือสวรรค์สำหรับ จางเทีย
หลังจากที่บินในทะเลหมอกมากกว่า 2 ชม.โดยเหยี่ยวสายฟ้า จางเทีย ก็ได้เกือบอยู่ที่ศูนย์กลางของทะเลหมอก  จากนั้นเขาก็ได้ส่งเหยี่ยวกลับเข้าไปใน Castle of Black Iron
หลังจากนั้นร่างเปลือยเปล่าของ จางเทีย ก็โผล่ขึ้นมาสูงจากระดับน้ำ 40 ม. หลังจากนั้นเขาก็ได้ดำลงไปในทะเลโดยไม่ทำให้เกิดน้ำกระเซ็นเลยแม้แต่น้อย ...
ด้วยร่างกายที่กันน้ำระดับต้น  จางเทีย รู้สึกได้ราวกับอิสระเหมือนกับอยู่บนท้องฟ้าในตอนที่เขากลับมาในทะเลที่เขาไม่เห็นมันมานาน ในตอนที่เขาลงมาในน้ำ เขาก็ได้ดำลงไปที่ก้นทะเลหลังจากที่ทิ้งฟองไว้ที่บนผิวน้ำ  ความเร็วและความคล่องตัวของนั้นทำให้พวกสิ่งมีชีวิตในทะเลไหนก็ต้องอึ้ง
พื้นที่ทะเลแห่งนี้ลึกอย่างมาก นอกจากนี้แล้วมันยังมีความร้อนถึง 40 องศา  หลังจากที่ดำมาได้ 1,000 ม. จางเทีย ก็พบกับแม่น้ำลาวาที่ก้นทะเล น้ำรอบๆนั้นกำลังเดือดและเปลี่ยนเป็นไอน้ำลอยขึ้นไปข้างบนทำให้เกิดหมอกปกคลุมทะเล
มีคูน้ำข้างๆกับแม่น้ำลาวา  ด้วยการที่มีลาวาลอยขึ้นมา  น้ำจำนวนมากได้ไหลออกมาจากรอยแตกของผิวโลกแล้วเชื่อมต่อไปยังคูทะเลซึ่งทำให้สภาพแวดล้อมแห่งนี้ดูซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม....

 

รีวิวผู้อ่าน