Chapter 674: ผลประโยชน์
จางเทีย ใช้การควบคุมทางวิญญาณไม่กี่ครั้ง ตามที่ ไม้เท้าเมฆ เคยเตือนไว้ว่าวิธีการควบคุมวิญญาณนั้นต้องใช้วิญญาณของเป้าหมายและวิญญาณของผู้ใช้เอง มันทางลัดในการใช้การควบคุมทางวิญญาณ ดังนั้นผู้ฝึกสูตรป่าเถื่อนจะไม่มีทางใช้การเข้าสิงนี้ได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเข้าควบคุมเพิ่มจะทำให้วิญญาณของเป้าหมายและผู้ใช้นั้นจะลดลงไปเล็กน้อย จางเทีย กลัวว่าจะมีปัญหากับการใช้วิธีการควบคุมนี้แต่หลังจากที่กิน Fruit of Source เข้าไป ในที่สุด จางเทีย ก็เข้าใจว่าเขาไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมาก เพราะความแข็งแกร่งที่ Fruit of Source ให้มานั้นคือเศษเสี้ยวของความแข็งแกร่งที่หนีไปจากร่างกายเขาในตอนที่เขาใช้การเข้าสิงนี้
ตั้งแต่แรก จางเทีย มีสัตว์ที่เข้าสิงสามตัวคือหนู,เหยี่ยวสายฟ้าและด้วง มันจะกินพลังงานของร่างกายผู้ใช้ในตอนที่ใช้การเข้าสิงทั้งสามแต่เทียบกับพลังที่เขาได้รับมาจาก Fruit of Source พลังงานน้อยนิดที่หายไปจากร่างกายนี้ถือว่าเป็นเรื่องเล็ก ถ้าพลังงานที่ได้จาก Fruit of Source นั้นเทียบกับบ่อน้ำ งั้นพลังงานที่เสียไปนั้นก็เท่ากับน้ำเพียงน้อยนิดที่อยู่บนปลายพู่กันเท่านั้น
แน่นอนว่าพลังที่อยู่ใน Fruit of Source นั้นมาจากปิศาจปีกกว่า 360 ตัวซึ่งล้วนแต่อยู่ระดับ 9 ซึ่งมากกว่าที่สัตว์ทั้งสามต้องการ
ในโรงเรียนป่าเถื่อน ศิษย์จะใช้ยาบำรุงในการหนีจากการเสียพลังงานในตอนที่ทำการใช้วิธีการควบคุมทางวิญญาณ แม้ว่า จางเทีย จะมียาบำรุงนับไม่ถ้วนแต่ Fruit of Source นั้นก็เพียงพอที่จะชดเชยพลังงานที่หายไปจากร่างกาย หลังจากที่แก้ปัญหาของวิธีลับของสูตรป่าเถื่อนแล้ว จางเทีย ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายอีกต่อไป
ความสามารถในการส่งผ่านของ Castle of Black Iron, Fruit of Source และ สูตรป่าเถื่อนนี้ช่างเป็นความสามารถที่รวมกันอย่างสมบูรณ์
หลังจากที่กิน Fruit of Source เข้าไป แม้ว่า จางเทีย จะไม่ได้ปลุกจุดชีพจรเพิ่มแต่เขาก็รู้สึกว่าแข็งแกร่งพอๆกับการปลุกจุดชีพจรมา 10 จุด ตอนนั้นไฟรอบๆจุดชีพจรทั้ง 125 จุดได้ขยายและสว่างขึ้นมาอีกเล็กน้อย ความแข็งแกร่งโดยรวมของ จางเทีย ทั้งด้านแรง,ความเร็ว,การตอบโต้และสัมผัสได้เพิ่มสูงขึ้นไปอีก
นี่มันก็แค่เริ่มต้น หลังจากนี้หากมีจุดชีพจรถูกปลุกขึ้นอีก จางเทีย จะได้ความสามารถมากกว่าคนธรรมดา 1/12 ที่ปลุกจุดชีพจรได้จำนวนเท่ากัน หลังจากนั้นมันก็ยิ่งแสดงผลของ Fruit of Source ให้มากกว่านี้
จางเทีย หัวเราะและเริ่มวิ่งไปมาบนภูเขาเพื่อรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายให้แม่นยำกว่าเดิม เขาพุ่งผ่านไปเร็วราวกับสายฟ้า หลังจากใช้สายเลือดคาฟู เขาก็ได้ไปถึงตีนเขาในการวิ่งไม่กี่ก้าว ด้วยการเดินหน้าอีกเล็กน้อย จางเทีย ได้กลับมายังยอดเขา หลังจากที่ใช้สกิลความเร็วแล้ว จางเทีย เคลื่อนที่เร็วซะจนเขาเกือบเปลี่ยนเป็นเงาที่วนรอบภูเขา
ตอนนั้น จางเทีย เริ่มรู้สึกว่าพื้นที่เล็กเกินไป มันไม่สะดวกที่เขาจะเคลื่อนที่ไปมา
เฮลเลอร์ มองไปที่ จางเทีย ที่วิ่งอย่างตื่นเต้นด้วยรอยยิ้ม เฮลเลอร์ รู้สึกได้ถึงความสำเร็จและความพอใจเกี่ยวกับความตื่นเต้นและความสำเร็จของ จางเทีย เพราะนี่คือความสำเร็จส่วนตัวของเขาด้วย
หลังจากที่วิ่งอยู่บนยอดเขาหลายรอบโดยการปรากฏเพียงแต่เงา จางเทีย ก็ได้มาอยู่ตรงหน้า เฮลเลอร์ พร้อมกับสายลม หลังจากที่ยืนนิ่งแล้ว จางเทีย ก็เผยให้เห็นร่างและหน้าตาอย่างชัดเจน
จางเทีย ไม่ได้หน้าแดงรึหอบเลยแม้แต่น้อย
“ เฮลเลอร์ เจ้าขยายภูเขาแห่งนี้ได้รึเปล่า ? หลังจากที่ย้ายคนมาด้านในมากมาย ข้ารู้สึกว่าไม่สะดวกกับการทำหลายๆอย่าง “
“ ตามท่านต้องการ เจ้าของปราสาท ตราบที่ท่านอยุ่ใน Castle of Black Iron อีกไม่กีวัน ข้าสัญญาว่าจะแสดงพื้นที่และการปรับปรุงที่ท่านพอใจ ! “
...
หลังจากนั้น จางเทีย ก็ได้กิน Fruit of Judgment ซึ่งมีสกิลการแกะรอย, Trouble-Reappearance Fruit และ Fruit of Brilliance ผลของสกิลแกะรอยนี้อยู่ได้ถึง 10 วันในระยะ 600 กม. ถ้า จางเทีย ใช้มันกับสิ่งของ มันยากที่คนจะรู้ได้ ถ้า จางเทีย ใช้มันกับคน ไม่มีใครต่ำกว่าอัศวินที่จะรู้ถึงรูนอันลึกลับที่ติดตัวได้ ‘ สำหรับอัศวิน ฮี่ฮี่ ไม่ใช่ว่าอัศวินก็ใส่เสื้อผ้ารึรองเท้ารึไง ? ตราบใดที่อัศวินไม่รู้ว่ามันมีรูนอยู่บนสิ่งของพวกเขา รูนนี้ก็ยังคงได้ผล ‘
เพราะมันเป็นสกิลที่มีประโยชน์ มันสามารถใช้ในการแกะรอยคนและส่งคำเตือนได้ มันยังบอกตำแหน่งของคนให้ จางเทีย ด้วย อีกอย่างแล้วถ้าเขาโดนใครไล่ตาม ด้วยสกิลนี้ เขาจะสามารถที่จะรู้เส้นทางของฝ่ายตรงข้าม ผลก็คือเขาสามารถที่จะหนีได้ง่ายๆ
หลังจากที่กินผลไม้นี้แล้ว จางเทีย ก็ได้มีรูนสีทองโผล่ขึ้นมาในหัวอีกหนึ่งอัน หลังจากที่ฉีดพลังวิญญาณเข้าไป รูนั้นก็สั่นไหวและเมล็ดรูปร่างขนนกก็ได้ปรากฏขึ้นในทะเลความคิดของ จางเทีย และเริ่มหมุนวนไปมา
หลังจากที่กิน Fruit of Brilliance ซึ่งมีพลังวิญญาณของชนชั้นสูงของตระกูลเอลวิส 4 คนเข้าไป ทะเลพลังวิญญาณของ จางเทีย นั้นขยายขึ้นไปอย่างมาก คนธรรมดาคงเพิ่มพลังวิญญาณมากแบบนี้ในชีวิตไม่ได้แต่ จางเทีย สามารถได้รับมันมาโดยการกินผลไม้
ใช้เวลากว่าหนึ่งวันกว่า จางเทีย จะดูดซับพลังทั้งหมดของผลไม้ได้ จางเทีย ไม่ได้ทำการบ่มเพาะต่อ เขาแค่ปล่อยไปตามจังหวะโดยการกินและนอนตามปกติ...
ในวันต่อมา จางเทีย ได้เอา Leakless Fruit 5 ผลมากิน มันมีนกไฟสีทองบินวนรอบแท่งวิญญาณในจุดชีพจรหลักของเขาเพิ่มขึ้นมา
หลังจากที่เสียสละตัวเองกว่า 891 ครั้งในแต่ละวัน ในที่สุด จางเทีย ก็พบจุดชีพจรอีก 2 จุด หลังจากที่นั้นเขาก็ได้ทำการปลุกจุดชีพจร 2 จุดนั้นขึ้นมาอีกครั้ง
ตั้งแต่นี้ เขาต้องปลุกจุดชีพจรอีก 17 จุดก่อนจะเลื่อนขึ้นเป็นระดับ 12
เขาจะอยู่ที่นี่เพื่อรอ Leakless Fruit ให้สุกเพื่อปลุกจุดชีพจรอีกอันอย่างงั้นเหรอ ?
แน่นอนว่าไม่ จางเทีย เริ่มนั่งอยู่บนใต้ต้นไม้เล็กและขัดเกลาแท่งวิญญาณในจุดชีพจรหลักโดยใช้พลังวิญญาณของเขาเหมือนคนที่ธรรมดาทำ
‘ คนอื่นสามารถที่จะปลุกจุดชีพจรขึ้นมาด้วยวิธีนี้ ข้าเองก็เช่นกัน มันรับไม่ได้กับการที่ข้าไม่ใช้วิธีธรรมดาที่สุดในการบ่มเพาะหากไม่มี Leakless Fruit ‘ จางเทีย คิด อีกอย่างแล้วเขารู้สึกว่าเขายังไม่ได้ใช้ผลของพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งและการรับรู้ของอัศวินออกมาอย่างเต็มที่
จางเทีย คิดถูก
ไม่นานหลังจากที่เขาใจเย็นลงและเริ่มทำการบ่มเพาะด้วยความสามารถของตัวเอง เขาก็รู้สึกได้ถึงการบ่มเพาะที่มีประสิทธิภาพสูงจากการรับรู้ของอัศวิน แค่ 11 ชม. สีของแท่งวิญญาณในจุดชีพจรหลักก็เปลี่ยนจากสีส้มเป็นสีเหลือง...
มันเหมือนกับการทำลาย 1 ใน 7 แนวกั้นของจุดชีพจรในหนึ่งวัน จางเทีย ไม่คิดถึงเรื่องนี้มาก่อน
ในที่สุด จางเทีย ก็เข้าใจถึงข้อดีของการมีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ง
“ ท่านปลุกจุดชีพจรได้รวดเร็วเท่ากับอัศวิน ! “ - เฮลเลอร์ สรุปให้ – “ นี่คือผลประโยชน์สำหรับท่านที่มีพลังวิญญาณของอัศวิน เจ้าของปราสาท ท่านต้องการการบ่มเพาะที่ยากกว่านี้หรือไม่ ? “
“ แน่นอน มันคืออะไร ?” - ความสงสัยของ จางเทีย ปะทุขึ้นทันที
“ ในตอนที่ขัดเกลาแท่งวิญญาณ ท่านสามารถได้รับ Iron-Body Fruit ด้วยเพื่อทำให้ท่านแข็งแกร่งขึ้น ! “- เฮลเลอร์ ตอบราวกับเป็นผู้แนะนำขึ้นสูงและคำพูดของเขาก็ฟังดูท้าทายอย่างมาก
“ นั่นจริงเหรอ ? “
“ มันเป็นไปไม่ได้ในที่อื่นไม่ว่าจะเวลาไหนแต่มันเป็นไปได้ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ! “ - เฮลเลอร์ พูดพร้อมกับชี้ไปที่กำแพงน้ำซึ่งไหลลงมาที่บ่อแห่งความวุ่นวาย – ในตอนที่ท่านเริ่มทำการบ่มเพาะ ข้าสามารถที่จะเปลี่ยนกระแสน้ำให้ไหลรดร่างกายท่าน หากท่านทนมันได้ ท่านก็จะได้การฝึกร่างกายและการขัดเกลาแท่งวิญญาณ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ! “
“ เจ้าหมายถึงกระแสน้ำที่สามารถตัดหินแกรนิตได้น่ะเหรอ ข้ากลัวว่าข้าไม่อาจที่จะทนความเร็วแบบนั้นได้ในตอนนี้ ! “
“ แน่นอนกระแสน้ำที่ไหลเข้าใส่ท่านจะไม่ได้เร็วเช่นนั้น ผลของมันคล้ายกับการต้านที่ท่านสามารถทนกำแพงน้ำที่สูงราว 1,000 ม.ได้ ด้วยการกระตุ้นนั้น ท่านจะทนได้มากสุด 12 ชม.ต่อวัน ! “
จางเทีย กัดฟันแน่นแล้วตอบกลับมา – “ ได้ ! “