ROSE : 2 300ปีก่อน
ความเจ็บปวดค่อยๆแผ่กระจายไปทั่วร่างของเย่ชิงถาง นางรู้สึกราวกับว่าความเจ็บปวดแสนสาหัสเหล่านี้กำลังจะกัดกินนาง ทันใดนั้นนางพลันลืมตาขึ้นและพบว่าตนเองไม่ได้อยู่บนยอดหน้าผาของหุบเขาหลิงอวิ๋นอีกต่อไป
“ถางถาง ในที่สุดเจ้าก็ฟื้น” เย่ชิงถางได้ยินน้ำเสียงเหนื่อยอ่อนดังอยู่ข้างๆหูนาง
เมื่อได้ยินเสียงนี้ เย่ชิงถางก็ตกใจเป็นอย่างยิ่ง
เสียงนี้…
ผ่านมากี่ปีแล้วนะนับตั้งแต่นางได้ยินเสียงนี้เป็นครั้งสุดท้าย?
เย่ชิงถางหันสายตาไปมองด้านข้างและพบชายวัยกลางคนใบหน้าซีดเซียวยืนอยู่ข้างๆนาง
“ท่านพ่อ…” เย่ชิงถางเบิกตากว้างราวกับไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้เห็น ชายวัยกลางคนเข้ามาช่วยพยุงนางขณะที่นางกำลังจะลุกขึ้น
เย่หลิงผู้นำแห่งตระกูลเย่จ้องมองบุตรสาวของเขาและกล่าวอย่างกังวลใจ “ถางถาง นับตั้งแต่สูญเสียรากเหง้าวิญญาณไปร่างกายของเจ้ายังไม่หายดี เจ้ายังต้องพักผ่อนอีกมาก อย่าเพิ่งรีบลุกเลย”
เย่ชิงถางเบิกตากว้าง นางรู้สึกประหลาดใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นอย่างยิ่ง
นี่มันกิดอะไรขึ้น?
ข้าทำลายหัวใจตนเองบนยอดเขา หุบเขาหลิงอวิ๋นแล้วเหตุใดข้าจึงยังมีชีวิตอยู่?
ท่านพ่อ…ข้าคิดว่าท่านถูกฆ่าตายไปตั้งแต่เมื่อสามร้อยปีก่อนแล้ว? แต่ตอนนี้…ทำไม…
คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวของเย่ชิงถางอย่างต่อเนื่อง หลังจากมองไปรอบๆนางก็ตระหนักได้ว่าตนเองอยู่ในห้องนอนของนางภายในคฤหาสน์ตระกูลเย่ เมื่อสามร้อยปีก่อน
“ถางถาง ในฐานะพ่อของเจ้า ข้าจะดูแลเจ้าไปตลอดแม้ว่าเจ้าจะไม่มีรากเหง้าวิญญาณแล้วก็ตาม เจ้าไม่จำเป็นต้องสนใจในสิ่งที่คนอื่นพูดแค่พักผ่อนให้มากและหายเร็วๆก็พอ” เย่หลิงไม่ได้คิดมากกับพฤติกรรมที่แปลกไปของเย่ชิงถาง เขาคิดว่าเย่ชิงถาง คงตกใจเกินกว่าที่จะสนใจเขา
มีเพียงเย่ชิงถางเท่านั้นที่รู้ว่าในยามนี้นางกำลังตกใจมากเพียงใด
นางฟื้นขึ้นมาและได้กลับมาอยู่ในตระกูลเย่เมื่อสามร้อยปีก่อน!
เย่ชิงถางมองบิดาของนางด้วยดวงตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา เมื่อสามร้อยปีก่อนนางทั้งอ่อนแอและไร้ประโยชน์ นางทำได้เพียงมองดูบิดาและท่านลุงอันเป็นที่รักถูกปู่ของเย่โย่วซึ่งเป็นปรมจารย์แห่งตระกูลเย่ฆ่าตายอย่างไรก็ตาม นางไม่อยากจะเชื่อว่าตนเองจะได้ย้อนกลับมาในช่วงเวลานี้!
เย่ชิงถางค่อยๆลุกขึ้นนั่งขณะจ้องมองไปยังใบหน้าเป็นกังวลของบิดา นางพยายามทำจิตใจให้สงบลง
ในช่วงเวลาเดียวกันกับชีวิตที่ผ่านมารากเหง้าวิญญาณของนางได้ถูกเย่โย่วขโมยไปยิ่งไปกว่านั้น ปู่ของเย่โย่วได้ขู่นางว่าพ่อจะตกอยู่ในอันตรายหากนางบอกความจริงกับเขา ทำให้นางต้องปกปิดความจริงโดยบอกกับทุกคนว่านางทำลายรากเหง้าวิญญาณด้วยน้ำมือของตัวเอง
ในช่วงชีวิตที่ผ่านมาเย่ชิงถางคิดว่านางสามารถวางใจในความปลอดภัยของท่านพ่อได้ตราบใดที่นางทนแบกรับความอัปยศอดสูเอาไว้เองอย่างไรก็ตาม นางไม่รู้ว่าปู่ของเย่โย่วได้แอบกุมอำนาจของตระกูลเย่เอาไว้และได้ลอบวางยาพิษในอาหารของท่านพ่อและยังไม่เพียงแต่ยุยงให้เย่โย่วแย่งชิงรากเหง้าวิญญาณของเย่ชิงถางเท่านั้น แต่เขายังลงมือฆ่าเย่หลิงเพื่อชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลเย่ด้วย
นางทำได้เพียงโทษในความไร้เดียงสาของตนเองในกาลก่อนเท่านั้น...
“ถางถาง ในเมื่อเจ้าฟื้นแล้วก็รีบดื่มยาก่อนที่จะเย็นเสียก่อนเถิด” เย่หลิงไม่ได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนของบุตรสาวแม้แต่น้อย เขารีบส่งถ้วยยาที่ยังอุ่นๆมาให้นาง
เย่ชิงถางรับถ้วยยาที่บิดายื่นมาให้ นางมองภาพสะท้อนของตนเองในถ้วยยาด้วยแววตาว่างเปล่า
หญิงสาวในภาพสะท้อนนั้นดูท่าทางอ่อนแอแต่กลับมีปานสีแดงขนาดเท่าฝ่ามือปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เคยสะอาดหมดจดของนาง ปานนี้กินพื้นที่ไปถึงครึ่งหนึ่งของใบหน้านางและได้ทำลายความงดงามแต่เดิมของนางลงอย่างสิ้นเชิง ในยามนี้นางดูน่าเกลียดเป็นอย่างยิ่ง.........
ติดตามตอนต่อไป.............