px

เรื่อง : รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่ ( 末世虐杀游戏最新章节 )
ตอนที่ 28 คำชม


ตอนที่ 28 คำชม

 

                        “ ครับครู!  ”

            เฉินโจวอี้รีบเดินไปสวมชุดป้องกัน ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เขาก็มายืนตั้งมั่นอยู่หน้าครูสาวคนสวย

            “ ทุกคนตั้งใจดูครูสาธิตให้ดี!  ” ครูสาวคนสวยเห็นเฉินโจวอี้เตรียมพร้อมแล้ว จึงแทงดาบออกไปในทันที

            เฉินโจวอี้รู้สึกว่าวิถีดาบของอีกฝ่ายค่อนข้างช้า ไม่ได้รู้สึกถึงแรงกดดันใดๆ วินาทีต่อมา ร่างกายของเขาราวกับการเคลื่อนที่ในแนวราบ เขาก้าวถอยหลังไปก้าวใหญ่ หลบดาบของครูสาวคนสวยได้อย่างง่ายดาย

            ตอนเช้าเขาอยู่ที่โลกที่แตกต่างเป็นเวลานาน ในเวลานี้เขารู้สึกว่าฝ่าเท้าของเขาเบาจนแทบจะลอยได้ เช่นเดียวกับความเร็วในการแทงดาบแบบนี้ สำหรับเขาแล้วสามารถหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย

            ครูสาวคนสวยตกตะลึง ดวงตาคู่สวยกวาดมองเฉินโจวอี้

            ถ้ายึดตามแผนการสอนของเธอ มันไม่ใช่แบบนี้เลย เขาควรจะไม่สามารถหลบดาบและถูกแทงได้ในที่สุด จากนั้นเธอก็จะได้อธิบายถึงสาเหตุของการแพ้ ให้นักเรียนทุกคนฟังจนเข้าใจ

            แถมแบบนี้มันยังสามารถสะท้อนระดับการสอนของเธอได้ด้วย

            แต่ผลลัพธ์ของมันกลับไม่คาดคิดเลยว่า สุดท้ายเด็กหนุ่มคนนี้จะสามารถหลบได้

            เธอดึงสติกลับมา ทำได้แค่พูดต่อไปว่า “ อืม เฉินโจวอี้ทำได้ไม่เลว มาลองอีกครั้งหนึ่ง! ”

            เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เฉินโจวอี้ไม่รู้ความคิดในใจของครูสาวคนสวย เขากลับมายืนตรงหน้าของอีกฝ่ายอีกครั้ง

            ใครจะไปรู้ล่ะว่าแค่เพิ่งจะยืนให้มั่น อีกฝ่ายก็พุ่งแทงดาบเข้ามาแล้ว ดาบที่ใช้ในการฝึกเกิดเสียงหวีดตัดผ่านอากาศ พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

            ดาบยังไม่ทันแทงออกมา ร่างกายของเขาก็ตอบสนองโดยสัญชาตญาณแล้ว กล้ามเนื้อเท้าทั้งสองข้างทำงานอย่างรวดเร็ว เท้าของเขาเคลื่อนไหวได้ลื่นไหลกว่าตอนแรกถึงสามเท่า และเขาสามารถหลบวิถีดาบได้อย่างง่ายดายอีกครั้ง

            อาจเป็นสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของการรับรู้ สัญชาตญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก แค่การเคลื่อนไหวร่างกายนิดเดียวของอีกฝ่าย ระบบความคิดของเขายังไม่ทันได้ตอบสนอง ร่างกายของเขาก็เริ่มหลบหลีกในทันที

            ปลายดาบอยู่ห่างจากเฉินโจวอี้แค่นิ้วเดียวเท่านั้น แต่ในหนึ่งนิ้วนี้ดูเหมือนระยะห่างอันแสนไกลสุดขอบฟ้า

            นักเรียนทุกคนมองดูด้วยอาการตกตะลึงอ้าปากค้าง ใจสั่นหวั่นไหว

                        “ เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง! ” ครูสาวคนสวยค่อยๆ เบิกตากว้าง เธอตกใจเป็นอย่างมาก

            ถ้าเป็นครั้งก่อนหน้านี้ อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นความประมาทเลินเล่อ ที่ไม่ได้ประเมินความแข็งแกร่งที่แท้จริงของอีกฝ่ายไว้

            แต่ในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ออกแรงทั้งหมด แต่ความแข็งแกร่งในร่างกายถูกใช้ไปถึง 70-80% อีกอย่างเธอเห็นอีกฝ่ายเตรียมย่อตัว จึงคิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถหลบได้อีกครั้ง

            ความสามารถในการตอบสนองของเส้นประสาทที่น่ากลัวแบบนี้รวมถึงความสามารถในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวล่วงหน้าในทันที ขนาดตัวเธอเองยังถือว่าห่างชั้นจากเขาอยู่มาก

            เธอมองไปยังเฉินโจวอี้ มองทะลุเข้าไปในหน้ากากของเขา ดูเหมือนว่าเธอจะเห็นอีกฝ่ายกระตุกยิ้มบางๆ อยู่

                        “ ดี ดีมาก เฉินโจวอี้ทำได้ดีมาก มาลองอีกสักตั้ง

            เสียงของเธอดูเหมือนกับลอดออกมาจากฟัน

            เธอยังคงไม่เชื่อเหตุการณ์แปลกประหลาดนี้

            ต้องยอมรับว่าเธอเคลื่อนไหวได้ช้าลง ในเวลานี้เขาเริ่มรู้สึกได้ว่าอารมณ์ของครูสาวคนสวยดูแปลกไป เฉินโจวอี้สังเกตเห็นว่าใบหน้าที่เคยดูเป็นมิตรและสงบเงียบนุ่มนวลของอีกฝ่าย ปัจจุบันกลายเป็นใบหน้าที่ดูไร้อารมณ์ ราวกับคนปลกหน้า ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันที

            ต่อให้ดูเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนยังไง เธอก็ยังคงเป็นผู้หญิงอยู่วันยังค่ำ!

            เขารีบบังคับตัวเองให้ยืนอย่างซื่อๆ ครูสาวคนสวยโกรธจนหน้าตาบูดบึ้ง เสียงฟึดฟัดอยู่ในลำคอ ดาบถูกแทงออกไปอีกครั้งรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด

            ในครั้งนี้เฉินโจวอี้ยับยั้งสัญชาตญาณในร่างกายของตัวเอง เขาตั้งใจชะลอความเคลื่อนไหวให้ช้าลงครึ่งหนึ่ง เท้ายังไม่ทันได้ยกขึ้นมา ก็ได้ยินเสียง “ พลั่ก! ” ดังขึ้นที่หน้าอกของเขา

            ทันใดนั้นสีหน้าของครูสาวคนสวยก็ดูสงบสติอารมณ์ขึ้นมาได้บ้างเล็กน้อย “ ครั้งนี้เฉินโจวอี้ทำได้ไม่ดีเท่าไร ตอนนี้เรามาวิเคราะห์กันว่า ทำไมครั้งนี้เขาถึงล้มเหลวในการป้องกัน ”

                        “ อันดับแรกเลย เขาไม่มีสมาธิมากพอ นัยต์ตาดูเหม่อลอย ต้องเข้าใจว่าความฟุ้งซ่านเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างยิ่งในการสู้รอบ ต่อมา......”

            เฉินโจวอี้ยังยืนอยู่ตรงที่เดิม สีหน้าของเขาดูสงบเงียบ!

            หลังจากที่อธิบายเสร็จแล้ว ครูสาวคนสวยก็เรียกเขากลับไป

            ในการสาธิตครั้งต่อไปเป็นช่วงของการสาธิตการป้องกันร่างกายและการป้องกันอาวุธ ซึ่งเฉินโจวอี้ไม่มีโอกาสได้ขึ้นมาสาธิตอีกแล้ว

            หลังจากเลิกเรียน เฉินโจวอี้กำลังเตรียมกลับ ก็ถูกครูสาวคนสวยเรียกไว้

                        “ เฉินโจวอี้ รอก่อน อย่าพึ่งไป! ”

                        “ ครูหวางเรียกผมมีอะไรหรือเปล่าครับ? ”

            เธอดึงผมของเธอ ดูเหมือนมันยากที่จะพูดออกไป “ ที่จริงแล้ว......ถ้าดูจากระดับของเธอในตอนนี้ เธอไม่ต้องมาเรียนที่นี่แล้วก็ได้นะ ”

            เฉินโจวอี้ชะงักไปสักพักหนึ่ง เขาค่อนข้างเข้าใจความหมายของเธอ จึงพูดขึ้นอย่างไม่ยินดีว่า “ แต่ว่ายังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ผมไม่ได้เรียนรู้นะครับ! ”

            ครูสาวคนสวยหน้าแดง เธอรีบพูดขึ้น “ เธอเข้าใจผิดแล้ว ความหมายของครูคือความสามารถในการเรียนรู้ของเธอแข็งแกร่งเกินไป ถ้ายังเรียนรู้ตามขั้นตอนในชั้นเรียนเสริมนี้ต่อไปมันก็เปลืองเวลาเปล่าๆ ครูสามารถหาเวลาว่างตอนกลางคืนมาแนะนำเธอแบบส่วนตัว แบบนี้เธอคิดว่าเป็นไงบ้าง? ”

            เฉินโจวอี้ได้ยินก็ดีใจ เขาคิดมาตั้งนานแล้วว่าถ้าฝึกฝนไปตามขั้นตอนของชั้นเรียน ประสิทธิภาพในการฝึกมันจะต่ำเกินไป ถ้าหากสามารถทำแบบนี้ได้ล่ะก็มันคงจะดีกว่า

            เขารีบพูดขึ้นด้วยความเคารพว่า “ ขอบคุณครับครูหวาง ”

                        “งั้นก็ดี เมมเบอร์โทรศัพท์มือถือของครูไว้ให้ดีนะ 1348392#### ครูสอนเสริมให้เธอได้แค่สามคืน ถ้าคืนไหนเธอมีเวลาว่าง ต้องโทรมาบอกครูก่อนล่วงหน้านะ ”

            เฉินโจวอี้รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเมมเบอร์โทรศัพท์มือถือของเธอไว้ แล้วโทรกลับไปหนึ่งรอบ จากนั้นพูดขึ้นว่า “ พรุ่งนี้ตอนกลางคืนผมว่าง ครูหวางคิดว่าเป็นไงบ้างครับ ”

                        “ พรุ่งนี้เหรอ! ” ครูสาวคนสวยลังเลไปสักพัก ในที่สุดเธอก็พยักหน้า “ งั้นเธอก็มาแล้วกัน ครูพักอยู่ที่ชุมชนซานฉุ่ย ตึก 12 ห้อง 1201 ตอนมาก็โทรมาหาครูแล้วกัน ”

                        ……

            หลังจากที่เฉินโจวอี้กลับไป เขาก็เข้าไปในโลกที่แตกต่างอีกครั้ง

            ในเวลานี้โลกที่แตกต่างยังคงเป็นเวลาช่วงสายอยู่

            บนพื้นมีกองทรายทองคำกองเล็กๆ สะสมอยู่ เห็นได้ชัดว่าหลังจากที่เขาออกไป เด็กหญิงเปลือกหอยไม่ได้ทำตัวขี้เกียจ

            เขานั่งลงบนพื้น กะว่าจะผ่อนคลายสักพัก ทันใดนั้นในใจก็คิดอะไรได้ เขาดึงเชือกที่มัดเด็กหญิงเปลือกหอยไว้ เพื่อลากเธอมาจากที่ไกล

                        “ ปัวจาลั่ว เค้อปาตัว! ”

                        “ พวกเราเป็นเพื่อนกัน! ”

                        “ ผู่ตัว! ” เด็กหญิงเปลือกหอยมองบนใส่เขา เธอหันหน้าหนี แล้วพูดขึ้นด้วยความโกรธ

            เขาตั้งใจฟังอย่างระมัดระวัง บังเอิญที่เฉินโจวอี้รู้จักคำนี้อยู่พอดี มันเป็นคำที่ใช้ด่า ความหมายโดยรวมของมันหมายถึง ‘ไอ้บ้า’ หรือ ‘คนเลว’ ประมาณนั้น

            เฉินโจวอี้ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขารู้สึกแค่ว่าตื่นเต้นมาก ในที่สุดก็สามารถสื่อสารกันรู้เรื่องเสียที

            เขาพูดขึ้นอีกว่า “ ปู๋หลัวหลานเจ๋อ อีข่าคู่! ”

                        “ ฉันนำพามาซึ่งสันติภาพและมิตรภาพ! ”

            เด็กหญิงเปลือกหอยได้ยินดังนั้น ทันใดนั้นอารมณ์ของเธอก็เริ่มขึ้น นิ้วมือเล็กๆ ของเธอชี้หน้าเฉินโจวอี้ เธอด่ากราดเขาไปหลายชุด สุดท้ายแล้วก็ถ่มน้ำลายใส่เขา

            เฉินโจวอี้เช็ดน้ำลายอย่างไม่สนใจ เขาตั้งใจฟังตั้งนานก็ยังไม่รู้เรื่องว่าเธอพูดอะไร

            พอเห็นว่าอารมณ์ของเธอเริ่มไม่มั่นคง มีท่าทีปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ

            เฉินโจวอี้เองก็มีวิธีในการแก้ปัญหาของเขาอยู่ เขารีบควานหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าเสื้อของเขา ไม่นานลูกแก้วหลากสีหลายลูกแกว่งไปมาอยู่หน้าเธอ วินาทีต่อมา เธอก็เงียบเสียงลงทันที

            แต่ว่าเขาก็รู้สึกได้ว่าคำพูดแบบนี้มันล้าสมัยไปแล้ว

            เขาหยิบเอาหนังสือ ‘ประโยคสนทนาที่ใช้บ่อยในการพูดคุยกับคนเถื่อน’ ออกมาจากกระเป๋าเอกสารของเขา เขาพลิกไปสักพัก ในที่สุดก็หาประโยคที่เหมาะสมเจอ

                        “ เธอดูสวยจริงๆ นะ! ”

            พูดจบ ร่างของเด็กหญิงเปลือกหอยก็แข็งทื่อ ดวงตาเบิกกว้าง ราวกับโดนฟ้าผ่า

            ทันใดนั้นเฉินโจวอี้สังเกตเห็นว่าผิวของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว เห็นได้แม้กระทั่งมองด้วยตาเปล่า

            พอเฉินโจวอี้เห็นว่ามันได้ผล เขาเริ่มตื่นเต้น รีบพลิกหนังสือหาคำพูด จนหาเจออีกหลายประโยค

                        “ เธอช่างเป็นผู้หญิงที่จิตใจดีซะเหลือเกิน ”

                        “ เธอเป็นคนขยันมาก! ”

                        “ แม้แต่ดวงอาทิตย์ที่อยู่เหนือหัว ก็ยังไม่สดใสเท่าเธอ ”

                        ……

            เฉินโจวอี้ไม่หยุดหาคำพูดที่คล้ายกัน

            เด็กหญิงเปลือกหอยที่อาศัยอยู่บนเกาะเล็กๆ ด้วยตัวคนเดียวมาตั้งแต่เด็ก จะไปฟังคำชมแบบนี้ได้จากที่ไหนกัน หน้าของเธอแดงขึ้นเรื่อยๆ เธอก้มหน้าต่ำลงๆ ในไม่ช้าร่างกายของเธอก็แดงราวกับปูนึ่งสุกที่แทบจะพ่นไอร้อนออกมา

 

 

รีวิวผู้อ่าน