ดิง-ด็อง –
เมื่อประตูร้านเล็ก ๆ เลื่อนเปิดออก ก็มีเสียงอ่อนโยนของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น “ยินดีต้อนรับคะ”
ณ เวลานั้น ใบหน้าที่สวยงามของหญิงสาวผู้หนึ่งได้ปรากฏขึ้นหลังบานประตู เธอมีผมหยิกเป็นลอนใหญ่สี บลอนด์ ริมฝีปากสีแดงสด ใบหน้าแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มเป็นประกาย แลดูนุ่มนวล
แต่คนที่ผลักประตูเปิดออกนั้น ไม่ได้สนใจในใบหน้าที่สวยงามของเธอเลยสักนิด เขากลับกำลังขมวดคิ้วและตะโกนถามไปในทิศทางที่เคาน์เตอร์ตั้งอยู่
“ซิลลิน.. นี่มันเก่าหลายปีแล้วนะ เดวอนเปลี่ยนหน้าใหม่ล่ะ”
ชายหนุ่มที่อยู่หลังเคาน์เตอร์กำลังวุ่นวายอยู่กับตัวเองและขวดไวน์ เขาทำเพียงยักไหล่พลางพูดว่า
"ฉันทำอะไรไม่ได้หรอก เจ้านายรักมันจะตายไป "
"ยอมแพ้ คงง่ายกว่าที่จะทำให้เขาเลิกเล่นการพนัน หรือโอ้อวดล่ะนะ" หลังจากผู้มาใหม่พูดจบ ลูกค้าในบาร์บางส่วนส่งเสียงหัวเราะชอบใจเสียงดังเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ในฐานะที่เป็นคนในฝันของประชากรชายทั้งหมดบนดาวเคราะห์ตลอดเวลาสามสิบปีที่ผ่านมา ใบหน้าบนบานประตูที่ทำให้หัวใจใครหลายคนจมดิ่งลงไปในอดีต
เวลา.. คือยมทูตที่โหดร้ายที่สุดสำหรับพวกเขาทุกคน และความงามเองก็เป็นของขวัญที่เปราะบางมากเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่นักฆ่าผู้นี้จะทำตัวเป็นนักร้องที่สวยงาม และถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ เขาได้ล่วงลับไปก่อนแล้ว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงยีนที่ล้มเหลว ในช่วงสิบปีแรกยังคงมีผู้คนจำนวนมากที่เก็บภาพโฮโลแกรมและโปสเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ของนักร้องผู้นี้ไว้ในห้องของพวกเขา
แต่ท้ายที่สุดก็สามสิบปีมาแล้ว มีน้ำขึ้นย่อมมีน้ำลง ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมผันเปลี่ยนไป เช่นเดียวกับหลังจากเมฆครึ้ม ย่อมมีสิ่งสวยงามเกิดขึ้นเสมอ และน้อยคนนักที่อยากจะมองย้อนกลับไปยังภาพลวงตาในอดีตที่ผ่านพ้นมานานแล้ว
แน่นอน เจ้าของบาร์ผู้นี้เป็นชายที่มั่นคง แม้เวลาจะผ่านมาเป็นเวลาสามสิบปีแล้ว เขายังคงเก็บรักษารูปของเหล่านักร้องไว้บนบอร์ดของร้าน เป็นอยู่เช่นนี้มาสามสิบปีไม่เคยเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้แล้ว นั่นยังเป็นหัวข้อสนทนาที่เหล่าลูกค้าของบาร์ที่เดินทางมาอุดหนุนมักพูดถึงอีกด้วย
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนคิดเหมือนกัน ผู้มาเยือนใหม่นั้นเม้มริมฝีปากราวกับว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเจ้าของร้าน เขาจึงไม่สนใจที่จะแสดงความคิดเห็นอีกต่อไป และเดินไปยังโต๊ะที่ว่างอยู่และนั่งลง ร่วมพูดคุยสนทนากลมกลืนไปกับเหล่าลูกค้าที่คุ้นหน้าคุ้นตาที่มักมาที่บาร์แห่งนี้ โดยที่ไม่ได้สั่งเครื่องดื่มแต่อย่างใด
ซิลลินที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ได้หยิบขวดไวน์ชื่อ “รอยยิ้มภายใต้ดวงอาทิตย์” จากตู้ไวน์ เปิดฝาเครื่องดื่มทิ้งไว้และวางลงบนโต๊ะ เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในบาร์คนอื่นๆ ได้ลิ้มรสชาติของมัน
ขณะที่เขายังคงคุยกับเหล่าลูกค้าในบาร์ ผู้มาเยือนใหม่ก็คว้าขวดไวน์ไว้ในมือแล้วจ้องมองมัน
“ฮ้า.. ในที่สุดนี่ก็ยังคงเป็นเครื่องดื่มที่ยอดเยี่ยมที่สุด มีทั้งความเผ็ดร้อนอยู่ในนั้น และยังเป็นเครื่องดื่มที่ร้ายกาจอีกด้วย”
ซิลลินยิ้มให้เขา แล้วเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์ และล็อกอินบัญชีลงในแท็บเล็ต นี่เป็นบาร์ที่ธรรมดาๆ และเมืองที่มันตั้งอยู่ก็สุดแสนจะธรรมดามากเช่นกัน
พวกเขาเกือบทั้งหมดเป็นพลเมืองในระดับล่าง พวกเขาเป็นที่รู้จักของผู้คนที่อยู่ในตัวเมืองว่า “ชนชั้นล่าง” ซึ่งเป็นคำเรียกที่ไม่ถูกต้องนัก
พลเมืองเหล่านี้มีความสุขในแบบของตัวเอง พวกเขาชอบที่จะนั่งอยู่ในบาร์ที่มีมนุษย์ให้บริการ แทนที่จะเป็นหุ่นยนต์ชั้นสูง มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ราคาถูกแต่ทว่าเข้มข้น ได้นั่งลงดื่มกับเพื่อนนักดื่มที่คุ้นเคย และพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน บ่นเกี่ยวกับหัวหน้าใจร้ายไปด้วยกัน ซุบซิบนินทาในเรื่องของผู้อื่น มันช่างเป็นชีวิตที่เรียบง่าย แต่ก็มีความสุขเหลือเกิน
คนชนชั้นสูงจากย่านใจกลางเมืองย่อมไม่เข้าใจความสุขของคนยากจน มันก็เหมือนกับคนที่ประสบความสำเร็จแต่งตัวอย่างสมาร์ตเดินบนเส้นทางของทองคำและอำนาจ ชนชั้นสูงพวกนี้คิดว่าผู้คนเหล่านี้น่าเบื่อที่ใช้ชีวิตแบบนั้น ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาเป็นที่รู้จักในฐานะสิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อย
อะไรคือสิ่งที่ต่ำต้อย และอะไรคือสิ่งที่สูงส่ง ?
ยีนได้ถูกจัดแบ่งลำดับออกเป็น 7 รูปแบบ คือ A, B, C, D, E, F, G นี่คือสิ่งที่แบ่งแยกทุกคนให้แตกต่างกัน ผู้ที่มีพันธุกรรมที่ต่ำต้อยจะถือว่าเป็นชนชั้นล่าง ส่วนผู้ที่พันธุกรรมชั้นสูงก็จะถือว่าเป็นชนชั้นสูงนั่นเอง
ซิลลินรวมทั้งทุกคนในบาร์มียีนลำดับ F และในโลกนี้พวกเขาถูกจัดอยู่ในประเภทคนจนชนชั้นต่ำถึงต่ำสุด ส่วนผู้ที่ได้รับยีนลำดับ E จะได้รับโอกาสในการทำงานย่านใจกลางเมือง และเฉพาะผู้ที่มียีนลำดับ D หรือเหนือกว่าเท่านั้นที่จะสามารถใช้ชีวิตและตั้งถิ่นฐานบริเวณใจกลางเมืองได้
สำหรับผู้ที่มียีนลำดับ G ผู้คนเหล่านี้เป็นกลุ่มที่น่าเศร้าที่สุดในบรรดาพวกเขาทั้งหมด เนื่องจากพันธุศาสตร์ตามธรรมชาติของพวกเขามีคุณภาพต่ำกว่าปกติ และมีข้อบกพร่องในเรื่องของความเจ็บป่วยที่เป็นมาตั้งแต่เกิด ผู้คนบางส่วนอาจมีความผิดปกติขั้นรุนแรง เช่น โรคโปรจีเรีย[1] และโรคประจำตัวอื่นๆ อีกด้วย
เฮน่า.. อดีตแฟนสาวของซิลลิน ซึ่งมียีนจัดอยู่ในลำดับ G เฮน่าเป็นหญิงสาวน่ารัก ที่ไม่เคยผ่านช่วงเวลาที่สดใสในวัยเยาว์ เนื่องมาจากความเจ็บป่วยจากโรคโปรจีเรีย และโรคเรื้อรังอื่นๆ รวมทั้งความยากจนที่รุมเร้ามาตลอดชีวิตของเธอ
ลูกหลานของผู้ที่มีคุณภาพทางพันธุกรรมและจีโนไทป์ชั้นสูง มักจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี ในทางตรงกันข้ามพวกที่มีคุณภาพทางพันธุ์กรรมและจีโนไทป์ชั้นต่ำ จะมีความแตกต่างทางสังคม และความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นจึงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มีจีโนไทป์คุณภาพต่ำที่พยายามจะหาหนทางในการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของตนเอง อย่างไรก็ตามผู้ที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมนี้มีจำนวนเพียงไม่กี่คน และค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมในแต่ละครั้งต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก โดยโอกาสที่การเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมจะสำเร็จนั้นมีเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จต่ำมากในช่วงแรก เมื่อยิ่งมีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมมากกว่าหนึ่งครั้งขึ้นไป การปรับปรุงจีโนไทป์ก็จะยิ่งยากมากขึ้นไปด้วย
ดังนั้นจากความยากในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมนี้ จึงเป็นความภาคภูมิใจของผู้ที่สามารถทำได้สำเร็จในการปรับปรุงจีโนไทป์ของตนเองให้สูงขึ้น ซึ่งคนที่มีเสน่ห์มากคนหนึ่งในอดีตเมื่อสามสิบปีก่อนได้กลายเป็นประวัติศาสตร์ เนื่องมาจากเพราะว่าเธอได้ล้มเหลวในการแปลงพันธุกรรมของตนเอง
ผู้คนมีโชคดีไม่เท่ากันในตอนที่พวกเขาได้เกิดมา เป็นเพียงความคุ้นเคยที่ทำให้พวกเค้ารู้สึกเฉยเมยกับมัน
“อา.. ซิลลิน พ่อหนุ่มเดวอนไม่ได้ขึ้นแสดงมาหลายวันแล้ว เขาอยู่ไหน? เขายังไม่กลับมาจากนัดบอดเหรอ” มีลูกค้าในร้านตะโกนถามขึ้นมาก
“ใช่.. นี่น่ะเป็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเค้าเลยล่ะ” ซิลลินตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม
“ชิ~~~” ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ซิลลินพูด ขณะที่พวกเขาเริ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับการนัดบอดครั้งเก่าๆ ของเดวอน
ซิลลินเพียงแค่ฟังด้วยรอยยิ้ม และไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ เขาไม่อยากจะบอกคนเหล่านี้ว่าจริงๆ แล้ว เดวอนนั้นได้ตกถังข้าวสารกลายเป็นคนรวยภายในชั่วข้ามคืน และเขาได้เดินต่อไปตามเส้นทางที่เขาฝันเอาไว้แล้ว
ความฝันของเดวอน คือ.. เพื่อการค้นหายีนลำดับ E ที่ไม่หนุ่ม หรือแก่เกินไป เขาจึงได้นำอสุจิของตัวเองไปเก็บไว้ในธนาคารสเปิร์ม กรณีที่หากเขาเกิดโชคดีที่สุด คือการให้กำเนิดทารกที่มียีนลำดับ E เขาก็อยากที่จะเปิดร้านค้าขนาดเล็กในบริเวณตัวเมือง และนั่นจะนำไปสู่ชีวิตที่มั่นคง ตราบเท่าที่เขายังมีเงินอยู่ มันไม่ได้เป็นปัญหาที่จะหาผู้หญิงคนหนึ่งที่มียีนลำดับ E แม้ว่าเดวอนจะมียีนลำดับ F ที่เป็นยีนลำดับล่างก็ตาม
การแข่งขันประจำปีของ “น้ำ แผ่นดิน และท้องฟ้า” เป็นสิ่งที่ทั่วทั้งดาวเคราะห์ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และมักมีผู้คนจำนวนมากลงเงินพนันให้กับการแข่งขันในครั้งนี้ นั่นเป็นเพราะรางวัลที่ตั้งไว้มีจำนวนมหาศาลพอที่จะเสี่ยง แม้ว่าการพนันนี้จะไม่ถูกต้องนักเพราะมันสามารถทำให้ผู้คนจากร่ำรวยกลายเป็นยาจกได้ในชั่วข้ามคืนเลยทีเดียว
แต่สำหรับเดวอนเขาได้รับแจ็คพ็อต พอที่มันจะทำให้เขาสามารถออกจากสถานะความยากจนได้เลย แน่นอนว่าเหตุผลที่ทำให้เดวอนได้รับรางวัล ส่วนใหญ่เป็นเพราะซิลลินทุกครั้ง เนื่องจากก่อนที่จะเดิมพัน เดวอนมักจะขอความคิดเห็นจากซิลลินก่อน เขาจึงจะกล้าลงเดิมพัน เดวอนอาจเป็นคนขี้เหนียว แต่เขาก็รักษาสัญญากับซิลลินเป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นซิลลินคงไม่ช่วยเหลือเขาเป็นแน่ นอกจากนี้แล้วหากเดวอนได้รับรางวัล เขาก็จะให้เงินจำนวนหนึ่งกับซิลลินในทุกครั้งอีกด้วย
เมื่อเวลากลางคืนค่อยๆ คืบคลานเข้ามา ลูกค้าที่นั่งดื่มในร้านค่อยๆ ทยอยกันกลับออกจากร้านไป
ซิลลินอาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉีดสเปรย์ขจัดกลิ่น ก่อนที่จะล็อคประตูร้านแล้วกลับขึ้นไปชั้นบน เขาเหลือบไปมองท้องฟ้าสีดำสนิท ที่มีแสงดาวระยิบระยับประดับเป็นจุดเล็กๆ กระจายไปทั่วผืนฟ้าสีดำนั้น
การพยากรณ์อากาศกล่าวว่า ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน จะมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้ก็ยังห่างจากเวลาเที่ยงคืนอยู่พอสมควร
สี่สิบนาที.... มันเพียงพอแล้ว
สามสิบนาทีต่อมา.. เบื้องหลังของหลังคาที่ยื่นออกมาจากตัวอาคารบางส่วน ซิลลินมาถึงเขตอุตสาหกรรม เขาหลบเลี่ยงเลเซอร์ที่ใช้สแกนอยู่ภายนอกอย่างช่ำชองและชำนาญ เมื่อสามารถบุกเข้าไปถึงห้องของพนักงานข้างกับคลังสินค้าได้แล้ว เขาก็หยิบการ์ดแม่เหล็กที่ได้เตรียมไว้ล่วงหน้าออกมา เนื่องจากว่านี่ไม่ใช่คลังสินค้าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ระบบรักษาความปลอดภัยจึงไม่ได้อยู่ในระดับสูงหรือซับซ้อนมากนัก
คนนอนยามที่พักอยู่บนเตียงเหมือนจะสังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง แต่ก่อนที่จะทันได้เปล่งเสียงออกมา ก็ต้องหมดสติกลับเข้าสู่นิทราอีกครั้ง พร้อมกับที่บริเวณท้ายทอยของพวกนั้นมีเข็มสีดำบางๆ สามเล่มปักอยู่บนนั้นอย่างเงียบเชียบ ซิลลินค่อยๆ ยื่นมือกลับไปเก็บเข็มกลับเข้ามาไว้ในครอบครอง หลังจากที่แน่ใจว่าไม่ได้ทิ้งร่องรอยอื่นๆ ไว้เบื้องหลังแล้ว เขาก็กลับขึ้นไปบนหลังคาอีกครั้ง
มีสิ่งที่เรียกว่า “ดวงตาแห่งท้องฟ้า” คอยตรวจจับอาวุธปืนที่จะล่วงล้ำเข้ามาในพื้นที่ วิธีเดียวที่จะผ่านเข้าไปได้แบบเงียบเชียบ และไม่มีใครสังเกตเห็นคือการใช้อาวุธแบบโบราณ เพราะว่าจะไม่ส่งคลื่นพลังงานให้สามารถตรวจจับอาวุธพบได้
ในฐานะที่เป็นนักล่า อาจพูดได้ว่าซิลลินต้องเดินไปยังเส้นทางที่ยากลำบาก เนื่องมาจากอายุและจีโนไทป์ของเขา ที่ไม่สามารถเป็นนักล่าที่ดีได้ ถ้าจะเรียกให้ถูกต้องคือ ซิลลินเป็นนักล่าเงา และนักล่าเงาเป็นชื่อเรียกทั่วไปของคนที่ทำงานร่วมกับนักล่าที่อยู่ในเงามืด ที่ต้องคอยปกปิดตัวตนของพวกเขา
ซิลลินเริ่มเป็นนักล่าเงาตั้งแต่อายุ 14 จนถึงปัจจุบัน ผ่านมาแล้วเกือนสามปีที่เขาใช้ชีวิตอยู่ในเส้นทางสายนี้ เขาเลือกเป็นนักล่าครั้งแรกเพราะเฮนาเจ็บป่วย และหลังจากที่เฮนาเสียชีวิต ซิลลินก็ยังคงทำงานนี้ต่อ เพราะเขาต้องการเงินเป็นจำนวนมากเพื่อที่จะออกจากโลกใบนี้อย่างปลอดภัย
ห้านาทีผ่านไป.. หลังจากที่ซิลลินเข้าไป เงาของเขาค่อยๆ คืบคลานเข้าไปในห้อง และนำสินค้าออกมาเพื่อแลกกับเงินและรางวัลในภายหลัง
พวกเขาทำงานร่วมกันมาเกือบสามปีแล้ว แต่นักล่าไม่เคยรู้จักตัวตนที่แท้จริงของ “เงา” แน่นอนนักล่าไม่ได้เชื่อใจใคร จนกว่าพวกเขาจะจัดการกับเหยื่อ และแลกเปลี่ยนสินค้าได้อย่างราบรื่น ส่วนอื่นสำหรับซิลลินไม่ได้สำคัญ เขาเชื่อว่านักล่าที่เลือกเขาไว้ จะไม่ต้องกังวลกับการพยายามติดตามตัวตนของ “เงา” เพราะเป็นเวลานานก่อนที่เขาจะเลือกคู่ค้า ซิลลินได้ทำการบ้านอย่างหนักเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้จากทุกมุมมอง
สำหรับนักล่าที่ปราศจากเงาไม่ค่อยมีคุณสมบัติที่จะทำงาน พวกเขาก็จะไม่ได้รับมอบหมายงาน และไม่ได้รับรางวัล อีกทั้งยังต้องสูญเสียชีวิตของพวกเขาแทนด้วย อีกนัยหนึ่งนักล่าและเงาเหล่านี้ ได้แบ่งปันความสัมพันธ์ทางชีวภาพระหว่างกัน และสำหรับนักล่าระดับแนวหน้าพวกเขาไม่จำเป็นต้องมีเงาเลยก็ได้ ยกเว้นสมาคมนักล่า พวกนี้มีความสามารถพิเศษในการดำรงอยู่ของพวกเขาเอง นอกจากนี้นักล่าไม่ค่อยตระหนักถึงเงาที่ทำงานกับเขา ว่าจะมีลำดับยีน D หรือ F เท่านั้น ไม่มีใครเชื่อถือใครแม้ว่าผู้นั้นจะพูดความจริงก็ตาม
เวลาเที่ยงคืนที่ฝนตกกระหน่ำ ซิลลินนั่งอยู่ในอาคารร้างและเฝ้าดูหยดน้ำที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ฝนจะช่วยชะล้างกลิ่นหรือร่องรอยเล็กน้อยใด ก็ตามที่ซิลลินทิ้งไว้ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาเลือกทำในช่วงเวลาที่ฝนตกนี้
ฝนที่เกิดจากธรรมชาติเป็นอย่างไรนั้นซิลลินก็ไม่ทราบ เขาเพียงแต่เห็นมันทางโทรทัศน์อย่างเดียว และไม่มีฝนตกในโลกนี้เลย จะมีก็เฉพาะพื้นที่ที่ควบคุมโดยสถานีอากาศ ดวงอาทิตย์ พายุ และฝนฟ้าคะนองล้วนแล้วแต่เป็นของเทียม ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ทำขึ้นมาทั้งนั้น
ขณะนั้นมีลมพัดผ่านช่องว่างระหว่างกำแพง ซิลลินได้กลิ่นของซีเมนต์และกลิ่นโลหะ ผสมกับกลิ่นที่รู้สึกคุ้นเคยอย่างไม่คาดคิด....
คิ้วของซิลลินขมวดขึ้น ขณะที่เขากำลังพยายามจะระบุถึงกลิ่นที่รู้สึกคุ้นเคยที่ลอยมากับสายลมนั้น หลังจากที่เขาสามารถยืนยันข้อสงสัยของตัวเองได้แล้วนั้น เขาก็แสดงอาการแปลกๆ ออกมา โดยเขาไม่คิดว่าจะยังมีคนใช้สิ่งนี้ในยุคนี้และในเวลานี้ !!
1โรคโปรจีเรีย (Progeria) : คือโรคชราในเด็ก สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของยีน LMNA ทำให้ร่างกายสร้างโปรตีน Lamin A ขึ้นมา ซึ่งโปรตีนนี้จะเป็นตัวขัดขวางการพัฒนาของนิวเคลียสของเซลล์ มีผลทำให้เซลล์แก่ตัวเร็วกว่าปกติ