“ซิลลินอยู่ที่ไหน?” ดิแอสถามหาซิลลินขึ้นมา “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เห็นเขาเลย แต่ผมว่าเขาอาจจะอยู่กับยูดี้ก็ได้” แคร์รี่เองก็ไม่แน่ใจ แต่มีอยู่สองสามครั้งที่เขากำลังฝึกซ้อมกับซิลลินอยู่ แล้วซิลลินก็ถูกเรียกตัวออกไปโดยไอ้บ้ายูดี้เพื่อค้นหาสูตรเกี่ยวกับอะไรบางอย่าง ซึ่งเขาฉลาดพอที่จะไม่ไปรบกวนพวกเขา
“ล่าสุดที่ฉันเอาอาหารไปส่งให้พวกเขา เมื่อวานฉันได้ยินพวกเขาคุยกันว่า..สูตรหนึ่งควรใช้สูตรพื้นที่สี่เหลี่ยมหรือใช้รากที่สองดี และวันนี้ฉันก็ไปส่งอาหารให้อีก ได้ยินพวกเขากำลังคุยกันเรื่องเมทริกซ์แบบถ่วงน้ำหนักหลายมิติ ..ซึ่งในช่วงระยะที่ผ่านมาพวกเขาแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลย เป็นไปได้ว่าสูตรที่ยูดี้กำลังค้นคว้าอยู่น่าจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเร็วๆ นี้ก็ได้นะครับ” “คงเป็นเรื่องยากน่าดูที่ยูดี้จะได้พบกับคนประเภทเดียวกันกับเขาแบบนี้” หลังพูดจบบีเวอร์ก็ทำท่าทำนองว่า..ก็มันช่วยไม่ได้นี่นะ
แม้ยูดี้และซิลลินจะเป็นเพียงกลุ่มคนกลุ่มเล็กๆ ที่แปลกประหลาดสองคน แต่แน่นอนว่าพรสวรรค์เช่นนี้เป็นสิ่งที่ทีมฝูงบินที่หกขาดไป ถ้าสูตรที่ยูดี้กำลังค้นคว้าอยู่เกิดประสบความสำเร็จขึ้นมา ก็จะเป็นก้าวสำคัญที่จะสร้างความก้าวหน้าให้กับทีมฝูงบินที่หกได้ในอนาคตซึ่งนั่นคือจุดมุ่งหมายของพวกเขา พวกเขาจะทำให้ทุกคนได้เห็นว่าพวกเขานั้นมีความสามารถมากขนาดไหน อีกทั้งผู้คนก็จะหันมาให้ความสนใจในทีมพวกเขามากขึ้น แต่สิ่งที่ดิแอสกังวลคือ.. แต่มันอาจเป็นเพราะพวกเขากำลังเหนื่อยล้าหรือเบื่อหน่ายอยู่ก็ได้ ไม่ใช่ว่าพวกเขาทั้งสองคนจะกลับไปหลับอย่างยาวนานอีกเหรอ?
ความแตกต่างระหว่างยานอวกาศเอ็นเตอร์ไพรส์และยานรบหลักของกองเรือรบ Bที่ซิลลินกำลังอยู่ตอนนี้ ยานรบหลักของกองเรือรบ B มีขนาดใหญ่กว่าเดิมมาก ทั้งยังมียานรบอื่นๆ อีกเป็นสิบลำที่มีขนาดเท่ากับยานอวกาศเอ็นเตอร์ไพรส์ หลังจากที่ยานอวกาศเอ็นเตอร์ไพรส์ลงจอด ดิแอสก็รีบไปพบกับพี่ชายของเขา ซึ่งก็คือผู้บัญชาการกองเรือรบ B..“ชอว์ตัน”ทันที
น่าเสียดายที่ดิแอสไม่ได้สวมแว่นกันแดดเก๋ๆ ของเขามาด้วย ซึ่งตอนนี้เขาดูนิ่งสงบมากกว่าปกติ ดิแอสเดินเข้าไปในห้องประชุม เมื่อได้รับแจ้งว่าตอนนี้การประชุมได้เริ่มขึ้นแล้ว.. ดิแอสนั่งลงบนเก้าอี้ของผู้บัญชาการฝูงบินที่หกของเขา ก่อนจะจ้องมองไปยังบุคคลที่มีประกายเจิดจรัสรอบตัวที่ชื่อ“อเซีย”ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ผู้บัญชาการของตัวเองข้างๆ กับดิแอสด้วย อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายไม่ได้สังเกตเลยว่าดิแอสกำลังจ้องมองเธออยู่ และอีกสี่ผู้บัญชาการคนอื่นๆ เองก็เคยชินกับท่าทางตลกๆ ของเขาอยู่แล้วเลยไม่ได้สนใจเขานัก
ก่อนหน้านี้ดิแอสเป็นข้อยกเว้นสำหรับ ชอว์ตันและผู้บัญชาการคนอื่นๆ ที่จะมาพบปะกับ “ไอฟรอน ดัวแอส” ซึ่งเป็นผู้ที่มีอิทธิพลมากคนหนึ่งในกาแล็คซี่ พวกเขามาเพื่อพูดคุยเจรจาทางธุรกิจกัน แต่เนื่องจากที่ผ่านมาผลตอบแทนไม่ค่อยดีและไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ อีกทั้งสถานการณ์ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้ผลกำไรมากขึ้นจากสินค้าที่ส่งมาจากกองกำลังนักล่าลาดตระเวน ฝูงบินที่หนึ่งในสี่ไม่ได้มีสถานการณ์เลวร้ายเท่ากับฝูงบินที่หก ฝูงบินที่หกได้ใช้กำลังคนและทรัพยากรเป็นจำนวนมากในการหากลุ่มแร่พลังงานเพื่อให้ได้ผลกำไรมากขึ้น แต่ถ้าพวกเขาไม่สามารถขายได้ในราคาที่ดีพวกเขาก็แย่เช่นกัน
การประชุมทางธุรกิจทั้งสองครั้งก่อนหน้านี้ ไม่ประสบความสำเร็จนัก และจากการตัดสินใจของ“ไอฟรอน” ดูเหมือนว่าเขากำลังวางแผนที่จะหันไปค้าขายกับเนวิเกเตอร์แทน เป็นเวลาสองสามวันติดต่อกันแล้วที่ชอว์ตันและผู้บัญชาการส่วนใหญ่ต่างรู้สึกหดหู่ใจกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น เห็นได้ชัดจากบรรยากาศอึมครึมภายในห้อง ขณะที่พวกเขาทุกคนกำลังทำการเจรจาขั้นสุดท้ายในวันนี้ และไอฟรอนเองมีความต้องการที่จะเจรจาผ่านทางวีดีโอคอล โดยไม่ต้องการเผชิญหน้ากับพวกเขา ถ้าหากว่าวันนี้พวกเขาล้มเหลวในการเจรจา คงจะต้องหาผู้ซื้อรายอื่นใหม่ แต่นี่ไม่ใช่สินค้าที่คนธรรมดาจะสามารถซื้อได้ แม้ว่าราคาจะได้ราคาไม่สูงเท่ากับที่ตกลงกันไว้กับไอฟรอนก่อนหน้านี้ก็ตาม
“ดิแอส” ชอว์ตันส่งแท็บเล็ตมาให้จากที่นั่งด้านหน้า “นายไม่ได้อยู่ในระหว่างการเจรจาสองครั้งสุดท้าย นี่คือวีดีโอบันทึกการเจรจาสองครั้งสุดท้าย ลองดูสิ” “โอเค” ดิแอสยืดตัวขึ้นขณะที่เขารับแท็บเล็ตมาดู คิ้วของเขาเริ่มขมวดมากขึ้น ดิแอสรู้ดีว่าฝูงบินที่หกได้สูญเสียคนในทีมไปเกือบหมดเพื่อสินค้าชุดนี้ ทั้งยังต้องมีเครื่องบินทิ้งระเบิด และอุปกรณ์ตรวจจับจำนวนมากเสียหายไปกับการค้นหาสินค้าชุดนี้ พวกเขาจึงขอราคาสูงขึ้นเล็กน้อยสำหรับสินค้าชุดนี้ แต่ถึงอย่างนั้นราคาที่ไอฟรอนเสนอมามันก็ต่ำเกินไปไม่ใช่เหรอ!? ดิแอสรู้สึกหงุดหงิดมาก เขาคว้าแก้วน้ำที่ตั้งอยู่ข้างหน้าขึ้นมาดื่มอย่างดุดัน ทันใดนั้นก็มีภาพหนึ่งพุ่งผ่านแท็บเล็ตขึ้นมา..
“พรูดดดดดดดด !!” ดิแอสพ่นน้ำออกมาใส่คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา ..ทำให้บนโต๊ะเต็มไปด้วยคราบน้ำกระจายไปทั่ว อเซียรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกที่เธอไม่ได้นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของดิแอส ส่วนคนที่นั่งตรงข้ามนั้นสภาพอย่างกับอยู่ท่ามกลางฝนฟ้าคะนอง ตัวเขาเปียกโชกไปทั่วจากน้ำที่ดิแอสพ่นออกมา เป็นเพราะทุกคนมัวแต่ให้ความสนใจอยู่กับเรื่องของการเจรจาในวันนี้ จึงไม่มีใครคาดคิดว่าดิแอสจะพ่นน้ำออกมาอย่างกระทันหัน ดังนั้นผู้บัญชาการที่นั่งอยู่ตรงข้ามจึงไม่ทันได้ระวังตัว จึงโดนน้ำลายที่พ่นออกมาจากดิแอสไปเต็มๆ หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ชอว์ตันและผู้บัญชาการคนอื่นมองมาทางดิแอสเป็นตาเดียว เขาจึงรีบอธิบายแก้ตัวเป็นการใหญ่ “แค่ก..แค่ก.. อ้า ฉันขอโทษนะ พอดีตื่นเต้นมากไปหน่อยน่ะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” แล้วดิแอสก็หันกลับไปสนใจภาพบนแท็บเล็ตต่อ เขาชี้ไปยังคนที่ปรากฏตัวในนั้นและถามว่า “นี่คือ ไอฟรอน ดัวแอสจริงๆเหรอ?”
ครั้งสุดท้ายที่ดิแอสได้เห็นไอฟรอน ก็เมื่อสิบปีก่อนตอนที่ตัวเขายังเป็นแค่ลูกทีมของฝูงบินที่หกโดยมีชอว์ตันเป็นผู้บัญชาการสูงสุด ตอนนี้ดิแอสถอนหายใจออกมาเป็นสัญญาณว่า ..มันน่าแปลกมากเลย เมื่อเห็นการจ้องมองมาด้วยความไม่พอใจจากชอว์ตัน ดิแอสจึงรีบหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาและส่งมันกลับไป “ลองดูที่เพื่อนคนนี้ของเราสิ”
พระเจ้าช่วย.. เมื่อเห็นภาพบนแท็บเล็ต ชอว์ตันก็ต้องตกตะลึงมากเช่นกัน “เหมือน.. พวกเขาเหมือนกันจริงๆ!!” ผู้บัญชาการกองเรือรบ B ต้องปิดฉากลงด้วยอาการตกตะลึง หลังจากที่เขาได้เห็นใบหน้าหนึ่งในแท็บเล็ตนั่น และตอนนี้หน้าของพวกเขาทั้งสองเองก็คงดูแปลกประหลาดสิ้นดี “พวกเขาเหมือนกันใช่ไหม?” ดิแอสเช็ดรอยเปื้อนน้ำที่ปากของเขา และพูดว่า “ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเห็นตอนเป็นเด็ก ฉันคิดว่าเขาดูคุ้นเคยมาก แต่ตอนนั้นฉันจำไม่ได้ เขาเหมือนกับซิลลินคนที่เป็นสมาชิกใหม่ที่ฉันอยากจะแนะนำให้นายรู้จัก ถ้าฉันไม่ได้เห็นว่าไอฟรอนเขาไม่ใช่เด็กและไม่รู้ประวัติข้อมูลเก่าๆของเขามาก่อน ฉันคงเชื่อว่าเขาทั้งสองคนเป็นพ่อลูกกันแน่ๆ”
ตอนนี้ชอว์ตันไม่ได้สนใจกับท่าทีของดิแอสอีกต่อไป นิ้วของเขาเคาะเป็นจังหวะบนพื้นผิวโต๊ะและคิดเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างอยู่ ก่อนที่การประชุมวีดีโอคอลจะเริ่มขึ้นหลังจากนี้ในอีกสิบนาที.. ชอว์ตันหันไปกระซิบบอกดิแอสว่า “ดิแอส.. นายออกไปตามหาซิลลิน และจำไว้ว่าพยายามให้คนบนยานลำนี้เห็นใบหน้าของเขาให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“อืม..เข้าใจแล้ว” ดิแอสรับคำ ดิแอสไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมอีก เขารีบออกไปจากห้องประชุม และหลังจากมองหาอยู่ไม่นานเค้าก็เจอคนคนหนึ่งกำลังเหยียดตัวนอนหลับอยู่..ซิลลินนั่นเอง ซิลลินพยายามสั่นศีรษะเพื่อสลายความง่วงของเขา แต่เขายังไม่ทันได้ถามอะไรดิแอสสักคำ ดิแอสก็รีบพาเขามาที่หน้าห้องๆ หนึ่ง เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปเห็นคนในห้องประชุม เขารู้สึกได้เลยว่าคนพวกนี้ไม่ใช่คนธรรมดาๆ แน่
“นั่งลงสิ ทำตัวตามสบาย” ชอว์ตันชี้ไปที่เก้าอี้ข้างๆ เขา และส่งยิ้มสดใสมาให้ ซิลลินมองดูคนทั้งเจ็ดด้วยความสงสัย ก่อนที่จะนั่งลงยังเก้าอี้ที่ชอว์ตันชี้ให้ ..บอกให้ฉันทำตัวตามสบาย แต่การจ้องมองของพวกคุณมันให้ความรู้สึกที่น่ากลัวชะมัด
“นายคือซิลลินใช่ไหม? ดิแอสได้เล่าเรื่องของนายให้ฉันฟังบ้างแล้ว และพวกเราได้พิจารณาเรื่องนี้กันแล้ว..ยินดีต้อนรับเข้าสู่กองเรือรบ B ฝูงบินที่หก บัตรประจำตัวสมาชิกของนายจะถูกส่งไปให้ในเร็วๆ นี้นะ”
ดิแอสได้แต่ก้มหน้าลงต่ำและดื่มน้ำไม่หยุด ตั้งแต่เมื่อไรกันที่พวกนายปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับเรื่องนี้น่ะ!?
ผู้บัญชาการคนอื่นๆ ไม่ได้โต้แย้งในคำพูดของชอว์ตัน แม้ว่าพวกเขาจะมีความเห็นคล้ายกับดิแอสว่าซิลลินนั้นมีความพิเศษ แต่ก็มีผู้บัญชาการน้อยคนที่จะยอมรับซิลลินในฐานะสมาชิกใหม่ของฝูงบิน หรือแม้กระทั่งเป็นสมาชิกของกองกำลังหลักก็ตาม
ซิลลินจ้องมองด้วยความสงสัยไปยังดิแอสที่กำลังก้มศีรษะลง ซิลลินไม่เคยบอกสักคำว่าอยากจะได้บัตรประจำตัวสมาชิกอะไรนั่น.. ผู้บัญชาการกองเรือรบ B กำลังทำให้เรื่องมันยุ่งยากขึ้น.. นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่นะ?ึการการกกซกก