px

เรื่อง : Star Rank Hunter
Chapter 12 ความกล้าหาญ


ชอว์ตันไม่ทำให้เสียคำพูด เขาเปิดภาพของไอฟรอนกับตนเองผ่านแท็บเล็ตให้ซิลลินดู ซิลลินรู้สึกประหลาดใจมากตอนที่เขาเห็นภาพนั้น ถ้าซิลลินไม่รู้มาก่อนว่าสภาพในปัจจุบันของเขาเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของดีเอ็นเอในร่างกาย เขาเองก็อาจสงสัยเหมือนกันว่าคนในภาพเป็นพ่อของตัวเอง!! ..นี่มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญสินะ!!

หลังจากชอว์ตันอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับซิลลิน และไอฟรอน รวมทั้งสถานการณ์การซื้อขายในปัจจุบันให้คนอื่นๆ เข้าใจแล้ว เขาก็ชี้ไปที่เก้าอี้ตรงมุมห้องแล้วพูดขึ้นว่า “ซิลลิน.. อีกไม่นานการเจรจาจะเริ่มต้นขึ้น นายไปนั่งรออยู่ตรงนั้นก่อนแล้วกันนะ” “โอเค” ซิลลินสามารถเดาได้ว่ามีเหตุผลเพียงไม่กี่อย่างหรอก ที่พวกเขาอนุญาตให้ซิลลินเข้าร่วมฝูงบินที่หกและเป็นส่วนหนึ่งในกองเรือรบ B นั่นก็เพื่อให้ง่ายและเป็นประโยชน์ต่อพวกนั้น อย่างน้อยตอนนี้หน้าของเขาก็มีความสำคัญมากต่อฝูงบินที่หก

อีกครู่ถัดมาการประชุมทางวีดีโอคอลก็ได้เริ่มต้นขึ้น.. บนหน้าจอปรากฏใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ของไอฟรอนในวัยสามสิบเจ็ดปี ทุกการเคลื่อนไหวของเขาดูทรงพลังและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งจนไม่มีใครกล้าต่อกรด้วย ในตอนแรกเขาตั้งใจที่จะยุติการเจรจาให้จบลงอย่างรวดเร็วโดยการปฏิเสธข้อตกลงทางธุรกิจระหว่างกองเรือรบ B และเลือกทำการค้ากับเนวิเกเตอร์แทน แต่ทุกอย่างก็ผิดแผนไปหมดหลังจากที่เขาได้เห็นซิลลินที่นั่งอยู่ตรงมุมห้อง นั่นทำให้เขาไม่ทันได้พูดในสิ่งที่เขาเตรียมไว้ล่วงหน้าสักนิด

ไอฟรอนและชอว์ตัน ทั้งสองคนเป็นชายหนุ่มที่ฉลาดหลักแหลม พวกเขาใช้เวลาเพียงเสียววินาทีในการคาดเดาความคิดของกันและกัน ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นก็มีอีกหลายความคิดที่ผ่านเขามาในหัวของไอฟรอนหลังจากที่ต้องหยุดพักการเจรจาชั่วคราว ไอฟรอนก็หัวเราะออกมา “คุณอยากให้ผมพิจารณาเกี่ยวกับข้อตกลงของเราอีกครั้งใช่ไหม.. แต่ผมคิดว่าตอนนี้เราคงมีเรื่องอื่นที่น่าสนใจกว่าที่ควรจะต้องพูดคุยกันในตอนนี้ใช่ไหมผู้บัญชาการชอว์ตัน?” “แน่นอน.. ด้วยความยินดีครับคุณไอฟรอน” ชอว์ตันโบกมือเป็นสัญลักษณ์เชิงให้ทุกคนออกไปให้หมด ทำให้ตอนนี้ภายในห้องประชุมเหลือเพียงเขาและไอฟรอนที่วีดีโอคอลมาเท่านั้น

ซิลลินนั่งลงที่เก้าอี้ในห้องนั่งเล่นหลังจากที่ถูกลากออกมาจากห้องประชุมโดยดิแอส เขาค่อยๆ หลับตาลงอย่างเงียบสงบ ในใจของเขามีความรู้สึกสับสนและหลาดใจตีกันเต็มไปหมด เขาลองเดาถึงสถานการณ์ที่อาจกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้าดู ซิลลินมองไปข้างหน้าและคิดว่าไม่ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เขาจะคิดว่ามันคงเปรียบเหมือนภารกิจแรกของเขาหลังจากที่ออกมาจากดาวเคราะห์สีน้ำตาลที่เขาเคยอาศัยอยู่นั่นแหละ

ตอนนี้ชอว์ตันรู้สึกภูมิใจจริงๆ เพราะเหตุผลที่ทำให้เขาสามารถขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการกองเรือรบ B ได้นั้น ไม่ได้เกิดจากอำนาจของเขาเพียงอย่างเดียว แต่เขาสามารถมองเห็นปัญหาด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง นั่นคือเหตุผลที่เขาจงใจให้ไอฟรอนมองเห็นซิลลินจากมุมห้องได้ก็เพื่อยืนยันข้อสันนิษฐานในใจของเขา

อีกสองชั่วโมงต่อมา..ชอว์ตันเรียกซิลลินมาพบเพื่อพูดคุยเป็นการส่วนตัวด้วย “ซิลลิน..ฉันจะให้นายปลอมตัวเป็นลูกชายของไอฟรอน นายจะทำได้ไหม?” ซิลลินจ้องมองไปที่ชอว์ตัน และกำลังประมวลผลถึงแผนการที่ชอว์ตันต้องการให้เขาทำ “ใช่..ถึงแม้ว่าไอฟรอนจะไม่ได้บอกถึงเหตุผล แต่ฉันเชื่อว่าแผนการในครั้งนี้จะต้องเป็นก้าวที่สำคัญมากในอนาคตแน่ๆ ตอนนี้ไอฟรอนกำลังเริ่มการคัดเลือกตำแหน่งผู้สืบทอดของตระกูลดัวแอสอยู่ นายมีความคิดเห็นว่ายังไง? ..ลองพูดให้ฉันฟังได้นะซิลลิน”

ซิลลินอ่านข้อมูลของไอฟรอนอย่างรวดเร็วก่อนจะพูดว่า “แม้ว่าโลกภายนอกจะบอกว่าไอฟรอนไม่มีลูก แต่ผมเชื่อว่านั่นไม่เป็นความจริง ไอฟรอนคงจะไม่ยอมเปิดเผยตัวตนของทายาท ตราบใดที่ทายาทยังไม่ได้รับตำแหน่งผู้สืบทอด เพื่อความปลอดภัยต่อทายาทของเขาเอง เขาจึงจงใจปกปิดตัวตนของทายาทที่แท้จริงแล้วดึงอำนาจจากคนบางกลุ่ม เพื่อจัดการคัดเลือกคนที่จะมารับตำแหน่งผู้สืบทอดขึ้น แต่แน่นอน..นี่เป็นเพียงแค่การคาดเดาของฉันเท่านั้น” “ดีมาก.. นายทำได้ดีมากที่สามารถวิเคราะห์เรื่องทั้งหมดนี้ได้เพียงแค่อ่านเนื้อหาบางส่วนเท่านั้น อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภารกิจที่ไอฟรอนได้เสนอมา ส่วนเรื่องอื่นๆ เขาจะตัดสินใจหลังจากที่ได้พบนาย ดังนั้นคำถามของฉันตอนนี้คือ..ซิลลิน นายจะรับภารกิจนี้ไหม?”

ซิลลินแทบจะตอบในทันที “แน่นอน แล้วทำไมผมถึงจะไม่รับล่ะ?” “แต่ฉันต้องขอบอกเอาไว้ก่อนนะว่าภารกิจนี้ค่อนข้างมีความเสี่ยง สมาชิกของกองเรือรบอิสระมีอำนาจในการตัดสินใจด้วยตนเอง พวกเราไม่ใช่ทหาร และนายเองก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเชื่อฟังคำสั่งที่ไม่มีเหตุผลของผู้บังคับบัญชาด้วย หากไม่พอใจนายสามารถที่จะปฏิเสธได้เสมอ” “แน่นอน..ว่าผมจะไม่ปฏิเสธ” ซิลลินมองภาพรวมของแผนการและรู้สึกพอใจมาก โดยทั่วไปภารกิจที่มีความเสี่ยงย่อมตามมาด้วยรายได้ที่น่าพึงพอใจเสมอ ชอว์ตันอดไม่ได้ที่จะมองซิลลินหัวจรดเท้า และพูดว่า “นายนี่ดูไม่เหมือนคนขี้ตระหนี่เลยนะ” ซิลลินจึงตอบกลับไปว่า “นี่ก็เป็นลักษณะเฉพาะตัวอย่างหนึ่งของนักล่าไม่ใช่เหรอ?” นักล่าไม่ใช่นักผจญภัย แต่นักล่าเป็นคนที่เดินทางไปมาระหว่างชีวิตและความตาย เพื่อแสวงหาเงินและผลประโยชน์ก็เท่านั้น

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า..ถูกต้อง ใช่..นั่นแหละคือสิ่งที่นักล่าเป็น” ชอว์ตันหัวเราะออกมาหลังจากที่ได้ยินซิลลินพูดออกมาแบบนั้น “หลังจากนี้สองวันนายจะต้องมากับฉัน ..เราจะไปพบไอฟรอนกัน สำหรับค่าตอบแทนเดี๋ยวเราค่อยไปถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ทีหลัง ระหว่างนี้เหลือเวลาอีกสองวัน นายไปเตรียมตัวเอาไว้ให้พร้อมนะ”

มีบางเรื่องที่ชอว์ตันไม่ได้พูดออกมา แต่ซิลลินรู้ว่าเขากำลังมองข้ามความเสี่ยงของภารกิจนี้ไป แต่ถ้าซิลลิน ยอมรับภารกิจนี้ เป็นไปได้ว่าธุรกิจที่กองเรือรบ B ได้ทำการเจรจาตกลงไว้กับไอฟรอนก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมากขึ้น นอกจากนี้หากเรื่องนี้สำเร็จไปได้ด้วยดีเขาเองก็จะได้รับการยอมรับจากผู้บัญชาการกองเรือรบ B อีกด้วย นี่จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่ความก้าวหน้าของเขาในฝูงบินที่หกในอนาคตอีกด้วย

ขณะนี้การแข่งขันระหว่างสี่ขุนพลชั้นยอดของนักล่ากำลังทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น แม้ว่าจะไม่มีการปะทะกันซึ่งหน้า แต่ทุกกองกำลังก็ทำงานกันอย่างหนักอยู่อย่างแน่นอน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทุกคนเริ่มต้องระมัดระวังกันเป็นพิเศษ ตอนนี้หากกองเรือรบ B สามารถเจรจากับไอฟรอนที่มีอิทธิพลอย่างมากในกาแล็คซีได้สำเร็จ ก็จะช่วยในการพัฒนาความก้าวหน้าของฝูงบินที่หกได้เป็นอย่างมาก และนั้นจะต้องส่งผลกระทบอย่างมากต่อกองกำลังอื่นๆ อย่างแน่นอน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าตระกูลของไอฟรอนที่เป็นผู้ทรงอิทธิพลอย่างมากในกาแล็คซีนั้นมีความสำคัญต่อกองกำลังนักล่ามากจริงๆ เหตุผลที่ตระกูลนี้โดดเด่นจากกองเถ้าของประวัติศาสตร์ได้นั้น เนื่องมากจากช่องทางและเครือข่ายต่างๆ ที่มีในกาแล็คซีนี้ ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพและกองกำลังนักล่านั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เป็นศัตรูกันอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ใช่พวกเดียวกัน ถ้ามีอำนาจมากพอพวกกองทัพก็คงกวาดล้างกองกำลังนักล่าให้หมดสิ้นไปแล้ว ในความเป็นจริงนั้นซับซ้อนยิ่งกว่าเมื่อกองทัพไม่สามารถกดดันกองกำลังนักล่าได้อย่างเปิดเผย แต่ก็มักจะแอบทำการขัดขวางภารกิจของกองกำลังนักล่าอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้กองกำลังนักล่ามีอิทธิพลแผ่ขยายไปมากกว่านี้

มีคนจำนวนไม่มากนักในกาแล็คซีนี้ที่จะกล้าต่อกรกับกองเรือรบหลักของกองกำลังนักล่าทั้งสี่ แต่กับกองเรือรบ B นั้นต่างออกไป เพราะเมื่อใดที่สบโอกาสเหล่าทหารในระดับภูมิภาค และกองกำลังนักล่ากลุ่มเล็กๆ ก็พร้อมที่จะลงมือโจมตีเสมอ เพราะการดำรงอยู่ของกองเรือรบ B ที่มีกิตติศัพท์ดังกระฉ่อนไปทั่วนั่นก็คือการฉกชิงขอมีค่า และนำมาขายต่อในราคาที่แพงลิบลิ่ว แน่นอนว่าหากกองเรือรบ B นั้นมีกองหนุนเป็นตระกูลที่มีความยิ่งใหญ่และมีอิทธิพลมากในกาแล็คซีนี้ การทำงานหรือการพัฒนาของกองเรือรบ B ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งขึ้น ดังนั้นแน่นอนว่าฝูงบินที่หกย่อมไม่ยอมพลาดโอกาสที่จะได้พบกับไอฟรอนเพราะเวลานี้พวกเขายังต้องแข่งขันกับทีมอื่นๆ ในกองเรือรบ B อีก หากพวกเขาสามารถเจรจาตกลงกับไอฟรอนได้สำเร็จจากการช่วยเหลือของซิลลินแล้วล่ะก็ พวกเขาจะได้รับเอกสิทธิ์ที่ไม่จำกัดในอนาคต เพราะเหตุนี้ซิลลินจึงเป็นความหวังอันยิ่งใหญ่สำหรับภารกิจนี้

ชอว์ตันให้ซิลลินเตรียมการในการศึกษาข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นต้องใช้ในภารกิจในช่วงเวลาที่ว่างสองวันนี้ต้องยอมรับว่าซิลลินนั้นยังเทียบชั้นกับนักล่าผู้มีประสบการณ์บนยานเหล่านี้ไม่ได้ อาจเป็นเพราะต้นกำเนิดและประสบการณ์ในชีวิตของเขาทำให้เขามองสถานการณ์เพียงด้านเดียว นี่จึงเป็นข้อบกพร่องใหญ่สำหรับนักล่าที่จะเดินทางไปในกาแล็คซี ด้วยเหตุนี้ชอว์ตันจึงได้ช่วยแนะนำข้อมูลที่สำคัญบางส่วนให้แก่ซิลลินโดยเฉพาะ

หลังจากที่จัดการห้องพักให้ซิลลินแล้ว ชอว์ตันก็เรียกประชุมผู้บัญชาการฝูงบินคนอื่นๆ อีกหกคน เกี่ยวกับการรักษาความลับเรื่องของซิลลิน อย่างไรก็ตามเมื่อชอว์ตันเสร็จสิ้นจากการประชุม เขาได้นำอาหารไปให้ซิลลินด้วยตนเอง แต่เขาคงมาช้าไปเพราะคนที่เขาหวังจะใช้ประโยชน์ในอนาคตบัดนี้ได้หลับสนิทไปเสียแล้ว โดยแท็บเล็ตที่มีข้อมูลสำคัญต่างๆ ถูกบันทึกอยู่ด้านใน ได้ถูกโยนไปไว้ด้านข้างของจอภาพคอมพิวเตอร์ที่กำลังกระพริบอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่กำลังแสดงอยู่ในหน้าจอได้อย่างชัดเจน

ดิแอสที่ยืนอยู่ด้านข้างของชอว์ตัน เขาทำท่าจะพูดอะไรแต่ก็เปลี่ยนใจกลางคัน เขามองไปที่ชอว์ตันและคิดในใจว่า.. ซิลลิน นายมันงี่เง่า จิตวิญญาณในการต่อสู้ของนายมันหายไปไหน!! นายหลับลงได้ยังไงในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้?! ชอว์ตันหายใจลึกๆ และถือถาดอาหารไว้ในมือเหมือนเดิม แล้วหันกลับเดินออกมาจากประตู ตามหลังมาด้วยดิแอสที่กำลังมองชอว์ตันด้วยความรู้สึกที่ขมขื่น

ในอีกสองวันข้างหน้า ซิลลินยังคงหลับไปโดยไม่ได้ตื่นขึ้นมาแตะต้องอาหารแม้สักนิด และในช่วงเวลานี้ทุกคนในทีมสามารถสัมผัสถึงบรรยากาศที่เย็นยะเยือกได้จากผู้บัญชาการชอว์ตัน ที่ตอนนี้เหมือนมีรังสีแผ่กระจายออกมาให้ทุกคนได้รับรู้ว่า “อันตราย! อยู่ห่างๆ เอาไว้” นี่มันไม่ใช่เลยสำหรับผู้บัญชาการชอว์ตัน.. ถ้าเป็นคนอื่นในทีมของเขา หรือแม้กระทั่งผู้บัญชาการฝูงบินคนอื่นๆ แล้วล่ะก็ ไม่มีทางได้นอนหลับสบายใจเช่นนี้ได้แน่ เขาจะต้องปลุกให้พวกนั้นตื่นขึ้นมาและบังคับให้ศึกษาข้อมูลสำหรับภารกิจให้ได้มากที่สุด เพราะนักล่าที่ไม่รู้จักศึกษาข้อมูลจะทำให้ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ถ้าคุมสถานการณ์ไม่ได้ก็ไม่สามารถเป็นนักล่าที่ดีได้เช่นกัน

“บอกฉันมาสิ.. ว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงสามารถนอนหลับในช่วงเวลาที่สำคัญได้อย่างสบายใจขนาดนี้!!” ชอว์ตันเอนตัวบนเก้าอี้ของเขา พลางใช้ความคิดและเคาะที่วางแขนอย่างเป็นจังหวะ ส่วนดิแอสที่นั่งอยู่ตรงข้าม ได้ยกมือมาเกาศีรษะที่ยุ่งเหยิงของเขาและตอบกลับไปว่า “อะแฮ่ม..ฉันก็ไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้ว่ายังไงน่ะนะ ถึงนายจะเห็นแบบนี้ แต่ฉันว่าถ้านายได้ดูพฤติกรรมของเด็กคนนี้ไปอีกสักพัก นายจะรู้ว่าเขาเป็นคนที่ดีคนหนึ่ง แต่... ” ดิแอสพยายามหาคำพูดที่ดีมาพูดกับชอว์ตันให้เขาเย็นลง “ฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้นะ แต่เชื่อเถอะว่าเด็กคนนี้น่ะเป็นคนเก่ง และกล้าหาญอย่างแน่นอน”

รีวิวผู้อ่าน