ROSE : 8 หนอนบ่อนไส้
เย่ชิงถางเงียบไปครู่หนึ่งและกล่าวต่อ
“ท่านพ่อ ท่านลองไตร่ตรองดูอีกครั้งเถิด ในยามนี้ข้านั้นอ่อนแอขณะที่ข้ายังมี รากเหง้าวิญญาณความสามารถของข้านับว่าสูงมากจนไม่มีผู้ใดกล้าท้าทายแต่อย่างไรก็ตาม…ในยามนี้ข้าไร้ซึ่งรากเหง้าวิญญาณแล้วหากข้ายังคงยืนกรานที่จะแต่งงานเข้า ตระกูลต้วน พวกเขาทั้งตระกูลย่อมไม่พอใจข้าเป็นแน่ ข้าไร้ซึ่งกำลังในการปกป้องตัวเองแล้วเหตุใดข้าต้องไปให้ผู้อื่นหัวเราะเยาะด้วยเล่า? แม้ว่าคำพูดของท่านชายต้วนจะไม่น่าฟังนักแต่เขาก็กล่าวทั้งหมดออกมาเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของตัวข้าเอง”
เย่ชิงถางกล่าวด้วยท่าทางสงบเป็นอย่างมากไม่มีคำพูดโประโยคใดของนางที่แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจ ดูเหมือนว่านางจะเชื่อในสิ่งที่ต้วนเถียนเหราอธิบายจริงๆ
เย่หลิงตกตะลึง เขาไม่คิดว่าเย่ชิงถางจะกล่าวเช่นนี้ออกมา
ตระกูลต้วนเป็นผู้มาขอหมั้นหมายกับตระกูลของเขา ในยามที่รากเหง้าวิญญาณ ของเย่ชิงถางเพิ่งปรากฏออกมาแต่ในยามนี้หลังจากนางสูญเสียรากเหง้าวิญญาณไป พวกเขากลับกล่าวอ้างว่าบุตรสาวของเขาหน้าตาอัปลักษณ์ ในยามนี้ดูราวกับว่าตระกูลเย่ เป็นผู้บีบบังคับให้ตระกูลต้วนมาหมั้นหมายกับบุตรสาวของเขา
ต้วนเถียนเหรายิ้มหลังจากได้ยินคำพูดของเย่ชิงถาง เขายินดีเป็นอย่างยิ่งที่นางเข้าใจสถานการณ์ในยามนี้เย่ฉวินเองก็รู้สึกโล่งใจเช่นเดียวกัน นางพึงพอใจเป็นอย่างมากที่เย่ชิงถาง รู้ว่านางควรเลือกสิ่งใด
ใบหน้าของเย่หลิงยังคงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
หลังจากเห็นว่าเย่หลิงยังคงนิ่งเงียบต้วนเถียนเหราจึงกล่าวต่อไปว่า
“ถางถาง ช่างมีความคิดหลักแหลมยิ่งนัก ท่านลุง อีกไม่กี่วันหลังจากนี้จะเป็นวันที่ตระกูลใหญ่แห่งเมืองหลินจะรวมตัวกันไปบูชาเทพเจ้า ข้าในฐานะทายาทแห่งตระกูลต้วน ดังนั้นคู่หมั้นของข้าจึงต้องเดินทางไปหมุนกงล้อสวรรค์พร้อมกับข้า มีเพียงผู้ฝึกตนระดับสามัญขั้นห้าขึ้นไปที่สามารถหมุนกงล้อนี้ได้ ท่านคิดว่าด้วยความสามารถในปัจจุบันของ ถางถาง นางจะสามารถหมุนกงล้อนี้ได้หรือไม่?” ต้วนเถียนเหรากล่าว
“หากนางทำไม่ได้ศักดิ์ศรีของตระกูลต้วนย่อมต้องพังพินาศต่อหน้าทุกคนเป็นแน่”
“ไสหัวออกไปให้พ้น!” เย่หลิงตบโต๊ะเสียงดังและตะคอกอย่างเกรี้ยวกราด ขณะชี้นิ้วไล่ต้วนเถียนเหราออกไปจากห้องโถง
พอแล้ว พอกันที เขาจะไม่ยอมให้ชายสารเลวผู้นี้ดูถูกบุตรสาวเขาอีกต่อไป
ต้วนเถียนเหราขมวดคิ้วแน่นแต่เขาก็เลือกจะเงียบหลังจากเห็นว่าเย่หลิงเกรี้ยวกราดเพียงใด
“ท่านลุง ท่านควรไตร่ตรองและทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้ดี ข้าจะประกาศยกเลิกการหมั้นหมายต่อหน้าทุกคนในวันบูชาเทพเจ้าอีกไม่กี่วันข้างหน้า ไม่ว่าท่านจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ข้าขอลา” ต้วนเถียนเหรากล่าวลาอย่างไม่เต็มใจและหันหลังเดินออกไปด้านนอก
“นำของๆเจ้ากลับไปด้วย! ตระกูลเย่ของเราไม่ต้องการขยะเช่นนี้!” เย่หลิงกล่าว
ริมฝีปากของต้วนเถียนเหรากระตุก เขาส่งสัญญาณให้ข้ารับใช้ไปนำของทุกอย่างออกมาและเดินออกไปจาห้องโถงอย่างรวดเร็ว
เย่ฉวินรีบร้อนกล่าวกับเย่หลิงว่า “ท่านพ่อ พวกเราไม่ควรไร้มารยาทเช่นนี้ ข้าจะไปส่งท่านชายต้วน”
เย่ฉวินรีบตามต้วนเถียนเหราไปโดยไม่รอคำอนุญาตจากเย่หลิง
เย่หลิงค่อยๆหันไปมองเย่ชิงถางที่ยังคงนั่งเงียบไม่ยอมพูดจา
“เย่ฉวิน รู้เรื่องรู้ราวบ้างหรือไม่? ต้วนเถียนเหราทำให้เจ้าต้องอับอายเป็นอย่างมากในวันนี้ แต่นางกลับออกไปส่งเขาอีกงั้นหรือ?” เย่หลิงกล่าว
เย่ชิงถางไม่ได้สนใจการกระทำของเย่ฉวินแต่กลับหันไปจดจ่ออยู่กับการปอกเปลือกส้มในมือ
“หากนางต้องการไปส่งเขา เช่นนั้นก็ปล่อยนางไปเถิด”
ไม่มีทางที่เย่ฉวินจะไม่เข้าใจสถานการณ์ในยามนี้....
นี่เป็นเรื่องตลกสิ้นดีเป็นเรื่องยากมากที่จะหาคนในเมืองหลินที่ฉลาดยิ่งกว่าเย่ฉวิน
เย่หลิงไม่รู้ว่าเย่ฉวินและต้วนเถียนเหราแอบคบหากันลับๆมานานแล้วจึงมีความเป็นไปได้สูงมากที่ เย่ฉวินจะเป็นคนบอกต้วนเถียนเหราว่าเย่ชิงถางสูญเสียรากเหง้าวิญญาณไป มิเช่นนั้นเขาจะมาเยี่ยมเยียนนางเพื่อยกเลิกการหมั้นหมายรวดเร็วเช่นนี้ได้อย่างไร?
แม้ว่าเย่ฉวินจะเป็นบุตรสาวบุญธรรมแต่นางก็มักมองหาโอกาสให้ตัวเองอยู่เสมอ นางไม่เคยพึงพอใจในตำแหน่งบุตรสาวบุญธรรมของตระกูลเย่แม้ว่าพวกเขาจะปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดีเสมอมาก็ตามดังนั้นจึงเป็นที่แน่นอนว่า เย่ฉวินต้องเป็นผู้บอกต้วนเถียนเหราว่าชิงถางสูญเสียรากเหง้าวิญญาณเป็นแน่ !
ติดตามตอนต่อไป...........