px

เรื่อง : Star Rank Hunter
Chapter 24 ที่พักที่ป่วยที่สุดในเมือง (ตอนแรก)


มีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่ได้ยินเรื่องของ 'โฮเวอร์บอย' แต่มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่า 'โฮเวอร์บอย' คนนั้นคือซิลลินสาเหตุที่ทำให้รูปภาพและใบหน้าของซิลลินในวิดีโอนั้นเบลอไม่ชัดเจน เนื่องจากขณะที่ซิลลินไล่ตามรถบินอยู่ อากาศที่อยู่รอบๆ ตัวเขาก็บิดเบี้ยวและแปรปรวนขึ้นอย่างผิดปกติ ดังนั้นวิดีโอที่ถ่ายโดยคนบนรถโดยสารความคมชัดย่อมไม่ค่อยชัดและแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแก้ไขส่วนที่บิดเบี้ยวของส่วนที่เบลอนั้นได้ ด้วยเหตุนี้ผู้ที่บันทึกวิดีโอจึงได้ลงทุนซื้ออุปกรณ์ถ่ายทำแบบมืออาชีพมา เพื่อที่เขาจะได้ไม่เสียใจอีกหากเกิดสถานการณ์คล้ายๆ กันขึ้นอีกในอนาคต ซิลลินได้เห็นวิดีโอนั้นโดยบังเอิญ โชคดีที่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แล้วตอนที่เขามาถึงเมืองสลีพเลส ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาสวมใส่เสื้อผ้าที่ต้านแรงเสียดทานของอากาศ มิเช่นนั้นแม้ว่าใบหน้าที่แท้จริงของโฮเวอร์บอยจะไม่ได้เป็นที่รู้จัก แต่เสื้อผ้าของเขาคงจะทำให้คนที่เห็นจดจำเขาได้ด้วย

หลังจากที่ซิลลินมาถึงเมืองสลีพเลสแล้ว เขาก็รู้สึกประทับใจอย่างมากกับความสามารถในการสร้างรายได้จากระบบความบันเทิงในรูปแบบนี้ หลายคนที่มาที่ดาวเคราะห์เซเว่นไลท์โดยเฉพาะผู้ที่มีพื้นฐานตระกูลที่มั่งมีมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่มากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์มาใช้จ่ายเงินในสถานที่แห่งนี้

สนามเด็กเล่น, บาร์, ร้านค้า, โรงแรม, คาสิโน... ความวุ่นวายเกี่ยวกับระบบความบันเทิงไม่ว่าจะเป็นทั้งกลางวันและกลางคืน ย่อมมีข้อพิพาทเกิดขึ้นเกือบทุกช่วงเวลาในเมืองสลีพเลส แต่ตำรวจมักจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวมากเกินไป เพราะในดาวเคราะห์เซเว่นไลท์นั้นมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน และประชาชนได้รับอนุญาตให้ใช้ชีวิตได้อย่างอิสระตราบเท่าที่เรื่องเหล่านี้อยู่ในขอบเขตที่ยอมรับได้ อย่างไรก็ตามหากเกินขีดจำกัดมากเกินไปนั้นก็จะถูกลงโทษจากกฎของดาวเคราะห์เซเว่นไลท์ซึ่งจะมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมานั้นมีคนมากมายที่ถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยเนื่องจากก่อปัญหามากเกินไป นอกจากนี้สถานที่แห่งนี้ยังมีกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง หากพวกเขาถูกทำร้ายตำรวจและกองกำลังฝึกอบรมก็จะเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ดำเนินการตามกฎหมายเหล่านี้.. ใครเป็นตำรวจ? ใครคือกองกำลังฝึกอบรม? พวกเขาคือคนที่ถูกส่งไปอบรมโดยหน่วยทหารจากกาแล็คซีทางช้างเผือก ที่ได้รับการฝึกฝนผ่านสนามรบทั้งความเป็นและความตายมาตลอดชีวิต ซึ่งการที่คิดต่อต้านล่ะก็เป็นสิ่งไร้ประโยชน์สิ้นดี

ซิลลินอยู่ในเมืองสลีพเลสเป็นเวลาสองวันก่อนที่เขาจะเดินทางต่อไป ในอีกสามวันถัดมาซิลลินได้เข้าเยี่ยมชมโซนอื่นๆ อีกยกตัวอย่างเช่นเขตฝึกอบรม เขตวิจัยและสถานที่อื่นๆ อย่างไรก็ตามการเข้าเยี่ยมชมโซนเหล่านี้นั้นมีข้อจำกัดมาก ซึ่งซิลลินนั้นยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลได้ในขณะนี้ แต่ถึงแม้ว่าซิลลินสามารถศึกษาโซนเหล่านี้ได้จากเมืองหลวงหลัก แต่เขาก็อยากที่จะเข้าไปศึกษาอย่างลึกซึ้งว่าโซนเหล่านี้มีลักษณะเฉพาะแต่ละที่นั้นเป็นอย่างไร

ในวันสุดท้ายของการลงทะเบียน ซิลลินเดินทางโดยรถไฟเพื่อกลับมาที่มหาวิทยาลัย เขายังมีเวลาพอที่จะลงทะเบียนตามแผนการเดิมอยู่ แต่เหตุผลที่ซิลลินออกสำรวจเที่ยวชมในแต่ละเขตก่อนลงทะเบียนก็เพราะเมื่อเขาเข้าไปในเขตมหาวิทยาลัยหลังจากลงทะเบียนเรียนเรียบร้อยแล้วจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปนอกมหาวิทยาลัยได้อย่างอิสระอีก เมื่อลงทะเบียนเรียนเรียบร้อยแล้วจะมีการเปิดใช้งานโปรไฟล์ของนักศึกษาอย่างสมบูรณ์ พวกเขาจะกลายเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเซเว่นไลท์อย่างเป็นทางการ ซึ่งมหาวิทยาลัยเซเว่นไลท์นั้นมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดมากสำหรับนักศึกษาใหม่ ส่วนใหญ่นี่จะเป็นวิธีที่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในภาค Bใช้กัน

ในตอนนี้ซิลลินได้มาถึงศูนย์ลงทะเบียนตามที่แผนที่บอกเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้เป็น 48 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนที่การลงทะเบียนจะสิ้นสุดลง ซึ่งในเวลานี้น่าจะเป็นเวลาที่คึกคักมากที่สุด ที่มีนักศึกษามารวมตัวกันเพื่อลงทะเบียนในช่วงสุดท้ายของการลงทะเบียน แต่ซิลลินเห็นจากระยะไกลว่าไม่มีนักเรียนที่ศูนย์ลงทะเบียนเลยสักคน ยกเว้นเจ้าหน้าที่สองคนนั่งอยู่ที่จุดในขณะที่กำลังสะบัดแขนอยู่ ดูเหมือนว่าภาระงานของพวกเขาในปัจจุบันคงจะมีเยอะมากจึงทำให้พวกเขารู้สึกเหนื่อยล้า

“พวกนักศึกษามาถึงมหาวิทยาลัยเซเว่นไลท์ตั้งแต่วันแรกๆ แล้วหลังจากนั้นพวกเขาก็รีบไปยังโซนสลีพเลสเพื่อเที่ยวอย่างสนุกสนานแล้วค่อยรีบกลับมาลงทะเบียนเรียนในวันสุดท้าย ฉันไม่เข้าใจจริงๆ เลยว่าเด็กพวกนี้คิดอะไรอยู่!” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งบ่นขึ้นมา

“พวกเราจะแก้ไขอะไรได้บ้างเนี่ย? เป็นแบบนี้เหมือนกันแทบจะทุกปี เด็กๆ ออกไปผ่อนคลายจากความเบื่อหน่ายในมหาวิทยาลัย แต่มันจะดีกว่าไหมถ้าพวกเขาลงทะเบียนให้เสร็จก่อนที่จะถึงวันสุดท้ายแบบนี้น่ะ” เจ้าหน้าที่อีกคนพูดขึ้นมาขณะกำลังนอนลงบนเก้าอี้

“อีกหนึ่งชั่วโมงที่เหลือไม่น่าจะมีนักศึกษาคนอื่นมาลงทะเบียนแล้วมั้ง งั้นฉันของีบหลับสักหน่อยแล้วกัน”

“ฉันเกรงว่าข้างหน้าเราตอนนี้จะมีมาอีกคนนะ” เจ้าหน้าที่อีกคนพูดขึ้นมา ชายทั้งสองคนรู้สึกไม่ค่อยพอใจนักเมื่อเห็นซิลลินค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ ซึ่งพวกเขาไม่สามารถซ่อนความไม่พอใจบนใบหน้าได้เลย

หลังจากอ่านการ์ดที่ซิลลินยื่นให้เจ้าหน้าที่คนหนึ่งชี้ไปยังอุปกรณ์เล็กๆ ข้างมือของเขา “แสกนการ์ดเซเว่นไลท์ของคุณที่นี่” เมื่อการ์ดเซเว่นไลท์ถูกแสกน ข้อมูลส่วนตัวของซิลลินก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอมอนิเตอร์

“อืม? ตระกูลดัวแอสเหรอ? นั่นเป็นครอบครัวที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงนี่นา” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพูดขึ้นมา ซึ่งหลังจากที่พวกเขาได้เห็นข้อมูลของซิลลินแล้ว ทัศนคติของเจ้าหน้าที่ทั้งสองต่อซิลลินก็ดีเพิ่มมากขึ้น พวกเขาพยายามฉีกยิ้ม และยื่นแท็บเล็ตส่งให้ซิลลิน

“โปรดกรอกแบบฟอร์มภายในนี้ และนอกจากนี้แล้วยังมีให้เลือกที่พักและอื่นๆ ที่ด้านหลังนะครับ..” เจ้าหน้าที่หยุดพูดชั่วคราวเป็นครั้งที่สอง “เอ..ดูเหมือนว่าจะไม่มีห้องพักเดี่ยวเหลือแล้ว... ฮะ? ไม่มีห้องพักคู่เช่นกัน.. ผมเสียใจด้วยนะแต่คิดว่าทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่สำหรับคุณคือห้องพักรวมรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่ก็มีของที่จำเป็นอยู่ภายในห้องครบครัน พื้นที่ของห้องนั้นมีขนาดใหญ่ และการกระจายพื้นที่ในเซเว่นไลท์นั้นเท่ากับ 1 + 1 + 1 + 1 น้อยกว่า 2 + 2 และ 2 + 2 น้อยกว่า 4 นอกจากนี้ห้องพักรวมก็อยู่ในรูปแบบของวิลล่าเช่นกัน...” เจ้าหน้าที่ได้อธิบายห้องพักรวมนี้ว่ามีพื้นที่ใช้สอยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาทางเลือกที่เหลือทั้งหมด อย่างไรก็ตามซิลลินรู้ว่าพื้นที่พิเศษที่อธิบายนี้ เรียกว่าเป็นแค่ลานอเนกประสงค์เท่านั้น คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจในเรื่องนี้ แต่ซิลลินนั้นเป็นข้อยกเว้น

โดยที่อยู่อาศัยที่แพงที่สุดในหอพักเซเว่นไลท์คือวิลล่าเดี่ยว และข้อเสนอที่ดีที่สุดคือห้องสตูดิโอ แต่ทั้งสองทางเลือกก็เห็นได้ชัดว่าเป็นที่นิยมมากที่สุด ดังนั้นผู้ที่มาภายหลังจึงไม่เหลือตัวเลือกให้เลือกมากนัก อีกทั้งนอกจากนี้ห้องพักรูปรวมนั้นก็เป็นตัวเลือกที่ไม่ค่อยมีใครเลือก เพราะมันเต็มไปด้วยนักศึกษาที่มาจากหลายที่ ซึ่งมักจะเต็มไปด้วยความขัดแย้งและปัญหา มันง่ายที่ทุกคนจะเกลียดชังซึ่งกันและกัน เพราะในห้องหนึ่งนั้นอาศัยอยู่กันสี่คนแออัดอยู่ภายในห้องเดียว โดยเคยมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นในเซเว่นไลท์ ซึ่งมักจะมาจากความขัดแย้งระหว่างสมาชิกที่อยู่ร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่นเคยได้เกิดเหตุการณ์ที่ให้วิลล่าทั้งหลังถูกทำลายมาแล้ว

นอกเหนือจากพื้นที่ภายในจะเป็นแบบสี่เหลี่ยมพื้นผ้าแล้ว เหตุผลที่พวกเขาเรียกว่าที่พักแฝดหรือสี่เป็นเพราะทุกคนจะมีชุดของตัวเองคือห้องฝึกอบรม, ห้องพัก, ห้องน้ำ, ห้องอ่านหนังสือและอื่นๆ โดยที่พักแบบเดี่ยวจะมีเพียงชุดเดียวเท่านั้น แต่ที่พักแบบรวมจะมีทุกอย่างนอกเหนือจากลานภายในห้องนั่งเล่นและห้องครัวเป็น 4 ชุด

“งั้นผมก็ได้บ้านพักแบบรวมแล้วใช่ไหมครับ” แม้ว่าทางเลือกที่เหมาะสำหรับซิลลินจะเป็นห้องสตูดิโอ แต่ในเมื่อเขาไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าไม่คำนึงว่าสภาพความเป็นอยู่เหล่านี้นั้นเคยดีกว่าสถานที่ที่เขาเคยอาศัยอยู่มาก่อนซะอีก ขณะที่ซิลลินกำลังกรอกแบบฟอร์มอยู่นั้นก็มีคนอื่นเดินเข้ามาจากประตูทางเข้าของศูนย์ลงทะเบียน ซึ่งคนๆนั้นดูเป็นคนที่คุ้นเคยมากจริงๆ

“ซิลลินใช่มั้ย? นายก็มาลงทะเบียนตอนนี้ด้วยเหมือนกันเหรอ?” ซี จินฉางปิดหนังสือที่อยู่ในมือ และยิ้มให้ซิลลิน การ์ดเซเว่นไลท์ของซี จินฉางนั้นมีสีส้ม ซึ่งนั่นหมายความว่าเขาได้รับคัดเลือกเข้ามาเรียนเป็นพิเศษ รอยยิ้มบนใบหน้าของเจ้าหน้าที่สองคนกว้างขึ้นทันที พวกเขากระตือรือร้นที่จะแนะนำซี จินฉางให้เข้าสู่ขั้นตอนการลงทะเบียน

เหตุผลที่พวกเขากระตือรือร้นนั้นไม่ใช่แค่เพราะซี จินฉางเป็นนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกมาเป็นพิเศษ แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือข้อมูลที่แสดงอยู่ในบัตรของซี จินฉางนั่นเอง แม้ว่านามสกุลซีจะไม่ได้อยู่ภายในกาแล็คซีนี้ก็ตาม และเมื่อรวมกับคุณสมบัติของซี จินฉางที่ได้รับการคัดเลือกเป็นพิเศษแล้ว เจ้าหน้าที่สองคนนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าครอบครัวของซี จินฉางนั้นเป็นผู้มีอำนาจในด้านของการศึกษาวิชาการนั่นก็คือ ตระกูลซี! ที่เลื่องชื่อนั่นเอง

ภายในสถาบันการศึกษาไม่มีใครไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับตระกูลซี ที่มีความถี่ของสมาชิกในตระกูลซีไปปรากฏในนิตยสาร“กรอรี่”และ“โค้ด” ซึ่งนิตยสารส่วนใหญ่นั้นมักทำให้ผู้คนแปลกใจ รวมทั้งตระกูลซีนั้นก็มีอิทธิพลเกี่ยวกับการทหารและการเมืองของกาแล็คซีไม่ใช่น้อย ซึ่งไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนนี้กระตือรือร้นมากเป็นพิเศษเช่นนี้

ตามขั้นตอนการลงทะเบียนแบบปกติ ห้องพักทุกห้องควรจะเต็มก่อนที่จะจัดให้มีห้องถัดไป แต่ซิลลินและ ซี จินฉางที่มีครอบครัวที่มีชื่อเสียงและมั่นคง อีกทั้งพวกเขาสองคนก็รู้จักกัน ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงอยากจะทำให้พวกเขาพึงพอใจ จึงได้เปิดห้องพักรวมให้พวกเขาใหม่ แม้ว่าห้องก่อนหน้านี้จะมีคนอยู่แล้วสามคนแม้ว่าจะยังไม่เต็มจำนวน แต่ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาก็ต้องเปิดห้องใหม่อยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงเปิดห้องใหม่ให้ซิลลิน และซี จินฉางอยู่ในห้องเดียวกัน

ในขณะที่คู่กำลังเติมข้อมูลของพวกเขาอยู่นั้นเสียงเครื่องยนต์ก็ดังกึกก้องมาจากระยะไกล มีเป็นเสียงของรถบินและสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้านั่นเอง

เอี๊ยดดดดด! รถบินที่ดูหรูหราสีพลอยแดงปรากฏขึ้น เหมือนรว่ารถบินนั้นจะวาดท้ายรถของมันและลอยเข้าไปจอดในที่จอดรถอย่างดูดีมีสไตล์ แล้วเมื่อหลังคาของรถเปิดขึ้นก็ปรากฏใบหน้าที่คุ้นเคยขึ้น

ลังค์ อันเดรีย!

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าหยุดลงชั่วคราวที่หน้าประตูทางเข้าในเวลาเดียวกันกับที่รถบินได้หยุดลง ชายหนุ่มที่แข็งแรงได้กระโดดลงมาจากสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ส่วนชายอีกคนก็เดินลงมาจากรถบิน ทั้งสองเดินเข้ามาเกือบจะในเวลาเดียวกัน

เปลือกตาของ ซี จินฉางกระตุกขึ้นเมื่อเขาเห็นคนทั้งคู่นี้ พลางคิดในใจว่า.. เจ้าคนพวกนี้…

รีวิวผู้อ่าน