px

เรื่อง : War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 70 เมิ่งฉวน


ในขณะเดียวกันกับที่หลิงเทียนรู้สึกสนใจในระดับของเมิ่งฉวนนั้น

"เมิ่งฉวนผู้นี้ไม่ธรรมดา"

ท่าทางของเซี่ยวหยูเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

"พี่หยูท่านคงไม่บอกว่าคนผู้นี้ ก็มีความแข็งแกร่งที่หยั่งไม่ถึงเช่นเดียวกับหลิงเทียนหรอกนะ?"

เซี่ยวหยุนกล่าวออกมาอย่างไม่ใส่ใจมากนัก

แต่ตอนนี้เอง

เมิ่งฉวนและเซี่ยวยงก็เริ่มต้นประลองกัน

ฟุ่บ!

ร่างกายของเซี่ยวยงพลันวูบไหวอย่างเลื่อนลอยราวกับเป็นการร่วงหล่นของใบไม้ พุ่งตรงไปยังเมิ่งฉวน

วิชาท่าร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นกลาง ใบไม้เริงระบำ!

"ฮาย เจ้าเป็นผู้ชายแท้ๆเหตุใดจึงฝึกฝนวิชาท่าร่างของอิสตรีกันเล่า"

เมิ่งฉวนส่ายหัวไปมา

ปัง!!

ขาของเมิ่งฉวนกระแทกพื้นอย่างแรงส่งร่างของเขาพุ่งไปยังเซี่ยวยงราวกับกระสุนปืนใหญ่

ความเร็วของเขานับว่าเหนือกว่าเซี่ยวยง!

ฝ่ามือวังวนสะท้าน!

ร่างกายของเซี่ยวยงบิดตัวเล็กน้อย เมื่อร่างของเมิ่งฉวนพุ่งสวนเข้ามา เขาก็ควบรวมพลังงานต้นกำเนิดก่อนที่จะโคจรด้วยเคล็ดวิชาจนเกิดคลื่นพลังหมุนวนรอบฝ่ามือของเขาซัดไปยังเมิ่งฉวนทันที

เพลงหมัดกระทิงคลั่ง!

เมื่อเมิ่งฉวนกำหมัดแน่นและต่อยออกไปอย่างแรง พลังงานต้นกำเนิดที่ควบแน่นนั้นฉีกอากาศจนแตกออกก่อให้เกิดพลังไร้สภาพประการหนึ่ง พุ่งไปเตรียมปะทะกับฝ่ามือวงวนของเซี่ยวยง

เหนือศีรษะของคนทั้งสอง ปรากฏเงาร่างแมมมอธโบราณขึ้นมา 2 ตัว

ร่างกายของเมิ่งฉวนสั่นสะท้านไปเล้กน้อย

“อา!”

ทว่าเซี่ยวยงกลับถูกพลังทำลายซัดจนกระเด็นถอยหลังไป

"ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า"

เซี่ยวยงลุกขึ้นมาพยักหน้า ก่อนที่จะกล่าวออกมาต่อเมิ่งฉวนด้วยความจริงใจ

"เฮ่ มันเป็นการต่อสู้ที่ดีนะ"

เมิ่งฉวนเพียงเกาศีรษะอย่างโง่งมและกล่าวตอบกลับไป

แต่ประกายตาของมันเรืองวูบขึ้นมาแวบหนึ่งโดยที่ไม่มีผู้ใดทันสังเกตเห็น

"เจ้ารู้แต่แรกแล้วเช่นนั้นรึว่าเซี่ยวยงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา?"

ลี่เฟยมองไปยังหลิงเทียนด้วยสายตาคาดหวัง ราวกับนางอยากรู้ว่าเหตุใดหลิงเทียนจึงล่วงรู้ได้

"เมิ่งฉวนผู้นั้นซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ หากมันเอาจริงความแข็งแกร่งของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าลี่ชิง "

หลิงเทียนกล่าวออกมาในขณะที่เขายังหรี่จับจ้องไปยังเมิ่งฉวน

มันเป็นเรื่องยากมากที่จะระบุความแข็งแกร่งที่แท้จริงของผู้ฝึกยุทธ์ที่มีระดับก่อกำเนิดขึ้นไป ด้วยการสังเกตไปที่พลังงานต้นกำเนิดเพียงอย่างเดียว วิธีเดียวที่ผู้คนทั่วไปสามารถกำหนดความแข็งแกร่งของผู้ฝึกยุทธ์ได้คือการสังเกตภาพเงาร่างช้างแมมมอธโบราณที่ปรากฏขึ้นหลังพวกมันใช้ออกด้วยความแข็งแกร่ง จนพลังงานฟ้าดินทำปฏิกริยาก่อเป็นเงาร่างช้างแมมมอธโบราณขึ้นมา ...

แต่ต้วนหลิงเทียนนั้นได้รับความทรงจำและการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยมจากประสบการณ์อันยาวนานของจักรพรรดิกลับขาติมาเกิดถึง 2 ชาติภพ

กล่าวได้ว่า สายตาของเขานั้นหาผู้ใดเสมอเหมือนไม่

เขาสามารถมองออกอย่างชัดเจนว่าความสามารถของเมิ่งฉวนไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 1

แต่ความรู้สึกความกดดันและสภาพร่างกายของเขา นั้นคล้ายๆ เซี่ยวหยู หลินฉวน และ ลี่ชิง

ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 2

“ถึงแม้ว่าเขาจะเอาชนะเซี่ยวยงได้ แต่นั่นเพราะเขาใช้ออกด้วยวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงที่มีขั้นตอนความสำเร็จมากกว่า ส่วนระดับพลังและความแข็งแกร่งเขาก็ใช้ออกเพียงแค่ระดับช้างแมมมอธโบราณ 2 ตัวเท่ากัน แล้วเจ้ามองเห็นระดับบ่มเพาะเขาได้อย่างไรกัน?”

ลี่เฟยนั้นเห็นได้ชัดว่ายังไม่เชื่อคำกล่าวของหลิงเทียน

หลิงเทียนทำเพียงยิ้มแล้วส่ายหัวเบาๆ ราวกับขี้เกียจอธิบายเรื่องยิบย่อยเช่นนี้

เพราะอีกไม่นานเวลาและความจริงจะเป็นตัวพิสูจน์เอง

"เป็นเช่นนี้นี่เอง"

มุมปากของเซี่ยวหยูขดเป็นรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็สัมผัสได้

"เซี่ยวยงนี่ไร้ประโยชน์นัก!"

คิ้วที่สวยงามราวกับหยกของเซี่ยวหยุนขมวดขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่นางจะพุ่งร่างขึ้นไปยืนเผชิญหน้ากับเมิ่งฉวน

เซี่ยวหยูอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่นเมื่อได้เห็นภาพนี้

"ท่านพี่ เซี่ยวหยุนจะเอาชนะได้หรือไม่?" เซี่ยวหลันกระซิบถามออกมา

"จากการประเมินของข้า บนเวทีประกายดาราแห่งนี้ผู้ที่สามารถเอาชนะเมิ่งฉวนได้มีไม่เกิน 3 คน ... และนอกเหนือจาก 3 คนที่ข้าคิดไว้ผู้อื่นไม่น่าเอาชนะเขาได้"

เซี่ยวหยูส่ายหัว

ใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติของเซี่ยวหลันอดไม่ได้ที่จะฉายความประหลาดใจออกมา นางคาดไม่ถึงจริงๆว่าวันนี้นอกจากต้วนหลิงเทียนแล้วพี่ชายนางยังให้ความสำคัญกับคนผู้อื่นอีก

"เจ้าตัวโต ข้าจะเป็นคนสู้กับเจ้าเอง" เซี่ยวหยุนกล่าวตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“สตรี? ข้าไม่คิดรังแกสตรี" เมิ่งฉวนกล่าวออกมาพร้อมทำสีหน้าเคร่งเครียด

"เจ้า!"

ใบหน้าของเซี่ยวหยุนพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงเนื่องมาจากโทสะ ร่างกายบอบบางของนางเริ่มสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างรุนแรง

"หรือเมิ่งฉวนมันจะคิดว่าการเอาชนะเซี่ยวยงได้ ถือว่าไร้เทียมทานภายใต้สวรรค์แล้ว? เมื่อเดือนที่แล้วในการประลองประจำปีของตระกูลเซี่ยว เซี่ยวยงยังไม่สามารถเอาชนะเซี่ยวหยุนได้ด้วยซ้ำ แต่เขากลับกล้าดูแคลนเซี่ยวหยุน "

"สงสัยเจ้าบ้านนอกนี้คงไม่รู้จัก เซี่ยวหยุน"

"เมิ่งฉวนผู้นี้ กล้าทำตัวโอหังเช่นนี้ได้อย่างไร?"

......

เหล่าสาวกจากตระกูลเล็กๆ เริ่มจับกลุ่มกันสนทนาถึง ความกล้าของเมิ่งฉวน

"ไปตายซะ!"

เซี่ยวหยุนตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะ ก่อนที่ร่างของนางจะสั่นไหวอย่างรุนแรงแล้วพุ่งไปยังเมิ่งฉวน

ในด้านความเร็วนางนับว่าเหนือกว่าเวี่ยวยง จนถึงขั้นสูสีกับความเร็วก่อนหน้านี้ของเมิ่งฉวน

“หืม”

เมิ่งฉวนแปลกใจเล็กน้อย เขาไม่คิดประมาทอีกต่อไป เขารีบเคลื่อนร่างไปรับการปะทะกับเซี่ยวหยุนทันที

เพลงหมัดกระทิงคลั่ง!

ครานี้การปะทะของเซี่ยวหยุนกับเมิ่งฉวนถือว่าเสมอกัน

"ความแข็งแกร่งของเซี่ยวหยุนนี่นับว่าใช้ได้"

ต้วนหลิงเทียนประหลาดใจเล็กน้อย

"แน่อยู่แล้ว หากนับในแง่พรสวรรค์ของเยาว์ชนในตระกูลเซี่ยวแล้ว นางหาได้ด้อยกว่าเซี่ยวหลันไม่ "ลี่เฟยกล่าว

ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมาก่อนที่จะถามว่า "แล้วหากเทียบกับเจ้าล่ะเป็นเช่นไร?"

“ ใกล้เคียง...” ลี้เฟยกล่าว

"เซี่ยวหยุนกำลังจะพ่ายแพ้"

ทันใดนั้นเองพร้อมๆกันกับคำกล่าวของหลิงเทียน ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเมิ่งฉวนพลันเพิ่มสูงขึ้นในชั่วพริบตา

‘เจ้าบ้านั่นสุดท้ายก็ไม่สามารถกดความแข็งแกร่งไปได้นานกว่านี้ ...’

หลิงเทียนสามารถมองเห็นได้อย่างรวดเร็วว่าพลังงานต้นกำเนิดที่ถูกส่งมาควบแน่นในกำปั้นของเมิ่งฉวนครานี้มันมีปริมาณมหาศาลกว่าพลังงานต้นกำเนิดของระดับก่อกำเนิดขึ้นที่ 1

แต่มันก็ยังไม่ถึงขั้นจะสร้างเงาร่างช้างแมมมอธโบราณได้ถึง 3 ตัวอย่างระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 2

ทว่าเพียงเท่านี้เซี่ยวหยุนก็ไม่อาจต้านทานได้

เพลงหมัดกระทิงคลั่ง!

เมิ่งฉวนซัดกำปั้นอออกมาอีกครั้ง และครานี้มันรวดเร็วและรุนแรงกว่าเดิม

ปัง!!

เซี่ยวหยุนถูกซัดกระเด็นกลับหลังไปหลายก้าว ใบหน้าของนางซีดลงเล็กน้อย ความเหลือเชื่อฉายชัดอยู่บนแววตาของนาง

นางสังเกตว่าเพียงเสี้ยวพริบตาเมื่อครู่ อยู่ดีๆกำปั้นของชายตรงหน้าก็มีความแข็งแกร่งพุ่งขึ้นมาในฉับพลัน มันสะกดข่มจนนางไม่สามารถตอบโต้กลับไปได้

"เอาอีกหรือไม่"

เมิ่งฉวนยิ้ม

เซี่ยวหยุนหันกลับมามองไปยังเซี่ยวยวหยูและเซี่ยวหลัน ก่อนที่นางจะตัดใจเดินเข้ามาหาทั้งสอง

"ยอดเยี่ยม!"

บรรดาอัจฉริยะจากตระกูลเล็กๆ อดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทางคาดไม่ถึงออกมา และอดไม่ได้ที่พวกมันจะส่งเสียงเชียร์เมิ่งฉวนออกมา

ถึงแม้ว่าการลงมือครั้งนี้จะกล่าวได้ว่ารังแกสตรี แต่ทว่าเมิ่งฉวนเองก็เป็นอัจฉริยะที่มาจากตระกูลเล็กๆเฉกเช่นเดียวกับพวกมัน เมื่อเมิ่งฉวนได้ชัยตระกูลเล็กๆอย่างพวกมันย่อมดีใจด้วย

"ข้าจะสู้กับเจ้า!"

ร่างกายที่กระโดดออกมา

กลับกลายเป็น ลี่ซ่ง นี่เอง

ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของลี่ซ่งจะไม่ธรรมดา แต่ก็ยั้งด้อยไป หากคิดจะรับการโจมตีจากเมิ่งฉวน มันจึงพ่ายแพ้ภายในไม่กี่กระบวนท่า

"เอาล่ะ พวกเจ้าเล่นกันไปก่อน ข้าขอออกไปพักสักครู่"

หลังจากเอาชนะลี่ซ่งได้ เมิ่งฉวนก็เดินกลับมายังซุ้มที่พัก เพื่อรับประทานของว่างและน้ำชาที่ทางตระกุลเซี่ยวจัดเตรียมเอาไว้

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ...

คนส่วนใหญ่ก็ทำการสู้รบกันไปหมดแล้ว

เหลือเพียงไม่กี่คนจากในสามตระกูลใหญ่เท่านั้นที่ยังไม่มีการเคลื่อนไหว

และในหมู่คนเหล่านั้นย่อมมีหลิงเทียนและลี่เฟยรวมอยู่ด้วย

ฟุ่บ!

ลี่เฟยกระโดดขึ้นมายืนกลางเวทีประกายดารา นับว่าดึงดูดสายตาร้อนแรงจากบุรุษทุกคนไม่น้อย

ในแง่ความงดงามลี่เฟยกับเซี่ยวหลันนับว่าไม่มีผู้ใดยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

เพียงแต่งดงามกันไปคนละแบบเท่านั้น

หากเปรียบเซี่ยวหลันเป็นเทพธิดาบริสุทธิ์ที่เหนือโลกียวิสัย ลี่เฟยก็แตกต่างกันไปอีกขั้ว

ราวกับนางมีร่างอันเย้ายวนของปีศาจและใบหน้าที่งดงามเช่นเดียวกับเทพธิดาที่จะสะกดบุรุษทุกผู้

"เซี่ยวหลัน"

สายตาของลี่เฟยจับจ้องไปยังเซี่ยวหลันก่อนที่จะเอ่ยนามของนางออกมา

ทั้งสองนับเป็น 1 ในสามของสตรีที่งดงามประจำเมืองออโรร่าแห่งนี้ ความงามของนางทั้งสองนั้นทุกสายตาล้วนประจักษ์แจ้ง

ไม่นานสายตาของทุกผู้คนล้วนจับจ้องไปยังร่างงดงามทั้งสองบนเวที

แน่นอนว่าศึกสาวงามย่อมเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับบุรุษอย่างยิ่ง

พวกเขารู้สึกว่าการมาร่วมงานครั้งนี้นับว่าคุ้มค่าแล้ว

เซี่ยวหลันค่อยย้ายร่างออกมาอย่างสง่างาม มาเผชิญหน้ากับลี่เฟย

ด้วยความงดงามของสตรีทั้งสองที่ก้าวออกมาประชันกันบนเวทีประกายดารา ทุกสรรพเสียงพลันสงบเงียบ ไม่มีใครอยากเอ่ยอะไรออกมาทำลายบรรยากาศนี้

ต้วนหลิงเทียนเองย่อมไม่มีทางพลาดการประลองของทั้งคู่อย่างแน่นอน

ประกายแสงไร้ลักษณ์!

ร่างงดงามเย้ายวนราบกุหลาบแดงของลี่เฟยพลันเลือนหายไปในพริบตา

เมฆาทะยาน!

เซี่ยวหลันพลันเคลื่อนร่างเช่นกัน ร่างกายที่งดงามของนายราวกับติดปีก

เหนือศีรษะของสตรีทั้งคู่ปรากฏร่างเงาช้างแมมมอธโบราณออกมา 2 ตัวราวกับพวกมันกำลังหยอกล้อกันอยู่

ในแง่ของความเร็วทั้งสองหามีใครได้เปรียบไม่

หมัดดาวตก!

กำปั้นของลี่เฟยซัดออกมาเต็มกำลัง พลังงานต้นกำเนิดของนางปะทุ ออกมาจนครอบคลุมกำปั้นของนางก่อนที่จะพุ่งทะยานฝ่าอากาศมาราวกับดาวตก

ฝ่ามือทะลายเมฆา!

ฝ่ามือของเซี่ยวหลันเองพลันปะทุพลังงานต้นกำเนิดออกมาอย่างมหาศาลราวกับกระแสไฟฟ้าก่อนที่มันจะเริ่มปกคลุมฝ่ามือของนางราวกับมีเมฆาห่อหุ้มเอาไว้ แม้มันจะดูเงียบสงบไร้เรื่องราว แต่ก็เปี่ยมไปด้วยรังสีสังหารที่ดุดัน

ปัง!!

เงาที่ราวกับดาวตกของกำปั้นลี่เฟยปะทุออก ส่งพลังงานมหาศาลผลักดันออกไปด้านหน้า

ฟู่มม!

กลุ่มเมฆที่ครอบคุลมฝ่ามือของเซี่ยวหลันเองก็พลันแตกออกแผ่พลังทำลายกระจายออกมาอย่างมหาศาล

ปัง!!

หมัดและฝ่ามือปะทะกันอย่างจัง

ร่างกายของหญิงสาวทั้งสองสั่นสะท้านก่อนที่จะกระเด็นถอยหลังกันไปคนละ 3 ก้าว

ด้านเซี่ยวหลันและลี่เฟยที่ต่างเห็นอีกฝ่ายกระเด็นออกไป พวกนางทั้งคู่ก็เกร็งกำลังขึ้นเตรียมจะจู่โจมออกไปอีกครั้ง

"เสี่ยวเฟยหยุดมือเถอะ ถึงแม้ว่าจะสู้กันต่อไป แต่พวกเจ้าทั้งสองคนก็ทำได้เพียงคู่คี่สูสีกันเท่านั้น จะบาดเจ็บกันเสียเปล่าๆ เหตุใดไม่หยุดกันแต่เพียงเท่านี้เล่า? "

ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม

ลี่เฟยนั้นจ้องหลิงเทียนพร้อมกับทำตาดุดันออกมา

แต่นางรู้ว่าสิ่งที่หลิงเทียนกล่าวย่อมเป็นความจริง

เซี่ยวหยูเองก็ก้าวออกมาพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มรอยยิ้ม "ถูกแล้ว พวกเจ้าทั้งสองนับว่าฝีมือเท่าเทียมกัน หากฝืนประลองต่อไป คงไม่พ้นต้องบาดเจ็บหนักทั้งคู่ "

หลังจากที่ลี่เฟยกลับมายืนข้างหลิงเทียนนางก็กล่าวออกมาอย่างหยอกล้อ "เจ้ากลัวว่าข้าจะทำร้ายนางงั้นหรือ?"

"ใส่ความสามีแล้ว... ข้าไม่ได้คิดเช่นนั้น ข้าเพียงกลัวเจ้าถูกนางทำร้าย เดี๋ยวจะบาดเจ็บจนส่งผลกับอันดับรายนามมังกรซ่อนเสียเปล่าๆ "

ต้วนหลิงเทียนรีบอธิบายออกมา

"จริงรึ?"

ท่าทางของลี่เฟยฉายแววคาดคั้นออกมาเล็กน้อย

"แน่นอน!" หลิงเทียนกล่าวออกมาด้วยความจริงจัง

"เอ๊ะ เมิ่งฉวน ... "

ทันใดนั้นลี่เฟยเงยหน้าขึ้นและจ้องมองไปไกลๆ

หลิงเทียนเองก็มองตามไปเช่นกัน

เมิ่งฉวนที่กินของว่างอิ่มแล้ว ตอนนี้มันเดินขึ้นมากลางเวทีประกายดาราอีกครั้ง

สายตาของมันจับจ้องไปยังร่างที่ยืนแยกตัวออกไปไกลๆอย่างเด่นชัด

"หากข้าจำได้ไม่ผิด เจ้าคือ... ลี่ชิง จากตระกูลลี่? เจ้ากล่าวว่าหากผู้ใดไม่พอใจก็ให้ท้าทายเจ้าใช่หรือไม่ ตอนนี้ข้าจะเป็นตัวแทนของคนจากตระกูลเล็กๆ ท้าทายอัจฉริยะของตระกูลลี่อย่างเจ้าเอง "

เมิ่งฉวนกำลังกล่าววาจากับลี่ชิง

ท่าทางของลี่ชิงพลันเปลี่ยนเป็นอำมหิตเล็กน้อยก่อนที่จะก้าวออกมา

"เจ้าแน่ใจหรือว่าจะท้าทายข้า?"

มุมปากของลี่ชิงฉีกขึ้นราวกับมันอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ เพราะได้ยินเรื่องราวชวนหัวที่สุดในรอบร้อยปี

"หรือเจ้าไม่กล้า? แน่จริงก็เข้ามา!"

ราวกับเมิ่งฉวนจะกระหายอย่างมาก

"ดี ดีมาก... ข้าจะทำให้เจ้าสำนึกเสียใจสำหรับความโอหังครั้งนี้ ในไม่กี่อึดใจ"

ลี่ชิงกล่าวออกมาด้วยโทสะจากความหยิ่งผยอง

ฟุ่บ!

ร่างกายของลี่ชิงกระพริบวูบก่อนที่จะไปปรากฏตัวตรงหน้าเมิ่งฉวนเหนือศีรษะของมันปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบราณออกมา 3 ตัว

ความเร็วของมันน่าตื่นตระหนกมาก

"ข้าได้ยินคำร่ำลือมานานแล้ว ว่าอัจฉริยะหมายเลข 1 ของตระกูลลี่ปีนี้ ได้ฝึกฝนวิชาท่าร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง มังกรแหวกนภา จนมีความสำเร็จขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญ! "

"เมิ่งฉวนผู้นี้นับว่ามีความกล้าหาญยิ่งนักที่มันกล้าท้าประลองเช่นนี้ ... น่าเสียดายที่ลี่ชิงอยู่ในระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 2 แล้ว อาศัยเพียงแค่ความกล้าอย่างเดียวหาทำอันใดได้ไม่"

"ช่างเถิด จะอย่างไรยามนี้เมิ่งฉวนมันก็ต่อสู้เพื่อพวกเราอยู่"

......

เหล่าอัจฉริยะของตระกูลเล็กต่างสนทนากันอย่างออกรส

"ในที่สุดข้าก็เจอศัตรูที่คู่ควร"เมิ่งฉวนกล่าวออกมาอย่างคาดหวังเล็กน้อย ก่อนที่มันจะระเบิดความแข็งแกร่งออกมา

ซู่มมมม!

ทันใดนั้นเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ ถึง 3 ตัวกลับปรากฏอยู่เหนือศีรษะของมัน...

ปัง!!

เมิ่งฉวนพลันกระทืบเท้าอย่างแรง ส่งร่างพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วไม่ยิ่งหย่อน สวนทางไปยังลี่ชิงเพื่อปะทะหักหาญอย่างไม่หวาดหวั่น

"ความแข็งแกร่ง ระดับ ช้างแมมมอธโบราณ 3 ตัว ... "

ทุกคนบนเวทีประกายดารายกเว้น เซี่ยวหยูและหลิงเทียน ล้วนแสดงใบหน้าเหรอหราราวกับตัวโง่งมออกมา

เมิงฉวนผู้นี้กลับเป็นผู้บ่มเพาะระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 2!

รีวิวผู้อ่าน