ROSE : 15 ช่วยเหลือ
เย่ชิงถางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยหากนางจำไม่ผิด ทุกคนในตระกูลเขาล้วนคิดว่า ตระกูลเย่เป็นผู้ลอบวางพิษเย็นกัดกินมารดาของซือไป๋และทำให้เขาต้องทุกข์ทรมานมาจนถึงปัจจุบันดังนั้นเหตุใดคนๆนี้จึงยิ้มให้นาง?
ในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่ตระกูลซือคาดเดาเอาไว้นั้นไม่ผิด
พิษที่คร่าชีวิตแม่ของซือไป๋นั้นเป็นฝีมือของตระกูลเย่อย่างไรก็ตามเรื่องราวเหล่านี้ไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับเย่หลิง แผนการทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือของอาวุโสหนึ่งแห่งตระกูลเย่
เย่ชิงถางได้รู้เรื่องนี้ขณะที่นางวิ่งหนีเอาชีวิตรอด
นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นซือไป๋ที่ผู้คนต่างกล่าวขานกันว่าเขานั้นทั้งรูปงามและมากล้นไปด้วยความสามารถแต่ในยามนี้ใบหน้าของเขากลับซีดเผือด
ผู้นั้นที่ถัดจากเขาคือชายชราท่าทางถมึงทึง นางจึงกล่าวทักทายเขา
“ท่านปู่ซือ”
ใบหน้าของผู้นำตระกูลซือยังคงเต็มไปด้วยท่าทางเย้ยหยันไม่ว่ารูปร่างหน้าตาของเด็กสาวตรงหน้าจะงดงามเพียงใด สิ่งเหล่านี้ย่อมไม่อาจเปลี่ยนแปลงความเกลียดชังที่เขามีต่อตระกูลเย่ได้
“ข้าไม่ใช่ปู่เจ้า! อย่าได้เรียกเองตามใจชอบเช่นนี้อีก เย่ชิงถางรีบบอกข้ามาเถิด เจ้ากล่าวว่ามีวิธีรักษาหลานรักข้าได้งั้นหรือ?”
“ถูกต้องแล้วเจ้าค่ะ” นางตอบและหัวเราะเบาๆ โดยไม่สนใจท่าทางที่ตั้งตัวเป็นศัตรูของเขา
นั่นเป็นเพราะนางเข้าใจเหตุผลที่ทำให้เขามีท่าทางเช่นนี้ถึงอย่างไรเสีย อาวุโสหนึ่ง ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นคนสกุล “เย่”
อาวุโสซือมองร่างอันผอมบางของนางด้วยความรังเกียจและกล่าวว่า “เย่ชิงถาง ข้าไม่สนหรอกนะว่าเจ้าคือคุณหนูแห่งตระกูลเย่ เจ้ารู้ผลลัพธ์ของการมากล่าวเรื่องไร้สาระหน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลซือในวันนี้ดีใช่หรือไม่?”
เย่ชิงถางสัมผัสได้ถึงความเป็นปรปักษ์ที่มีเขามีต่อนางได้อย่างชัดเจนแต่นางก็เลือกที่จะไม่สนใจและตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อข้ากล้ามาที่นี่ นั่นย่อมหมายความว่าข้ามั่นใจแล้วเหตุใดท่านจึงกล่าวอ้างว่าข้ากล่าวเรื่องไร้สาระทั่งที่ข้ายังไม่ทันจะได้เริ่มกล่าวสิ่งใด?”
“เจ้าจะบอกว่าข้าคิดไปเองงั้นหรือ?” อาวุโสซือหัวเราะเยาะ “ตระกูลซือของเราได้เชิญแพทย์ฝีมือดีทั่วโลกมาที่นี่เพื่อรักษาหลานรักของข้าและเจ้าอายุเพียงสิบห้าปี อีกทั้งข้ายังไม่เคยได้ยินว่าตระกูลเย่มีผู้ที่เชี่ยวชาญการแพทย์ดังนั้นเจ้าไปเอาความมั่นใจในการกล่าวคำพูดเช่นนี้มาจากที่ใด?”
แม้ว่าอาวุโสซือจะอนุญาตให้เย่ชิงถางเข้ามาพบได้ก็จริงแต่เขากลับไม่เชื่อว่านางจะสามารถรักษาซือไป๋ได้ทั้งหมดที่เขาต้องการก็เพื่อระบายโทสะและแม้ว่าเขาไม่อาจลงมือฆ่าเย่ชิงถางได้แต่เขาก็ต้องทำให้ตระกูลเย่ชดใช้สิ่งที่เคยทำไว้!
“ท่านปู่ เนื่องจากคุณหนูเย่มาหาเราเป็นการส่วนตัวดังนั้นข้าจึงเชื่อว่านางย่อมเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ในเมื่อท่านอนุญาตให้นางเข้ามาแล้วเหตุใดท่านจึงไม่ลองให้นางพยายามรักษาข้าดูเล่า?” จู่ๆ ซือไป๋ที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆเขาก็กล่าวขึ้น เขาทำเช่นนี้ก็เพราะต้องการช่วยเย่ชิงถาง
อาวุโสซือคิดไม่ถึงว่าหลานชายของเขาจะออกปากแทนเย่ชิงถางเช่นนี้ ใบหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นถมึงทึง คิ้วขมวดแน่นด้วยความไม่พอใจ
ความจริงแล้วเย่ชิงถางเองก็ได้เตรียมคำพูดไว้เพื่อโน้มน้าวใจอาวุโสซือแต่ทว่าคุณชายสามกลับเอ่ยช่วยนางให้รอดพ้นสถานการณ์นี้ไปได้โดยที่นางยังไม่ทันได้กล่าวสิ่งใด ด้วยการกระทำอันไม่คาดฝันเช่นนี้ทำให้เย่ชิงถางต้องหันไปมองชายหนุ่มรูปงามผู้นั้นอีกครั้ง
จริงๆแล้วซือไป๋นั้นค่อนข้างจิตใจดีเลยทีเดียว
ซือไป๋ส่งยิ้มอ่อนโยนกลับมาให้เย่ชิงถาง
เขาไม่ต้องการให้ท่านปู่โกรธเคืองเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
“ไร้สาระสิ้นดี!” อาวุโสซือกล่าวอย่างไม่ชอบใจ
ซือไป๋หัวเราะออกมาเบาๆขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปากพูดเย่ชิงถางก็กล่าวขึ้นว่า “ในยามนี้ข้าอยู่ในคฤหาสน์ของตระกูลซือหากข้าทำสิ่งใดผิดพลาด อาวุโสซือย่อมสามารถซักถามข้าได้ทุกเวลาและแม้ว่าข้าจะมีแรงจูงใจอื่นซ่อนเร้นแต่ข้าคงไม่คิดนำชีวิตตนเองมาเสี่ยงหรอก ท่านว่าใช่หรือไม่?”
ติดตามตอนต่อไป.........