px

เรื่อง : คุณพ่อยอดหมอเทวดา (重生之奶爸医圣)
ตอนที่10 คุณจะต้องให้ฟรี


ตอนที่10 คุณจะต้องให้ฟรี

 

ตลาดกว้างใหญ่มาก หลังจากเดินเข้าไปในประตูใหญ่ก็พบกับแผงขายของเล็กๆ ยาวเกือบสองกิโลเมตร จากนั้นเป็นศูนย์รวมยาสมุนไพรขายส่งขนาดมหึมา

 

ภายในศูนย์ขายส่งยาสมุนไพรล้วนเป็นการขายส่งวัตถุดิบสมุนไพรในปริมาณมาก วัตถุดิบค่อนข้างคุณภาพดี ราคาก็ย่อมแพงตามไปด้วย

 

ทว่าแผงลอยด้านนอกล้วนเป็นสมุนไพรที่ชาวบ้านเก็บมาจากภูเขาแล้วนำมาวางขาย ราคาค่อนข้างถูก แต่วางผสมปนเปกัน อาจจะซื้อโดนของปลอมเข้าได้ง่าย

 

ฉินห้าวตงย่อมไม่ต้องกังวลเรื่องนี้  ในฐานะผู้บำเพ็ญเซียน เขามีพลังวิญญาณรับรู้ที่ฉับไว เพียงแค่มองเขาก็สามารถแยกแยะได้แล้วว่าเป็นของจริงหรือของปลอม รวมถึงอายุของตัวสมุนไพร

 

ส่วนผสมของโอสถชำระไขกระดูกที่สำคัญมีสองตัวคือเหอโส่วอูอายุร้อยปีและโสม

 

เขาค่อยๆเดินไปตามร้านค้าแผงลอยรายทาง เดินไปครึ่งทางแล้วก็ยังไม่ได้อะไรติดมือมา จริงๆแล้วสมุนไพรป่าในยุคปัจจุบันมีน้อยเกินไป ยิ่งไม่ต้องพูดถึงของล้ำค่าอายุนับร้อยปีเลย

 

สายตามองไปยังแผงลอยที่เกลื่อนกลาดไปรอบๆ ตั้งใจเดินไปให้สุดถนน จู่ๆ สายตาของฉินห้าวตงก็เป็นประกาย ในที่สุดเขาก็พบเหอโส่วอูอายุร้อยปี

 

เจ้าของแผงเป็นชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบปี ท่ามกลางพ่อค้าพ่อขายจำนวนมาก คนผู้นี้ดูสะดุดตาอย่างมาก ตอนนี้เจียงหนานเข้าสู่ช่วงกลางฤดูร้อน เจ้าของร้านแผงอื่นๆ ล้วนแต่งกายน้อยชิ้น มีบางคนถึงขั้นถอดเสื้อเปลือยท่อนบน แต่เขากลับให้เสื้อผ้าแขนขายาวปกปิดมิดชิด ราวกับกลัวว่าจะหนาว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สีหน้าของชายวัยกลางคนจึงดูซีดเซียว แววตาท่าทางดูอ่อนล้า

 

“เถ้าแก่ อันนี้ขายยังไง?” ฉินห้าวตงชี้ไปยังเหอโส่วอูอายุร้อยปีตรงเท้าเจ้าของแผง

 

เมื่อเห็นว่ามีลูกค้าเข้ามา สีหน้าเจ้าของแผงดูมีชีวิตชีวาขึ้น เขาเบิกตาคู่เล็กของเขาแล้วพูดว่า “นี่เป็นเหอโส่วอูมีอายุหลายปี ขายสองหมื่นหยวน!”

 

“สองหมื่นหยวนเหรอ?” ฉินห้าวตงมีสีหน้าประหลาดใจ แล้วพูดต่อ “เถ้าแก่ ราคานี้แพงไปหน่อยหรือเปล่า?”

 

อันที่จริงที่เขาแสดงสีหน้าประหลาดใจไปเมื่อครู่เป็นเพราะเถ้าแก่ขายราคาถูกเกินไป ปกติแล้วตามราคาตลาด เหอโส่วอูอายุหลักร้อยปีต้องขายหลักแสนขึ้นไป ดูเหมือนว่าชายวัยกลางคนจะรู้แค่ว่าเหอโส่วอูรากนี้พอมีอายุอยู่บ้าง แต่กลับไม่รู้ว่ามันมีอายุเป็นร้อยปี

 

เจ้าของแผงพูดว่า “นี่เป็นเหอโส่วอูป่าของแท้ ผมขุดมาจากภูเขา มีอายุอย่างน้อยสี่สิบห้าสิบปี สองหมื่นไม่ถือว่าแพงสักนิด”

 

เป็นดังที่คิด เจ้าของแผงไม่รู้ราคาของเหอโส่วอูรากนี้

 

ในฐานะเยาวชนยุคใหม่ของจีน หากได้ราคาถูกย่อมไม่ยอมเสียเปรียบ ฉินห้าวตงจึงพูดว่า “เหอโส่วอูรากนี้คุณภาพไม่ดีนัก ดูท่าทางจะขุดมาวางไว้นานแล้ว คนทั่วไปไม่ซื้อกันเหรอก เอางี้ หมื่นนึง ให้มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว”

 

เจ้าของแผงลังเลไปพักหนึ่ง แม้เหอโส่วอูรากนี้จะมีอายุหลายปี แต่กลับไม่มีใครสนใจ เขาวางขายไว้เดือนกว่าแล้วก็ยังขายไม่ออกเลย

 

“ตกลง เอาไปหมื่นนึง” เจ้าของแผงตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย

 

ที่จริงแล้วเขาเป็นพวกพ่อค้าร่อนเร่ หากขายสมุนไพรราคาสูงเกินไปย่อมขายไม่ค่อยออก คนมีเงินล้วนมักเข้าไปซื้อกันด้านในศูนย์ขายส่ง ด้วยกลัวว่าหากซื้อด้านนอกจะได้ของปลอม

 

“โอเค!”

 

ฉินห้าวตงดีอกดีใจ มีเหอโส่วอูก็แก้ปัญหาเรื่องส่วนผสมหลักส่วนหนึ่งไปได้แล้ว

 

เขารับสมุนไพรมา ยื่นมือล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง สีหน้าพลันกระอักกระอ่วนขึ้น ในมือเขามีแค่เหรียญหนึ่งหยวนเพียงเหรียญเดียวเท่านั้น

 

ในเวลานี้เขาพึ่งตระหนักได้ว่า เขาไม่ใช่มหาเทพแห่งพงไพรผู้ร่ำรวยมั่งคั่งแห่งโลกฝึกเซียนอีกแล้ว ในชาติที่แล้วเขามีทรัพย์สมบัติเหลือเก็บอยู่มากมาย

 

“ทำไมเหรอ? ” เห็นสีหน้าของเขาแปลกไป เจ้าของแผงก็พอจะมองออก

 

“เอ่อ…ขายให้ผมหนึ่งหยวนได้ไหม?”

 

ฉินห้าวตงชูเหรียญในมือขึ้นพลางถามเจ้าของแผง

 

เห็นเหรียญในมือของเขาแล้ว เจ้าของแผงแทบจะล้มหัวคว่ำ เขาเคยพบเจอคนขี้งก แต่ไม่เคยเจอใครขี้งกขนาดนี้มาก่อนเลย

 

“คุณบ้าหรือไง สมุนไพรราคาหนึ่งหมื่นหยวน คุณจะซื้อในราคาหนึ่งหยวน ผมว่าคุณไม่ได้จะมาซื้อแต่จะมาก่อกวนสิท่า รีบออกไปเลย ไม่อย่างนั้นผมจะแจ้งตำรวจ”

 

เจ้าของแผงแย่งเหอโส่วอูในมือฉินห้าวตงกลับมา

 

“ผมไม่ได้พกเงินมา แต่ผมคิดว่าคุณควรจะขายให้ผมนะ” ฉินห้าวตงพูดพลางมองเจ้าของแผง

 

“คุณยังไม่ตื่นหรือไง?” เจ้าของแผงมองฉินห้าวตงอย่างนึกโมโห “เหอโส่วอูรากนี้มีอายุหลายปี อย่างน้อยขายได้เป็นหลักหมื่น คุณมีแค่หยวนเดียวยังคิดจะมาซื้ออีก ผมว่าสมองคุณคงป่วยแล้ว รีบกลับบ้านไปกินยาไป๊  จากนี้ถ้าไม่ได้กินยาก็อย่าเที่ยวออกมาข้างนอกอีกนะ”

 

ฉินห้าวตงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ผมไม่ได้ป่วย คุณสิป่วย”

 

“คุณนั่นแหละที่ป่วย ป่วยกันทั้งตระกูล” เจ้าของแผงถูกสะกิดต่อมโมโหเข้าให้แล้ว

 

“อย่าเพิ่งโมโหไป ผมอยากซื้อเหอโส่วอูรากนี้จริงๆ!” ฉินห้าวตงพูดชัดถ้อยชัดคำ

 

“ถึงแม้ว่าผมจะไม่มีเงินแต่ผมไม่ได้จะมาก่อกวน ไม่เชื่อก็คอยดู เดี๋ยวคุณก็เต็มใจมอบมันให้ผมเอง อาจถึงขั้นมอบให้ผมฟรีๆ ด้วยซ้ำ”

 

“ให้ฟรีๆ คุณพูดเพ้อฝันอยู่เหรอไง?”

 

เจ้าของแผงโกรธจนแทบจะระเบิดหัวเราะ เขามองฉินห้าวตงราวกับมองผู้ป่วยจิตเวช ในความคิดของเขา ดูเหมือนว่าพ่อหนุ่มคนนี้จะปัญญาอ่อน ออกมาซื้อของไม่พกเงินมา แถมยังคิดว่าตัวเขาจะให้ฟรี เขาไม่ได้บ้าเสียหน่อย ทำไมต้องให้ฟรีด้วย ?

 

ฉินตงฮ่าวมองเจ้าของแผงอย่างครุ่นคิด “ช่วงนี้คุณหนาวง่าย ปวดเมื่อยเอวและข้อเข่าใช่ไหม?”

 

เจ้าของแผงชะงักไปเล็กน้อย ทว่าต่อมาก็ขจัดมันออกไปได้ ทั้งตลาดยานี้มีแค่เขาที่สวมเสื้อผ้าเยอะที่สุด ก็ไม่แปลกที่มองว่ากลัวหนาว

 

แต่คำพูดต่อมาของคนหนุ่มนั้นทำให้เขาประหลาดใจ “หากผมดูไม่ผิด อาการนี้ของคุณน่าจะเป็นมาประมาณสองเดือนแล้ว ทั้งร่างหนาวสั่น ปวดเมื่อยเอวข้อเข่า แขนขาไม่มีแรง เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องรอง หลักสำคัญที่สุดคือ ช่วงนี้เจ้าโลกของคุณไม่ทำงานใช่ไหม?”

 

ครั้งนี้เจ้าของแผงตกตะลึงจนค้างไปแล้ว หากฉินห้าวตงเพียงแค่พูดถึงอาการป่วยทางร่างกายของเขานั่นอาจจะเป็นการพูดไปสุ่มๆ ได้ แต่การบอกเวลาสองเดือนนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะคิดจะเดาสุ่มได้อย่างแน่นอน

 

ยังมีเรื่องที่เจ้าโลกของเขาไม่ทำงาน นอกจากตัวเขาและภรรยาแล้วไม่ใครรู้เรื่องนี้เลย แต่เด็กหนุ่มคนนี้กลับพูดออกมาได้อย่างง่ายดาย เรื่องแบบนี้มันไม่ง่ายแล้ว

 

“คุณรู้ได้ยังไง?” เขาถามอย่างแปลกใจ

 

“ผมเป็นแพทย์แผนจีน ย่อมมองออกอยู่แล้ว” ฉินห้าวตงพูดเสียงเรียบ “ผมยังมองออกอีกด้วยว่าก่อนคุณจะป่วย คุณเคยไปสถานที่ที่หนาวเย็นอย่างมากมา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาคุณก็เริ่มมีอาการป่วยชนิดนี้ ถูกไหมครับ?”

 

สีหน้าของเจ้าของแผงยิ่งอึ้งเข้าไปใหญ่ คนเก็บสมุนไพรแบบพวกเขาล้วนไปมาทั่วทุกสารทิศ ไม่ว่าป่าลึกบึงกว้างเขาล้วนไปมาหมดแล้ว

 

แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาเคยเข้าไปในหุบเขาเล็กๆ แห่งหนึ่ง สถานที่นั้นแปลกประหลาดมาก เห็นได้ชัดว่าผ่านพ้นฤดูหนาวไปแล้ว แต่ที่นั่นกลับหนาวเสียดกระดูก แม้เขาเก็บสมุนไพรได้หนึ่งรากก็รีบกลับออกมาเลย แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมาเขาก็มีอาการป่วยแปลกประหลาดนี้  ทว่าเรื่องนี้เขาไม่เคยบอกใครแม้แต่คนเดียว ทำไมคนตรงหน้าถึงรู้เรื่องนี้ได้?

 

“ทำไม ผมพูดไม่ถูกเหรอ?” เห็นสีหน้าของเจ้าของแผง ฉินห้าวตงก็รู้ว่าตนไม่ได้พูดผิดไป เขาพูดด้วยสีหน้าเห็นใจว่า “ถ้าผมพูดไม่ถูก งั้นสมุนไพรนี้ผมก็ไม่เอาแล้ว ตอนนี้ผมจะหันหลังเดินไป แต่คุณก็จะเสียโอกาสเดียวที่สามารถรักษาโรคคุณได้ ซึ่งคุณอาจจะเป็นไปจนกระทั่งตายไปเข้าวังเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ พอถึงตอนนั้นก็อย่าหาว่าผมไม่เตือนคุณก็แล้วกัน…...”

 

“อย่า อย่าพึ่งไป น้องชาย อย่าพึ่งไป!”

 

เจ้าของแผงดึงฉินห้าวตงไว้  พอได้ยินว่าอาการป่วยของตัวเองรักษาให้หายได้ ก็รีบร้อนซักถาม “น้องชาย คุณรักษาอาการป่วยผมได้จริงเหรอ?”

 

สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ไม่มีอะไรน่าเศร้าใจไปกว่าการที่เจ้าโลกไม่มีสมรรถภาพอีกแล้ว

 

หลายปีมานี้เขาทำงานเก็บสมุนไพรหาเงินมาได้เล็กน้อย พึ่งจะได้แต่งงานกับภรรยาสาวอายุสิบกว่าปี เดิมทีชีวิตทั้งคู่รักใคร่มีความสุขดี ตั้งแต่กลับมาจากครั้งนั้นก็กลายสภาพเป็นแบบนี้ ทะเลาะเบาะแว้งกับภรรยาเป็นประจำแทบทุกวัน หากเป็นแบบนี้ต่อไป ต่อให้ไม่หย่า แต่หนทางถูกสวมเขาก็อยู่ไม่ไกล

 

ช่วงนี้เขาเองก็กินยามามาก หาหมอมามาก แต่ก็ไม่เห็นผลแม้แต่น้อย ถึงขั้นมีคนแนะนำให้เขาตัดทิ้ง…...

 

นึกไม่ถึงวันนี้จะบังเอิญพบกับคนหนุ่มที่เข้ามาซื้อของ ไม่เพียงพูดถึงอาการของเขา ทั้งยังพูดว่ารักษาให้หายได้  นี่ทำให้เขาแทบไม่อยากจะเชื่อ

 

ฉินห้าวตงจึงพูดว่า “เวลาผมรักษาโรคให้คน ผมจะดูที่วาสนา คุณจะเลือกเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ ผมไม่บังคับคุณ แต่ในเมื่อผมสามารถดูอาการออกได้ ผมก็ย่อมมีหนทางรักษา”

 

“ผมเชื่อ ผมเชื่อ!” เจ้าของแผงคว้าแขนของฉินห้าวตง ราวกับคว้าเส้นฟางยื้อชีวิตเอาไว้ พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า “เพียงแค่น้องชายรักษาผมได้ อย่าว่าแต่เหอโส่วอูรากนี้ สมุนไพรที่อยู่ตรงนี้ก็ล้วนยกให้คุณหมดเลย”

 

ฉินห้าวตงพูดขึ้น “ถ้าผมเดาไม่ผิด สถานที่ที่คุณไปนั้นมีพลังหยินแรงมาก ที่นั่นมีพลังหยินเข้มข้นเกินไป โชคดีที่คุณอยู่ที่นั่นแค่ช่วงสั้นๆ หากอยู่นานกว่านี้อาจจะเสียชีวิตได้ เพราะเป็นเช่นนี้ทำให้พลังหยางในไตพร่องไป หากไม่รีบรักษาให้ทันเวลา เกรงว่าจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงสองปีเท่านั้น”

 

“งั้นทำยังไงดี? น้องชาย คุณต้องช่วยผมนะ จะจ่ายเงินเท่าไหร่ก็ได้!” เจ้าของแผงเห็นฉินห้าวตงพูดอย่างละเอียดตรงประเด็นก็กลัวจนหน้ายิ่งซีดเผือดขึ้นไปอีก

 

“ไม่ต้องเป็นกังวล เพียงแค่รู้สาเหตุของโรค โรคนี้ก็รักษาให้หายได้” ฉินห้าวตงล้วงกระเป๋าใส่เข็มออกมา “เพียงแค่ฝังเข็มให้คุณสองเข็มก็ดีขึ้นแล้ว!”

 

“จริงเหรอ?” เจ้าของแผงยังไม่เชื่ออยู่บ้าง ฝั่งเขานั้นหาหมอชื่อดังมามาก เสียเงินไปเป็นจำนวนมากก็ยังรักษาไม่หาย

 

“จริงหรือหลอก ลองดูก็รู้แล้ว ผมไม่คิดเงินคุณ”

 

เป็นเพราะฉินห้าวตงสนใจอยากได้เหอโส่วอูร้อยปีนั้นอย่างมากถึงยอมอดทนรักษาให้คนผู้นี้ หากเขายังมีสถานะเป็นมหาเทพแห่งพงไพรอยู่ ป่านนี้เดินหันหลังให้ไปนานแล้ว

 

เจ้าของแผงคิดๆ ดูแล้วก็รู้สึกว่ามีเหตุผล เหอโซ่วอู่รากนั้นก็ยังอยู่ในมือตัวเอง รักษาไม่หายอย่างน้อยทนเจ็บเข็มสองเข็ม ไม่ได้เสียหายอะไรมาก หากรักษาได้นั้นก็นับเป็นโชคดีได้อีกครึ่งชีวิตกลับมา คิดถึงตรงนี้เขาจึงพูดขึ้นว่า “ก็ได้ ผมจะลองดู”

 

ฉินห้าวตงบอกให้เจ้าของแผงหันหลัง ยกมือขึ้นหยิบเข็มสองเล่มทิ่มลงไปบนจุดฝังเข็มหน้าไตทั้งสองข้าง โรคชนิดนี้คนอื่นไม่รู้วิธีรักษา แต่สำหรับเขานั้นง่ายดายมาก พลังหยางในไตพร่อง เติมปราณหยางเข้าไปก็เป็นอันได้แล้ว

 

เจ้าของแผงรู้สึกได้ว่าเอวด้านหลังของเขาค่อยๆ เย็นวูบ จากนั้นความร้อนสองสายก็เข้ามาและเพิ่มมากขึ้น ได้รับความร้อนอุ่นที่ไม่ได้สัมผัสมานานก็รู้สึกสบายไปทั้งตัว ความเย็นที่ทับซ้อนในร่างกายของเขาสลายหายไป

 

ไม่นานฉินห้าวตงก็ถอนเข็มออกแล้วถามว่า “รู้สึกยังไงบ้าง?”

 

“หายแล้ว ผมหายแล้วจริงๆ!” เจ้าของแผงมีสีหน้าตื่นเต้นดีใจจนแทบจะกระโดดโลดเต้น แม้ไม่ได้ทำการตรวจสอบอะไร แต่ทั้งร่างเติมเต็มไปด้วยกำลัง ที่สำคัญที่สุดคือเจ้าโลกของเขาตื่นตัวแล้ว ทั้งหมดนี้ยืนยันกับตาว่าคนหนุ่มตรงหน้าไม่ได้หลอกเขา

 

“ขอบคุณมากน้องชาย สมุนไพรนี้ยกให้คุณหมดเลย!”

 

เจ้าของแผงตื่นเต้นจนดวงตาทั้งคู่เป็นประกาย แทบจะลงไปคุกเข่าให้ฉินห้าวตง

 

จบตอน

 

 

 

 

 

 

 

รีวิวผู้อ่าน