px

เรื่อง : War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 84 อาคมจารึก ปราการคริสตัล


"ตัวเลวร้าย เจ้าได้ยินหมดทุกสิ่งเลยหรือ?"

ใบหน้าที่งดงามปานนางฟ้าของลี่เฟยพลันแดงก่ำราวกับลูกแอปเปิล

หลิงเทียนใช้มือสางผมของนางเบาๆก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างอ่อนโยน "เสี่ยวเฟย ข้าจะดูแลเจ้าตลอดไป"

"หึ่ม หากเจ้ากล้ารังแกข้า ข้าจะตัดไอนั่นออกเสีย"

ลี่เฟยทำท่าทางจริงจังให้หลิงเทียนดู นางทำมือฉับๆราวกับกำลังสมมติเหตุการณ์ตัดน้องชายของหลิงเทียน

“อะ..อะไร เจ้าไปเรียนรู้เรื่องนี้มาจากผู้ใดกัน?”

ใบหน้าของหลิงเทียนพลันเปลี่ยนเป็นซีดเผือด นี่ไม่ใช่เรื่องตลกสักนิดเดียว

"ฮึ! เจ้ากลัวแล้วสิ?"

ลี่เฟยพลันหัวเราะออกมา

"โธ่...เหตุใดข้าจึงรู้สึกกลับกลายเป็นลูกแกะเดินเข้าถ้ำเสือเช่นนี้เล่า?"

ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น

แต่เมื่อเขาจ้องมองไปยังดวงตาที่สวยงามของลี่เฟย แล้วก็สัมผัสได้ถึงไออุ่นจากร่างกายของนางที่โอบกอดอยู่ น้องชายด้านล่างก็พลันร้อนระอุและตั้งชันขึ้นมาทันที

แต่ในขณะที่เขากำลังจะทำอะไรต่อไปนั้นเอง

"เฟย หลิงเทียนกลับไปแล้วหรือ?"

เสียงของชายชราพลันดังขึ้นมาจากด้านนอก

และเมื่อชายชราเห็นทั้งสองคนเดินออกมาจากห้อง ก็มองพวกเขาทั้งคู่ด้วยสายตาแปลกๆ

"ท่านปู่ ไม่มีอันใดเกิดขึ้น พวกเราไม่ได้ทำอันใดกันนะ"

ลี่เฟยรีบอธิบายด้วยความตื่นตระหนก

"ใช่ ท่านปู่ ไม่ได้มีอันใด ท่านปู่ เอ่อ... ข้ากลับก่อนนะ"

ต้วนหลิงเทียนรีบกลับทันที ท่าทางของมันราวกับเด็กขโมยลูกอมแล้วถูกจับได้ไม่มีผิด

ในขณะที่เขาวิ่งออกมาจากบ้านของลี่เฟย อารมณ์ของเขาก็รื่นเริงอย่างมาก

หลังจากวันนี้ ต่อไปสถานะของเขากับลี่เฟยจะได้ชัดเจนขึ้นเสียที

แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็ต้องไม่ลืมเตือนใจตัวเองเอาไว้

ว่าตอนนี้ยังมีคนรอโอกาสที่จะปลิดชีวิตของเขาอยู่

"คงถึงเวลาต้องสะสางเรื่องนี้ ซะที" ต้วนหลิงเทียนบ่นพึมพำขึ้นมา

หลังจากนั้นเขาก็ออกจากตระกูลลี่ มุ่งหน้าเข้าป่าหมอกมรณะ เพื่อต่อสู้กับสัตว์ดุร้ายและสัตว์อสูรต่างๆ ตามลำพัง

ในอีก 2-3 วันต่อมาเขาก็เลือกที่จะออกจากตระกูลลี่ในเวลาเดียวกันนี้

"อืม มันยังคงรอบคอบและรอคอยอย่างใจเย็นจริงๆ"

ภายในป่าหมอกมรณะหลังจากที่หลิงเทียนสัตว์ดุร้ายได้ แววตาของมันก็กระจ่างขึ้นเล็กน้อย

สิ่งเดียวที่หลิงเทียนไม่ขาดก็คือ ความอดทน

เวลาดึกสงัดในยามค่ำคืน

ลี่ชิงกำลังต้อนรับการกลับมาของปู่มันในลานกว้าง "ท่านปู่ ต้วนหลิงเทียนมันเข้าป่าหมอกมรณะได้สักพักแล้ว การลอบติดตามมันในช่วงเวลา 2-3 วันที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้างหรือ "

"ตอนแรกนั้น ข้ากังวลนัก เพราะคิดว่าซื่อโหมวกำลังตามคุ้มครองมันอยู่ แต่ข้าได้สังเกตว่ายามที่ต้วนหลิงเทียนไปล่าสัตว์ดุร้ายที่ป่าหมอกมรณะนั้น ซื่อโหมวมันทำงานอยู่ที่สมาคมผู้หลอมโอสถตลอดเวลา ไม่ได้ออกไปไหนเลย หลังๆมานี่เหมือนว่ามันจะมิได้มาหาหรือมีความสัมพันธ์อันใดกันอีก ราวกับมันตัดสัมพันธ์กับหลิงเทียนไปแล้ว... "

คิ้วของลี่ไท่ขมวดเป็นปม เขาเริ่มสงสัยเล็กน้อย

"บางทีพวกมันอาจจะมิได้มีสัมพันธ์อันใดกันตั้งแต่แรกก็ได้ท่านปู่ คงเป็นพวกเราที่คิดมากไปเอง" ลี่ชิงกล่าวออกมา

"อาจเป็นเช่นนั้น"

ลี่ไท่พยักหน้า

วันรุ่งขึ้น ในยามเช้าตรู่

“สำเร็จ”

มองไปยังภาพเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 5 ตัวลอยอยู่เหนือหัวของเขา รอยยิ้มพลันฉายเต็มไปหน้าของหลิงเทียน

หลังจากพยายามอยู่หลายวัน ในที่สุดหลิงเทียนก็ประสบผลสำเร็จในการบ่มเพาะร่างกายโดยการใช้พลังงานต้นกำเนิดเสริมสร้างร่างกายของเขาที่อยู่ในระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 1 จนทำให้ความแข็งแกร่งของร่างกายเขาเพิ่มมาอีก 1 ช้างแมมมอธโบราณ

ตอนนี้เขามีความมั่นใจว่า ต่อให้ต้องปะทะกับผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 3 เขาก็สามารถเอาชัยได้อย่างไม่ยากเย็น!

หลังจากกินอาหารเช้า หลิงเทียนได้ออกไปข้างนอกทันที

คราวนี้เมื่อเขาเข้าป่าหมอกมรณะ เขาพลันเดินลึกเข้าไปในป่าด้านใน เพราะสัตว์ดุร้ายรอบนอกตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรเขาได้อีกต่อไป เขาจึงเดินเข้าไปด้านในเพื่อหาคู่ต่อสู้ที่กดดันเขาได้บ้าง

หลังจากเข้าไปได้ไม่นานหลิงเทียนก็ปะทะกับสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่ง

ร่ายกายของมันใหญ่โตไม่น้อย ขนของมันดูแข็งราวกับเป็นหนามปกคลุมไปทั่วร่างกาย แววตาของมันแลดูเย็นชาอีกทั้งยังเป็นสีเขียว ลักษณะของมันดูคล้ายๆกับหมาป่า แต่ขนาดของมันกลับใหญ่โตกว่ากันมาก

“โฮ่ววววววววว!”

สัตว์ดุร้ายคำรามออกมาก่อนที่จะพุ่งเข้าไปปะทะกับหลิงเทียน

ทันใดนั้นเหนือหัวของมันพลันบังเกิดเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 4 ตัว

กล่าวได้วาสัตว์ร้ายตัวนี้นั้น แข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 3

แต่สัตว์ร้ายพวกนี้นั้นตามธรรมชาติแล้วพวกมันเกิดมาก็แข็งแกร่งอย่างมากพวกมันสามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้คล่องแคล่วและต่อสู้ได้อย่างชำนาญ ความแข็งแกร่งของมันย่อมเหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 3 ทั่วไปอยู่มากโข

"เข้ามา!"

ประกายตาของหลิงเทียนเรืองวูบขึ้น

เขาไม่ได้คิดที่จะชักกระบี่อ่อนดาราม่วงออกมา

วิชาท่าร่าง วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!

ร่างกายของหลิงเทียนเริ่มสั่นไหวก่อนที่จะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงที่เหนือล้ำกว่าสัตว์ร้ายตรงหน้าที่กำลังพุ่งมาหาเขา

ก่อนที่เขาจะระเบิดความแข็งแกร่งระดับ 5 ช้างแมมมอธโบราณออกมาอย่างเต็มที่

หมัดทะลวง!

ร่างของเขาโค้งงอราวกับคันศรที่น้าวจนสุด ก่อนที่จะซัดหมัดออกมาในเสี้ยวพริบตา ปะทะเข้ากับบริเวณส่วนหัวของสัตว์ร้าย

ตูมมมม!!

ร่างกายขนาดใหญ่โตของสัตว์ร้ายถูกซัดจนกระเด็น ก่อนที่จะตกลงมาบนพื้นเสียงดังสนั่นอย่างหมดสภาพ

“ใช้ได้เลย”

หลิงเทียนผ่อนลมหายใจออกมา ก่อนที่จะเดินไปยังร่างของสัตว์ร้ายที่นอนแน่นิ่งอยู่

สัตว์ร้ายตัวนั้นจ้องมองมาที่หลิงเทียนด้วยแววตาหวาดกลัวมันตัวสั่นเล็กน้อย ก่อนที่จะพยายามฝืนลุกขึ้นแล้วรีบหันหลังวิ่งหนีหลิงเทียน พุ่งเข้าป่าไปในทันที

ต้วนหลิงเทียนชะงักไปครู่หนึ่งเพราะความประหลาดใจ ก่อนที่จะได้สติ

"คิดหนีงั้นเหรอ?"

มุมปากของหลิงเทียนพลันแสยะยิ้มขึ้นก่อนที่จะเคลื่อนร่างไปด้วยความรวดเร็ว

วิชาท่าร่าง วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!

ความเร็วของหลิงเทียนนั้นเหนือชั้นกว่าสัตว์ร้ายอย่างมาก เพียงแค่พริบตาเดียวเขาก็สามารถไล่มันได้ทัน

“ฮู่วววววว!”

ราวกับมันรู้ว่าทำอย่างไรวันนี้ก็หนีไม่พ้น สัตว์ร้ายตัวนั้นพลันหันกลับมาจ้องหลิงเทียนด้วยดวงตาสีเขียวอย่างเด็ดเดี่ยว ก่อนที่จะพุ่งเข้ามาปะทะกับหลิงเทียนอย่างหมาจนตรอก

คราวนี้หลิงเทียนไม่คิดพลาดอีก เขาอาศัยจังหวะที่สัตว์ร้ายจู่โจมเข้ามาก่อนที่จะหลบหลีกและซัดหมักไปที่ส่วนหัวของมันจนสามารถทำลายกะโหลกของมันได้

"อืม...ไอสัตว์ร้ายนี่มันตัวอะไรกันล่ะเนี่ย ขนกับหนังของมันจะมีค่าเท่าไหร่กัน" หลิงเทียนกล่าวพึมพำกับตัวเอง

"นั่นคือหมาป่าขนหนาม ขนและหนังของมันควรขายได้ราคามิต่ำกว่า 1,000 เหรียญเงิน "

ทันใดนั้นเองเสียงชายชราคนหนึ่งพลันดังขึ้นด้านหลังหลิงเทียน

ต้วนหลิงเทียนพลันหันกลับไปมองทันที

ชายชราที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขานั้น นับว่าดูชราภาพอย่างมาก

อีกทั้งเสื้อผ้าของมันก็บ่งบอกได้ว่า เป็นคนของตระกูลลี่เช่นกัน

‘คนของตระกูลลี่!’ ต้วนหลิงเทียนคิดในใจ เขาเดาเอาไว้แล้วว่ามันต้องเป็นเช่นนี้

"อายุเพียง 16 ปี แต่กลับมีความแข็งแกร่งถึง 5 ช้างแมมมอธโบราณ ... ข้าขอบอกเจ้าด้วยความสัตย์จริง ด้วยพรสวรรค์ขนาดนี้ อย่าได้กล่าวถึงเมือออโรร่าแห่งนี้เลย ต่อให้เป็นทั้งอาณาจักรเมฆาล่องแห่งนี้ ก็เพียงพอที่จะอยู่ในอันดับต้นๆของอาณาจักร เกรงว่าผู้ที่มีพรสวรรค์ระดับเดียวกับเจ้าคงมีมิมากนัก”

สายตาของชายชราจับจ้องไปยังหลิงเทียน ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแฝงความเสียดายไว้เล็กน้อย "น่าเสียดายนัก ที่วันนี้เจ้าต้องตาย!

"ผู้อาวุโสหลัก ท่านมั่นใจว่าสามารถสังหารข้าได้อย่างแน่นอนเช่นนั้นหรือ ?"

ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมา

"เจ้ารู้จักเข้า?"

ท่าทางของลี่ไท่พลันแปรเปลี่ยนเป็นระมัดระวังขึ้นมา

เท่าที่เขาจำได้ หลิงเทียนคนนี้ไม่น่าจะเคยเห็นเขามาก่อน

"ในบรรดาของคนตระกูลลี่ เกรงว่าผู้ที่คิดวสังหารข้า นอกจากท่านผู้อาวุโสหลักที่เป็นปู่ของลี่ชิงแล้ว คงไม่มีผู้อื่นอีก"

ต้วนหลิงเทียนหัวเราะกล่าวออกมาพร้อมหัวเราะ

"เจ้ากำลังจักตาย แต่ยังกล้าหัวเราะ?"

ท่าทางของลี่ไท่เริ่มดุร้ายขึ้น

แต่สิ่งแรกที่มันทำในเวลานี้คือหันไปมองและสำรวจรอบๆอย่างช่วยไม่ได้ ในความคิดของมันนั้น มันระแวงว่าหลิงเทียนยังมีผู้คุ้มกันที่แอบซ่อนและคอยปกป้องมันอยู่ เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว เหตุใดมันถึงกล้าหัวเราะออกมาอย่างสบายใจเช่นนี้?

"ผู้อาวุโสหลัก ท่านไม่ต้องมองหาให้เสียเวลาหรอก หามีผู้ใดติดตามข้ามาที่นี่ "

ต้วนหลิงเทียนพลันยิ้มอย่างไม่แยแส

"มิมีผู้ใดติดตามเจ้ามา?"

ลี่ไท่พลันขมวดคิ้ว "เจ้ามิกลัวความตาย?"

"แน่นอนว่าข้าต้องกลัว จะมีผู้ใดไม่กลัวเล่า " ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาตามตรง

"แล้วเหตุใดเจ้าจึงยังมีอารมณ์หัวเราะร่าเช่นนี้?" ลี่ไท่กล่าวถามด้วยน้ำเสียงน่าหวาดกลัว

ตาของหลิงเทียนหรี่ลงก่อนที่จะกล่าวถามออกมา "อาวุโสหลัก ข้าอยากรู้อยู่อย่างนึง หากตอนนี้ข้าไม่หัวเราะแล้วท่านจะปล่อยข้าไปหรือ?"

"แน่นอนว่ามิมีวันเป็นเช่นนั้น จะอย่างไรวันนี้เจ้าต้องตาย! " ลี่ไท่คำรามออกมาอย่างเย็นชา

“ฮ่า ฮ่า เช่นนั้นข้าจะหัวเราะหรือไม่หัวเราะ ก็หาได้แตกต่างอันใดไม่ แล้วเช่นนั้นทำไมข้าจะหัวเราะไม่ได้เล่า”

รอยยิ้มที่มุมปากของหลิงเทียนเริ่มฉีกกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ

"ข้าจะมิต่อปากต่อคำกับเจ้าอีกต่อไป! ตาย!"

สายตาของลี่ไท่พลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา ก่อนที่จะก้าวออกมาด้วยความเร็วสูง

บนศีรษะของมันนั้นร่างเงาช้างแมมมอธโบราณที่ปรากฏออกมามีเกือบ 100 ตัว เคลื่อนที่มาพร้อมกับมันราวกับจะถล่มผืนฟ้า

ปัง!!

ลี่ไท่ตบซัดฝ่ามือ ปลดปล่อยพลังงานต้นกำเนิดออกมาอย่างเกรี้ยวกราด

เสียงอากาศระเบิดและแตกออกดังขึ้นทันที

แรงลมที่เกิดจากการจู่โจมกรรโชกจนพุ่มไม้รอบๆถึงกับสั่นไหว ...

แรงกดดันมหาศาลพุ่งมายังร่างกายของหลิงเทียน

วิชาท่าร่างวิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!

ภายใต้การจับจ้องด้วยสายตาจริงจังของลี่ไท่ หลิงเทียนพลันพุ่งสวนเข้ามาหาเขาโดยตรงโดยมิคิดหวาดหวั่นพลังฝ่ามือที่เกรี้ยวกราดของเขาแม้แต่น้อย

"เด็กน้อยนี้เสียสติไปแล้วหรือ?"

มือของหลิงเทียนพลันเคลื่อนไหวไปกระชับกระบี่อ่อนดาราม่วงที่บริเวณเอวของเขา

วิชาวาดกระบี่!

ดาบของหลิงเทียนพลันสะบัดวูบ ว่องไวราวกับเส้นสายอัสนีบาตพุ่งไปยังบริเวณทรวงอกของลี่ไท่ ไม่ต่างอะไรกับอสรพิษร้ายที่มีร่างกายสีม่วงกำลังจะฉกเหยื่อ

"แค่ ของเด็กเล่น!"

ลี่ไท่หัวเราะเยาะ ก่อนที่จะรั้งฝ่ามือกลับมาเตรียมที่จะคว้าจับไปยังกระบี่อ่อนนี้ของหลิงเทียน

"ตอนนี้ล่ะ!"

หลังงานต้นกำเนิดของหลิงเทียนพลันหลั่งไหลถ่ายเทเข้าไปในกระบี่อ่อนดาราม่วง ตัวกระบี่พลันเปล่งประกายพลังงานสีแดงออกมาราวกับวิหกสยายปีก

และทันใดนั้นเอง ประกายสีแดงเลือดพลันวาดเป็นเส้นโค้งหลุดออกจากตัวกระบี่

ฟึ่บบบ!

ประกายสีแดงก่ำดั่งสีโลหิตพุ่งโค้งออกไปราวกับเสี้ยวจันทร์ตรงไปยังหน้าอกของลี่ไท่

และพริบตานั้นฝ่ามือของลี่ไท่ก็ปะทะเข้ากับกระบี่อ่อนดาราม่วงของหลิงเทียน ก่อนที่หลิงเทียนจะกระเด็นออกมา

มือของหลิงเทียนสั่นสะท้าน ก่อนที่จะมีโลหิตหลั่งไหลออกมา ฝ่ามือที่กุมกระบี่ของมันฉีกขาดออกมาเล็กน้อยหลังปะทะกันเมื่อครู่

"อาคมจารึก!" ลี่ไท่กู่ร้องออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

ครืนนนน!

จันทร์เสี้ยวโลหิตฉีกกระชากกระพลังงานต้นกำเนิดที่คุ้มกันร่างของลี่ไท่ราวกับกระดาษ

และในขณะที่หลิงเทียนคิดว่า จันทร์เสี้ยวโลหิตจะทะลวงร่างของลี่ไท่นั้นเอง

วิ้งงง! เพล้งงงงงง!!

จี้บนคอของลี่ไท่พลันเรืองแสงสีน้ำเงินเข้มออกมา ก่อนที่ จะสร้างม่านไสราวกับแก้วปกคลุมทั่วร่างของลี่ไท่ในพริบตา ขวางกั้นไว้ก่อนที่จันทร์เสี้ยวโลหิตจะทะลวงร่างของมัน

เปรี๊ยะ!

จี้ห้อยคอของลี่ไท่พลันแตกสลายก่อนที่จะร่วงหล่นลงบนพื้นหลังจากที่มันทำหน้าที่ของมันเสร็จสิ้น

"อาคมจารึก ปราการคริสตัล!"

ใบหน้าของหลิงเทียนพลันเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว เพราะหลังจากแผนการที่มันคาดคำนวณไว้หมดทุกรูปแบบและความเป็นไปได้ต่างๆนาๆ มันไม่เคยคิดแม้แต่ครั้งว่า ลี่ไท่จะมี อาคมจารึกป้องกันตัวเช่นนี้

อาคมจารึกปราการคริสตัล เป็นอาคมจารึกที่มีไว้เพื่อป้องกัน

ในแง่ของระดับความแข็งแกร่งมันไม่ได้ด้อยไปกว่าจันทร์เสี้ยวโลหิต ของหลิงเทียน

ต้วนหลิงเทียนพลันรู้สึกไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาทันที

เขาเข้ามายังป่าหมอกมรณะทุกวันในเวลาเดิมในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เพื่อใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ และรอลี่ไท่เดินเข้ามาติดกับดักของเขา

เขามั่นใจว่าสามารถฆ่าลี่ไท่ได้ด้วยอาคมจารึกจันทร์เสี้ยวโลหิตของเขาได้

แต่เขาไม่เคยคาดคิดสักนิดว่าลี่ไท่จะมีอาคมจารึกปราการคริสตัล...

มันได้ป้องกันไพ่ตายใบนี้ของเขาเอาไว้!

ปัง!!!

พลังของอาคมจารึกทั้งสองปะทะกันดังสนั่น ก่อนที่จะหักล้างสลายหายไปทั้งคู่ ตัวลี่ไท่เองพลันถูกแรงปะทะปลิวไปเกือบ 10 เมตร ก่อนที่มันจะตั้งหลักและหยุดร่างเอาไว้ได้

"ต้วนหลิงเทียน ข้ามิเคยคิดเลยว่าเจ้าจักมีอาคมจารึกที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้"

ใบหน้าของลี่ไท่พลันหมองคล้ำลงอย่างน่ากลัว วันนี้เขาเกือบสิ้นท่าด้วยภารกิจกำจัดเด็กน้อยง่ายๆเช่นนี้

ถ้าหากเมื่อครู่เขาเปิดใช้งานอาคมจารึกเพื่อป้องกันไม่ทันล่ะก็ ป่านนี้เขาตกตายไปแล้ว!

ในใจของเขาพลันรู้สึกหนาวยะเยือกขึ้นมา

หลิงเทียนถอนหายใจก่อนที่จะกล่าวออกมา "เฮ่อ แม้แต่ข้าเองก็คาดไม่ถึงว่าท่านกลับมีอาคมป้องกันเช่นนี้"

อาคมจารึกนั้นมีหลายชนิด อาคมที่มีไว้จู่โจม อาคมที่มีไว้ป้องกัน อาคมที่มีไว้สนับสนุนผู้ใช้

อาคมจารึก จันทร์เสี้ยวโลหิต นับเป็นอาคมจู่โจม

ลี่ไท่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะกล่าวว่า "วันนี้หากมิใช่เพราะข้ามีอาคมจารึกป้องกัน เกรงว่าข้าคงเป็นฝ่ายตกตาย ... ตอนนี้ข้าหาได้สงสัยเลยว่าเหตุใดยามเจ้าเห็นข้า ถึงมิได้มีทีท่าหวาดกลัวแม้แต่นิด เจ้ารู้อยู่แล้วว่าข้าต้องมาสังหารเจ้า จึงคิดที่จะใช้โอกาสนี้หลอกล่อข้ามาสังหาร ด้วยอาคมจารึกเมื่อครู่ใช่หรือไม่? "

ตอนนี้เด็กน้อยอายุเพียง 16 ปีด้านหน้าของมัน ทำให้มันรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา ...

ความสามารถในการวางแผนและคิดคำนวณสถานการณ์อย่างรอบคอบของมันนั้นนับว่าเหนือชั้นนัก ด้วยอายุเพียงเท่านี้กลับมีความสามารถถึงขนาดนี้ ต่อไปในอนาคตเมื่อมันโตขึ้นคงไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคงเป็นผู้ที่แข็งแกร่งและเก่งกาจหาผู้ใดเทียบได้

มันอดคิดไปไม่ได้เลยว่า หากลี่ชิงหลานชายของมันสามารถมีความสามารถในการคิดอ่านและมีพรสวรรค์ให้ได้สักครึ่งของต้วนหลิงเทียนจะเป็นเรื่องทีดีขนาดไหน มันคงไม่คิดกังวลหรือห่วงใยในอนาคตของลี่ชิงอีกต่อไปหากเป็นเช่นนั้น

"ตามนั้นล่ะ"

มามาถึงจุดๆนี้ หลิงเทียนก็ไม่ได้กลัวที่จะยอมรับออกมา

ตอนนี้คลื่นแห่งความเศร้าและความขมขื่นเริ่มแผ่ออกมาจากหัวใจของเขา

"ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่ข้าจะได้มีโอกาสเกิดใหม่ในโลกอื่นเช่นนี้”

"หรือวันนี้ ข้าจะต้องตายอีกครั้งกัน?"

รีวิวผู้อ่าน