px

เรื่อง : ระบบมหานครคนเถื่อน (都市枭雄系统)
ตอนที่ 1 การเกิดใหม่ของเจียงป๋าย


ระบบมหานครคนเถื่อน

ตอนที่ 1 การเกิดใหม่ของเจียงป๋าย

ในเดือนมีนาคม ท้องฟ้าที่ถูกปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆสีดำ ลมกระโชกพัดผ่านทำให้ใบไม้ปลิวไสว พร้อมกับแสงฟ้าแลบที่รอดผ่านช่องเป็นระยะ สายฝนตกโปรยปรายไปทั่วพื้นที่

ด้วยบรรยากาศที่มืดมัวทำให้จิตใจของคนรู้สึกเศร้าหมองตามไปด้วย

เจียงป๋ายได้แต่นั่งรอที่หน้าประตูห้องเช่า ตอนนี้อารมณ์ภายในใจของเขาเปรียบเสมือนกับสายฝนตรงหน้าที่ตกโปรยปรายลงมา หัวใจของเขาถูกทำร้ายเป็นรูพรุน

 “นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน! ที่นี่ที่ไหน? ดวงดาวสุ่ยหลาน?ที่ที่เป็นคู่ขนานกับโลก? ฉันข้ามไปอีกโลกหรอหรือว่าฉันแค่ฝันไป?”

เจียงป๋ายผู้ที่กลับไปสู่อีกโลกหนึ่ง เขาอดไม่ได้ที่จะส่องกระจกแล้วเอาแก้มที่นุ่มละเอียดของเขากระแทกเข้าไป พร้อมกับปากอย่างไร้ความปราณี เพื่อยืนยันอีกครั้งว่านี่เป็นเรื่องจริง และเขาอดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเอง

แต่ฉันก็ไม่โทษเขาที่เป็นแบบนี้ เอาเป็นว่าเปลี่ยนเป็นใครสักคนที่หลับไปแล้วตื่นขึ้นมาอย่างมึนงงแล้วก็พบว่าตัวเองเด็กลงไป10ปี คิดซะว่าได้เกิดบนโลกใบใหม่แต่ร่างเดิม แต่ฉันกลัวว่าถ้าไม่เหมือนเจียงป๋ายหล่ะ ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าจิตวิญญาณพวกนี้เป็นของใคร ถ้าเปลี่ยนเป็นคนธรรมดาฉันต้องทำยังไง ถ้าทำอะไรไม่ดีไปไม่แน่ใจว่าจะถูกส่งไปโรงพยาบาลบ้าหรือป่าว

 “ดาวสุ่ยหลานคือดวงดาวคู่ขนานของโลก เหตุการณ์ต่างๆบนดาวดวงนี้ไม่ต่างอะไรจากโลก นอกจากรายละเอียดบางอย่างเล็กๆน้อยๆที่ไม่เหมือนกัน คุณสามารถรู้สึกได้ว่าที่นี่คือเมื่อ10ปีที่แล้วของโลก ยินดีด้วยคุณเด็กลงแล้ว เหมือนคุณถูกรางวัลแล้ว คุณได้เกิดใหม่แล้ว”

เมื่อเจียงป๋ายตื่นขึ้นมาแล้วตบหน้าตัวเองเบาๆ เขารู้สึกว่ามีเสียงที่คุ้นเคยแว่วอยู่ในหัวของเขา

 “คุณคือใคร?”

เจียงป๋ายรู้สึกงงและแปลกใจ

นี่ฉันเจอผีหรอ

 “ฉัน? ฉันคือระบบคนเถื่อน ฉันมาจาก....อืมมมมม เธอไม่ต้องรู้มันหรอก

เอาเป็นว่าเธอเด็กลง เธอโชคดี ฉันพาเธอมาที่นี่ เธอจะมีชีวิตใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม จะอยากรู้อะไรนักหนา เอาเป็นว่าเก็บชื่อเสียงเกียรติยศของเธอเอาไว้ ฉันจะทำให้มันมีประโยชน์กับเธอแบบไม่มีที่สิ้นสุด!

เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง แต่ไม่ได้ตอบปัญหาของเจียงป๋ายเลยแม้แต่น้อย ได้แต่พูดเองเออเอง

 “ระบบคนเถื่อน? มันคืออะไรกัน?”

เจียงป๋ายรู้สึกมึนงง เขารู้สึกว่าสมองของเขากลับไปกลับมาไม่ไหวแล้ว

 “ระบบคนเถื่อน มีไว้เพื่อทำให้เธอเติบโตขึ้นและกลายเป็นคนที่สำคัญมากบนดาวดวงนี้ โดยมีชื่อเสียงเกียรติยศเป็นพื้นฐาน การได้รับชื่อเสียงเกียรติยศเพิ่มมากขึ้นยิ่งทำให้เธอได้รับสิ่งที่เธอต้องการเพิ่มขึ้นด้วย”

เสียงขอระบบดังขึ้นในสมองเขาอีกครั้ง ข้อความต่างๆดังขึ้นบอกเขาเป็นระยะๆ ทำให้เจียงป๋ายเข้าใจในระบบการมีชื่อเสียงและเกียรติยศ

พูดง่ายๆก็เหมือนกับเกมเกมหนึ่ง ที่เจียงป๋ายต้องทำให้ตัวเองมีชื่อเสียงเกียรติยศ เมื่อเขาทำได้เขาก็จะได้รับสิ่งที่เขาต้องการ

 “เจียงป๋าย แกออกมาเดี๋ยวนี้นะ! เมื่อวานแกทำเรื่องอะไรไว้”

เสียงเรียกจากระเบียงหน้าห้องดังขึ้น

ภายใต้ละอองฝนเสียงนกหวีดดังขึ้น3-4ครั้ง ห้องเช่าชั้นสามหน้าห้องแขวนไว้ด้วยกระดิ่ง เพียงแค่เปิดประตูเข้าไปเสียงกระดิ่งก็ดังกังวาน มีเสียงเรียกจากข้างหลังชายคาระเบียงชั้น3ตะโกนเรียกเจียงป๋าย

 “แฮ่กๆ....” เสียงหอบดังขึ้น

เจียงป๋ายนั่งกุมขมับ แล้วนั่งเรียบเรียงความทรงจำต่างๆ จนนึกขึ้นได้ว่าเสียงนี้คือใคร

เด็กผมสีเหลืองทองที่ยืนอยู่ตรงกลางชื่อว่า หลิวปิน เป็นเด็กลูกครึ่งที่เขารู้จัก แต่ก็ไม่ได้สนิทมาก

จริงๆแล้วเจียงป๋ายเป็นคนอ่อนแอ ถ้าเจอคนปากดีดุร้าย หลบได้ก็หลบ ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้า ทำได้แค่หลบซ่อนเพื่อรักษาความปลอดภัยของตัวเอง เขาหวังว่าจะได้มีภรรยาที่ดีและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

คนสองคนก็เหมือนกับแม่น้ำสองสายที่อยู่ขนานกันแต่ไม่มีวันบรรจบกันได้

แต่ว่าความเลวร้ายก็ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เมื่อวานแม่ของตัวเองอยู่ดีๆก็ให้สุ่ยหลิงน้องสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องที่อยู่ห่างออกไปแสนไกลส่งเสื้อผ้าอะไรก็ไม่รู้มาให้

ร้ายแรงกว่านั้นก็คือถูกใครคนนั้นเห็นเข้า

ดังนั้นเมื่อวานเลยถูกจับขังไว้ โดยปราศจากการขัดขืน แถมยังถูกตบหน้าเพื่อให้เจียงป๋ายแนะนำสุ่ยหลิง น้องสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องให้เขารู้จัก

เรื่องแบบนี้ถึงแม้ว่าเจียงป๋ายเป็นคนอ่อนแอไม่สู้คน แต่เขาก็ยอมทนที่จะไม่พูดออกไปว่าสุ่ยหลินคือใคร

คนคนนี้เป็นใครกันแน่เจียงป๋ายไม่ชัดเจนและไม่เข้าใจ ใครจะยอมให้ลูกพี่ลูกน้องของตัวเองมาลงนรก ถึงแม้ว่า........

ใจจริงเขาอยากที่จะทำ แต่คิดไปคิดมาน้องสาวที่อยู่ไกลแสนไกลของเขาก็ไม่สามารถให้คำตอบเขาได้

 “อืม........ฉันอยู่นี่!”

เจียงป๋ายตอบกลับไป แต่ไม่ยอมพูดอะไรอีก หลังจากนั้นหยิบก้อนอิฐที่เท้าขึ้นมาฟาดหัวพวกนั้นแล้วเดินลงบันไดไป

เจียงป๋ายคนก่อนที่เคยอ่อนแอมากๆ แต่ว่าตอนนี้เขาได้เปลี่ยนเป็นคนละคนไปแล้ว

ถึงแม้ว่าคนนี้จะไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ แต่ว่าเรื่องทะเลาะเบาะแว้งต่างๆพวกนี้เขาไม่เคยกลัว

เมื่อมนุษย์ตายไปก็ขึ้นสวรรค์แต่ชีวิตไม่มีวันตาย

คนประเภทนี้จะไปกลัวมันทำไม?

 “พี่ปิน พี่พูดเรื่องอะไรกัน ฉันคิดดีแล้ว มา พี่มานี่ ผมจะอธิบายให้พี่อย่างละเอียด.......”

พอเจียงป๋ายลงจากบันไดก็มีคนสามคนมายืนบัง เขาผลักออกแล้วเดินออกมา หลังจากนั้นก็หัวเราะ ฮ่าฮ่าฮ่า ออกมา

 “อื้ม? คิดดีแล้วใช่ไหม!ถือซะว่านายฉลาดก็แล้วกัน เรื่องของพี่ใกล้จะได้กลายเป็นความจริงแล้ว ต่อแต่นี้ไปที่นายอยู่ที่นี่ ฉันสัญญาว่าจะไม่มีใครกล้าทำร้ายนายอีก......”

นายผมเหลืองหลิวปินเห็นเจียงป๋ายแบบนี้ก็นึกว่าเขากลัว เขามองด้วยสีหน้าที่ดูถูกพร้อมรอยยิ้ม ค่อยๆเข้าเขยิบเข้าไปใกล้เจียงป๋ายแล้วหัวเราะใส่ หลังจากนั้นก็ตบไหล่เจียงป๋ายและพูดว่า หลังจากนี้ฉันจะเป็นคนควบคุมนายเอง

 “พูดบ้าอะไร!”

 “เพล้ง” ก้อนอิฐในมือของเจียงป๋ายฟาดเข้ากับหัวของหลิวปิน

เลือดค่อยๆไหลออกจากหัวของหลิวปิน ก้อนอิฐที่อยู่ในมือเจียงป๋ายหล่นลงเป็นครั้งที่สอง

 “เพล้งเพล้งเพล้ง......” เสียงก้อนอิฐที่ถูกฟาดลงบนหัวของหลิวปินอีก

เขาใช้ก้อนอิฐตีเข้ากับหัวของหลิวปินอีกเจ็ดครั้ง คราวนี้หลิวปินคิดจะขยับยังขยับไม่ได้ เสื้อผ้าของเจียงป๋ายเปื้อนไปด้วยเลือด ลูกน้องของเจียงป๋ายอีกสองคนเดินเข้ามา“ทำไม? พวกแกยังไม่พาลูกพี่ของพวกแกไปอีกหรอ อ้อ ฝากบอกลูกพี่แกด้วยนะว่าถ้ามีเรื่องอะไรก็ให้ไปหาฉันที่โลก!ไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้”

 “เอ่อ..........”

จริงๆแล้วลูกน้องสองคนก็อายุเพียงแค่ 22-23 ปี พอๆกับหลิวปินและเจียงป๋าย ห่างกันแค่ประมาณ 5-6 วันเท่านั้น เรื่องทะเลาะเบาะแว้งก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เหมือนกับพวกเขารุมแกล้งเจียงป๋าย แต่จริงๆแล้วเจียงป๋ายต่างหากที่เป็นคนลงมือ!

ฟังอีกทีนะ บนโลก?

เชี่ย!

ความรู้สึกของเขาตอนนี้คือความรู้สึกเหมือนอยู่บนโลก ที่ที่มีท้องถนนมากมาย สับสนไม่รู้ว่าจะไปทางไหน ลูกน้องสองคนก็ได้แต่หวาดกลัว ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมาแม้แต่อ้าปากก็ไม่มีเสียง ได้แต่รีบพาหลิวปินหนีไปอย่างรวดเร็วดั่งกับกระต่ายตัวน้อย ต่างก็ไม่กล้าที่จะปากดีเหมือนตอนแรก

 “หู่ว!”

หลังจากที่พวกนั้นเดินจากไป เจียงป๋ายก็ได้ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

คิดๆไปแล้วร่างนี้ก็มีค่าจริงๆ หลังจากถอนหายใจสักสองสามครั้งเขาก็รู้สึกว่าการเป็นคนสองคนในร่างเดียวมันช่างอึดอัดจริงๆ วันนี้ถือว่าตัวเองโชคดีจริงๆ

หลังจากที่จัดการกับพวกนี้เสร็จแล้ว ความกลัวของเขาก็ยังไม่หมดไป โลกใบนี้มันช่าง... อย่าไปคิดถึงเรื่องที่เขาพึ่งทำร้ายพวกนั้นไปเลย จริงๆแล้วหลังจากที่เขาทำร้ายพวกนี้เสร็จ เจียงป๋ายก็รู้สึกหดหู่เศร้าใจเหมือนกัน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หลิวปินอยากแจ้งตำรวจ ครั้งนี้เจียงป๋ายซวยแน่ๆ

แน่นอนว่าคนที่เป็นลูกครึ่งแจ้งตำรวจไม่ได้ แต่ว่าเรื่องแบบนี้ก็ปล่อยไว้ไม่ได้ พวกเขาคิดแล้วคิดอีกและตัดสินใจแจ้งตำรวจ

“ไม่ได้การหล่ะ ที่แห่งนี้ฉันอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว ฉันต้องรีบหนีไปให้พ้นจากที่นี่”

ตอนนี้ภายในใจของเจียงป๋ายมีคำตอบที่แน่นอนอยู่แล้ว

 “ติ๊งต่อง! ภารกิจแรกสำเร็จ ยินดีด้วยคุณได้รับเกียรติยศเพิ่มขึ้นห้าดาว!”

พึ่งจะมีความคิดที่แน่วแน่อยู่ในใจ เจียงป๋ายเตรียมตัวที่จะหนีไป แต่พึ่งนึกขึ้นได้ถึงคำพูดของ ระบบคนเถื่อน

เพียงแค่นึกถึงคำพูด เจียงป๋ายก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ นี่มันระบบคนเถื่อนอะไรกันเนี่ย ฉันรู้สึกว่าคำพูดพวกนี้มันแปลกๆ

อีกอย่างทำไมถึงได้คะแนนเกียรติยศห้าดาว

คนที่อยู่ตรงหน้าสามคน คะแนนเกียรติยศห้าดาว ทั้งหมดนี้มันมาจากไหนกันนะ

แต่ว่าไม่นานเจียงป๋ายก็เข้าใจ

เพราะเขาพึ่งนึกขึ้นได้ถึงห้องพักที่ตัวเองเช่าอยู่ ชายหญิงอายุ20ปีกว่าๆ มองดูตัวเองที่อยู่ที่ระเบียงชั้นสาม มองเห็นเจียงป๋ายที่ตั้งใจลงมือทำร้ายพวกนั้น สักพักเขาก็กลับไปอยู่ภายในห้อง

เรื่องพวกนี้ทำให้เจียงป๋ายอดหัวเราะไม่ได้

ถ้าจำไม่ผิด ความทรงจำครั้งนั้น ความโกลาหลวุ่นวายที่อยู่ตรงหน้าเจียงป๋าย ความหวาดกลัวกับคนพวกนั้นก็คงไม่มีอีกแล้ว ถือซะว่านี่เป็นอุบัติเหตุแล้วกัน

 “ยินดีด้วย คุณได้รับคะแนนเกียรติยศเป็นครั้งแรก แบบทดสอบครั้งแรกสำเร็จ คุณจะได้รับโอกาสได้รางวัลอีกครั้ง! เส้นทางของคนเรายังอีกยาวไกล อดทนอีกหน่อย เมื่อคุณมีคะแนนเกียรติยศถึงหนึ่งพันคะแนน คุณจะสามารถได้รับรางวัลเพิ่มเป็นสองครั้ง......”

 “ได้รับรางวัล?”

เจียงป๋ายงงงวย หลังจากนั้นข้างหลังของเขาก็ปรากฏเครื่องสล็อตแมชชีนอันใหญ่ขึ้น

เขารู้สึกงงอีกครั้ง ได้แต่คิดในใจว่าของสิ่งนี้คืออะไร มีแค่เขาคนเดียวที่สามารถเห็นได้หรอ คนอื่นมองไม่เห็นใช่ไหม

เหตุการณ์นี้ทำให้เขาถอนหายใจและผ่อนคลายลง

เขามองอย่างละเอียด รู้สึกว่าเครื่องสล็อตแมชชีนเครื่องนี้ไม่เหมือนกับเครื่องทั่วๆไป เครื่องนี้มีขาตั้งสามขา ตรงกลางมีแป้นเข็ม และข้างๆมีรายการให้เลือก รายการต่างๆมีทั้งหมดเก้าสี

นอกจากแถบสีดำสามแถบ ที่เหลืออีกหกแถบมีสามแถบที่เป็นสีขาว หนึ่งแถบที่เป็นสีน้ำเงิน สองแถบสีม่วงโดยมีการเขียนตัวอักษรกำกับไว้

สีขาวสามแถบแบ่งเป็น “ได้รางวัลหนึ่งแสนหยวน” “เล่นใหม่อีกครั้ง” “คะแนนเกียรติยศสิบคะแนน”

ถึงแม้ว่าจะดูเป็นรางวัลธรรมดา นอกจากเงินจำนวนหนึ่งแสนหยวนที่ทำให้เจียงป๋ายตาลุกวาวแล้ว อีกสองรางวัลที่เหลือเจียงป๋ายไม่ได้สนใจเลย

แถบสีน้ำเงินก็คือเพิ่มระดับขึ้นไปอีก—— “การต่อสู้ขั้นสูง”

สิ่งนี้ทำให้เจียงป๋ายตาลุกวาวอีกครั้ง นี่น่าจะเป็นของที่ดี!

ต้องรู้ว่าตอนนี้เขาไม่มีพละกำลังอะไร อีกอย่างไม่ว่าจะตอนนี้หรือตลอดไปนอกจากความมานะพยายามของเขา ความเป็นจริงแล้วเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย

เรื่องของหลิวปินก็ไม่ถือว่าสำเร็จ ตอนนี้ถ้าได้รางวัลนี้ก็ทำให้ปลอดภัยขึ้นมาก

แถบที่เหลือคือแถบถามตัวเลขสีม่วง เจียงป๋ายเลือกที่จะไม่สนใจมัน แต่กับสนใจแถบสีม่วงอีกแถบ

เมื่อเจียงป๋ายมองไปที่แถบสีม่วงอีกแถบ สายตาของเขาก็ไม่สามารถมองไปที่ตัวเลือกอื่นอีกเลย ทั้งการต่อสู้ขั้นสูง เงินหนึ่งแสนหยวน ความคิดพวกนี้ถูกโยนทิ้งไปจากสมองของเขา

เพราะว่าแถบสีม่วงที่มีตัวหนังสืออยู่ตรงหน้าเขานี้นั้นทำให้เขารู้สึกปวดหัวและมึนงงมาก——“โอกาสรับรางวัลมากมายอีกหนึ่งครั้ง!”

 

รีวิวผู้อ่าน