px

เรื่อง : ระบบมหานครคนเถื่อน (都市枭雄系统)
ตอนที่2 ความฝันที่แตกสลายของจอมโจรวรรณกรรม  


ตอนที่2 ความฝันที่แตกสลายของจอมโจรวรรณกรรม  

หมุนรางวัลครั้งแรก ทั้งเก้ารางวัลจะปรากฏขึ้นบนตารางทันที เพื่อให้คุณเห็นรางวัลที่ออกอย่างชัดเจน

เพียงแค่ครั้งเดียว การประกาศรางวัลครั้งต่อไป หลังจากหมุนรางวัลแล้วทางระบบจะซ่อนตัวเลขทันที

สีแต่ละสีแสดงถึงรางวัลที่ต่างกัน สามารถแยกเป็นสีดำ สีขาว สีน้ำเงิน สีม่วง และสีทองซึ่งเป็นรางวัลใหญ่

สีทองนั้นจะออกในรางวัลระดับสูง ระดับต้นและระดับกลางไม่สามารถออกสีทองได้ ส่วนสีม่วงนั้นมีโอกาสออกได้หลายรอบ

เด็กน้อยเอ๋ย เริ่มเถอะ เดินไปตามทางที่สดใสในชีวิตของเธอ

 “หมุน!”

เจียงป๋ายร้องออกมาอย่างทนไม่ไหว หลังจากนั้นไม่นานเครื่องออกสลากเก้าเหลี่ยมก็เริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว เข็มค่อยๆพุ่งทะยานไปทีละอัน ทีละอัน ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นความเร็วก็เริ่มลดลง สีต่างยังไม่หยุดเปลี่ยนไปมา

 “ฉันต้องเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน, เศรษฐีในชั่วข้ามคืน…”

ดูแล้วเข็มค่อยๆเคลื่อนช้าลงไปยังสีขาว เจียงป๋ายกระสับกระส่ายแทบจะทนรอไม่ไหว พึมพัมออกมาคล้ายกับคนขาดสติ ดวงตาเอาแต่จ้องมองไปยังแถบสีม่วงจนตาแทบจะเป็นสีเลือด

แผ่นสีขาวค่อยๆเลื่อนออกจากเข็ม “ล้านหยวน” , “ หญิงเลอโฉม”, “ผู้เชี่ยวชาญระดับสูง”— สุดท้าย แผ่นสีดำก็ค่อยๆหยุดลงตรงเข็ม  ทำให้เจียงป๋ายถึงกับจ้องไปยังแผ่นสีดำ

 “แย่แล้ว!”

เจียงป๋ายทนไม่ไหวถึงกับกระทืบเท้า

เล่นบ้าเล่นบออะไรวะ อะไรก็ไม่ให้สักอย่าง?

ไม่ให้?

ทำไม? ไม่ใช่....

ตอนแรกเจียงป๋ายเตรียมที่จะไปด่ากราดแล้ว แต่ทันใดนั้นเครื่องหมุนรางวัลยังหมุนอยู่ เพียงแค่มันหมุนช้าจนถ้าไม่สังเกตดีดีจะไม่เห็นเลย ในตอนนั้นเขาอารมณ์เสียจนคิดแต่จะไปด่าทอ สุดท้ายแล้วแถบสีดำค่อยๆเลื่อนออกจนแถบสีม่วงมาปรากฏอยู่ตรงกึ่งกลางแทน

”ยินดีด้วยเด็กน้อย เธอได้รับรางวัลของสีม่วง ความสามารถขนาดนี้ไม่มีใครลืมแน่

เสียงของระบบดังขึ้นมาพร้อมกับน้ำเสียงที่หัวเราะและสนุกสนาน

วินาทีต่อมาร่างกายของเจียงป๋ายก็เหมือนมีพลังงานเข้ามา ทำให้เขารู้สึกปวดหัว จากนั้นความทรงจำของเขาก็ค่อยๆเลือนลาง

ตั้งแต่เด็กจนโต แม้แต่ความทรงจำในวัยทารกของเจียงป๋ายก็ผุดขึ้นมาอย่างชัดเจนเหมือนเหตุการณ์นั้นพึ่งผ่านมา ไม่เพียงแต่เหตุการณ์ของชาตินี้ สิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาในชาติที่แล้วของเขายังปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจน

แม่แต่ภาพในตอนเด็กที่แม่เข้าเคยทำเกี๊ยวแบบไหน ช่วงเวลาที่กินเกี๊ยว ช่วงเวลาของความสุข แม้กระทั่งรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของอดีต เจียงป๋ายก็สามารถจดจำได้อย่างชัดเจน

อยู่ดีๆเจียงป๋ายก็น้ำตาไหลลงมาทั่วใบหน้า เพียงเพราะเรื่องบางเรื่องที่ไม่สามารถย้อนกลับไปได้ และคนบางคนที่เขาไม่สามารถเจอได้อีก

เขาเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าและนวดไปที่ขมับ เขาทิ้งทุกอย่างไว้ ขณะเดียวกันเขาก็ปิติยินดีกับรางวัลลี้ลับสีม่วง “จดจำได้ไม่ลืม” เจียงป๋ายเริ่มเผชิญหน้ากะชะตาชีวิตของเขา

แรกเริ่มคือเขาไม่สามารถอยู่ที่แห่งนี้ได้อีกแล้ว เขาต้องย้ายสถานที่

แม้ว่าจะมีห้องที่ราคาถูกไม่กี่ห้องในแถบตะวันออกนี้ แต่ว่าท้องฟ้ากว้างใหญ่ขนาดนี้ก็ยังไม่สามารถหาห้องได้อีกเหรอ?

นักปราชญ์จะไม่หลบหลังกำแพง ที่แห่งนี้ไม่ใช่สถานที่ที่จะอยู่อาศัยได้นาน

เจียงป๋ายเก็บของลงกระเป๋าเดินทาง และถือโน๊ตบุ๊คมือสองเครื่องเก่า เขาเดินออกจากห้องที่อาศัยอยู่มาครึ่งปีกว่าพร้อมกับเงินเก็บหมื่นกว่าหยวนเพื่อย้ายที่อยู่

บริเวณเขตหนึ่งกลางเมืองนั้นสภาพแวดล้อมค่อนข้างดี มีความปลอดภัยคลอบคลุม อยู่ใกล้ใจกลางเมือง การคมนาคมสะดวกสบาย ทั่วทุกสารทิศมีแต่ความเจริญ ห้องขนาดหนึ่งร้อยกว่าตารางเมตรนับว่าไม่ค่อยกว้างมากนัก แต่เทียบกับสถานที่ที่เคยอยู่ก่อนนั้นถือว่าดีกว่าหลายเท่าแน่นอนว่าค่าเช่าห้องก็แพงกว่าหลายเท่าตัว

เมื่อจ่ายค่าเช่าห้องเรียบร้อย เจียงป๋ายค้นพบว่าเขาแทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือเงินเพียงหนึ่งพันกว่าหยวน เพราะค่าเช่าห้องสองเดือนที่พึ่งจ่ายไป

ไม่ใช่หาห้องที่ราคาถูกกว่านี้ไม่ได้ เพียงแต่ชาติที่แล้วเขาทำบุญมาสมควร มีรถ มีบ้าน มีเงินเก็บ และเขาก็ไม่สามารถทนอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เดิมได้แล้ว

ชีวิตเป็นเรื่องที่น่าปวดหัว ไม่รู้เลยว่าตัวเขาเองนี่มันคืออะไร ย่างเข้ายี่สิบสามแล้วยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ตั้งแต่เรียบจบมัธยมจนถึงตอนนี้ ภายในสี่ห้าปีที่ผ่านมาสังคมก็ยังหลีกหนีสภาพอดอยากไม่ได้เลย การงานก็ไม่มี หัวเดียวกระเทียมลีบ มาถึงตอนนี้ยังหาคู่ครองไม่ได้ แค่คิดมันก็แย่มากพอแล้ว

กว่าจะเก็บของเข้าที่เข้าทางเสร็จก็ดึกดื่นมากแล้วเลยจบลงที่มาม่าหนึ่งชาม เจียงป๋ายกินไปก็ทนไม่ไหวกับชีวิตที่ย่ำแย่ของตัวเอง

การกินมาม่าเป็นเรื่องยากจริงๆโดยไม่ต้องเพิ่มแฮมเพิ่มไส้กรอก 

 “ทำอาชีพผู้รักษาความปลอดภัยชั่วคราวก็ทำไม่ไหว ฉันควรจะทำอะไรกันแน่” เจียงป๋ายแทบจะทนไม่ไหวกับความคิดของตัวเอง

เงินที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็ไม่มากแล้ว ยังจะมามีปัญหา ทำงานได้เพียงครึ่งๆกลางๆก็ไม่มีงานให้ทำแล้ว สถานที่มากมายในโลกอันแสนกว้างใหญ่แห่งนี้ก็ไม่สามารถไปได้ อีกไม่นานพวกเล่าปี่ก็จะมาถึง

ที่จริงแม้ว่าจะไม่เกิดเรื่องพวกนี้ ฉันจะยังทำงานเป็นรปภ.ตัวเล็กๆในสถานที่แบบนั้นอีกเหรอห้ะ?

นี่เป็นการดูถูกตัวเองเหมือนจะได้เกิดใหม่เป็นแมลงตัวใหญ่

 “ทำไม? มี...

ทันใดนั้นในหัวของเจียงป๋ายก็สว่างวาบขึ้นมา เขารีบเปิดคอมและค้นหาพื้นที่เพื่อจะลงทุนจนกระทั่งเวลาผ่านไปครึ่งค่อนวันเขาก็ลุกขึ้นมาและหัวเราะเสียงดัง

เพราะว่าเจียงป๋ายค้นพบว่าตัวเขาบนโลกแห่งความเป็นจริงนี้กับอีกโลกหนึ่งมีความแตกต่างกัน  แม้ว่าโลกจะเหมือนกัน แต่รายละเอียดนั้นค่อนข้างแตกต่าง

อย่างเช่น วัฒนธรรมที่เป็นที่นิยมสำหรับหลายพื้นที่ในโลกใบนั้นกลับไม่มีใครสนใจในโลกใบนี้

นี่ทำให้เจียงป๋ายตาสว่างขึ้นราวกับเขาได้พบกับเหมืองทองคำขนาดใหญ่

เขาเกือบจะแน่ใจว่าถ้าหากเขานำวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงมาต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นเขาต้องได้รับผลตอบแทนที่มากมายมหาศาล คิดได้เท่านี้เจียงป๋ายก็แทบจะทนไม่ไหวจนต้องหัวเราะออกมาดังๆแล้ว

จินตนาการเลิศล้ำแค่ไหน แต่ความเป็นจริงก็ทำไม่ได้อยู่ดี

ตอนที่เจียงป๋ายตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะขโมยวรรณกรรมเพื่อชื่อเสียงและโชคลาภ ทันใดนั้นเขาก็ค้นพบว่าเมื่อชาติที่แล้วตนเองนั้นเป็นคนไร้การศึกษา

มีคามสารถในการจดจำ  ความทรงจำเกี่ยวกับชาติที่แล้วสำหรับเจียงป๋ายนั้นชัดเจน เขาตกใจมากว่าในชาติที่แล้วเขาใช้เวลาไปกับการหาเงินโดยที่ไม่รู้หนังสือซักคำ

ยอดวรรณกรรมทั้งสี่

ในโลกนี้มีแล้ว

แต่ว่าเจียงป๋ายก็ไม่เคยอ่านสักครั้ง

แฮ่รี่ พอตเตอร์ มันคืออะไร? หนังสือสำหรับเด็กเล็กพึ่งจะได้อ่าน

มังกรหยก, แปดเทพอสูรมังกรสะท้านฟ้า ผลงานของอาจารย์จินและอาจารย์กู่ ทั้งหมดนี้คืออะไร

นอกจากละครโทรทัศน์ เขาก็ไม่เคยอ่านหนังสือพวกนั้นเลย ชาติที่แล้วได้เรียนถึงประถม ดูหนังดูละครไปก็ได้แล้ว ส่วนการอ่านหนังสือน่ะเหรอ แล้วยิ่งเป็นหนังสือพวกนั้นยิ่งช่างมันเถอะ

แม้แต่เรื่องที่นิยมกันทางอินเตอร์เน็ต เจียงป๋ายก็พบว่ามันน่าสลดใจว่าตนเองก็อ่านมาไม่น้อย แต่ว่าเรื่องที่มีชื่อเสียงเขากลับไม่เคยอ่านเลย

โธ่เอ้ยช่างเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าสลดใจ

เจียงป๋ายทนไม่ไหวกับภาพในสมองของเขา จนบางครั้งเขาอยากจะต่อต้านความรู้สึกของตัวเอง

 “ช่างมันเถอะ ชีวิตของการขโมยวรรณกรรมเอาจริงๆแล้วก็ไม่ได้น่าพอใจสักเท่าไหร่ คิดอย่างอื่นเถอะ เอ๊ะ ไม่ถูกต้อง ฉันยังจำได้อีกหลายเรื่อง การหาเงินนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย.

เมื่อจัดการกับความคิดของตัวเองเรียบร้อย เจียงป๋ายก็เลิกมองอดีตของตัวเอง และคิดถึงวิธีทางอื่นๆ แต่ว่าสุดท้ายแล้วเขาก็จำได้ว่ายังมีหนังสืออยู่หนึ่งเล่มที่เขาอ่านมันจบแล้วจริงๆ

จูเซียน!!!

รีวิวผู้อ่าน