px

เรื่อง : คุณพ่อยอดหมอเทวดา (重生之奶爸医圣)
ตอนที่ 34 อารมณ์ไม่ดี


ตอนที่ 34 อารมณ์ไม่ดี

 

“ฮ่าๆๆ ฉันคือใครน่ะเหรอ?” หลงไห่เซิงหัวเราะด้วยความโกรธ เขาชี้หน้าด่าฉินห้าวตง “ฉันจะบอกแกให้นะ ที่เมืองเจียงหนาน ฉันจะให้ใครอยู่คนนั้นก็ต้องอยู่ ฉันจะให้ใครตายคนนั้นก็ต้องตาย!”

 

หลินโม่โม่เงียบไป ในใจเธอคิดว่าคงจบแล้ว ตอนแรกยังพออาศัยหน้าของหลินชื่อกรุ๊ปเจรจากับหลงไห่เซิ่งได้ ตอนนี้ไม่มีความหวังในการเจรจาต่อรองแล้ว ต่อให้หลินจื่อเยวียนมาก็ไม่มีประโยชน์อะไร

 

เธอไม่เข้าใจเลย เห็นกันอยู่ว่าฉินห้าวตงไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่น ทำไมเขาถึงท้าทายหลงไห่เซิง?

 

ในเวลานี้เฉาถิงกระทืบเท้าพลางกรีดร้อง “ที่รัก ฆ่ามันเลย คุณต้องสับมันเป็นชิ้นๆ!”

 

หลงไห่เซิงตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ “ต้าเฟย จัดการ! ฆ่ามันเดี๋ยวนี้!”

 

ชายหัวโล้นที่ยืนรอที่ด้านข้างอยู่นาน เพื่อรอฟังคำสั่งให้เริ่มลงมือ เขาหักข้อต่อนิ้วมือไปด้วยพลางมองมายังฉินห้าวตงด้วยแววตามุ่งร้าย “ไอ้หนุ่ม แกรนหาที่ตายเองนะ!”

 

เขาสูง 190 เซนติเมตร ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดดูแข็งแกร่งราวกับเหล็กเส้น ทำให้ผู้คนที่พบเห็นต่างพากันหวาดกลัว เมื่อจางเต๋อเซิ่งและพวกบอดี้การ์ดเห็นท่าทีอันดุร้ายของเขา ก็ไม่มีความกล้าที่จะต่อต้านแล้ว

 

ต้าเฟยเป็นนักสู้อันดับหนึ่งของหลงไห่เซิง เขาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่ยังเด็กและเล่นมวยไทยมาหลายปี เมื่อเขาโตขึ้น เขามีฝีมือที่เก่งกาจและดุดัน ในหลายปีมานี้เขาต่อสู้เอาชนะผู้คนมามากมายเพื่อหลงไห่เซิง เขาเคยฆ่าคนนับสิบคนด้วยตัวคนเดียว ในโลกใต้ดินไม่มีใครกล้ายั่วยุเขา

 

หลังจากพูดจบ เขาพุ่งหมัดไปยังหน้าของฉินห้าวตงทันที ท่อนแขนของเขาดูเหมือนจะหนากว่าขาของคนทั่วไปอีก ถ้าหากฟาดมาที่ใบหน้า จะต้องตายไม่ก็พิการอย่างแน่นอน

 

เมื่อจางเต๋อเซิ่งและบอดี้การ์ดคนอื่นเห็นความแรงของหมัดนี้ สีหน้าของพวกเขาดูตื่นตกใจในทันที พวกเขาถอยกรูไปด้านหลังเพราะกลัวว่าจะถูกลูกหลงเข้าให้

 

แม่หนูน้อยดูเหมือนจะรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างเข้า เธอร้องไห้ออกมาด้วยความกลัวในอ้อมแขนของหลินโม่โม่ “หม่าม๊า ถังถังกลัว!”

 

แต่ฉินห้าวตงกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาหันมามองแม่หนูน้อยแล้วยิ้มให้ “ถังถัง มีพ่ออยู่ทั้งคน! ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นลูก!”

 

ขณะที่พูดเขายกมือขึ้นจับกำปั้นของต้าเฟยไว้โดยไม่ได้หันไปมอง

 

เขาจับกำปั้นของต้าเฟยราวกับเขามีตาอยู่ที่ด้านหลัง โดยจับกำปั้นที่ดุดันของต้าเฟยไว้แน่น

 

ต้าเฟยหน้าถอดสีในทันที หมัดของเขามีพละกำลังหลายร้อยกิโลกรัมจนสามารถทุบทำลายแผ่นไม้กระดานได้หลายแผ่น แต่ทำไมกลับถูกชายวัยรุ่นตรงหน้านี้คว้าไว้ได้อย่างง่ายดาย

 

เขาชักกำปั้นกลับไปในทันที เขารู้สึกเหมือนหมัดของเขาชกเข้าไปที่แผ่นเหล็ก จนทำให้กระดูกและข้อต่อนิ้วเจ็บจนมันสั่นระริก และเขาอดที่จะตกใจไม่ได้

 

“ทำไมดูไม่ออกเลยว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้”

 

หลังจากพูดจบ เขาดึงกริชเปล่งแสงแวววาวออกมาจากข้างเอว แล้วพุ่งแทงไปที่หน้าอกของฉินห้าวตง

 

ฉินห้าวตงขมวดคิ้ว ดูแล้วเหมือนชายคนนี้ต้องการจะฆ่าเขาจริงๆ งั้นอย่ามาโทษว่าเขาไม่มีความเมตตาแล้วกัน

 

เขายกเท้าของเขาแล้วเตะออกไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า ปลายเท้าของเขาเตะเบาๆ เข้าที่กระดูกผ่ามือของต้าเฟย ได้ยินเพียงเสียง ‘กร็อบ!’ กระดูกฝ่ามือของเขาถูกเตะหักออกเป็นสองท่อน กริชในมือของเขาลอยออกไป

 

จากนั้นเขาเตะอย่างแรงเข้าที่หน้าอกของต้าเฟยอีกครั้ง ภายใต้การจ้องมองอย่างเหลือเชื่อของทุกคน ร่างสูงของต้าเฟยลอยออกไปเหมือนกับกระสอบไปชนเข้าอย่างแรงกับม้าหมุนที่อยู่ด้านข้าง

 

“ต้าเฟย นายโอเคไหม?”

 

สีหน้าของหลงไห่เซิงดูอึมครึม นี่คือนักสู้อันดับหนึ่งของเขาเลยนะ แต่วันนี้กลับพ่ายแพ้ให้กับหนุ่มหน้าขาวรูปร่างบอบบางขนาดนี้

 

เมื่อครู่นี้ต้าเฟยรู้สึกเหมือนตัวเองถูกรถไฟชน เหมือนกับว่าอวัยวะภายในทั้งหมดย้ายที่ เขาพ่นเลือดออกมาเต็มปาก เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่มีแรงในการต่อสู้อีกต่อไป

 

“ไอ้หนุ่มคนเก่ง มีฝีมือดีเหลือเกินนะ!”

 

กล้ามเนื้อบนใบหน้าของหลงไห่เซิงบิดเบี้ยวด้วยความโกรธจัด เขาควบคุมโลกใต้ดินของเจียงหนานมาเป็นเวลานานหลายปี ยังไม่เคยมีใครกล้ายั่วยุเขามาก่อน ในเวลานี้เขาอยากให้ชายวัยรุ่นที่อยู่ตรงหน้านี้รับรู้ถึงความทรงพลังของเขา

 

“ต่อให้แกสู้เก่ง ฉันก็อยากจะดูว่าแกจะเก่งไปได้ตลอดรอดฝั่งไหม!”

 

เขากวักมือเรียกพวกนักสู้ที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา “พวกแกทุกคน ฆ่ามัน!”

 

หลังจากได้รับคำสั่ง ชายชุดดำทุกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาดึงเอาท่อนเหล็ก มีดสปาต้าและอาวุธอื่นออกมา จากนั้นพุ่งเข้าหาฉินห้าวตงพร้อมกัน

 

จางเต๋อเซิ่งและคนอื่นพอเห็นเหตุการณ์ตรงหน้านี้ พวกเขาตกใจกลัวจนถอยห่างออกไปไกล ทิ้งให้ฉินห้าวตงยืนเผชิญหน้ากับชายหลายสิบคนที่มีอาวุธครบมืออย่างเด็ดเดี่ยว

 

“พวกแกอยากตายเหรอ?”

 

เมื่อเผชิญหน้ากับชายชุดดำที่โหดร้าย ฉินห้าวตงไม่เมตตาอีกต่อไป เขาใช้ทั้งหมัดทั้งเท้า ในที่สุดบรรดาชายชุดดำพวกนั้นก็ถูกทุบตีจนใกล้ตายและพิการ ท่อนเหล็กและมีดสปาต้าในมือของพวกเขาไม่ได้สัมผัสแม้แต่ปลายเสื้อผ้าของฉินห้าวตง

 

พอหลินโม่โม่เห็นผู้ชายที่ปกป้องเธอและลูกโดยไม่กลัวตาย ในใจของเธอเกิดความรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา ในช่วงหลายปีมานี้เธอต้องการที่พึ่งพิงอันแข็งแกร่งให้เธอและลูกสาว ในที่สุดวันนี้เธอก็พบความรู้สึกนี้

 

“ป่าป๊าเก่งจังเลย ถังถังรักป่าป๊าที่สุด!”

 

ในเวลานี้แม่หนูน้อยไม่กลัวอีกต่อไป เธอปรบมืออยู่ด้านหลังฉินห้าวตง

 

ในไม่ช้าการต่อสู้ก็จบลง ในสวนสนุกเต็มไปด้วยพวกนักสู้ของหลงไห่เซิงที่กำลังเอามือกุมตามลำตัวและส่งเสียงร้องครวญครางและร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

 

ฉินห้าวตงรำคาญที่คนพวกนี้แสดงความรุนแรงโหดร้ายเกินไป ดังนั้นเขาจึงลงมือโดยไร้ความปราณี คนเหล่านี้ได้รับบาดเจ็บจนเหมือนไม่สามารถใช้งานมือและเท้าได้อีก

 

“เขา……เขาชนะงั้นเหรอ?”

 

จางเต๋อเซิ่งเบิกตากว้างราวกับเห็นผี เขาไม่เคยเห็นศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลังเช่นนี้มาก่อน

 

หลินโม่โม่เองก็รู้สึกตกใจในความสามารถของฉินห้าวตงเช่นกัน เธอรู้แค่ว่าฉินห้าวตงมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะมีทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมด้วย เขารับมือกับชายกำยำที่มีมีดอยู่ในมือด้วยตัวคนเดียว เมื่อก่อนเธอเคยเห็นฉากแบบนี้แค่ในละคร แต่วันนี้มันกลับเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเธอ

 

ฉินห้าวตงปัดมือของเขาแล้วเดินไปตรงหน้าหลงไห่เซิงและเฉาถิงอย่างสบายใจ “เป็นไงล่ะครับ? ตอนนี้คุณจะยังอยากควบคุมความเป็นความตายของผมอยู่ไหม?”

 

หลงไห่เซิงหน้าเขียวคล้ำ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าลูกน้องผู้มากความสามารถเหล่านี้พอเข้าไปสู้พร้อมกันยังไม่สามารถเอาชนะฉินห้าวตงได้ ความสามารถที่น่ากลัวเช่นนี้ ที่เจียงหนานในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาเขาเห็นเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

 

แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม เขาคือเจ้าพ่อผู้ควบคุมโลกใต้ดินของเจียงหนาน ถึงแม้ว่ามันจะดูน่าตกใจ แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนกเท่าไร

 

“ไอ้หนุ่ม แกมีความเชี่ยวชาญด้านการต่อสู้จริง สามารถเอาชนะคนนับสิบคนได้ แต่แกจะเอาชนะปืนได้ไหม?”

 

“ฉันเองก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นคนมีฝีมือมาก่อน แต่สุดท้ายคนเหล่านั้นก็ต้องมาตายเพราะปืน ในสังคมทุกวันนี้ลำพังแค่พึ่งหมัดอย่างเดียวคงไร้ประโยชน์ เชื่อไหมว่าตอนนี้แค่ฉันโทรกริ๊งเดียวก็ส่งแกไปเข้าคุกได้แล้ว?”

 

เขาดูภูมิใจในตัวเองมาก ที่เหมือนกับว่าเขาจะกลายเป็นผู้คุมเกมอีกครั้ง

 

ที่หลงไห่เซิงสามารถผงาดทั่วเจียงหนานได้ไม่ใช่เพราะพึ่งพาแต่พวกคนที่เป็นนักสู้มากความสามารถเหล่านี้ แต่เบื้องหลังของเขายังมีอำนาจอยู่มากมายที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายของเขา ไม่อย่างนั้นเขาคงถูกยึดอำนาจไปนานแล้ว

 

ฉินห้าวตงยิ้มบางพลางพูดขึ้น “งั้นคุณเชื่อไหม ว่าตอนนี้ผมสามารถฆ่าคุณได้?”

 

เขาอยากจะฆ่าหลงไห่เซิงจริงๆ ถ้าหากไม่จัดการคนนี้ซะ ต่อไปในอนาคตจะต้องมีปัญหามากมายแน่นอน

 

ในฐานะที่เขาเป็นแพทย์แผนจีนที่โดดเด่น เขามีวิธีมากมายที่จะทำให้หลงไห่เซิงตายอย่างลึกลับโดยไม่ทราบสาเหตุ

 

ถึงแม้ว่าหลงไห่เซิงจะมีอิทธิพลในสังคมมานานหลายปี แต่ในเวลานี้เขากลับรับรู้ได้ถึงการคุกคามจากชายวัยรุ่นที่อยู่ตรงหน้านี้ แม้ว่าฉินห้าวตงจะมีสีหน้ายิ้มแย้ม แต่แววตาอันดุดันของเขากลับให้ความรู้สึกน่าหวาดกลัว

 

ในเวลานี้เอง ที่ด้านนอกสวนสนุกมีเสียงหนึ่งดังแว่วเข้ามา “คุณหมอฉิน ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?”

 

ฉินห้าวตงหันไปมอง เป็นไป๋จื่อผิงที่เดินเข้ามาจากด้านนอก

 

หลังจากเห็นชายชุดดำที่ได้รับบาดเจ็บนอนกองอยู่เต็มพื้นและเห็นหลงไห่เซิงที่มีสีหน้าเขียวคล้ำ ไป๋จื่อผิงจึงถามด้วยความสงสัย “ไห่เซิง? นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

 

ธุรกิจคอกสุนัขของเขาเป็นธุรกิจใต้ดินเช่นกัน แน่นอนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับหลงไห่เซิงผู้ที่ควบคุมโลกใต้ดิน หลงไห่เซิงถือหุ้นของคอกสุนัขแห่งนี้อยู่ 30% ขณะเดียวกันพวกเขาทั้งสองคนยังเป็นญาติสนิทกันอีกด้วย

 

“พี่ชาย พี่รู้จักชายคนนี้ด้วยเหรอ?” หลงไห่เซิงถาม

 

“ไห่เซิง นี่คือคุณหมอฉินที่ฉันเล่าให้นายฟังไง ทักษะทางการแพทย์ของเขายอดเยี่ยมมาก จะต้องรักษาอาการป่วยของเสี่ยวเป่าได้อย่างแน่นอน”

 

ตอนแรกหลังจากที่เมื่อวานไป๋จื้อผิงเห็นทักษะทางการแพทย์สุดมหัศจรรย์ของฉินห้าวตง เขาจึงอยากแนะนำให้หลงไห่เซิงรู้จัก เพื่อช่วยรักษาอาการป่วยให้เสี่ยวเป่าลูกชายของเขา เมื่อกี้ทั้งสองคนพึ่งจะโทรนัดเจอกันที่สวนสนุก แต่ไป๋จื่อผิงมาช้าไปหน่อย

 

“เขาคือหมอเทวดาคนนั้นเหรอ?” หลงไห่เซิงเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

 

“แน่นอนสิ ทักษะทางการแพทย์ของคุณหมอฉินใช้คำว่า ‘มหัศจรรย์’ มาอธิบายได้เท่านั้น!”

 

ไป๋จื่อผิงกล่าวอย่างหนักแน่น ตอนที่เขาได้ยินหลินจื่อเยวียนพุดถึงฉินห้าวตง เขาเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน แต่พอเห็นด้วยตาของตัวเองตั้งแต่เมื่อวาน มันทำให้เขาเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าการรักษาคนและสุนัขจะยังมีความแตกต่างกัน แต่ทักษะทางการแพทย์สามารถเชื่อมโยงกันได้

 

สีหน้าของหลงไห่เซิงเปลี่ยนไป ลูกชายของเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเมื่อสามปีก่อน แต่ที่รอดชีวิตมาได้จนถึงทุกวันนี้เป็นเพราะอาศัยทรัพย์สมบัติของครอบครัวเป็นจำนวนมากในการยื้อชีวิตลูกชายไว้ แต่หมอบอกไว้ว่าลูกชายของเขาจะอยู่ได้อีกแค่สามเดือนเท่านั้น

 

เพื่อที่จะรักษาอาการป่วยของลูกชาย ในช่วงสองสามปีมานี้ เขาตะเวนพาลูกชายไปรักษากับหมอที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก แต่ไม่มีหมอคนไหนสามารถรักษาโรคของเสี่ยวเป่าได้เลย

 

แต่หลังจากที่ได้ยินทักษะทางการแพทย์สุดมหัศจรรย์ของฉินห้าวตง ในใจเขาเกิดความหวังขึ้น แต่เขาไม่คิดเลยว่าพวกเขาทั้งสองคนจะมาพบเจอกันในสถานการณ์แบบนี้

 

“ขอแค่นายสามารถรักษาอาการป่วยของลูกชายฉันได้ เรื่องราวในวันนี้จะยุติลงทันที และต่อไปนี้นายจะเป็นสหายของหลงไห่เซิง!”

 

เพื่อรักษาอาการป่วยของลูกชาย ในที่สุดเขาจึงยอมที่จะเสียศักดิ์ศรี

 

ฉินห้าวตงหัวเราะ “ถ้าหากผมไม่ได้มองผิดไป ลูกชายของคุณเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้ว เคยทำเคมีบำบัดมาแล้วห้าครั้ง แต่ผลไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไร ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ จะมีชีวิตอยู่ได้มากสุดอีกแค่สามเดือนเท่านั้น”

 

ในเวลานี้ไม่เพียงแต่หลงไห่เซิงที่สีหน้าเปลี่ยนไป ขนาดเฉาถิงที่ยืนอยู่ด้านข้างยังเปลี่ยนสีหน้า เขาสามารถบอกอาการป่วยของเสี่ยวเป่าได้อย่างชัดเจนขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน

 

“คุณหมอฉิน คุณรักษาโรคนี้ได้ไหม” ไป๋จื่อผิงเอ่ยถาม

 

ฉินห้าวตงพูดขึ้น “ก็แค่มะเร็งเม็ดเลือดขาว ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร แค่ผมยอมใช้เวลาไม่กี่นาทีก็รักษาเขาให้หายได้แล้ว”

 

หลงไห่เซิงดีใจกับเรื่องที่คาดไม่ถึงเช่นนี้ เขาจึงพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า "ไอ้น้องชาย นี่มันเรื่องจริงเหรอ? นายจะรักษาลูกชายของฉันให้หายดีได้เมื่อไร?"

 

ฉินห้าวตงจึงพูดขึ้น “ผมก็แค่พูดว่ารักษาได้ แต่ผมพูดตอนไหนว่าจะรักษาให้ลูกชายของคุณ?”

 

“เอ่อ……”

 

หลงไห่เซิงหน้าถอดสีในทันที

 

ไป๋จื่อผิงจึงรีบพูดขึ้น “คุณหมอฉิน คุณช่วยรักษาโรคให้เด็กคนนี้เถอะ นอกจากคุณ ในโลกนี้ก็ไม่มีใครรักษาเสี่ยวเป่าได้แล้ว!”

 

 “ผมรักษาโรคได้ แต่วันนี้ผมอารมณ์ไม่ดี ไม่อยากรักษาโรคให้ใคร!”

 

ฉินห้าวตงพูดจบ เขาหันไปพูดกับหลินโม่โม่ว่า “ไปกันเถอะ พวกเราไปเที่ยวที่อื่นกัน”

 

จบตอน

 

 

รีวิวผู้อ่าน