px

เรื่อง : คุณพ่อยอดหมอเทวดา (重生之奶爸医圣)
ตอนที่ 38 เธอไม่เข้าใจความคิดของฉันหรอก


ตอนที่ 38 เธอไม่เข้าใจความคิดของฉันหรอก

 

หลินโม่โม่หน้าแดง “คุณพูดจาไร้สาระอีกแล้ว นั่นมันก็แค่ตำนาน”

 

“ผมไม่สนหรอก แต่อายุมากกว่ากันแค่ห้าปีไม่ถือว่าแก่กว่ากันเยอะ ผมชอบของผมนี่นา อีกอย่างคุณไม่ได้ใหญ่แค่อายุนะ”

 

ฉินห้าวตงพูดจบ สายตาของเขาเลื่อนมองไปยังหน้าอกอวบอิ่มของหลินโม่โม่และอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายไปอึกหนึ่ง

 

ในเวลานี้ความเย็นชาที่หลินโม่โม่วางมาดไว้ได้พังทลายลง เธอโวยวายเหมือนสาวขี้อายที่พึ่งมีความรักครั้งแรก “ไม่ให้มอง!”

 

“งั้นก็ได้ ไม่มองก็ไม่มอง!”

 

แต่คนที่มีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนเช่นฉินห้าวตงมีหรือจะปล่อยให้โอกาสดีๆ แบบนี้หลุดลอยไปได้อย่างง่ายดาย เขายื่นมือไปคว้าหลินโม่โม่เข้ามากอดไว้ในอ้อมแขน

 

“คุณ……” หลินโม่โม่อายจนไม่รู้จะอายอย่างไรแล้ว เธออยากจะขัดขืนแต่อีกใจหนึ่งก็กลัวจะไปกระทบกับบาดแผลของฉินห้าวตงเข้า

 

“ทำไมล่ะ ผมเป็นคนพูดจริงทำจริงนะ ถ้าคุณไม่อยากให้ผมดู ผมก็ไม่ดู แต่ผมก็จะทำมันด้วยมือของผมนี่แหละ!”

 

“ไม่ได้ รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้……อุ๊บ”

 

การปฏิเสธของหลินโม่โม่ไม่เพียงแต่ไม่ได้ผล ในทางตรงกันข้ามฉินห้าวตงกลับประกบจูบเธออย่างเร่าร้อนอีกครั้ง ตอนแรกเธอพยายามที่จะผลักเขาออก แต่สุดท้ายเธอก็เคลิบเคลิ้มไปกับมัน

 

“ก๊อก……ก๊อก……ก๊อก……”

 

ขณะที่ฉินห้าวตงกำลังเข้าได้เข้าเข็มอยู่นั้น จู่ๆ มีเสียงเคาะดังลั่นมาจากตรงประตู

 

หลินโม่โม่ได้สติทันทีราวกับเธอถูกไฟฟ้าช็อต เธอรีบผลักฉินห้าวตงออกไป

 

ฉินห้าวตงเช็ดปาก มองไปยังประตูอย่างไม่พอใจ ไม่รู้ว่าเป็นไอ้บ้าคนไหนมาขัดความสุขของเขา กว่าเขาจะทำให้แม่ของลูกใจเต้นแรงได้แบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ

 

พอประตูเปิดออก น่าหลันอู๋เซี๋ยยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องพักคนไข้ เธอมองมาที่ฉินห้าวตงและหลินโม่โม่ด้วยท่าทีแปลกๆ

 

“เจ้าหน้าที่น่าหลัน คุณมาแล้ว” เมื่อคืนน่าหลันอู๋เซี๋ยช่วยชีวิตฉินห้าวตงไว้ ดังนั้นหลินโม่โม่จึงรู้จักเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงคนนี้ แต่แก้มของหลินโม่โม่แดงก่ำ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกจับได้ว่าทำเรื่องแบบนี้กับผู้ชาย

 

“เจ้าหน้าที่น่าหลัน พวกคุณคุยกันไปเถอะ ฉันจะออกไปเตรียมอาหารเช้า!”

 

หลังจากพูดจบ เธอก้มหน้าแล้วรีบเดินหนีออกมาจากห้องพักคนไข้ทันที

 

ฉินห้าวตงดูนาฬิกาบนผนัง เวลานี้พึ่งจะเจ็ดโมงเช้า เขาจึงเงยหน้าไปพูดกับน่าหลันอู๋เซี๋ย “เจ้าหน้าที่น่าหลัน คุณเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับงานมาก เช้าขนาดนี้ยังจะมาทำงานอีก”

 

“ฉันไม่ทุ่มเทกับงานเท่านายหรอก ขนาดถูกปืนยิงไปสิบกว่านัดยังมีความใคร่ได้ขนาดนี้ ไม่รู้ว่าความลามกของนายมันมีมากจนทำให้นายลืมความเจ็บปวดไปแล้วเหรอไง?”

 

ฉินห้าวตงมองดูผ้าพันแผลที่พันอยู่รอบตัวเขา ซึ่งมันดูไม่ค่อยเหมาะกับบรรยากาศเมื่อครู่เท่าไร แต่ทว่าเขาไม่ได้สนใจ เคล็ดวิชาอมตะแห่งพงไพรเป็นเคล็ดวิชารักษาที่ดีที่สุด บาดแผลของเขาเกือบจะหายดีเป็นปกติแล้วหลังจากการพักฟื้นมาตลอดหนึ่งคืนเต็ม ดังนั้นภายในของเขาจึงรู้สึกดีมากกว่าภาพลักษณ์ภายนอกของเขาเป็นไหนๆ

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยดึงเก้าอี้มานั่งข้างฉินห้าวตง “นี่นายโทษว่าฉันมาทำลายความสุขของนายหรือเปล่า?”

 

ฉินห้าวตงตอบด้วยรอยยิ้ม “ คุณรู้ดีอยู่แก่ใจ ยังจะมาถามฉันอีกทำไม จะมาช้ากว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ?”

 

“หมอเทวดา ที่เมื่อคืนนายพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อเล่นบทฮีโร่ช่วยสาวงาม คงไม่ใช่เพราะมีจุดประสงค์แอบแฝงใช่ไหม?”

 

ฉินห้าวตงหัวเราะพลางพูดขึ้น “ถูกคุณจับได้ซะแล้ว เจ้าหน้าที่น่าหลันนี่สายตาเฉียบคมจริงๆ เลยนะ!”

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยจ้องไปที่เขาพลางพูดขึ้น “เท่าที่ฉันรู้มา ถึงแม้ว่าประธานหลินโม่โม่จอมเย็นชาคนนั้นจะยังไม่ได้แต่งงาน แต่เธอก็มีลูกสาวแล้ว นายไม่กลัวว่าวันหนึ่งพ่อของลูกเธอจะโผล่มาระรานนายเหรอไง?”

 

“ไม่มีอะไรน่ากลัวนี่ มันคุ้มค่าจะตายหากได้ตายเพื่อสาวงาม”

 

ฉินห้าวตงรู้สึกตลก พ่อของลูกเธองั้นเหรอ? ก็เขานี่ไงที่เป็นพ่อของลูกเธอ ไม่อย่างนั้นเขาจะพยายามเสี่ยงชีวิตขนาดนี้ทำไม

 

“นายนี่มัน……” น่าหลันอู๋เซี๋ยหงุดหงิดเพราะฉินห้าวตง เธอกัดริมฝีปากของเธอแล้วพูดขึ้น “ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่? ด้วยทักษะทางการแพทย์และหน้าตาของนายสามารถหาแฟนที่สมบูรณ์แบบเหมาะสมกับนายได้อยู่แล้ว ต่อให้หาผู้หญิงรวยๆ ยังได้เลย ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ล่ะ?”

 

ฉินห้าวตงแอบขำในใจ ดูแล้วแม่สาวน้อยคนนี้จะเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกิน

 

“โอ้! ฉันพึ่งนึกได้ว่าเจ้าหน้าที่น่าหลันเป็นสาวสวยที่ร่ำรวย หรือเธออยากจะเลี้ยงดูฉัน งั้นเธอพูดราคามา ถ้าหากว่าเหมาะสมฉันอาจจะลองพิจารณาดู”

 

“ถุย! ฉันไม่สนใจนายหรอก” น่าหลันอู๋เซี๋ยทำท่าถ่มน้ำลายแล้วพูดขึ้น “ก็แค่เตือนในฐานะเพื่อน ฉันไม่อยากเห็นนายเป็นคนแบบนั้น!”

 

เรื่องแบบนี้เป็นอะไรที่ฉินห้าวตงยากจะอธิบายมาก เขายิ้มพลางพูดขึ้น “ที่จริงเธอเข้าใจฉันผิดแล้ว เธอไม่เข้าใจความคิดของฉันหรอก!”

 

“เข้าใจผิดยังไง? นายต้องเป็นคนประเภทหลงรักคนรุ่นแม่อย่างแน่นอน วิปริต!”

 

“เอ่อ……” ฉินห้าวตงรู้สึกอาย เขาคิดว่าเขาและหลินโม่โม่เป็นคู่ที่เหมาะสมกันที่สุดแล้ว จะมีช่องว่างมากมายขนาดนั้นที่ไหนกัน

 

“ว่าไงล่ะ? ฉันพูดแทงใจดำเหรอ? ฉันเคยเรียนจิตวิทยามานะ” น่าหลันอู๋เซี๋ยกระตุกรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ

 

“ใช่ที่ไหนล่ะ!” ฉินห้าวตงจ้องไปยังน่าหลันอู๋เซี๋ยพลางพูดขึ้น “ฉันไม่ได้มีรสนิยมรุนแรงแบบนั้นเหมือนเธอนะ สิ่งเดียวที่ฉันชอบคือสาวงาม ผู้หญิงแบบเธอฉันก็ชอบเหมือนกัน”

 

ฉินห้าวตงพูดขณะมองสำรวจเรือนร่างที่มีส่วนเว้าโค้งสวยงามของน่าหลันอู๋เซี๋ย จากนั้นทำท่าเช็ดน้ำลายที่มุมปาก

 

“นายนี่มัน……ไอ้บ้า ไอ้คนวิปริต!” น่าหลันอู๋เซี๋ยคิดว่าถ้าหากยังต่อปากต่อคำกับคนอย่างฉินห้าวตงต่อ มีหวังเธอได้หงุดหงิดเหมือนคนประจำเดือนมาไม่ปกติแน่ๆ

 

เธอจึงพูดกับฉินห้าวตงด้วยสีหน้าจริงจัง “นายจะรักใครชอบใครก็เรื่องของนาย วันนี้ที่ฉันมาเพราะมีธุระสำคัญ!”

 

“เธอหมายถึงเรื่องเมื่อคืนใช่ไหม สอบสวนเสร็จแล้วเหรอ?” ฉินห้าวตงเอ่ยถาม

 

“ยังไม่เสร็จดีหรอก แต่มีอยู่จุดหนึ่งที่สามารถมั่นใจได้ คนพวกนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายแต่อย่างใด และก็ไม่ใช่พวกลูกน้องของสุนัขผู้โศกเศร้าด้วย แต่เป้าหมายของพวกเขาคือประธานหลิน!”

 

หลังจากฟังผลสรุปจากน่าหลันอู๋เซี๋ย สีหน้าของฉินห้าวตงดูไม่ได้เปลี่ยนไปมากเท่าไร เขาพูดขึ้นอย่างเฉยชา “ดูไม่ออกเลยว่าการทำงานของพวกคุณจะมีประสิทธิภาพได้ขนาดนี้”

 

“ว่าไงนะ? หรือนายรู้ข้อสรุปนี้อยู่แล้ว?” น่าหลันอู๋เซี๋ยจ้องมาที่ฉินห้าวตงแล้วเอ่ยถาม

 

“แน่นอนสิ ฉันรู้ว่าคนพวกนั้นพุ่งเป้ามาที่หลินโม่โม่ตั้งแต่พวกมันลงมือครั้งแรกแล้ว!”

 

“งั้นนายจะมาบอกฉันทำไมว่าคนพวกนั้นคือลูกน้องของสุนัขผู้โศกเศร้า มันทำให้ทิศทางการทำงานของพวกเราพลาดไปหมด สิ้นเปลืองทรัพยากรทางตำรวจเป็นจำนวนมาก หรือนายคิดว่าแบบนี้มันน่าสนุก?”

 

น่าหลันอู๋เวี๋ยยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธ เธอทำท่าเหมือนพร้อมบวกได้ตลอดเวลา

 

จะโทษที่เธอโกรธก็ไม่ได้ เพราะหลังจากที่เธอฟังคำให้การของฉินห้าวตง เธอก็ตรวจสอบคดีนี้ตามคำให้การของเขาตลอดทั้งคืน ผลก็คือฝั่งทางผู้ค้ายานั้นยังคงเงียบไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น

 

ต่อมาเธอถึงรู้ว่าคนพวกนี้มาเพื่อฆ่าหลินโม่โม่ แต่ฉินห้าวตงกลับทำตัวเป็นฮีโร่ช่วยสาวงามจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ได้มาจากการแก้แค้นของพวกพ่อค้ายาเสพติด

 

“เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไปทำร้ายคนเจ็บสิ ก็แค่บอกมาว่าคุณต้องการอะไร แต่อย่าตีผมเด็ดขาด!” ฉินห้าวตงรีบขอร้องทันทีที่เห็นท่าทีโกรธจัดของน่าหลันอู๋เซี๋ย “เรื่องนี้ฉันเป็นคนผิดเอง แต่ตอนแรกไม่ใช่เธอเหรอที่ไม่เชื่อฉันน่ะ? ฉันก็เลยต้องพูดไปแบบนี้”

 

“นี่ยังจะมาโทษฉันอีกเหรอ? ใครใช้ให้เวลาปกตินายชอบพูดทีเล่นทีจริงล่ะ เอาแต่ชอบล้อเล่น ฉันนึกว่านายกำลังเล่นมุขอยู่ซะอีก!”

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยพูดด้วยความโกรธ แต่พอเห็นฉินห้าวตงที่มีผ้าพันแผลเต็มตัว เธอจึงเก็บความโกรธไว้แล้วนั่งลงข้างเตียงเขา!

 

“นั่นเป็นเพราะเธอยังไม่รู้จักฉันดี ก็จริงอยู่ที่ฉันเป็นคนรูปหล่อและมีอารมณ์ขัน แต่ฉันไม่เคยเอาเรื่องสำคัญมาล้อเล่น!”

 

“แหวะ! คนหลงตัวเอง!” น่าหลันอู๋เซี๋ยกลอกตาใส่ฉินห้าวตง

 

“แล้วเรื่องราวสอบสวนไปถึงไหนแล้ว? รู้หรือยังว่าเป็นฝีมือใคร?”

 

ฉินห้าวตงทำสีหน้าจริงจังในขณะที่ถาม ในดวงตาของเขาฉายแววแห่งความโหดร้ายขึ้น เขาพร้อมฆ่าพวกที่อยู่เบื้องหลังที่พยายามฆ่าหลินโม่โม่อยู่หลายครั้ง

 

ขอแค่รู้ตัวตนของอีกฝ่าย ไม่ว่ามันจะเป็นใคร เขาพร้อมที่จะกำจัดมันให้สิ้นซาก

 

“ตอนนี้ยังไม่มีเบาะแส ชายชุดดำพวกนั้นตายในที่เกิดเหตุไปหมดแล้ว ถามอะไรก็ไม่ได้แล้ว” น่าหลันอู่เซี๋ยจ้องฉินห้าวตงอยู่พักหนึ่ง “ใครใช้ให้นายลงมือขนาดนั้นล่ะ ไม่รู้จักเหลือไว้ให้ปากคำสักคนหรือไง?”

 

ฉินห้าวตงตอบอย่างเขินอาย “จะมาโทษผมก็ไม่ได้นะ ในสถานการณ์นั้นใครจะกล้ายั้งมือล่ะ”

 

จริงอยู่ที่เมื่อคืนเขาลงมืออย่างไร้ความปราณี แต่ในมือของคนพวกนั้นมีปืน พวกมันสามารถฆ่าพวกเขาสามคนได้ทุกเมื่อ

 

“ช่างเถอะ ฉันไม่ได้โทษนายหรอก ฉันบอกความคืบหน้าของคดีให้นายฟังไปหมดแล้ว ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ ฉันไปก่อนนะ!”

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยพูดจบจึงหันหลังเดินออกจากห้องคนไข้ไป ที่จริงเธอมาที่นี่เพื่อมาเยี่ยมอาการบาดเจ็บของฉินห้าวตง จึงถือโอกาสบอกความคืบหน้าของคดีให้ฟัง ตอนนี้เธอบรรลุเป้าหมายแล้ว ต้องกลับไปทำงานต่อแล้ว

 

“กลับดีๆ ล่ะเจ้าหน้าที่น่าหลัน ครั้งหน้าก็อย่าลืมเคาะประตูนะ ถ้ามาเห็นฉากที่เด็กไม่ควรดูอีกล่ะก็ ผมจะเรียกเก็บเงินค่าดูจากคุณ!”

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยแทบจะสะดุดรองเท้าส้นสูงของตัวเอง เธอหันมาเหลือกตาใส่ฉินห้าวตงพักหนึ่ง จากนั้นรีบเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย!

 

เมื่อเธอเดินออกไป หลินโม่โม่ถืออาหารเช้าเข้ามาพอดี ใบหน้าของเธอยังคงแดงระเรื่ออยู่ ช่างดูน่าดึงดูดมาก

 

“ลุกขึ้นมากินข้าวได้แล้ว!” เธอพูดกับฉินห้าวตงที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้

 

“ผมบาดเจ็บอยู่นะ ผมลุกไม่ไหว”

 

“ทำไมถึงลุกไม่ไหว คุณพึ่งลุกไปเมื่อสักเดี๋ยวนี่นา!”

 

พอนึกถึงฉากที่ฉินห้าวตงจูบเธออย่างดุเดือด พวกแก้มของหลินโม่โม่แดงระเรื่อขึ้นมาอีกครั้ง

 

“ก็เพราะเมื่อกี้แผลมันฉีก ตอนนี้เลยลุกไม่ไหวแล้ว!”

 

“คุณต้องการอะไร?” หลินโม่โม่กัดริมฝีปากแดงพลางพูดขึ้น

 

“ผมอยากให้คุณป้อนผม!”

 

ฉินห้าวตงพูดอย่างหน้าไม่อาย

 

“คุณ……”

 

หลินโม่โม่อยากจะปฏิเสธ แต่พอนึกถึงภาพที่ฉินห้าวตงปกป้องเธอสองคนแม่ลูกจนเลือดท่วมตัว เธอจึงใจอ่อนยอมหยิบเอาโจ๊กมาป้อนเขาทีละคำ

 

ฉินห้าวตงเพลิดเพลินไปกับการบริการของสาวงามและมีความสุขไปกับรูปลักษณ์อันงดงามของเธอ

 

หลินโม่โม่รู้สึกอายที่ถูกจ้อง เธอถลึงตามองเขาแล้วพูดขึ้น “มองอะไร? หน้าฉันมีอะไรติดอยู่หรือไง?”

 

“ไม่มีอะไรสวยเกินคุณแล้ว” ฉินห้าวตงกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้าง

 

“คนกะล่อน!” หลินโม่โม่คีบเสี่ยวหลงเปาขึ้นมา แล้วยัดลงไปในปากของเขา แต่เธอกลับรู้สึกมีความสุขอยู่ข้างใน

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมา อาหารเช้ามื้อแสนหวานนี้ได้สิ้นสุดลง หลินโม่โม่จึงพูดขึ้น “คุณอยู่ที่นี่พักฟื้นไปก่อนแล้วกัน ฉันจะไปทำงานแล้ว!”

 

“อยู่ที่นี่เป็นเพื่อนผมไม่ได้เหรอ? คุณดูสิผมอยู่คนเดียวเหงาจะตาย!”

 

ฉินห้าวตงเริ่มเล่นบทคนน่าสงสาร

 

“ไม่ได้ ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันต้องจัดการที่บริษัท” หลินโม่โม่มองฉินห้าวตงแล้วพูดขึ้น “คุณมาบ้านฉันแค่ไม่กี่วัน หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยก็ถูกไล่ออกเสียแล้ว ตอนนี้บอดี้การ์ดถูกไล่ออกไปหมดแล้ว ฉันต้องกลับไปสะสางเรื่องนี้ก่อน”

 

ฉินห้าวตงนึกเรื่องนี้ออกทันที “ถ้าไม่มีบอดี้การ์ด คุณคนเดียวจะปลอดภัยเหรอ? ให้ผมไปทำงานกับคุณไหม?”

 

“ให้มันน้อยๆ หน่อย คุณไปกับฉัน จะให้คุณปกป้องฉันหรือว่าฉันดูแลคุณกันแน่?” หลินโม่โม่พูด “พ่อส่งทีมบอดี้การ์ดของเขามาดูแลฉันครึ่งหนึ่ง อีกอย่างนี่คือกลางเมือง ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยหรอก”

 

“อ้อ! งั้นคุณก็ระวังตัวด้วย!”

 

“ดูแลตัวเองด้วย ฉันไปล่ะ!”

 

หลินโม่โม่พูดจบจึงเดินออกจากห้องคนไข้ไป แล้วหันมาล็อคประตูให้

 

ฉินห้าวตงกินอิ่มดีแล้ว จึงเริ่มฝึกเคล็ดวิชาอมตะแห่งพงไพรเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บภายในโดยเร็วที่สุด

 

กระสุนทั้งหมดในร่างกายของเขาถูกนำออกไปแล้ว หลังจากฝึกเคล็ดวิชาอมตะแห่งพงไพรถึงสามครั้ง ในที่สุดบาดแผลก็หายดีดังเดิม

 

ในเวลานี้เอง โทรศัพท์มือถือของเขาที่วางอยู่หัวเตียงก็ดังขึ้น

 

จบตอน

 

รีวิวผู้อ่าน