ตอนที่ 29 เฟิงย่ง
เวลานี้ ในโรงพยาบาล ที่พื้นด้านหน้าตรงหน้าต่างของโรงพยาบาลชั้น 3 แผนกผู้ป่วย ผู้ชายสองสามคนกำลังเฝ้าดูสถานการณ์ด้านนอกและพูดกระซิบกระซาบกัน
“ ไอ้หนุ่มคนนี้เป็นใครกันนะ ? ”
ชายร่างใหญ่ที่มีรอยสักมังกรบนแขนมองไปที่หลี่ต้าที่กำลังจับตาดูพวกซอมบี้ข้างนอกนั่น แต่ก็อดปากไม่ได้ที่จะพูดออกมา “ แค่ความสามารถในการเดินก็ถือว่าคล่องแคล่วปราดเปรียว วิ่งกลับมาในฝูงซอมบี้ ก็มีแต่จะโดนจับกินไปเปล่าๆ ”
ชายที่มีรอยสักมังกรนี่เป็นสมาชิกของแก๊งค์นักเลงคนหนึ่ง เขาทำงานเป็นนักเลงของ ‘มังกรดำ ’ ของเขตเหวินซาน ปกติจะทำงานที่ไนท์คลับเพื่อดูแลสถานที่ เขามักจะได้รับการยกย่องในฐานะผู้นำของเล็ก ๆ ของกลุ่ม ไม่กี่วันก่อนเขาได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ และคิดไม่ถึงว่าเมื่อเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลแล้วกลายเป็นช่วงที่ไวรัสเริ่มระบาดดังนั้นเขาจึงติดอยู่ในตึกโรงพยาบาล
“ เหอจุน ระวังคำพูดของนายหน่อย ”
เสียงที่เย็นชาดังออกมาจากปากคนนั้น ชายรอยสักมังกรที่ดูดุร้ายและแข็งแกร่งเมื่อครู่ก็สะดุ้งโหยงตัวสั่นเงอะงะ พร้อมก้มศีรษะลงไม่กล้าพูดอะไรออกมา
คนที่พูดก็คือชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ตรงกลาง เขาสูงประมาณ 180 ซม. รูปร่างกำยำล่ำสัน ใบหน้าเหลี่ยม เต็มเปี่ยมไปด้วยความหนักแน่นและทรหด บนเครื่องแบบลายพรางของเขา มีคำว่า " ตำรวจติดอาวุธ " ปักอยู่ในซองปืนที่เอว เขาเอามือจับปืน M9 ออกมาเปิดเผยอย่างชัดเจนและนี่มากพอที่จะเป็นสาเหตุของความหวาดกลัวของชายผู้นี้
ชายคนนี้มีชื่อว่า เฟิงย่ง เป็นหัวหน้ากองกำลังทหารของกองกำลังติดอาวุธของเหวินซาน ในวันที่เกิดการระบาดของไวรัส เขาเป็นคนพาทีมของเขาไปที่โรงพยาบาลพลเมืองเพื่อควบคุมสถานการณ์ อย่างไรก็ตามซอมบี้ที่โหดร้ายพวกนั้นกลับไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา แนวป้องกันถูกฉีกเป็นชิ้นๆ เขาพากองกำลังติดอาวุธจำนวนกว่า 10 คนไปเสียชีวิตและบาดเจ็บ มีเพียงทหาร 3 นายที่หนีเข้าไปในโรงพยาบาลทัน
“ เห็นได้ชัดว่าเป็นความโง่เง่าของเขาเอง ในยุคนี้การถูกกัดแล้วไม่ใช่รอความตายแล้วจะอะไรซะอีก ”
ใบหน้าชายหัวล้านอีกคนที่อยู่ด้านข้างเหอจุนเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม เมื่อเขามองเห็นสายตาที่ชัดเจนของเฟิงย่ง ตัวก็ยิ่งสั่นเทาแต่ยังพูดด้วยความเข้มแข็งว่า “ หัวหน้าเฟิง ตอนนี้พวกเราสามารถพูดได้อย่างอิสระเสรี คุณเองก็ไม่สามารถควบคุมสิ่งที่เราพูดได้เช่นกัน ”
“ นายดูถูกเหยียดหยาม และใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น แค่นี้ก็ถือว่าผิดแล้ว ”
ใบหน้าที่เย็นชาของเฟิงย่งตะโกน “ เหอจุน พวกนายสองสามคน สองวันมานี้ไม่จริงใจเลยนะ ”
ในเวลานี้เขาพูดออกมาโดยไม่ได้ใส่ใจซึ่งเผยให้เห็นหน้าตาที่ดุร้ายของเขา คนหัวล้านตรงหน้าตัวสั่น เขาถึงตระหนักรู้ว่าในสายตาของชายตรงหน้านี้ ที่ตัวเองแอบอ้างอยู่ในแก๊งค์นี้ อะไรก็ไม่เคยได้เป็นสักอย่าง
“ เขาต้องตายไปแล้วแน่นอน ” ชายร่างเตี้ยที่ใส่เฝือกที่แขนด้านข้างส่ายหน้า เขาชี้ไปที่คอของตัวเอง “ ถ้าหากถูกซอมบี้ธรรมดากัดก็ยังสามารถทนต่อไปได้ แต่ฉันเห็นเขาถูกซอมบี้ที่ผิดปกติจับ เด็กหนุ่มคนนี้จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ”
บนคอของชายใส่เฝือกร่างเตี้ยนั้นมีรอยฟันสีดำแดงปรากฏอยู่
“ แต่เด็กหนุ่มนั่นพาฝูงซอมบี้ไปทางนั้นเป็นจำนวนมาก พวกเรารีบใช้ประโยชน์จากช่องว่างนี้เพื่อไปที่ร้านสะดวกซื้อในโรงพยาบาลหาของใช้ในชีวิตประจำวันเถอะ ”
กัปตันเฟิงหันกลับมา มองกองกำลังสองนายที่แบกปืนไรเฟิลที่อยู่ด้านหลังเขา "เสี่ยวเฉินเสี่ยวโจว นายทั้งสองคนรวบรวมคนที่แข็งแกร่ง 10 กว่าคนนี้และฉันจะเป็นผู้นำทีมเพื่อค้นหาร้านสะดวกซื้อเอง
“ รับทราบ! ”
กองกำลังติดอาวุธทั้งสองคนคำนับและเดินออกจากห้อง
เขามองวัยรุ่นที่นั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานนั้น และกำลังย้ายวิทยุไปมาเพื่อหาสัญญาณ “ เสี่ยวหลิว ติดต่อกับกองทหารได้หรือยัง? ”
“ รายงานหัวหน้าเฟิง ตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวอะไรเลย ”
เฟิงย่งขมวดคิ้วพลางมองออกไปนอกหน้าต่างไกลออกไป ซึ่งไม่รู้ในใจของเขากำลังคิดอะไรอยู่
——————
มองเห็นหลี่ต้าพาฝูงซอมบี้ห่างออกไปอย่างรวดเร็ว หวังซินเหยาหวาดกลัวจึงรีบปิดตาตัวเอง พฤติกรรมที่บ้าคลั่งของหลี่ต้าในตอนนี้ก็เหมือนกับการส่งตัวเองไปตาย
นี่เปรียนเทียบกับครั้งที่แล้วไม่ได้เลย ตอนนี้หลี่ต้าไม่มีรถมอเตอร์ไซค์ และในบรรดาซอมบี้หลายพันตัวนี้ ความเร็วของซอมบี้บางตัวก็มีจำนวนความเร็วที่ไม่ได้ต่ำกว่าของหลี่ต้าเท่าไหร่นัก ตามร่างกายของหลี่ต้าถูกเล็บที่เต็มไปด้วยเลือดข่วนซึ่งมองดูแล้วน่ากลัวมากๆ
อย่างไรก็ตามความกังวลของเธอนั้นมีมากเกินไป 10 นาทีต่อมา ร่างของหลี่ต้าก็ออกมาปรากฏให้เห็นจากซอยเล็กๆนั่น
เขาไม่มีเวลามากพอที่จะกลับไปที่รถขนเงินเขาจึงมาหน้าป้อมที่เป็นกระสอบทรายและหยิบปืนไรเฟิลจากซากศพกองกำลังติดอาวุธที่ตายไปแล้ว
“ แกรบ! ”
หลี่ต้าดึงปืนออกมาดูและยกมันขึ้นอย่างชำนาญ แล้ววางปืนไรเฟิลนั้นลงบนไหล่ เพื่อเล็งซอมบี้ตัวหนึ่งจากระยะไกลผ่านเลนส์ลำกล้องของปืน หลังจากยิ่งเสร็จเขาก็วางปืนลงทันที
“ ไม่เลวเลยจริงๆ ”
หลี่ต้าชื่นชมออกมาจากใจจริงและกอดกระบอกปืนหยาบๆนั่นไว้
ซากศพหลายสิบศพกระจัดกระจายอยู่ข้างๆป้อมกระสอบทราย มีทั้งกองกำลังติดอาวุธและก็ยังมีศพซอมบี้ของกองกำลังติดอาวุธถูกแทะชิ้นส่วนกระจัดกระจายอยู่ ก่อนที่พวกเขาจะกลายเป็นซอมบี้ก็ได้ตายไปก่อนแล้ว
หลี่ต้าเอื้อมมือไปจับอาวุธไม่กี่อันออกมาจากในร่างกายของกองกำลังและวางไว้ในกระเป๋า
“ หลี่ต้า! เธอเป็นไงบ้าง? ”
หลี่ต้ากลับมาถึงรถหุ้มเกราะธนาคาร หวังซินเหยาก็เครียดจนแทบทนไม่ไหว มือสองข้างของเธอสั่นแกะปกเสื้อของหลี่ต้า “ ถูกข่วนได้รับบาดเจ็บมากขนาดนี้ นายอาจจะติดเชื้อได้ ! ”
“ ฉันเคยบอกไปแล้ว สารพิษนับร้อยก็ทำอะไรฉันไม่ได้ ” หลี่ต้าเลี่ยงมือของหวังซินเหยาด้วยความเหนียมอาย “ ฉันสบายดี ตอนนี้ซอมบี้จำนวนมากถูกฉันพาไปอีกทางแล้ว พวกเรารีบไปโรงพยาบาลเพื่อหายารักษาพ่อของเธอกันเถอะ ”
เห็นท่าทางของหลี่ต้า ในที่สุดหวังซินเหยาก็รู้ว่าตัวเองทำเรื่องโง่เขลาอะไรลงไปในเวลานั้นใบหน้าของเธอก็แดงไปด้วยความอับอาย
“ อ่า? อันนั้น ฉันไม่ได้ตั้งใจจะ...... ”
หวังซินเหยาแทบจะแทรกแผ่นดินหนีทันที เธอเพิ่งจะ….เพิ่งจะเปิดเสื้อผ้าของผู้ชายคนนี้
จากนั้นรถขนเงินก็ได้ขับผ่านเข้าประตูใหญ่ของโรงพยาบาลไปอย่างช้าๆ
ตึกแรกตรงประตูทางเข้าคือตึกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาล ซึ่งทำหน้าที่เป็นเขตพื้นที่ที่รวมตัวแพทย์และผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส เดิมทีเคยเป็นห้องโถงที่ให้ผู้ป่วยรอพบแพทย์อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแต่ตอนนี้ดูรกและยุ่งวุ่นวายไปหมด
กระดูกของซากศพจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ที่พื้น เลือดที่ไหลหมักหมมแห้งติดลงมาตามบันไดในตึก ด้านหน้าตึกมีบ่อเลือดสีดำแดง ประตูที่วัสดุเป็นเหล็กนั้นมีรอยกรงเล็บของซอมบี้ขนาดใหญ่ประทับอยู่ และทั้งหมดนี่คือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากพวกซอมบี้
เป้าหมายของหลี่ต้าไม่ใช่ที่นี่แต่เป้าหมายของเขาคือคลังยาที่อยู่ด้านหลังของโรงพยาบาล
“ ไม่ต้องกังวล เซรุ่มแอนติท็อกซิน TBC ออกฤทธิ์เร็ว เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของสถาบันวิจัยสหพันธรัฐ ” เมื่อหลี่ต้าเห็นหวังซินเหยากอดหวังหยวนอู่ที่ค่อยๆกลายเป็นศพไปทีละนิด ในดวงตาก็เผยความเศร้าโศกออกมา หลี่ต้าพูดเตือนว่า “ ยาชนิดนี้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายคน มันจะกำจัดแบคทีเรียและไวรัส ซึ่งความต้านทานไวรัสของลุงหวังมีอยู่สูงมาก เขาจะต้องไม่เป็นไรแน่นอน ”
เซรุ่มแอนติท็อกซิน TBC เป็นผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของนักวิทยาศาสตร์ที่มีความสามารถของสถาบันวิจัยสหพันธรัฐ การเกิดขึ้นของเซรั่มแอนติท็อกซินนี้ทำให้เกิดความรู้สึกฮึกเหิมในด้านการแพทย์มากขึ้น สถานีโทรทัศน์ม่อโจวยังได้ทำการสัมภาษณ์พิเศษด้วยและนี่คือเหตุผลที่
หลี่ต้ารู้เป็นอย่างดี ยาชนิดนี้ในตอนนี้ยังอยู่ในช่วงทดลอง มีเพียงแค่หัวเมืองใหญ่ที่เข้ากับรัฐบาลกลางได้ใช้ ในเมืองม่อโจวมีประชากรนับแสนคนแต่ก็มีเพียงแค่โรงพยาบาลพลเมืองแห่งเดียวเท่านั้นที่มี
“ อ่อ! ”
หวังซินเหยาพยักหน้ารับรู้พร้อมพูดเสียงเบาๆว่า “ ขอบคุณ ”
รถหุ้มเกราะธนาคารหันหน้าไปทางตึกผู้ป่วยนอก แววตาของหลี่ต้าต้องตกใจเมื่อมีเงาคนมากกว่า 10 คนปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา
“ มีคน! ”
มือของหลี่ต้าสัมผัสปืนไรเฟิล ไม่เหมือนกับหวังซินเหยาที่อ่อนต่อโลกแต่เขารู้ดีที่สุด ที่อันตรายที่สุดไม่ใช่ซอมบี้ แต่เป็นมนุษย์ด้วยกันเองนี่แหละ !
ซึ่งต่างกับซอมบี้ ซอมบี้มันจะแค่อาละวาดเท่านั้น แต่กับผู้รอดชีวิตที่ตอนแรกๆดูอ่อนโยนและสุภาพ จนสามารถเรียกได้ว่าเป็นพี่เป็นน้องกัน แต่อาจจะแทงข้างหลังเธอได้ เพราะว่าเหตุผลใดใดก็ตามที่จะฆ่าเธอ
บางทีคำพูดอาจจะยั่วให้เขาโมโห บางทีเสบียงของเขาและแฟนของเขาอาจดึงดูดเกินไป หรือบางที......เขาอาจจะแค่หิว......
จิตใจคนไม่อาจคาดเดาได้ ที่หมายถึงก็คือความหมายอย่างนี้แหละ
ในร้านสะดวกซื้อที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาล คน 10 กว่าคนเข้าออก ขนย้ายสินค้าด้านใน ซากศพซอมบี้ 10 กว่าตัวนอนอยู่บนพื้นอย่างสงบๆ ถูกคนแบกมาเรียงกันเป็นแถว ทั้งหมดนั้นถูกโจมตีจนตาย แม้กระทั่งปืนก็ไม่มีให้ใช้
ในเวลานี้ คนกลุ่มนี้ก็ได้เห็นรถขนเงินของหลี่ต้าแล้ว พวกเขามองหน้ากัน และหยุดการเคลื่อนไหวในมือ หยิบอาวุธที่วางอยู่บนพื้นขึ้นมาและล้อมรอบด้วยความระมัดระวัง
คนกลุ่มนี้ก็คือพวกเฟิงหย่งนั่นเอง
“ น้องชาย นายคิดจะทำอะไรเหรอ ร้านค้าสะดวกซื้อนี้เป็นส่วนหนึ่งของพวกเรา ถ้านายอยากจะแบ่งสัดส่วนผลกำไร อย่างนั้นก็เชิญกลับไปเถอะ ”
เฟิงหย่งยืนอยู่ด้านหน้ารถขนเงิน สายตาเป็นประกายจ้องมาที่หลี่ต้าในมือกุมปืนไรเฟิลอัตโนมัติ มือของเขา ก็กุมปืน M9 เช่นกัน ถ้าหลี่ต้าตุกติกแม้แต่เล็กน้อย เขาก็อาจจะไม่เกรงใจเลยสักนิด หลี่ต้าอาจจะโดนเก็บในทันที
“ ฉันแค่มาหายาชนิดหนึ่ง ”
M9 หนึ่งกระบอก ชีวิตคนสองชีวิต ในใจของหลี่ต้าพิจารณาอีกสักแปปหนึ่ง ก็ปล่อยปืนในมือ ยกมือทั้งสองข้างขึ้น แสดงท่าทีว่าตัวเองไม่ได้จะเล่นตุกติก
“ ขอถามหน่อย นายกำลังหายาอะไร? ”
เห็นท่าทางของหลี่ต้า น้ำเสียงของเฟิงหย่งก็เปลี่ยนเป็นเกรงใจขึ้นมา เขาโบกมือไปมา แสดงถึงว่าให้ตำรวจสองนายด้านหลังวางปืนลง “ พวกเราเป็นพนักงานของโรงพยาบาลที่นี่ แยกชนิดยาต่างๆของคลังยาได้เป็นอย่างดี บางทีอาจจะช่วยนายได้ ”
หลี่ต้าพยักหน้า และวางปืนไรเฟิลอัตโนมัติลง เดินลงจากรถขนเงิน มาใกล้ด้านหน้าเขา : “ เพื่อนที่มาด้วยกันของฉันคนหนึ่งป่วยหนักมาก ฉันจึงมาที่นี่ในตอนนี้ มาหาเซรุ่มต้านพิษ TBC น่ะ หลังจากหาได้แล้ว ฉันก็จะไปทันที ”
เฟิงหย่งพยักหน้า เขาหันกลับไปมองชายวัยกลางคนที่สวมชุดสีขาวยาว : “ หมอหวง คุณรู้ไหมว่ายาชนิดนี้อยู่ที่ไหน ? ”
“ พวกเรามีอยู่ในคลังน้อยมาก ” หมอหวงตอบ “ ยาต้านพิษชนิดนี้มีผลรักษาที่วิเศษและมีค่ามากๆ แต่สำหรับไวรัสซอมบี้แทบไม่มีผลเลย ”
“ ไม่ใช่ติดเชื้อโดยตรงหรอก แต่เป็นก้อนเนื้อประหลาด ” หลี่ต้าอธิบาย
“ อย่างนั้นเชิญคุณตามสบาย ” อารมณ์ของเฟิงหย่งอ่อนโยนลง เขามองไปในรถ ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้ว “ ทำไมถึงมีเด็กผู้หญิงหนึ่งคนด้วยล่ะ ? ”
“ ลูกสาวของเพื่อนฉันคนนั้นล่ะ ” หลี่ต้าอธิบาย
“ คลังยาทางนั้นมีแต่ซอมบี้เยอะมาก เด็กคนนี้จะทำยังไง ? ” เฟิงหย่งมองหลี่ต้า “ นายจะพาเธอไปหาฝูงซอมบี้ด้วยเหรอ ? ”
“ ถ้านายยังยืนยันหนักแน่นว่าจะไปล่ะก็ อย่างงั้นให้สาวน้อยคนนี้รออยู่ที่นี่กับพวกเราชั่วคราวก่อนก็ได้ ”
เฟิงหย่งมองหวังซินเหยาบนรถ แล้วก็มองหวังหยวนอู่ที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยก้อนเนื้อสีเขียวแล้วขมวดคิ้ว “ ส่วนชายคนนี้.....ก็ไปอยู่กับฉันที่นั่นชั่วคราวได้เหมือนกัน แต่ฉันอาจจะส่งคนไปคอยป้องกันไว้ ถ้าเขาเกิดกลายพันธุ์ขึ้นมา ก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจล่ะ ”
“ เหอะ เหอะ แม้ว่าจะพูดอย่างนี้ก็เถอะนายอาจจะไม่ชอบฟังหรอก ” หลี่ต้ายิ้มเจื่อน เขาส่ายหัว “ ฉันจะเอาอะไรมาเชื่อนายล่ะ ชีวิตของพวกเขาที่จะเอาไปฝากไว้ในมือนายน่ะ ”