ตอนที่ 45 นักแข่งรถผู้บ้าคลั่ง
“ไอ้บ้า นายบ้าไปแล้วหรือไง?”
น่าหลันอู๋ชวงกรีดร้องจากนั้นรีบใช้มือปิดตาทั้งสองข้างของตัวเอง ราวกับเตรียมตัวพร้อมแล้วที่ตกลงไปที่หน้าผา
คนที่อยู่บนยอดเขาต่างก็สังเกตเห็นความเร็วของ Lamborghini ที่ไม่เหมือนเดิม ด้วยความเร็วขนาดนี้ ถ้าพุ่งลงไปมีหวังจะต้องตายยกคันแน่นอน ผู้หญิงหลายคนต่างก็ร้องเสียงหลง
“จบเห่แน่ เทพธิดาของฉัน......”
“มันก็แค่การเดิมพัน ทำไมต้องทำถึงต้องเสี่ยงชีวิตขนาดนี้ด้วย?”
หลายคนต่างก็ถอนหายใจกับความตายที่กำลังจะเกิดขึ้นกับน่าหลันอู๋ชวง
Lamborghini พุ่งเข้าไปในโค้งอย่างเร็ว มือของฉินห้าวตงหมุนพวงมาลัยอย่างรวดเร็ว ภายใต้การดริฟรถของเขา สามารถทำออกมาได้ดีเกินกว่าที่หลายคนจินตนาการไว้ ตัวรถเกินครึ่งเกือบจะตกลงไปในหน้าผา แต่ก็มีแรงเฉื่อยทำให้พุ่งกลับมา
“โอ้พระเจ้า นี่....นี่ไม่ใช่รถลอยได้เหรอ มันปาฏิหาริย์ชัดๆ!”
“เทพธิดาหญิงแห่งรถคงไม่ได้ไปฝึกกับมิชาเอล ชูมาเคอร์มาใช่ไหม ทำไมถึงดริฟรถแบบนี้ได้?”
คนบนยอดเขาต่างก็พึมพำอย่างแปลกใจขึ้น พวกเขาเกือบทั้งหมดต่างก็เป็นแฟนการแข่งรถ ได้เห็นการแข่งขันมาหลากหลายรูปแบบ แต่ไม่เคยเห็นจนถึงระดับที่ยากจนลอยได้ขนาดนี้
มือของน่าหลันอู๋ชวงปิดตาแน่น แต่กลับไม่มีวี่แววที่จะตกลงไปล่างหน้าผา ดังนั้นในไม่ช้าเธอก็ลืมตาขึ้นมา มองเห็น Lamborghini ยังคงวิ่งไปข้างหน้าอย่างเต็มที่
“เป็นไปได้อย่างไร ทำไมพวกเรายังไม่ตาย?”
เธอถามอย่างตกตะลึง
“แค่เรื่องจิ๊บๆ น่ะ ก็คุณไม่เชื่อฝีมือการขับรถของผมเองนี่”
ฉินห้าวตงพูดพร้อมกับเริ่มขับรถพุ่งเข้าไปในโค้งถัดไปอีกครั้ง วิญญาณเทพของเขาแข็งแกร่งมาก ตอนขามาเขาก็จำเส้นทางได้ทั้งหมดแล้ว แม้แต่ตรงไหนมีหินก็รู้หมด ยิ่งเพิ่มสัญชาตญาณการรับรู้อันแข็งแกร่งเข้าไปอีก จึงสามารถควบคุม Lamborghini ได้พลิ้วไหวราวกับปลาที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำ ในไม่ช้าก็เห็นท้ายรถ Porsche 911 ปรากฏอยู่ในสายตาแล้ว
ตงฟางเหลียงที่ขับรถนำไปตลอดทางนั้น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่แสดงออกถึงความภาคภูมิใจในตนเอง ฝีมือการขับรถที่ถูกฝึกมาระหว่างเป็นทหารรับจ้างของเขานั้นได้แสดงออกมาแล้ว ผ่านประสบการณ์เป็นตายตั้งมากมาย ก็แค่สาวน้อยคนหนึ่ง จะมาเทียบชั้นกับเขาได้อย่างไร
เมื่อการแข่งขันดำเนินมาถึงครึ่งทาง เขาก็มั่นใจว่าตนเองจะต้องได้รับชัยชนะในการแข่งครั้งนี้อย่างแน่นอน คล้ายว่าเขาจะเห็นน่าหลันอู๋ชวงยืนอยู่ข้างหน้าในสภาพที่ปราศจากชุดชั้นใน นึกถึงรถ Lamborghini ราคาสี่สิบล้านหยวนที่จะตกเป็นของตนเอง
ในตอนนั้นเอง สีหน้าของเขาตื่นตระหนก มองไปยังกระจกรถก็เห็น Lamborghini Centenarioมุ่งตรงมาทางนี้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าเขาจะอยากได้รถคันนี้ขนาดไหน แต่ยังไงก็ไม่ใช่ตอนนี้
เขาจึงรีบเก็บรอยยิ้มของตนเองอย่างรวดเร็ว เร่งความเร็วของ Porsche 911 ไปข้างหน้า ตอนนี้เหลือระยะห่างจากเส้นชัยไม่ถึงหนึ่งส่วนสี่แล้ว ถ้าตนเองอดทนพยายามอีกนิด จะต้องได้รับชัยชนะในตอนสุดท้ายอย่างแน่นอน
แต่ถึงจะใช้ความพยายามมากเพียงไหน Lamborghini คันด้านหลังก็ยิ่งเข้าใกล้มากขึ้นไปอีก เขารู้สึกตกใจเมื่อพบว่ารถคันนี้ขับเข้าโค้งโดยไม่ลดความเร็วลงซักนิด รถขับพุ่งเข้าโค้งแต่ละโค้งด้วยทักษะการขับรถอันน่าทึ่ง
ภายในเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาที หน้ารถ Lamborghini Centenario ใกล้ท้ายรถ Porsche 911 เข้ามาแล้ว
“อยากจะชนะฉันเหรอ ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก”
ตงฟางเหลียงใช้วิธีสกปรก โดยการใช้รถของตนเองปิดตายเส้นทาง Lamborghini เบี้ยงไปทางซ้าย Porsche ก็ไปขวางอยู่ทางซ้าย Lamborghini เบี่ยงไปทางขวา Porsche ก็ไปขวางอยู่ทางขวา
“ไอ้คนไร้ยางอาย สงสัยอยากตายซะแล้ว!”
ความกลัวในตอนแรกของน่าหลันอู๋ชวงหายไปจนหมดแล้ว ในตอนนี้เธอเห็นถึงความสามารถในการขับรถของฉินห้าวตง ซึ่งเก่งกว่าเธออยู่หลายเท่า แม้ว่าจะทิ้งระยะห่างเยอะขนาดนั้นก็ยังตามติดมาจนได้
“ทำอย่างไรดี? อีกนิดเดียวก็จะถึงเส้นชัยแล้ว ถ้าหากว่าไอ้หมอนี้ยังใช้วิธีหน้าด้านๆ อย่างนี้อีกต่อไป มีหวังพวกเราไปไม่ได้แน่!” น่าหลันอู๋ชวงพูดอย่างเป็นกังวล
ฉินห้าวตงหัวเราะเบาๆ พลางพูดขึ้น “วางใจเถอะ ยกเว้นแต่ว่าเขาจะไม่กลัวตาย!”
ในไม่ช้า รถทั้งสองคันก็มาถึงโค้งสุดท้าย โค้งตรงนี้เป็นโค้งที่หักศอกมาก เกือบจะ 90 องศา เวลาที่นักแข่งเจอโค้งแบบนี้จะต้องลดความเร็วลง
เพราะเหตุนี้เอง ทำให้ที่นี่มักจะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์แบบนี้อยู่บ่อยๆ จนทุกคนจึงเรียกว่า ‘โค้งผีสิง’
หลังจากที่เข้าโค้งผีสิงแล้ว ตงฟางเหลียงเองก็จำเป็นต้องลดความเร็วลงมา เพราะว่าตรงนี้อันตรายมาก
แต่ตอนที่ฉินห้าวตงขับเข้าไปในโค้งผีสิงนี้ ตรงกันข้ามเขากลับเพิ่มความเร็วขึ้น เขาพุ่งเข้าโค้งราวกับไม่กลัวความตาย
“แม่งเอ้ย เทพธิดาหญิงแห่งรถทำแบบนี้ไปทำไม? หรือว่าเธออยากตาย?”
ผู้คนบนยอดเขาต่างก็ตะโกนขึ้นมาอย่างตกใจ พวกเขาต่างก็ไม่รู้ว่า ตอนนี้คนขับ Lamborghini เปลี่ยนไปเป็นฉินห้าวตงแล้ว
Porsche 911 ของตงฟางเหลียงยังคงขวางหน้า Lamborghini ไว้ แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายของโค้งนั้น ถ้าหากเขายังคงขวางไว้แบบนี้อยู่ และถ้าถูกรถ Lamborghini ชนท้ายรถล่ะก็ จะต้องตกลงไปในหน้าผาแน่นอน
สายตาก็มองไปข้างหลังเห็นรถ Lamborghini ไม่ได้ลดความเร็วลงเลย หรือพวกเขาตั้งใจจะตาย ตงฟางเหลียงสบถออกมาหนึ่งประโยค “ไอ้บ้า บ้าหาแม่แกสิ!”
ถึงแม้การแข่งขันจะสำคัญ แต่มันก็เทียบไม่ได้กับชีวิตของตนเอง เขาจำเป็นต้องหมุนพวงมาลัยเพื่อเปิดทางให้ สุดท้ายก็เห็น Lamborghini วิ่งผ่านหน้าไป ทำดริฟอย่างสวยงามแล้วขับออกจากโค้งผีสิง ทิ้ง Porsche 911 ไว้ด้านหลัง
“โอ้พระเจ้า เทพธิดาแห่งรถช่างเก่งจริงๆ......”
“นี่คือการกระทำของเทพชัดๆ มันคือปาฏิหาริย์จริงๆ...”
เสียงอุทานและเสียงปรบมืออันกึกก้องดังก้องไปทั่วภูเขา พวกเขาทุกคนต่างก็ปรบมือชื่นชมและส่งเสียงเชียร์ให้กับการแสดงอันยอดเยี่ยมของ Lamborghini Centenario แม้แต่ลูกน้องของตงฟางเหลียงก็อดไม่ได้ที่จะปรบมือให้กับพวกเขา
ตอนที่ตงฟางเหลียงขับผ่านโค้งผีสิงออกมา ก็มองเห็นแค่ไฟท้ายของ Lamborghini
เขาแพ้แล้ว แถมแพ้อย่างราบคาบด้วย!
Lamborghini Centenario ขับผ่านเส้นชัยเข้ามา ผู้คนรอบข้างก็รีบเข้ามาล้อม ต่างก็อยากจะแสดงความยินดีกับเทพธิดาแห่งรถ แต่คิดไม่ถึงว่าพอประตูรถเปิดออกมา คนที่เดินลงมากลับเป็นฉินห้าวตง
หลายคนต่างก็ตกใจจนอ้าปากค้าง ไม่รู้ว่าทั้งสองคนสลับที่กันตอนไหน เพราะตอนที่พวกเขาอยู่บนยอดเข้า ต่างก็เห็นชัดเจนดีว่ารถไม่ได้จอดเลยแม้แต่น้อย
เวลานี้ Porsche 911 ของตงฟางเหลียงขับเข้าเส้นชัยมา เพียงแต่เขามาในฐานะผู้แพ้เดิมพัน ดังนั้นจึงไม่มีใครสนใจเขามาก
ตอนที่เขาเห็นฉินห้าวตงก้าวลงมาจากที่นั่งของคนขับ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าคู่แข่งของตนเองจะเป็นฉินห้าวตง ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจทันที ไม่แปลกใจเลยทำไมการขับของ Lamborghini ก่อนและหลังถึงเหมือนกับคนสองคน ที่แท้พวกเขาก็เปลี่ยนคนขับนี่เอง
เมื่อคืนเขาถูกฉินห้าวตงลงมืออย่างโหดเหี้ยม ตอนนี้ยังมาพ่ายแพ้อย่างราบคาบให้แก่ทักษะการขับรถของฉินห้าวตงอีก แบบนี้ทำให้ราชาทหารที่เป็นที่โจษจันอย่างเขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างมาก
ตอนที่เขากำลังตกตะลึง ฉินห้าวตงก็เดินเข้ามา ตบที่กระโปรงหน้ารถ Porsche “นี่คุณราชาทหาร นับแต่นี้ไปรถคันนี้เป็นของฉันแล้ว ระวังหน่อยสิ อย่าให้เป็นรอยข่วนเด็ดขาด!”
“ไม่ พวกนายโกงนี่!” ตงฟางเหลียงตะโกนโผลงขึ้นมา “พวกนายสลับตำแหน่งคนขับกัน แบบนี้มันก็โกงกันนี่นา คนที่แข่งกับฉันคือเทพธิดาแห่งรถ ไม่ใช่นาย!”
หลังจากเขาพูดจบ ผู้คนรอบด้านต่างส่งเสียงโห่ร้องออกมา พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นคนที่รู้เรื่องรถ ไม่มีกฏการแข่งขันขันข้อไหนที่ระบุว่าในระหว่างการแข่งห้ามเปลี่ยนคนขับ เพราะในระหว่างที่ขับรถด้วยความเร็วสูง ทุกวินาทีสามารถตัดสินแพ้ชนะได้ ไม่ต้องมีกฏก็ไม่มีใครคิดที่จะทำกันหรอก
ฉินห้าวตงยิ้มแล้วนำแผ่นสัญญาออกมาจากกระเป๋าเสื้อ “คุณราชาทหาร สัญญาแผ่นนี้คุณทำขึ้นมาเอง ข้างบนนี้เขียนไว้อย่างชัดเจน รถสองคันนี้ใครเข้าเส้นชัยก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ แต่ไม่ได้ระบุไว้ว่าใครเป็นคนขับ”
“เอ่อ...” ตงฟางเหลียงอ้ำอึ้ง สัญญาไม่ได้ระบุข้อนี้ไว้จริง ในความเป็นจริงถ้าตอนนั้นเป็นฉินห้าวตงที่เสนอตัวมาแข่งแทนน่าหลันอู๋ชวง เขาก็คงไม่คัดค้าน เพราะไม่คิดว่าฉินห้าวตงจะเป็นคู่แข่งกับตนเองได้
“ทำไมล่ะราชาทหาร? หรือว่าคิดจะเบี้ยว?”
ฉินห้าวตงพูดจบสีหน้าก็เย็นชาขึ้นมาทันที แววตาคมกริบดั่งใบมีด ไม่มีทางที่ใครก็ตามจะมาเบี้ยวเงินต่อหน้าเขาได้
“ใช่แล้ว กล้าเดิมพันก็ต้องกล้ารับสิ เห็นชัดอยู่แล้วว่าฝีมือสู้เขาไม่ได้ ยังจะเบี้ยวอีกเหรอ?”
“คนอื่นเขาใช้เงินสี่สิบล้านมาพนันกับยี่สิบล้าน แพ้แล้วยังจะเบี้ยวหนี้อีก ยังจะหน้าด้านอีกเหรอ?”
ผู้คนในสนามแข่งต่างก็ยืนอยู่ฝั่งของฉินห้าวตง มีลูกน้องแค่ไม่กี่คนของตงฟางเหลียงเท่านั้นที่ยืนอยู่ฝั่งเขา พร้อมที่จะต่อสู้
ตงฟางเหลียงกลับมีแต่ความข่มขื่นที่ไม่มีใครรู้ ถ้าหากว่าฝ่ายตรงข้ามคือคนอื่นเขายังสามารถที่จะบอกปัดได้ เพราะการแพ้ในครั้งนี้ทำเขาสูญเสียทรัพย์สินไปทั้งหมด แต่ไอ้เด็กที่อยู่ตรงหน้านี้มันเหี้ยมมาก ต่อให้คนของเขารวมตัวกันเข้าไปสู้ด้วย ก็เทียบกับฝ่ามือของฉินห้าวตงไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเบี้ยว
“ฉันยอมแพ้แล้ว!”
เขาได้แต่กัดฟัน ควักโทรศัพท์มือถือออกมา โอนให้ฉินห้าวตงก่อนสิบห้าล้าน จากนั้นจึงให้น่าหลันอู๋ชวงอีกห้าแสน
หลังจากจบเรื่อง เขาก็โยนกุญแจ Porsche ให้กับฉินห้าวตง ทำสัญญาณมือให้กับลูกน้องพร้อมกับบอกว่า “พวกเรากลับ!”
“เดี๋ยวก่อน!” ฉินห้าวตงเรียกตงฟางเหลียง พร้อมกับยิ้มขึ้นมา “นี่ราชาทหาร ดูเหมือนว่าตามที่สัญญาไว้จะยังไม่ครบนะ!”
ตงฟางเหลียงพูดอย่างโกรธแค้นว่า “เงินก็ให้นายไปแล้ว รถก็ให้ไปแล้ว นายยังจะเอาอะไรอีก?”
ฉินห้าวตงยกแผ่นสัญญาขึ้นมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณราชาทหาร ความจำของนายมันยังไงกันเนี่ย โชคดีที่ตัวอักษรสีดำบนกระดาษนี่เขียนไว้นะ หลังจากที่แพ้แล้วจะต้องวิ่งแก้ผ้าล่อนจ้อนบนยอดภูเขางูหนึ่งรอบ! มาเถอะทุกคนรอดูอยู่!”
“ฉินห้าวตง นายจะมากเกินไปแล้วนะ!”
ตงฟางเหลียงพูดอย่างขบเขี้ยวขบฟัน
“ราชาทหาร นายพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ ของเดิมพันทุกอย่างนายเป็นคนที่เสนอมาเอง พวกเราทั้งสองฝ่ายต่างก็เซ็นชื่อลงในสัญญากันแล้วด้วย ทำไมเป็นฉันที่ทำเกินไปล่ะ?”
ผู้คนรอบด้านต่างก็ตะโกนขึ้นมาว่า “ใช่! ใช่! กล้าเดิมพันก็ต้องกล้ารับผิดชอบ รีบถอดเสื้อผ้าเลย!”
“ราชาทหาร หรือว่าคุณอยากให้ผมลงมือล่ะ?” ฉินห้าวตงพูดพร้อมกับหักข้อมือไปมา ทำสีหน้าราวกับว่า ‘ถ้าแกยังไม่ถอดฉันจะลงมือเอง’
“ก็ได้ แกชนะ!”
ตงฟางเหลียงมองฉินห้าวตงด้วยความอับอาย แล้วถอดเสื้อของตนเองออก จากนั้นก็กางเกง สุดท้ายจึงเหลือแค่กางเกงในตัวเดียว
เมื่อคิดว่าในบริเวณนี้ยังมีน่าหลันอู๋ชวงและผู้หญิงคนอื่น ฉินห้าวตงจึงไม่พูดอะไร ตงฟางเหลียงจึงใส่แต่กางเกงในตัวเดียววิ่งรอบยอดเขา
หลังจากวิ่งรอบเขาครบหนึ่งรอบ เขาก็ขึ้นรถเก๋งสีดำของลูกน้อง แล้วรีบขับออกไปจากภูเขางูทันที โดยมีเสียงหัวเราะดังขึ้นข้างหลังของเขา
หลังจากที่การแข่งขันเสร็จสิ้น ฉินห้าวตงก็ขับ Lamborghini ส่วนน่าหลันอู๋ชวงนั้นขับ Porsche 911 ลงจากภูเขางู ช่วยฉินห้าวตงเอารถไปไว้ที่บ้าน จากนั้นฉินห้าวตงจึงขับรถไปส่งน่าหลันอู๋ชวงที่บ้านต่อ
พอถึงหน้าโรงพยาบาลพักฟื้นทหาร น่าหลันอู๋ชวงจึงพูดขึ้นมาว่า “ขอบคุณนายมาก ถ้าหากคืนนี้ไม่มีนายล่ะก็ฉันคงแพ้ไปแล้ว!”
ฉินห้าวตงหัวเราะออกมา “ด้วยความยินดี ถ้าหากไม่มีเธอ ฉันก็คงจะไม่สามารถหาเงินสิบห้าล้านได้ง่ายขนาดนี้หรอก แถมยังได้รถอีกคันด้วย”
“งั้นฉันไปก่อนนะ ไว้เจอกัน!”
น่าหลันอู๋ชวงพูดจบกำลังจะลงจากรถ ฉินห้าวตงจับมือของเธอไว้ “รอก่อนสิ”
“นี่นายจะทำอะไร?” น่าหลันอู๋ชวงหน้าแดง
“ไม่ใช่ฉันจะทำอะไรหรอก แต่เธอยังติดเดิมพันที่ยังไม่ได้ให้ฉันอยู่”
ฉินห้าวตงยิ้มแบบชั่วร้ายออกมา
“นาย.....”
แก้มทั้งสองข้างของน่าหลันอู๋ชวงแดงแปร๊ดขึ้นมา เธอทำตัวไม่ถูกทันที จริงอยู่ที่ฉินห้าวตงช่วยให้เธอชนะการแข่งมาได้ ตามข้อตกลงเธอควรถอดชุดชั้นในของเธอเพื่อทำตามสัญญา แต่เธอจะทำสิ่งที่ไร้ยางอายเช่นนี้ได้อย่างไร?
จบตอน