px

เรื่อง : คุณพ่อยอดหมอเทวดา (重生之奶爸医圣)
ตอนที่ 46 ฉันจะฟ้องร้อง


ตอนที่ 46 ฉันจะฟ้องร้อง

 

ฉินห้าวตงหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “แม้คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าราชาทหารคนนั้นยังไม่เบี้ยวเงินเลย แล้วทำไมเธอถึงจะเบี้ยวล่ะ”

 

น่าหลันอู๋ชวงหน้าแดงพูดกระซิบว่า “ฉันไม่ได้เบี้ยว แต่นายเปลี่ยนเงื่อนไขได้ไหม?”

 

“เปลี่ยนเงื่อนไขเหรอ?” ฉินห้าวตงใช้มือขวาลูบคางของเขาพลางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นพูดขึ้นว่า “เอาอย่างนี้สิ หอมแก้มผมสักฟอด นับว่าเป็นการชดใช้แล้ว!

 

“แบบนี้ก็ไม่ได้ เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นเถอะ หรือว่าให้ฉันเอาเงินห้าแสนหยวนนี้ให้นาย”

 

ฉินห้าวตงหัวเราะแล้วพูดว่า “แบบนั้นไม่ได้ เธอคิดว่าฉันเหมือนคนที่เห็นแก่เงินเหรอ  ถ้าไม่ถอดชุดชั้นในมาให้ฉัน ก็หอมแก้มฉัน ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้ว”

 

“เอ่อ.....” น่าหลันอู๋ชวงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง อย่างน้อยการหอมแก้มครั้งเดียวดีกว่าถอดชุดชั้นในให้เขาเป็นไหนๆ ดังนั้นเธอจึงรีบหอมแก้มฉินห้าวตงอย่างรวดเร็ว ราวกับแมลงปอบินแตะผิวน้ำ

 

แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้สึกเขินอายเป็นอย่างมาก หลังจากหอมแก้มเขาเสร็จแล้วก็รีบหมุนตัววิ่งหนีไป ฉินห้าวตงยังไม่ทันตั้งตัว น่าหลันอู๋ชวงก็หอมแก้มเสร็จแล้ว เขาจึงตะโกนขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “เฮ้ แบบนี้ไม่ได้นะ เร็วเกินไป คุณภาพไม่ผ่าน  ผมจะไปฟ้องร้องคุณที่สำนักงานควบคุมคุณภาพ......”

 

แต่ไม่ว่าเขาจะร้องตะโกนอย่างไร น่าหลันอู๋ชวงก็ไม่ได้หันมาแม้แต่น้อย เธอรีบวิ่งเข้าประตูโรงพยาบาลพักฟื้นไปแล้ว

 

ผู้คุมที่ยืนยามอยู่หน้าประตูทั้งหมดคุ้นเคยกับน่าหลันอู๋ชวงดี เพียงแต่พวกเขาไม่เข้าใจว่าคุณหนูใหญ่น่าหลันคนที่อารมณ์แข็งกร้าวมาโดยตลอด ทำไมวันนี้ถึงกลายเป็นแบบนี้ได้? ดูเหมือนกับสาวน้อยที่เขินอายยังไงยังงั้น

 

วันนี้ได้ทั้งหักหน้าราชาทหาร ได้ลวนลามสาวสวย แถมยังได้เงินสิบล้านกว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้ฉินห้าวตงมีความสุขเหลือเกิน เขาผิวปากขณะขับรถกลับบ้าน

 

ในเวลาเดียวกัน  ในโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง ราชาทหารตงฟางเหลียงกำลังคุยโทรศัพท์อยู่

 

“ผมจะบอกคุณให้นะ ค่าใช้จ่ายของภารกิจนี้ต้องขึ้นราคา”

 

“คุณตงฟาง พวกเราตกลงเรียบร้อยแล้วว่าสิบล้าน ทำไมจู่ๆ ถึงมาขึ้นราคา? ทหารรับจ้างของพวกคุณควรรักษาคำพูดด้วย”

 

ตงฟางเหลียงจึงพูดว่า “เพื่อให้มาถึงเจียงหนานและทำภารกิจครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ผมเสียไปสิบเก้าล้านหยวนแล้ว ดังนั้นคุณต้องให้ผมยี่สิบล้านหยวน ถ้าไม่อย่างนั้น ตอนนี้ผมก็จะไป และไม่รับภารกิจนี้แล้ว”

 

ปลายสายไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ตอบกลับว่า “งั้นตกลง ผมให้คุณยี่สิบล้านหยวน ไม่มีอะไรที่ให้ไม่ได้ ขอแค่คุณตงฟางทำเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก็พอ”

 

“คุณวางใจได้ ผมจะทำให้คุณพอใจอย่างแน่นอน ผมจะลงมือทันทีที่หาโอกาสเหมาะสมได้”

 

ตงฟางเหลียงพูดจบก็วางสาย จิตใจที่กำลังกลัดกลุ่มดีขึ้นกว่าเดิมมาก การตกลงจ่ายเงินยี่สิบล้านเมื่อสักครู่ นอกจากหักเงินสิบเก้าล้านที่ต้องเสียให้กับฉินห้าวตงไป ยังเหลืออีกหนึ่งล้าน ถึงแม้ว่าจะน้อยไปหน่อย แต่ก็ดีกว่าต้องเสียเงินทั้งหมดไป

 

เช้าวันต่อมา ฉินห้าวตงมาที่คฤหาสน์ตระกูลหลินตามปกติ ทันทีที่เข้าประตูมา เจ้าต้าเหมาและเอ้อร์เหมาก็โผเข้ามาที่เท้าของเขาอย่างร่าเริง เจ้าสุนัขสองตัวนี้ช่างโตเร็วจริงๆ เพียงแค่ไม่เจอหน้ากันวันเดียวดูเหมือนกับว่าพวกมันโตขึ้นมาอยู่บ้าง

 

ตงฟางเหลียงพาลูกน้องแปดคนของเขามาที่หน้าประตูของคฤหาสน์ตระกูลหลินเพื่อคุ้มกันหลินโม่โม่ไปทำงาน

 

หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จแล้ว ฉินห้าวตงและหลินโม่โม่พาแม่หนูน้อยเดินออกจากหน้าประตูบ้านด้วยกัน หลังจากมองเห็นตงฟางเหลียง เขายิ้มให้เล็กน้อยพลางพูดขึ้น “ท่านราชาทหาร เมื่อวานตอนกลางคืนไม่เป็นหวัดใช่ไหม?”

 

ตงฟางเหลียงทำเสียงไม่พอใจเล็กน้อยแล้วไม่สนใจฉินห้าวตง เขาเปิดประตูรถให้หลินโม่โม่ขึ้นรถ ฉินห้าวตงอุ้มแม่หนูน้อยตามขึ้นไปนั่งบนรถด้วย หลังจากพาถังถังมาส่งถึงโรงเรียนอนุบาลแล้ว ฉินห้าวตงจึงหันไปพูดกับหลินโม่โม่ว่า “ผมไปทำงานกับคุณด้วยนะ?”

 

 “ฉันไปทำงาน คุณจะไปกับฉันทำไม?”

 

 “คุณก็หางานให้ผมทำได้นี่นา ยังไงตอนนี้เป็นวันหยุดของผมอยู่แล้ว ถือว่าผมไปทำงานพาร์ททาร์มที่บริษัทคุณแล้วกัน” ฉินห้าวตงตอบ
 

“คุณทำอะไรได้บ้างล่ะ?” หลินโม่โม่ถาม

 

“คนที่มีพรสวรรค์อย่างผม ทำได้หมดทุกอย่าง หรือไม่ก็ให้ผมเป็นเลขาหนุ่มตามติดคุณสิ กลางวันผมก็ทำงานของเลขาไป กลางคืนไม่มีงานทำก็......”
 

พอพูดถึงตรงนี้ ฉินห้าวตงหันไปขยิบตาให้หลินโม่โม่ด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ที่สื่อความหมายว่า ‘คุณก็รู้ว่าผมหมายความว่าอย่างไร’

 

“ไร้สาระ เลขาผู้ชายอะไรกัน? ฉันไม่ได้ขาดเลขาสักหน่อย” หลินโม่โม่คิดแล้วจึงพูดว่า “อย่างนี้แล้วกัน หมอที่ดูแลสุขภาพประจำบริษัทเพิ่งลาออกไป คุณก็เป็นหมอพอดี คุณไปเป็นหมอดูแลสุขภาพที่นั่นแล้วกัน ใช้ทักษะการทางแพทย์ของคุณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

 

 “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ขอแค่ได้อยู่ด้วยกันกับคุณก็พอแล้ว” ฉินห้าวตงพูด

 

“ตกลง วันนี้คุณก็ทำงานกับฉัน เงินเดือนหนึ่งหมื่นนะ”

 

“ไม่มีปัญหา ไม่ให้เงินก็ยังได้”
 

ฉินห้าวตงขึ้นรถไปกับหลินโม่โม่ แน่นอนว่าเขาไม่ได้ทำไปเพื่อหาเงิน แต่เพื่อที่จะได้อยู่กับหลินโม่โม่ หลังจากที่เธอถูกลอบสังหารติดต่อกันถึงสองครั้ง หากมีเขาอยู่ข้างกายเธอด้วยถึงจะวางใจ
 

สายตาเหลือบเห็นฉินห้าวตงขึ้นรถอีก ตงฟางเหลียงก็มองเขาด้วยสายตาโหดเหี้ยม อย่างไรก็ตามเขาจำต้องยอมในฐานะบอดี้การ์ด จึงทำได้เพียงรีบขับนำคาราวานรถไปยังหลินชื่อกรุ๊ป

 

ที่หน้าประตูบริษัทหลินชื่อกรุ๊ป คนจำนวนมากมารวมตัวกันบนลานจัตุรัสเล็กๆ หน้าประตู บนลานจัตุรัสมีรถสปอร์ต Maserati สีแดงเพลิงจอดอยู่ ด้านหน้ารถมีรูปหัวใจที่ทำมาจากดอกกุหลาบวางเรียงรายอยู่

 

ดอกกุหลาบเหล่านี้สดใหม่มาก กระทั่งว่ามีบางส่วนยังมีหยดน้ำค้างเกาะอยู่ ส่งกลิ่นหอมกระจายไปทั่ว ทั้งหมดนี้มีมากกว่า 9999 ดอก
 

ด้านหน้ารถ Maserati มีชายหนุ่มสวมชุดสูทอาร์มานี่สีขาวยืนอยู่ ดูภาพรวมโดยทั่วไปแล้ว ชายหนุ่มคนนี้ค่อนข้างหล่อเลย พอรวมกับการกระทำที่เล่นใหญ่เช่นนี้ ยิ่งทำให้สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้จำนวนไม่น้อย
 

“นี่คือ คุณชายใหญ่แห่งตระกูลเฝิง!

 

ไม่นานก็มีคนจำได้ ชายหนุ่มคนนี้ก็คือเฝิงเทียนต๋า คุณชายใหญ่จากเฝิงชื่อกรุ๊ปแห่งเจียงหนาน เฝิงชื่อกรุ๊ปนับได้ว่าเป็นกลุ่มนายทุนขนาดใหญ่ในเมืองเจียงหนาน เป็นบริษัทหลักด้านอุตสาหกรรมอัญมณี ร้านอัญมณีเกือบครึ่งหนึ่งของเมืองเจียงหนานทั้งหมดล้วนเป็นธุรกิจของตระกูลเฝิง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นของหลินชื่อกรุ๊ป
 

ตามหลักแล้วเฝิงชื่อกรุ๊ปและหลินชื่อกรุ๊ปถือเป็นคู่แข่งกัน ไม่รู้ว่าวันนี้คุณชายใหญ่ของตระกูลเฝิงมาทำอะไรถึงที่นี่ มีผู้หญิงบางส่วนถึงกับจินตนาการว่าเฝิงเทียนต๋ามาเพื่อสารภาพรักกับตัวเอง
 

เมื่อรู้สึกถึงสายตาร้อนแรงโดยรอบที่จ้องมองมายังเขา เฝิงเทียนต๋าแสดงออกถึงความพอใจอย่างเห็นได้ชัด เขายกมือขึ้นดูนาฬิกาข้อมือโรเล็กซ์รุ่นลิมิเต็ดมูลค่ากว่าหนึ่งล้านหยวน เป็นเวลาแปดโมงครึ่งแล้ว หลินโม่โม่ควรที่จะใกล้มาถึงแล้ว
 

เขาปรับท่าทางของเขาหน้ารถ Maserati จัดท่าทางที่ตัวเองคิดว่าหล่อที่สุดแล้ว มือข้างหนึ่งจับคางแล้วพิงไปบนรถ ทันใดนั้นผู้หญิงที่อยู่รอบๆ หลายคนก็กรีดร้องขึ้นด้วยความตื่นเต้น
 

“บ้าจริง ผู้หญิงพวกนี้ตาบอดไปแล้วใช่ไหม? ท่าสุดเชยแบบนี้ ฉันเลิกทำไปตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อนแล้ว”

 

ชายคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างขุ่นเคือง

 

“ท่าทางมันไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญก็คือข้างหลังเขาคือรถอะไร? นายพิงกับรถสามล้อไฟฟ้า เป็นปกติที่จะไม่มีใครสนใจนาย แต่เขายืนพิงรถ Maserati มูลค่าหลายล้านเชียวนะ!”
 

“พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว รีบไปขนย้ายอิฐได้แล้ว หัวหน้าตะโกนเรียกพวกเราแล้ว!”

 

ขณะนั้นขบวนรถของหลินโม่โม่ขับเข้ามาจอดนิ่งที่หน้าประตูบริษัทหลินชื่อกรุ๊ป ทันทีที่หลินโม่โม่ลงรถ ก็มองเห็นดอกกุหลาบรูปหัวใจที่วางเรียงรายอยู่ที่ประตูและท่าทางที่เฝิงเทียนต๋าจัดท่าไว้
 

หลายปีมานี้ เพื่อปกป้องถังถังไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ เธอปฏิเสธผู้ชายมากมายที่ตามจีบเธอมาโดยตลอด แม้กระทั่งไม่ลังเลที่จะแสดงออกถึงสีหน้าที่เย็นชา
 

วิธีนี้ใช้ได้ผลดีจริง  นานมากแล้วที่ไม่มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้ได้เผชิญกับคนที่ตามจีบเธออีกครั้ง และยังเป็นเฝิงเทียนต๋าคนเดิม ชายที่เธอไม่อยากเจอหน้ามากที่สุด
 

เฝิงเทียนต๋าคือลูกชายของเฝิงจื่ออิง ซึ่งเป็นประธานของบริษัทเฝิงชื่อกรุ๊ป หลินโม่โม่กับเขาเป็นเพื่อนร่วมห้องสมัยเรียนที่มหาวิทยาลัย จึงรู้จักชายคนนี้ดีมาก เขาเป็นคนที่มีแผนการลึกล้ำ มีความทะเยอทะยานสูง
 

ขณะเดียวกันเธอก็รู้ดีว่าที่เฝิงเทียนต๋าตามจีบเธอมาตลอด ทั้งหมดล้วนมีความต้องการอย่างอื่นแอบแฝง เขาต้องการอาศัยเธอในการยึดบริษัทหลินชื่อกรุ๊ป เพื่อเข้าควบคุมกิจการอัญมณีทั้งหมดของเมืองเจียงหนาน

 

“โม่โม่ คุณมาแล้ว!”
 

หลังจากมองเห็นหลินโม่โม่แล้ว เฝิงเทียนต๋ารีบเดินเข้าไปหา พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่คือดอกกุหลาบ 9999 ดอกที่ผมเตรียมไว้เพื่อคุณ คุณชอบไหม?”
 

คนที่มุงดูอยู่โดยรอบเพิ่งจะรู้ว่าที่จริงแล้วนี่คือการตามจีบประธานหลินโม่โม่ ไม่แปลกใจเลยที่จะทำฉากที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ แต่ว่าประธานหลินโม่โม่เป็นประธานสาวสวยที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความเย็นชา ดังนั้นเขาน่าจะไม่มีหวัง

 

“ไม่ชอบ!” เป็นไปตามที่ทุกคนคาดการณ์ไว้ หลินโม่โม่ปฏิเสธเฝิงเทียนต๋าอย่างเย็นชา

 

“โม่โม่ ทำไมคุณถึงปฏิเสธทุกคนที่อยู่รอบตัวคุณ? พวกเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ระหว่างเราต่างฝ่ายต่างก็เข้าใจกันดี พวกเราเหมาะสมที่จะอยู่ด้วยกันที่สุดแล้ว ผมรู้ว่าคุณเองมีลูกสาวหนึ่งคน แต่ผมไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้น ผมจะปฏิบัติต่อเธอ เหมือนว่าเธอเป็นลูกสาวแท้ๆ ของผม......”
 

“ไม่จำเป็นหรอก ฉันมีแฟนแล้ว” หลินโม่โม่ตอบ “เฝิงเทียนต๋า คุณช่วยหลีกทางด้วย ฉันจะไปทำงาน!”

 

“เป็นไปไม่ได้ โม่โม่ คุณไม่ต้องมาหลอกผม ถ้าคุณมีแฟน ผมจะไม่รู้ได้อย่างไร?”

 

ขณะที่พูด เฝิงเทียนต๋ายื่นมือไปคว้าแขนของหลินโม่โม่ไว้

 

ฉินห้าวตงไม่พอใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นชายหนุ่มคนนี้ตามจีบภรรยาของเขา และยังจะมาเป็นพ่อเลี้ยงให้กับลูกสาวของเขาอีก แต่ยังไม่ทันที่เขาจะก้าวออกไป ตงฟางเหลียงได้วิ่งเข้าไปก่อนเขาเรียบร้อยแล้ว
 

นี่เป็นวันทำงานวันแรกของตงฟางเหลียง และเขามองว่าโอกาสที่ตัวเองจะได้แสดงฝีมือมาถึงแล้ว เขาผลักเฝิงเทียนต๋าออกไป แล้วยืนกันหลินโม่โม่ไว้ พร้อมกับตะโกนว่า “ประธานหลิน มีผมอยู่ตรงนี้ ไม่ต้องกลัว!”
 

ทหารรับจ้างหลายนายที่มากับเขาก็ยืนล้อมเป็นวงกลม เพื่อคุ้มกันหลินโม่โม่ไว้

 

เฝิงเทียนต๋าที่ถูกผลักไปด้านหลังไม่กี่ก้าวโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ทันใดนั้นในใจก็โมโห จ้องไปที่ตงฟางเหลียงพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ไอ้หมอนี่ แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร แกกล้ามาแตะต้องตัวฉันเหรอ!

 

“ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ผมเป็นบอดี้การ์ดของคุณหนูหลิน ต้องคุ้มกันคุณหนูหลินให้อยู่ในความปลอดภัย!

 

ตงฟางเหลียงพูดอย่างชอบธรรม ดูหนักแน่นและมีพลังมาก  
 

“บอดี้การ์ด!” เฝิงเทียนต๋ายิ้มเยาะที่มุมปาก “บอดี้การ์ดของหลินชื่อกรุ๊ปต้องการมาเทียบกับฉันเนี่ยนะ? ถ้าอย่างนั้นก็มาดูกันว่าใครจะแน่กว่ากัน!”

 

วันนี้เป้าหมายของเขาที่มามีอยู่สองอย่าง อย่างแรกคือการสร้างความประทับใจให้ผู้อื่นรู้ว่าเขากำลังตามจีบหลินโม่โม่อยู่ อย่างที่สองก็คือเหยียบหน้าบริษัทหลินชื่อกรุ๊ป
 

หลังจากพูดจบ เขาก็โบกมือแล้วพูดว่า “ต้าเหมา เอ้อร์เหมา สั่งสอนบทเรียนพวกเขาให้ฉันสิ!”

 

“ต้าเหมากับเอ้อร์เหมาเหรอ?” ฉินห้าวตงคิดในใจขึ้นมาว่านี่คงไม่ได้หมายถึงเจ้าสุนัขพันธุ์ธิเบตันแมสติฟฟ์ของเขาทั้งสองตัวนั้นใช่ไหม? ทำไมถึงมีชื่อซ้ำกัน?
 

ในขณะนี้เองชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างไม่สูงและดูไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก เดินมาที่ด้านหน้าของเฝิงเทียนต๋า
 

พอเห็นชายสองคนนี้แล้ว สีหน้าของฉินห้าวตงเปลี่ยนไปเล็กน้อย แม้ว่าพวกเขาจะดูเหมือนคนทั่วไป แต่กลับเป็นชาวยุทธตัวจริง แม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับทหารรับจ้างบางคนในกองกำลังเฉินปิง แต่ก็สามารถฝึกตนจนบรรลุถึงขั้นหมิงขอบเขตที่สามหรือสี่ได้
 

แต่ตงฟางเหลียงและลูกน้องของเขาถึงแม้จะดูเหมือนมีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ และแข็งแรงมาก พวกเขาสามารถสู้กับคนธรรมดาทั่วไปได้ แต่พวกเขาจะเสียเปรียบเป็นอย่างมากในกรณีที่ต้องสู้กับชาวยุทธตัวจริง

 

อย่างไรก็ตามฉินห้าวตงยังไม่คิดที่จะหยุดพวกเขา เพราะตงฟางเหลียงเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลหลินแล้ว และยังรับค่าจ้างไม่น้อยจากงานนี้ ตามธรรมชาติแล้วเขาควรรับผิดชอบในฐานะบอดี้การ์ด
 

อีกทั้งชายผู้นี้ปกติชอบการทำเหมือนกับว่าตัวเองเก่ง ฉินห้าวตงจึงอยากเห็นเขาเสียเปรียบบ้าง

 

ตงฟางเหลียงไม่มีสายตาที่เฉียบแหลมเหมือนฉินห้าวตง จึงมองพลังที่แท้จริงของต้าเหมาเอ้อร์เหมาไม่ออก ในสายตาของเขาสองคนนี้ก็เป็นแค่คนอ่อนแอทั่วไปที่สามารถอาชนะได้ง่าย
 

“เจ้าหนุ่ม ฉันจะให้แกดูว่าอะไรถึงเรียกว่าคือบอดี้การ์ดของจริง อะไรที่เรียกว่าราชาทหาร”

 

พูดจบเขาก็กำหมัดขึ้น แล้วปล่อยหมัดเด็ดไปที่ต้าเหมาดั่งเสือถลาลม

 

จบตอน

รีวิวผู้อ่าน