ตอนที่ 61 เรื่องเข้าใจผิดทั้งหมด
จากนั้นโอวหยางชานชานใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงในการเซ็นลายเซ็นบนของทุกชิ้นที่ฉินห้าวตงนำมา วันนี้เธอได้ทำลายสถิติตัวเองจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยการเซ็นลายเซ็นบนขวดนมและผ้าอ้อม
“ เอาล่ะ ขอบคุณมาก แค่นี้ลูกสาวของฉันก็พอใจแล้ว ”
ฉินห้าวตงพูดด้วยเสียงหัวเราะ
เมื่อเห็นเขามีสีหน้าพอใจ โอวหยางชานชานก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นอีกครั้ง “ นายดีกับลูกสาวของนายมากจริงๆ ”
“ แน่นอนสิ ลูกใครใครก็รัก! ”
ท่าทางของโอวหยางชานชานเปลี่ยนไป เธอนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าผิดหวัง “ ไม่หรอก พ่อของฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ”
“ ทำไมล่ะ? หรือว่าพ่อของเธอไม่ใจดีกับเธอเหรอ? ” ฉินห้าวตงถามด้วยความแปลกใจ
ดูเหมือนโอวหยางชานชานจะถูกสะกิดปมในใจเข้าให้ เธอพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย “ ตั้งแต่ฉันจำความได้ พ่อของฉันติดเหล้าและชอบเล่นการพนันมาก ทุกวันเขาจะเอาเงินของครอบครัวไปล้างผลาญ แล้วก็มักจะดื่มเหล้าเมากลับมาบ้าน จากนั้นเขาก็ทุบตีฉันกับแม่ แม่ของฉันคงไม่ตายเร็วถ้าเธอไม่ถูกทารุณแบบนี้มาตลอดหลายปี ”
“ จนถึงกระทั่งตอนนี้ เขาก็ยังไม่เปลี่ยนนิสัยของเขา และเขามักจะมาวุ่นวายกับฉันเพื่อขอเงินครั้งแล้วครั้งเล่า ดังนั้นฉันจึงรู้สึกอิจฉาเมื่อได้เห็นนายปฏิบัติกับลูกดีขนาดนี้ แม้ว่านายจะเป็นแค่พ่อบุญธรรมก็ตาม ”
ฉินห้าวตงคิดไม่ถึงเลยว่าดาราดังจะมีวัยเด็กที่น่าสงสารเยี่ยงนี้ ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้น “ แม้ว่าพ่อของเธอเป็นคนที่พึ่งพาไม่ได้ แต่ก็ยังดีกว่าฉันที่ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่คือใคร อย่างน้อยเธอก็ยังรู้ว่าพ่อของเธอเป็นคนติดเหล้า แต่ฉันเป็นเด็กกำพร้ามาตั้งเด็ก ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเองหน้าตาเป็นอย่างไร ”
หลังจากที่เขาได้พูดเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเครียดเกินไป “ ไม่พูดเรื่องที่ไม่มีความสุขพวกนั้นแล้ว ว่าแต่เรื่องคืนนี้มันเกิดอะไรขึ้น? ดาราดังแบบเธอเวลาออกไปไหนมักจะมีบอดี้การ์ดตามติดไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงโดนลักพาตัวได้? ”
“ บอดี้การ์ดทั้งสองคนของฉันเป็นคนที่ลักพาตัวฉันเอง ” โอวหยางชานชานตอบ
ฉินห้าวตงตะลึง จากนั้นจึงถามต่อ “ แบบนี้มันไม่น่าเชื่อถือนี่ ทำไมพวกเขาถึงลักพาตัวเจ้านายตัวเองละ? เธอไปจ้างบอดี้การ์ดไร้มนุษยธรรมแบบนี้มาจากไหน? ”
โอวหยางชานชานถอนหายใจแล้วพูด “ ฉันเป็นศิลปินภายใต้สังกัดของบริษัทโต้โค่ว บริษัทเป็นคนจัดหาบอดี้การ์ดให้ พวกเขามาในนามคนคุ้มกันความปลอดภัยให้ฉันก็จริง แต่ในความเป็นจริงพวกเขาฟังคำสั่งของบริษัท ”
ฉินห้าวตงยิ่งฟังยิ่งรู้สึกสับสน ดังนั้นเขาจึงถามต่อ “หมายความว่าอย่างไร? บริษัทส่งพวกเขามาลักพาตัวเธองั้นเหรอ? ”
“ ใช่ ” โอวหยางชานชานพยักหน้าตอบ “ นายคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องราวในแวดวงภาพยนตร์ มันเป็นวงการสกปรก เถ้าแก่ของบริษัทเราคือหลิวฮวาเฉียง แม้ว่าเขาจะเป็นชายที่ชอบสั่งการ แต่เขาไม่เคยบังคับให้ฉันทำอะไรเพื่อหาเงินเข้าบริษัท ”
“ แต่ทว่าในครั้งนี้หลังจากที่ฉันมาถึงเจียงหนาน เขาบังคับให้ฉันไปหลับนอน และให้ความบันเทิงกับคุณชายจากตระกูลร่ำรวย ฉันรักษาความบริสุทธิ์ของตัวเองมาโดยตลอด แน่นอนว่าไม่มีทางตกลงรับข้อเสนอเลวๆ แบบนี้แน่ ”
ต่อมาหลิวฮวาเฉียงจึงขู่ฉันว่าถ้าฉันไม่ยอม เขาจะยกเลิกคอนเสิร์ตที่เมืองเจียงหนานครั้งนี้ และในอนาคตเขาจะพักงานฉัน ไม่ให้โอกาสฉันรับงานแสดงอีกเลย ”
ฉินห้าวตงพยักหน้าเงียบๆ หากศิลปินคนอื่นในวงการบันเทิงเป็นคนพูด เขาจะหัวเราะเยาะและคิดว่าอีกฝ่ายกำลังแสดงอยู่ แต่เขามองออกว่าบนร่างกายของโอวหยางชานชานมีกลิ่นอายความบริสุทธิ์อยู่ เธอไม่ใช่ศิลปินที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อเงินเช่นนั้น
มันเป็นเรื่องยากมากที่จะเจอคนที่ยังบริสุทธิ์ในวงการบันเทิง ซึ่งเป็นเหมือนถังย้อมสีขนาดใหญ่
โอวหยางชานชานเริ่มพูดต่อ “ ในเมื่อเป็นแบบนี้ฉันจึงไม่ได้ตอบตกลง ตอนที่ฉันเซ็นสัญญากับทางบริษัท ฉันก็ระบุไว้ชัดเจนแล้วว่าไม่รับงานอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานของฉัน ”
“ ต่อมาหลิวฮวาเฉียงโกรธมาก เขาจึงสั่งให้บอดี้การ์ดสองคนมามัดฉันและส่งฉันไปให้คุณชายคนนั้น ตอนนั้นฉันรู้สึกหมดหวังแล้ว จนกระทั่งนายมาเจอฉัน ”
ฉินห้าวตงได้แต่พูดในใจว่า รูปร่างหน้าตาของดาราดังพวกนี้งดงาม ใช้ชีวิตจนทำให้ทุกคนอิจฉา แต่ที่จริงแล้วพวกเขากลับมีความทุกข์ของตัวเอง ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามใจปรารถนา
“ แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อ? โทรแจ้งตำรวจไหม? ” ฉินห้าวตงถาม
“ หลิวฮวาเฉียงมีอิทธิพลและเครือข่ายเป็นจำนวนมาก แจ้งตำรวจไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ”
โอวหยางชานชานพูดด้วยสีหน้าที่เศร้าหมอง “ ฉันเซ็นสัญญาห้าปีกับบริษัทโต้โค่ว ตอนนี้ผ่านมาไม่ถึงสองปีเลย มันเป็นไปไม่ได้ที่จะฉีกสัญญา ทำได้แค่ต้องทำมันต่อไป ถ้าหากวันนั้นมาถึงจริงๆ ฉันจะฆ่าตัวตาย ”
เห็นสีหน้าเด็ดขาดของเธอ ฉินห้าวตงไม่อยากให้ผู้หญิงที่งดงามราวกับหยกต้องมาจบชีวิตตัวเองแบบนี้ อีกอย่างเธอยังเป็นไอดอลของลูกสาวเขาอีกด้วย
ดังนั้นเขาจึงถาม “ เรื่องพวกนั้นที่หลิวฮวาเฉียงบังคับให้เธอทำมันผิดกฎหมายไหม? ”
“ แน่นอนสิ ฉันเป็นศิลปินของบริษัท ไม่ใช่โสเภณีของบริษัทซะหน่อย ฉันหาเงินมาด้วยความยากลำบากของตัวเอง และเขาก็ไม่มีสิทธิ์มาบังคับฉันให้ทำเรื่องพวกนั้นด้วย ”
“ มันง่ายมาก เธอก็แค่หาบอดี้การ์ดฝีมือดีสักสองสามคนมาคุ้มกันเธอ เขาก็ทำอะไรเธอไม่ได้แล้ว ดาราดังแบบเธอต้องรวยอยู่แล้ว และฉันเดาว่าเธอไม่มีปัญหาที่จะจ้างบอดี้การ์ดเพิ่มอีกไม่กี่คนหรอก ใช่ไหม? ”
โอวหยางชานชานพูด “ ฉันมีเงินก็จริง ปัญหาคือไม่มีบริษัทรักษาความปลอดภัยไหนและบอดี้การ์ดคนไหนกล้าต่อต้านหลิวฮวาเฉียงหรอก และถึงแม้จะมี สุดท้ายพวกเขาก็จบลงด้วยการมัดฉันและส่งฉันให้คนอื่นอยู่ดี ”
ฉินห้าวตงพูดต่อ “ ง่ายมาก ฉันพึ่งก่อตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัย และฉันสามารถจัดหาบอดี้การ์ดฝีมือดีให้เธอได้ ฉันกล้ารับประกันได้ว่าบอดี้การ์ดของเราปลอดภัยและเชื่อถือได้อย่างแน่นอน พวกเขาสามารถรับประกันความปลอดภัยของเธอไม่ว่าจะอันตรายแค่ไหนก็ตาม ”
“ จริงเหรอ? นายไม่กลัวหลิวฮวาเฉียงเหรอ? ” โอวหยางชานชานถามด้วยความสงสัย
ฉินห้าวตงหัวเราะเบาๆ “ ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องของชายที่เธอพึ่งพูดถึงเลย ต่อให้เขาเก่งแค่ไหน ก็ไม่ได้ดีไปกว่ามดตัวหนึ่งในสายตาของฉันเลย ”
“ เยี่ยม! ” สีหน้าของโอวหยางฉางฉางเต็มไปด้วยความดีใจ “ ฉันจะจ้างบอดี้การ์ดของนาย พูดมาว่าราคาค่าจ้างเท่าไร? ”
ฉินห้าวตงลูบจมูกของเขาแล้วพูดขึ้น “ ฉันพึ่งก่อตั้งบริษัทและยังไม่ได้จดทะเบียนอย่างเป็นทางการ เอาเป็นว่าฉันขอให้คำตอบที่แน่ชัดกับเธอในวันพรุ่งนี้ได้ไหม? ตอนนี้ก็พักอยู่ที่บ้านฉันไปก่อนละกัน อยู่ที่นี่เธอปลอดภัยแน่นอน ”
หลังจากที่พวกฉางเตาไปคุ้มกันหลินโม่โม่ เขาจึงมอบหมายเรื่องการจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทให้อยู่ในความดูแลของน่าหลันอู๋ชวงทั้งหมด ช่วงสองสามวันมานี้เขายังไม่เคยได้ถามเธอเลย ไม่รู้ว่าจัดการไปถึงไหนแล้ว
สีหน้าของโอวหยางชานชานดูปลื้มปิติมาก เพราะว่าในที่สุดเธอก็เจอความหวังหลังจากที่ในช่วงนี้เธอต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงมาโดยตลอด
เมื่อพวกเขาคุยกันไปได้พักใหญ่แล้ว พวกเขาจึงกลับห้องตัวเองเพื่อพักผ่อน เนื่องจากนอนดึกเกินไป ดังนั้นตอนที่ฉินห้าวตงตื่นในเช้าวันถัดไป โอวหยางชานชานยังคงนอนหลับอยู่
เขาไม่ได้รบกวนโอวหยางชานชาน เขาเอาของทุกอย่างที่เธอเซ็นลายเซ็นให้ใส่ลงไปในถุงใบใหญ่ แล้วถือไปคฤหาสน์ตระกูลหลิน
แม่หนูน้อยกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของฉินห้าวตงทันทีที่เห็นเขา จากนั้นเธอโอบรอบคอเขาแล้วถาม “ ป่าป๊า เมื่อวานนี้ไปอยู่ไหนมา? ทำไมไม่กลับมาเล่นกับถังถังล่ะ? ”
“ ป่าป๊าออกไปเตรียมของขวัญมาให้ถังถังไง ” ฉินห้าวตงตอบ
“ จริงเหรอ? มันคืออะไรเหรอ? ” แม่หนูน้อยเกิดความสนใจทันที
“ ถังถัง ของขวัญอะไรที่หนูอยากได้มากที่สุด? ”
“ หนูอยากได้รูปลายเซ็นของโอวหยางชานชาน หวางเสี่ยวหมิงจะได้อิจฉาหนู ”
“ มันไม่มีรูปลายเซ็น แต่ป่าป๊ามีอย่างอื่นให้นะ ”
ฉินห้าวตงพูดขณะที่เขาวางแม่หนูน้อยลงกับพื้น จากนั้นเขาก็เปิดถุง เทของทั้งหมดออกมา ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋านักเรียน กล่องดินสอ สมุด ขวดนมและผ้าอ้อม
“ ดูสิ ทั้งหมดนี่มีลายเซ็นที่โอวหยางชานชานเซ็นด้วยตัวเองทั้งหมดเลย ”
เมื่อเห็นว่าของทั้งหมดของเธอถูกเซ็นโดยไอดอลที่เธอชื่นชอบ แม่หนูน้อยก็กระโดดด้วยความดีใจ “ ป่าป๊าใจดีมากเลย ถังถังรักป่าป๊า! ”
จากนั้นเธอก็เรียกหม่าม๊าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ หม่าม๊า! หม่าม๊า! มาดูนี่เร็ว หนูมีลายเซ็นของดาราดังเยอะแยะไปหมดเลย! ”
หลินโม่โม่เดินมาดูสิ่งของพวกนั้นที่วางอยู่บนพื้น จากนั้นเธอก็ดึงฉินห้าวตงไปอีกด้านแล้วกระซิบ “ ฉันรู้ว่าคุณอยากทำให้ถังถังมีความสุข แต่คุณไม่ควรโกหกเธอนะ ”
“ ผมโกหกถังถังตอนไหน? ” ฉินห้าวตงถามอย่างแปลกใจ
“ ยังจะปฏิเสธอีก แม้แต่ผ้าอ้อมของเธอก็ยังถูกเซ็น ฉันเดาว่าคุณเป็นคนเซ็นมันใช่ไหม? ”
ในความคิดของหลินโม่โม่ ฉินห้าวตงต้องเป็นคนปลอมลายเซ็นของโอวหยางชานชานแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาเซ็นให้ชิ้นเดียวก็พอแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะเซ็นของมากมายขนาดนี้ โดยเฉพาะผ้าอ้อม
“ ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณต้องพูดแบบนี้ ”
ฉินห้าวตงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า จากนั้นเขาก็หาวิดีโอแล้วกดปุ่มเล่น
“ สวัสดีหนูน้อยถังถัง น้าคือโอวหยางชานชาน น้าขออวยพรให้ถังถังมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ยิ่งโตยิ่งสวยนะ! ”
บนหน้าจอ โอวหยางชานชานกำลังถือกระเป๋านักเรียนของถังถัง แล้วเซ็นลายเซ็นไปบนกระเป๋า
“ เป็นยังไงล่ะ? คุณเชื่อแล้วหรือยัง? ”
ฉินห้าวตงพูดด้วยสีหน้าที่ภาคภูมิใจ วีดีโอนี้เขาเตรียมเอาไว้นานแล้ว เพราะหลังจากที่เซ็นลายเซ็นไปเยอะขนาดนี้ อาจจะมีเด็กบางคนไม่เชื่อ ดังนั้นเขาจึงให้โอวหยางชานชานอัดวีดีโอชั่วงสั้นๆ นี้ จะได้ให้แม่หนูน้อยเอาไปให้เพื่อนดู ตอนนี้เขาเอามาให้หลินโม่โม่ดูแล้ว
“ มันคือของจริง คุณไปเจอโอวหยางชานชานที่ไหน? ” หลินโม่โม่ถามด้วยความแปลกใจ
“ ให้เพื่อนช่วยติดต่อให้ ”
ฉินห้าวตงไม่กล้าเล่าเรื่องที่ดาราดังมานอนที่บ้านเขา เพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเขาทั้งสองคน ถ้าหากหลินโม่โม่เข้าใจผิดเข้ามันคงไม่เป็นเรื่องดีแน่
สาเหตุที่เขาไม่พาโอวหยางชานชานมาเจอแม่หนูน้อย เพราะเขาคิดว่าการเธอคงไล่ตามดาราไม่จบไม่สิ้น ซึ่งมันไม่เป็นผลดีต่อแม่หนูน้อยเมื่อเธอโตขึ้น
“ เดี๋ยวนะ แต่ทำไมของตกแต่งในห้องนั่งเล่นดูเหมือนของบ้านคุณเลยล่ะ? ” หลินโม่โม่สงสัย
“ อ้อ อันที่จริงการตกแต่งของบ้านหลายหลังมีความคล้ายคลึงกันมาก บ้านของเพื่อนผมก็ตกแต่งแบบนี้แหละ ”
ฉินห้าวตงพยายามอย่างหนักเพื่ออธิบาย โชคดีที่ตอนนี้แม่หนูน้อยวิ่งมาหาพอดี “ ป่าป๊า ป่าป๊า ขอหนูดูหน่อย! ”
ฉินห้าวตงนั่งยองและกดเล่นวิดีโอให้แม่หนูน้อยดูอีกครั้ง
“ ดีจังเลย! ดีจังเลย! หนูมีทั้งลายเซ็นและวิดีโอแล้ว หวางเสี่ยวหมิงจะอวดหนูไม่ได้แล้ว! ”
แม่หนูน้อยวิ่งไปรอบๆ อย่างมีความสุข
หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จ ฉินห้าวตงจึงหันไปพูดกับหลินโม่โม่ “ วันนี้ผมมีธุระต้องไปทำ วันนี้ไม่ไปทำงานนะ ”
หลินโม่โม่กลอกตาใส่เขาแล้วพูด “ คุณเป็นลูกจ้างที่ไม่ได้เรื่องเลย ขาดงานบ่อยกว่ามาทำงานอีก ระวังฉันหักเงินเดือนคุณนะ ”
ฉินห้าวตงพูดด้วยรอยยิ้ม “ หักเลยๆ เพราะผมใช้ความหล่อหากินได้อยู่แล้ว จะให้เงินเดือนหรือไม่ให้ผมก็ไม่เป็นไร! ”
หลังจากเดินไปส่งหลินโม่โม่และแม่หนูน้อย ฉินห้าวตงจึงเดินกลับไปบ้านตัวเอง ขณะที่เดินเข้าประตูมาก็เห็นรถ Hummer ของน่าหลันอู๋ชวงจอดอยู่ในลานบ้าน
พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา เขากำลังอยากเจอเธอพอดี สาวน้อยคนนี้ก็มาหาถึงหน้าประตู
ฉินห้าวตงคิดขณะที่เดินเข้ามาในบ้าน เมื่อเดินเข้ามาในตัวบ้าน เขาก็เห็นน่าหลันอู๋ชวงกับโอวหยางชานชานกำลังจ้องกันอยู่
น่าหลันอู๋ชวงถามขึ้น “ เธอเป็นใคร? ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่และใส่เสื้อผ้าของเขา? ”
โอวหยางชานชานไม่ยอมแพ้เช่นกัน “ แล้วเธอล่ะเป็นใคร? ใครอนุญาตให้เธอเข้ามา? มันไม่ใช่เรื่องของเธอที่จะมาถามว่าฉันใส่เสื้อผ้าของใคร! ”
เมื่อเห็นว่าสาวสวยสองคนกำลังจะทะเลาะกัน ฉินห้าวตงจึงรีบเดินเข้าไปห้าม “ หยุดทะเลาะกันได้แล้ว เข้าใจผิดแล้ว เป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งหมดเลย! ”
จบตอน