ตอนที่ 67 พนันหิน
หลังจากไล่แมลงวันจอมน่ารำคาญไปแล้ว ฉินห้าวตงจึงเริ่มกว้านซื้อหินหยกคุณภาพสูงในโซนเกรด D
แร่หินในโซนเกรด D มีราคาต่ำที่สุด แต่จำนวนของมันมีมากที่สุดเมื่อเทียบกับสามเกรดที่เหลือ และเป็นเพราะว่าราคามันต่ำ ความเสี่ยงในการพนันจึงสูง ฉินห้าวตงพึ่งเดินผ่านไปได้ครึ่งทาง แร่หินในรถของเขาก็ถูกอัดแน่นไว้จนเกือบจะเต็มรถแล้ว
เขาจ่ายตามเลขรหัสสินค้าที่จดมาแล้วรับหินไป ขณะที่เขากำลังอยากจะเลือกต่อนั้น ก็เกิดเสียงอึกทึกคึกโครมดังขึ้น บอดี้การ์ดจำนวนมากวิ่งเข้ามาล้อมเขาไว้
คนที่เดินนำมาคือเฝิงเทียนต๋า ซึ่งเป็นคุณชายใหญ่แห่งเฝิงชื่อกรุ๊ป ข้างกายเขาเดินตามมาด้วยโจวซุยซุยที่พึ่งจะเปลี่ยนเสื้อผ้าไป
“ ที่รัก ใครกันที่มันทำร้ายคุณ ? ผมจะอัดมันจนแม่มันจำหน้าไม่ได้เลย ”
เฝิงเทียนต๋าพูดอย่างเหย่อหยิ่ง
ตอนนี้ฉินห้าวตงพึ่งจะเข้าใจ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเฝิงชื่อกรุ๊ปถึงมีความสัมพันธ์กับแก๊งขายหิน เพราะเฝิงเทียนต๋าแต่งงานกับหญิงอัปลักษณ์คนนี้และกลายเป็นน้องเขยของหัวหน้าแก๊งหินหยก
มองเฝิงเทียนต๋าที่ดูหล่อเหลา แล้วหันมามองโจวซุยซุยที่ไม่สามารถอัปลักษณ์ไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว เขาได้แต่แอบส่ายหัว ดูเหมือนว่าในฐานะเป็นคนของตระกูลใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือว่าผู้หญิงต่างก็ไม่มีอำนาจตัดสินใจเรื่องงานแต่งของตัวเอง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ทั้งนั้น
โจวซุยซุยชี้ไปที่ฉินห้าวตงแล้วตะโกน “ เทียนต๋า ไอ้เด็กหน้าขาวนี่แหละที่ทำร้ายฉัน คุณต้องเอาสุนัขสองตัวของมันมาให้ฉันด้วย “
ฉินห้าวตงขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะอาจหาญเกินไปแล้ว กล้าที่จะชิงเอาต้าเหมากับเอ้อร์เหมาไปจากเขาต่อหน้าต่อตา
“ ไม่ต้องกังวล ก็แค่สุนัขสองตัวไม่ใช่เหรอ ? ผมจะเอามันมาให้คุณให้ได้ ในเจียงหนานไม่มีอะที่ตระกูลเฝิงของพวกเราทำไม่ได้ ” เฝิงเทียนต๋าพูดจบ พอหันไปเห็นฉินห้าวตง เขาก็กัดฟันกรอดทันที “ ไอ้เด็กน้อย แกนี่เอง ! ”
ครั้งที่แล้วเขาต้องมาขายขี้หน้าที่ประตูบริษัทหลินชื่อกรุ๊ป ไม่เพียงแต่จะถูกฉินห้าวตงอัดจนน่วม แต่ยังถูกน่าหลันอู๋เซี๋ยจับไปขังคุกถึงหนึ่งวันเต็มๆ อีกด้วย
เขาตอบรับข้อเสนอแต่งงานจากหัวหน้าแก๊งขายหยกตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาถูกประกันตัวออกมา เขามั่นใจว่าความสัมพันธ์เรื่องความรักกับโจวซุยซุย จะช่วยให้เขาสามารถใช้อำนาจของแก๊งขายหยกมาปราบปรามหลินชื่อกรุ๊ปได้
โจวเทียนฮู่หาสามีให้น้องสาวสุดอัปลักษณ์ของเขาได้ยากมาก ดังนั้นด้วยความดีใจเขาจึงให้แร่หินหยกจากเหมืองเก่าล็อตใหญ่แก่ตระกูลเฝิง ทำให้เฝิงเทียนต๋าสามารถจัดนิทรรศการฝั่งตรงข้ามกับหลินชื่อกรุ๊ปได้
ฉินห้าวตงพูดด้วยรอยยิ้ม “ ฉันเอง คุณชายเฝิง โชคชะตาพาเรามาเจอกันอีกครั้งแล้วนะ ! ”
“ เด็กน้อย แกพาตัวเองมาเจอความซวยเองนะ ” เฝิงเทียนต๋าโบกฝ่ามือขนาดใหญ่ของเขาแล้วตะโกนไปที่บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลัง “ จัดการมัน ! ไปหักขาของผู้ชายคนนั้นและเขวี้ยงผู้หญิงออกไป เหลือไว้แต่สุนัขสองตัวนั้น ”
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าฉินห้าวตงเก่งศิลปะการต่อสู้มาก แต่นี่เป็นที่ของเขา และเขายังบอดี้การ์ดอีกมากมาย เขาสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างแน่นอน
ทันทีที่เขาพูดจบ เขาได้เย็นเสียงเยือกเย็นดังขึ้น “ เฝิงเทียนต๋า แกบอกว่าจะเขวี้ยงใครออกไปนะ ? ”
น่าหลันอู๋ชวงกำลังอุ้มแม่หนูน้อยอยู่ในอ้อมแขน เฝิงเทียนต๋าจึงเห็นรูปร่างหน้าตาของเธอไม่ชัด ในเวลานี้เขาพึ่งจะมองเห็นว่าเป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลน่าหลัน
“ คะ......คุณหนูน่าหลัน คุณมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร ? ” เฝิงเทียนต๋ารีบยกห้ามบอดี้การ์ดที่กำลังจะพุ่งเข้าใส่พวกนั้นทันที เขาไม่กล้าหือกับน่าหลันอู๋ชวง ต่อให้ตีเขาให้ตายเขาก็ไม่กล้า
แม้ว่าเฝิงชื่อกรุ๊ปจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับตระกูลน่าหลันได้เลย ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ถูกน่าหลันอู๋เซี๋ยจัดการเขามาโดยตลอด
แต่เฝิงเทียนต๋าไม่เข้าใจว่าทำไมคุณหนูทั้งสองคนของตระกูลน่าหลันถึงมีความสัมพันธ์อันดีกับไอ้หนุ่มหน้าขาวคนนี้ เมื่อไม่นานมานี้น่าหลันอู๋เซี๋ยก็ปกป้องเขา ตอนนี้น่าหลันอู๋ชวงก็ยังมายืนข้างกายเขาอีก แถมยังอุ้มเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขนด้วย นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?
เมื่อโจวซุยซุยเห็นเขายั้งมือ แถมยังมองผู้หญิงสวยคนนั้นตาไม่กระพริบอีก เธอจึงตะโกนขึ้นด้วยความไม่พอใจทันที “ เทียนต๋า ทำไมคุณถึงไม่ทำตามที่ฉันบอกล่ะ ? จับสุนัขสองตัวนั้นมาให้ฉันเดี๋ยวนี้! ”
เฝิงเทียนต๋ารู้สึกกล้ำกลืน เขาดึงโจวซุยซุยไปที่ด้านข้างแล้วกระซิบบอก “ ที่รัก นี่คือคุณหนูของตระกูลน่าหลันแห่งเจียงหนาน พวกเราจะทำให้เธอขุ่นเคืองไม่ได้ ”
อย่างไรก็ตามโจวซุยซุยไม่อ้อมค้อมเลยสักนิด เธอคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว “ ฉันไม่สนว่าตระกูลน่าหลันมันจะเป็นใคร ยังไงซะฉันก็ต้องการสุนัขสองตัวนั้นอยู่ดี คุณไม่ได้พึ่งบอกไปเหรอว่าในเจียงหนานไม่มีอะไรที่ตระกูลเฝิงทำไม่ได้ ? ”
“ ที่รัก ก็แค่สุนัขสองตัวเอง คุณรออยู่นี่แหละ ผมจะหาวิธีเอามาให้คุณเอง ! ”
เฝิงเทียนต๋าลำบากใจมาก เขาพยายามทำให้โจวซุยซุยพอใจเพื่อผลประโยชน์ของตระกูลเฝิง แต่อีกฝั่งคือคุณหนูของตระกูลน่าหลัน คนที่เขาไม่กล้ายั่วโมโห
ในสถานการณ์เช่นนี้หากเขายังต้องการเอาสุนัขสองตัวนั้นมา เขาคงทำได้เพียงต้องคิดหาวิธีอื่น
เขาหันกลับไปที่ฉินห้าวตง แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ ไอ้หนุ่ม ขายสุนัขสองตัวนั้นให้ฉัน แล้วฉันจะไม่ถือสาเรื่องที่นายทำไว้ก่อนหน้านี้ ”
“ ไม่ขาย ! ” ฉินห้าวตงตอบอย่างชัดเจน
“ แก...... ” เฝิงเทียนต๋ากำลังจะระเบิดอารมณ์ แต่เขาก็ต้องอดทนเนื่องจากน่าหลันอู๋ชวงอยู่ข้างหน้าเขา
ทันใดนั้นเขาก็มีความคิดบางอย่าง จึงพูดขึ้น “ ไอ้หนุ่ม นายมาที่นี่เพื่อซื้อแร่หินใช่ไหม ? ”
ฉินห้าวตงพยักหน้า เขามองเฝิงเทียนต๋าอย่างเงียบ เพื่อดูว่าเฝิงเทียนต๋าจะมาไม้ไหนอีก
“ แสดงว่านายพอจะดูแร่หินหยกเป็นใช่ไหม ? ”
“ ก็ไม่เชิง รู้แค่นิดหน่อย ”
“ นายกล้าเดิมพันหรือเปล่าล่ะ ?” เฝิงเทียนต๋าถาม
“ โอ้ เดิมพันกับอะไร ? ” ฉินห้าวตงมองเขาด้วยความสนใจ
“ พวกเราเลือกหินดิบจากที่นี่คนละหนึ่งก้อน ในหินดิบของใครมีหยกที่ดีและมูลค่าสูงที่สุด คนนั้นจะเป็นฝ่ายชนะไป ถ้าฉันชนะนายต้องยกสุนัขสองตัวนั่นให้ฉัน ถ้าฉันแพ้ ฉันจะให้นายสิบล้านหยวน ”
หลังจากพูดจบ เฝิงเทียนต๋ามองไปที่ฉินห้าวตงอย่างประหม่า ในฐานะที่เขาเป็นคุณชายของเฝิงชื่อกรุ๊ป เขารู้จักและคุ้นเคยกับอัญมณีมาตั้งแต่เด็ก เขาจึงคิดว่าตัวเองมีความชำนาญมากกว่าคนอื่น
แต่สิ่งที่เขากลัวที่สุดในตอนนี้คือฉินห้าวตงจะปฏิเสธ ถ้าเขาไม่สามารถเอาสุนัขสองตัวนั้นมาได้ เขาจะต้องทำให้โจวซุยซุยไม่พอใจอย่างแน่นอน
“ ตกลง ฉันจะเดิมพันกับนาย ! ” ฉินห้าวตงตอบ
“ แต่ของเดิมพันที่นายเสนอมานั้นมันน้อยเกินไป เมื่อกี้มีคนเสนอซื้อสุนัขของฉันตั้งสามสิบล้านหยวน ”
“ สามสิบล้านหยวนก็ได้ ตราบใดที่นายยังกล้าเดิมพันอยู่ ”
เฝิงเทียนต๋าไม่ลังเลที่จะเพิ่มของเดิมพัน เขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าเขาจะสามารถเอาชนะเดิมพันนี้ได้
ฉินห้าวตงยังพูดขึ้นอีกว่า “ ในเมื่อเดิมพันกันแล้ว สุนัขของฉันทั้งสองตัวก็อยู่ที่นี่ นายก็ควรเอาของเดิมพันของนายมาวางไว้เหมือนกัน และในเมื่อมันคือการเดิมพัน ดังนั้นเราต้องการผู้ตัดสินและคนรับรอง ไม่อย่างนั้นตอนนายได้หินที่คุณภาพต่ำแต่ดันมาบอกว่าคุณภาพสูงกว่าของฉันจะทำไง? ”
“ ไอ้หนุ่ม ฉันเป็นคุณชายของตระกูลเฝิงเชียวนะ มันไม่น่าเชื่อถือหรือไง ? ”
“ ฉันไม่มั่นใจในเรื่องนั้น ” – ฉินห้าวตงหัวเราะ คนอย่างเฝิงเทียนต๋าในตามีแต่ผลประโยชน์เท่านั้นแหละ ไม่มีศีลธรรมแม้แต่นิดเดียว
“ ฉันจะเป็นคนรับรองให้เอง ฉันไม่รู้ว่าคุณทั้งสองจะไว้ใจฉันไหม ? “
ทุกคนมองไปตามเสียง พบว่าเป็นเฉียนตัวตัวคนที่พึ่งจะขอซื้อต้าเหมากับเอ้อร์เหมาในราคาสามสิบล้าน เขายังเป็นประธานสมาคมหินหยกเจียงหนานและควบตำแหน่งหัวหน้าประเมินอัญมณีของประเทศจีนอีกด้วย เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมอัญมณี ดังนั้นเขาจึงเหมาะสมอย่างมากในการเป็นผู้รับรอง
“ ประธานเฉียน คุณนี่เอง ! ” เฝิงเทียนต๋าพูดด้วยสีหน้าที่ประจบสอพลอ
“ แน่นอน ให้ประธานเฉียนมาเป็นผู้ตัดสินด้วย ผมไว้ใจคุณแน่นอน ”
เฉียนตัวตัวหันไปถามฉินห้าวตง “ น้องชาย นายคิดว่าไง ? ”
ฉินห้าวตงมีความประทับใจที่ดีต่อเฉียนตัวตัวเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้น “ ผมเชื่อคุณเฉียนเช่นกัน ”
“ เอาล่ะ งั้นก็ขึ้นอยู่กับฉันในการรับรองการเดิมพันนี้แล้ว ” เฉียนตัวตัวพูด
เฝิงเทียนต๋าหยิบเอาสมุดเช็คออกมาและเขียนเช็คจำนวนสามสิบล้านหยวนส่งให้เฉียนตัวตัวเป็นคนจัดการ ฉินห้าวตงก็ให้ต้าเหมากับเอ้อร์เหมาหมอบอยู่ที่พื้น
เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว เฝิงเทียนต๋าจึงพูดขึ้น “ ตอนนี้เราเดิมพันกันได้หรือยัง ? ”
“ แน่นอน แต่การเอาชนะนาย ไม่จำเป็นต้องให้มาถึงมือของฉันหรอก ” ขณะที่ทุกคนกำลังไม่เข้าใจว่าทำไม ฉินห้าวตงก็หันไปพูดกับเฉียนตัวตัว “ คุณเฉียน ก่อนอื่นผมจะยืมสุนัขตัวหนึ่งไปเลือกหิน มันไม่ผิดกฎใช่ไหม ”
“ ได้สิ ”
เฉียนตัวตัวตบตกลงแล้วหันไปมองฉินห้าวตงด้วยความสนใจ เขาอยู่ในอุตสาหกรรมหยกมาเป็นเวลาหลายปีและไม่เคยได้ยินเรื่องคนใช้สุนัขเลือกหินดิบ แม้ว่าโดยธรรมชาติจมูกของสุนัขจะไวต่อกลิ่นมาก แต่ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้ผลกับพวกหินดิบนะ
หลังจากได้รับอนุญาต ฉินห้าวตงจึงชี้ไปที่ต้าเหมาแล้วพูดขึ้น “ ไปเลือกหินดิบมาให้ฉันหน่อย ”
“ แก...... ” แววตาของเฝิงเทียนต๋าลุกเป็นเปลวไฟ เขาโกรธมากที่ฉินห้าวตงเอาสุนัขมาเทียบกับเขา แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากไม่มีข้อบังคับใดๆ ระหว่างการพนันหิน ดังนั้นจึงใช้สุนัขได้
เขาจ้องฉินห้าวตงเขม็ง จากนั้นจึงเดินไปเลือกหินตรงด้านข้าง
ในเวลานี้คนที่มามุงดูความสนุกมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ คนที่มาเข้าร่วมการพนันหินในครั้งนี้เดิมทีชื่นชอบการพนันอยู่แล้ว ขณะเดียวกันพวกเขาก็อยากจะดูว่าชายวัยรุ่นคนนี้จะใช้สุนัขเลือกหินดิบได้อย่างไร
ที่จริงแล้วการที่ฉินห้าวตงให้ต้าเหมาไปเลือกหินนั้น มันคือการตบตาผู้คน เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของผู้คน ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าเขามีความสามารถในการมองทะลุหินดิบ
ต้าเหมาวิ่งออกไปทำตามคำสั่งของฉินห้าวตง ในไม่ช้ามันก็วิ่งไปที่ด้านหน้าหินน้ำหนักประมาณสองสามร้อยกิโล จากนั้นกระโดดขึ้นไป แล้ววิ่งกลับมาเห่าเรียก
ทุกคนแปลกใจเมื่อเห็นสุนัขตัวนี้ฉลาดมาก หรือว่าสุนัขตัวนี้จะสามารถเลือกหินได้จริง ?
ฉินห้าวตงหันไปพูดกับเฉียนตัวตัว “ คุณเฉียน ในเมื่อต้าเหมาสนใจในหินก้อนนี้ ดังนั้นผมจะเลือกมัน ”
ราคาของหินก้อนนี้อยู่ที่ห้าพันหยวน หลังจากพูดจบ เขาก็จ่ายเงินให้แก่พนักงานเพื่อซื้อหินก้อนนี้มา
หลังจากพนักงานได้รับเงิน พวกเขาก็ขอให้คนนำหินไปพร้อมเกวียนทันที
อีกด้านหนึ่ง เฝิงเทียนต๋ากำลังเลือกหินชิ้นแล้วชิ้นเล่าอย่างตั้งใจ เขาได้ตรวจสอบสีและรูปแบบของหินดิบอย่างละเอียดโดยยึดตามประสบการณ์ที่เขาได้เรียนรู้มาตั้งแต่ประถม
หลังจากผ่านไปยี่สิบนาทีเต็ม ในที่สุดเขาก็เลือกหินดิบเสร็จ และขอให้เจ้าหน้าที่ลากมันออกมา
หลังจากที่หินดิบทั้งสองก้อนนี้ถูกจัดวางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เฝิงเทียนต๋าจึงเรียกคนตัดหินมา เพื่อเริ่มตัดหินแสดงต่อหน้าทุกคน
“ ใครจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ? ” เฉียนตัวตัวถาม
“ ผมก่อน ! ”
เฝิงเทียนต๋า มันใจในความสามารถด้านการเลือกหินดิบของเขาและเขาไม่คิดว่าหินที่ถูกเลือกแบบสุ่มๆ โดยสุนัขจะดีไปกว่าของเขา
หลังจากรับคำสั่ง คนตัดหินก็เริ่มตัดหินของเฝิงเทียนต๋าทันที
หินดิบถูกตัดออกจากกันไปพร้อมๆ กับเสียงแสบแก้วหูของเครื่องตัดหิน และไม่นานแสงสีเขียวก็โผล่ออกมา
“ สีเขียวโผล่ออกมาแล้ว ! ตาแหลมคมจริงๆ สมควรแล้วที่เป็นคุณชายของเฝิงชื่อกรุ๊ป...... ”
“ สีมันไม่เลวเลย มันดูเหมือนกับสีถั่วเขียว ดูเหมือนว่าถ้าตัดหินดิบก้อนนี้ออกมาเสร็จ มูลค่าของมันคงไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านหยวน เฝิงเทียนต๋าสุดยอดจริงๆ...... ”
ท่ามกลางเสียงชื่นชม เฝิงเทียนต๋าเชิดคางของเขาขึ้นด้วยท่าทีพึงพอใจและมองไปที่หินดำที่น่าเกลียดที่อยู่ใต้เท้าของฉินห้าวตงอย่างเหยียดหยาม ตอนนี้เขาคิดว่าเขาได้ชนะการเดิมพันไปแล้ว
ไม่ถึงสิบนาที เขาก็ตัดหินเสร็จ คนตัดหินเทน้ำสะอาดลงไป เผยให้เห็นหยกสีเขียวขนาดเท่ากับลูกแอปเปิ้ลปรากฏต่อหน้าสาธารณะชน
เฉียนตัวตัวเอื้อมไปรับมันมาและมองดูมัน เขาพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ ใช่แล้ว สีของมันเหมือนสีของเมล็ดถั่วเขียว ราคาน่าจะถึงประมาณหนึ่งล้านสองแสนหยวน ”
เมื่อเห็นเฉียนตัวตัวทำการประเมินหยก นักธุรกิจหยกก็รีบตะโกนขึ้นมาทันที “ คุณชายเฝิง ขายให้ผมในราคาหนึ่งล้านสองแสนหยวนเถอะ! ”
“ ไม่ขาย ! ” เฝิงชื่อกรุ๊ปมีบริษัทอัญมณีเป็นของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงไม่ขายหยกที่มีคุณภาพดีแบบนี้เด็ดขาด
เมื่อเห็นแฟนหนุ่มของเธอได้หยกที่มีคุณภาพดีขนาดนี้ โจวซุยซุยก็ภูมิใจ เธอหันไปพูดกับฉินห้าวตง “ ไอ้หนุ่มหน้าขาว ถึงตาแกแล้ว ”
ทุกคนที่อยู่โดยรอบมองไปยังฉินห้าวตงเป็นตาเดียวกัน ในความคิดของพวกเขา ฉินห้าวตงมีโอกาสในการชนะน้อยมาก
เนื่องจากการพนันหินนั้นขึ้นอยู่กับโชค ไม่ใช่ว่าสุ่มเลือกหินมาสักก้อนแล้วด้านในจะมีหยกมูลค่าเกินหนึ่งล้านหยวน
จบตอน