px

เรื่อง : คุณพ่อยอดหมอเทวดา (重生之奶爸医圣)
ตอนที่ 68 หยกน้ำแข็งดำ


ตอนที่ 68 หยกน้ำแข็งดำ

 

คำพูดของโจวซุยซุยทำให้สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่หินดิบของฉินห้าวตง ผู้เชี่ยวชาญหลายคงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

 “ หินดิบก้อนนี้แย่เกินไป ไม่มีรอยแตก ไม่มีเชื้อรา ไม่มีลวดลายเหมือนเกล็ด มันจะมีหยกได้ยังไงกัน...... ”

 “ นั่นน่ะสิ หนุ่มน้อยคนนี้ใช้สุนัขเลือกหินดิบให้เขา ทำอะไรลวกๆ เกินไปแล้ว...”

 “ ดูเหมือนว่าคุณชายเฝิงจะชนะแล้วล่ะ น่าเสียดายที่สุนัขสองตัวที่มีมูลค่าถึงสามสิบล้านหยวนต้องตกเป็นของคนอื่นแล้ว! ”

เมื่อได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนที่อยู่โดยรอบ เฝิงเทียนต๋ายิ่งรู้สึกภาคภูมิใจเข้าไปใหญ่ เขาหันไปพูดถากถางฉินห้าวตง “ ยังจำเป็นต้องตัดหินสีดำน่าเกลียดของแกอยู่ไหม ? ฉันว่าแกควรจะยอมแพ้ได้แล้วนะ จะได้ไม่ขายขี้หน้าคนอื่นหลังจากตัดหินเสร็จ ”

ฉินห้าวตงหัวเราะแล้วพูดขึ้น “ แน่นอน ฉันต้องการตัดหินของฉันและฉันก็คิดว่าสุนัขของฉันดีกว่าแกเยอะเลย ”

จากนั้นเขาก็หันไปบอกคนตัดหิน “ เริ่มได้เลย แต่จำไว้ว่าพยายามกลึงมันอย่างช้าๆ บางทีอาจมีของดีในหินก้อนนี้ ”

คนตัดหินพยักหน้า แม้ว่าเขาจะไม่ชอบหินนี้และคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องกลึงมัน แต่ฉินห้าวตงเป็นลูกค้า ดังนั้นจึงทำได้เพียงต้องทำตามที่เขาร้องขอ

ด้วยเสียงของใบมีดและการแตกกระจายของเศษหิน แสงสีเขียวค่อยๆ ปรากฏออกมา

 “ สีเขียว! พระเจ้า หินแบบนี้มีหยกด้วย......

 “ แม้มันจะมีสีเขียว แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับสีเขียวเหมือนเมล็ดถั่วเขียวของคุณชายเฝิง...... ”

 “ ไม่สิ มันดูเหมือนกับหยกเนื้อน้ำแข็ง สีเขียวมันสวยจริงๆ...... ”

 “ เนื้อน้ำแข็ง ! มันคือเนื้อน้ำแข็งจริงๆ ด้วย หนุ่มน้อย ไม่ใช่สิ สุนัขตัวนี้มากับดวงจริงๆ......”

ผู้ชมทั้งหมดต่างตกตะลึงอ้าปากค้าง พวกเขาพากันเบียดเข้ามาจ้องมองหินก้อนนี้

สีหน้าของเฝิงเทียนต๋าดูบูดเบี้ยว เขาพึ่งเลือกได้หยกสีเมล็ดถั่วเขียวออกมา ยังไม่ทันได้ดีใจจบ อีกฝ่ายก็เลือกได้หยกเนื้อน้ำแข็งเสียแล้ว

โจวซุยซุยพูดขึ้นอย่างอิจฉา “ ไม่ต้องกลัวไป เทียนต๋า ฉันเคยเห็นหยกแบบนั้นมาก่อน บางทีมันอาจไม่มีอะไรข้างในนั้นหรอกนอกจากเศษเล็กๆ สีเขียวที่อยู่บนผิวมัน ดังนั้นมันไม่มีค่าเท่าของคุณหรอก ”

เฝิงเทียนต๋าพยักหน้าและรู้สึกสงบมากขึ้น เขายังคิดว่าฉินห้าวตงไม่น่าจะโชคดีได้ขนาดนั้น

แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขายิ่งตกใจมากขึ้น หลังจากที่ชั้นหินถูกตัดออก หยกเนื้อน้ำแข็งขนาดเท่าลูกวอลเล่บอลย์ปรากฏท่ามกลางสายตาของทุกคน หยกนี้ไม่เพียงแต่มีคุณภาพดีกว่าของเฝิงเทียนต๋า แต่ยังมีขนาดใหญ่กว่ามาก

เฉียนตัวตัวก็ตะลึงตาค้างเช่นกัน แม้ว่าเขาจะอยู่ในอุตสาหกรรมหยกมาหลายปี แต่หยกเนื้อน้ำแข็งที่มีคุณภาพดีเช่นนี้ไม่ได้มีออกมาให้เห็นบ่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้นมันมีขนาดใหญ่อีกด้วย

เขายกมันขึ้น ตรวจสอบอย่างช้าๆ เป็นเวลานานพอสมควร จากนั้นเขาตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น “ หายาก ของหายากจริงๆ ! ฉันไม่เคยเจอหยกคุณภาพดีแบบนี้มานานแล้ว ”

เขาหันไปพูดกับฉินห้าวตง “ หนุ่มน้อย ถ้านายเต็มใจ ฉันต้องการจะซื้อหยกนี้เป็นเงินสิบล้านหยวน ”

 “ อ้อ......ผมขาย ! ” ฉินห้าวตงตอบ

ช่วงนี้เขาค่อนข้างเงินขาดมือ ต่อไปเขาต้องใช้เงินจำนวนมากในการซื้อยาสมุนไพร ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจขายหินหยก

หลังจากทั้งสองคนตกลงทำการซื้อขายกันเสร็จ สีหน้าของผู้ชมเปลี่ยนไปทันที ชายหนุ่มคนนี้โชคดีมาก เขาพึ่งซื้อหินดิบมาในราคาห้าพันหยวน พริบตาเดียวก็ขายได้สิบล้านหยวนแล้ว

และยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้เช็คอีกสามสิบล้านหยวนเนื่องจากเขาชนะเดิมพันของเฝิงเทียนต๋า

เป็นไปตามคาด เฉียนตัวตัวประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าฉินห้าวตงเป็นผู้ชนะการเดิมพันในครั้งนี้ หลังจากเขียนเช็คจำนวนสิบล้านหยวนแล้ว เขาก็ยื่นมันให้กับฉินห้าวตงพร้อมกับเช็คจำนวนสามสิบล้านหยวนของเฝิงเทียนต๋า

 “ ป่าป๊าสุดยอดเลย! ” แม่หนูน้อยตะโกนด้วยความสุข แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเช็คคืออะไร แต่เธอรู้ว่าป่าป๊าของเธอชนะและได้สุนัขของเธอกลับคืนมา

จากนั้นเธอหันไปชี้เฝิงเทียนต๋าแล้วพูดกับน่าหลันอู๋ชวง “ หม่าม๊าคนที่สองคะ ผู้ชายคนนั้นโง่จริงๆ ! โง่ตัวโตๆ เลย ! ”

 “ ฉันเหรอ ? “

เฝิงเทียนต๋าโกรธจนถลึงตา แต่เขาทำอะไรไม่ได้ เขาไม่ควรมาโต้เถียงกับเด็กเล็กแบบนี้

ภายในพริบตาเขาเสียเงินไปแล้วสามสิบล้านหยวน แม้ว่าตระกูงเฝิงจะมีทรัพย์สมบัติมากมาย แต่เงินจำนวนนี้มันก็เพียงพอที่จะทำให้เขาต้องทนทรมานไปช่วงหนึ่ง

แต่คนรับรองคือเฉียนตัวตัวประธานสมาคมหยก ส่วนด้านข้างก็มีน่าหลันอู๋ชวงยืนอยู่ ต่อให้เขาอยากจะล้มเลิกเดิมพัน เขาก็ไม่กล้า

 “ คุณแพ้ง่ายๆ แบบนี้เนี่ยนะ ขยะจริงๆ ” เมื่อเห็นเฝิงเทียนต๋าแพ้เดิมพัน โจวซุยซุยก็เริ่มทะเลาะกับเขาทันที “ ฉันไม่สน ยังไงคุณก็ต้องเอาสุนัขสองตัวนั้นมาให้ฉัน ไม่งั้นฉันจะให้พี่ชายฉันหยุดจัดหาแร่หินดิบให้ตระกูลเฝิง ”

 “ เอ่อ...... ”

เฝิงเทียนต๋าอยากจะตบผู้หญิงที่ไม่มีเหตุผลคนนี้สักสองฉาดจริงๆ แต่พอเขานึกถึงความน่ากลัวของโจวเทียนฮู่หัวหน้าแก๊งขายหยก เขาจึงทำได้แค่ยับยั้งแรงกระตุ้นไว้

การเดิมพันสิ้นสุดลงไปแล้ว แต่โจวซุยซุยยังกดดันเขาเรื่องสุนัขนั่น เฝิงเทียนต๋าจึงทำได้แค่พูดขึ้นอีกครั้งอย่างจนปัญญา “ ครั้งนี้ฉันแพ้แล้ว แกอยากเดิมพันอีกครั้งไหม ? ”

 “ แน่นอน ป่าป๊าของหนูเก่งที่สุด ”  ตอนนี้แม่หนูน้อยเป็นแฟนคลับตัวยงของฉินห้าวตง ในความคิดของเธอ ป่าป๊าคนคือที่สามารถทำได้ทุกอย่าง เขาจะต้องไม่กลัวคนโง่ที่อยู่ต่อหน้าเขาอย่างแน่นอน

เขาไม่มีทางปฏิเสธเดิมพันที่มีแต่ชนะไม่มีวันแพ้อย่างนี้แน่นอน เขาหอมแก้มแม่หนูน้อยหนึ่งฟอดแล้วพูดอย่างอารมณ์ดี “ ลูกสาวของฉันพูดไปแล้ว ไม่มีอะไรไม่กล้าหรอก!

 “ งั้นก็มาพนันอย่างอื่นกัน ของเดิมพันยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ฉันจะวางอีกสามสิบล้านสำหรับสุนัขของแก แต่ครั้งนี้ฉันจะขอให้คนอื่นเลือกหินดิบให้กับฉัน ” เฝิงเทียนต๋าพูด

 “ ไม่มีปัญหา ” ฉินห้าวตงตอบรับชัดถ้อยชัดคำ ไม่ว่าเขาจะเชิญใครมา มันเป็นไปไม่ได้ที่จะชนะเขา

เฝิงเทียนต๋าตะโกนสั่งบอดี้การ์ดดคนหนึ่ง “ ไปเรียกคุณซุนมา ”

บอดี้การ์ดรับคำแล้ววิ่งออกไป เขาเขียนเช็คอีกสามสิบล้านหยวนยื่นให้กับเฉียนตัวตัว

ไม่นานบอดี้การ์ดก็เดินเข้ามาพร้อมกับชายวัยกลางคนอายุราวห้าสิบปี เขาสวมเสื้อคลุมยาว ดูลักษณะไม่ธรรมดา เขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านหยกของเฝิงชื่อกรุ๊ป มีนามว่าซุนติงกั๋ว

ซุนติงกั๋วมีประสบการณ์มาอย่างโชกโชน เขาประสบความสำเร็จทางด้านหยกเป็นอย่างมาก มีชื่อเสียงในวงการอุตสาหกรรมอัญมณี เขาจึงถูกจ้างโดยเฝิงชื่อกรุ๊ป และไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เขาช่วยเฝิงชื่อกรุ๊ปทำเงินได้เป็นอย่างมาก

 “ คุณชาย คุณเรียกหาผมมีธุระอะไรเหรอ ? ” ซุนติงกั๋วถาม

หลังจากอธิบายสถานการณ์คร่าวๆ แล้ว เฝิงเทียนต๋าก็พูดกับเขา “ นายช่วยพนันในนามฉันหน่อย ”

 “ วางใจเถอะ ตราบใดที่ผมอยู่ที่นี่ เราจะชนะแน่นอน ”

ซุนติงกั๋วมั่นใจในตัวเองมาก ขณะเดียวกันเขาไม่มองชายวัยรุ่นคนนี้อยู่ในสายตาเลย จริงอยู่ที่ธุรกิจพนันหินในแต่ละครั้งจะต้องมากับดวงด้วย แต่สุดท้ายแล้วมันก็ต้องพึ่งสายตาอยู่ดี และเขาก็เป็นคนที่มีสายตาเฉียบคมในการพนันหินมาก

การพนันเริ่มขึ้นอีกครั้ง ซุนติงกั๋วไปเลือกหินด้วยความมั่นใจที่เต็มเปี่ยม

สายตาของผู้ชมจับจ้องไปที่ฉินห้าวตง เห็นได้ชัดว่าตระกูลเฝิงได้งัดเอาไม้เด็ดโดยการเรียกซุนติงกั๋วออกมา พวกเขาคิดว่าฉินห้าวตงน่าจะต้องรับมืออย่างจริงจังแล้ว

อย่างไรก็ตามฉินห้าวตงโบกมือเรียกเอ้อร์เหมามาที่นี่แล้วพูดขึ้น “ ตาเธอแล้ว อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ ”

เอ้อร์เหมาดูเหมือนจะเข้าใจเขา มันเห่ารับคำเขาสองครั้งแล้ววิ่งไปยังโซนหินดิบ

 “ เอ้อร์เหมา สู้ๆ! ” แม่หนูน้อยกำมือและตะโกนส่งเสียงเชียร์ ทำให้ผู้ชมต่างหัวเราะ

เอ้อร์เหมาดูเหมือนจะรับรู้ได้ถึงกำลังใจของเจ้านายตัวน้อย มันรีบเลือกหินก้อนโตและกระโดดโดดขึ้นไป เห่าให้ฉินห้าวตงสองครั้ง

 “ เอาก้อนนั้น ”

หินดิบก้อนนี้แพงกว่าหินก้อนก่อนหน้านี้เล็กน้อย มันมีราคาแปดพันหยวน ฉินห้าวตงจ่ายเงินและขอให้เจ้าหน้าที่ลากมันมาให้

ซุนติงกั๋วใช้เวลาเลือกเร็วกว่าเฝิงเทียนต๋ามาก ไม่ถึงสิบนาทีเขาก็เลือกหินดิบมาหนึ่งก้อน

 “ ใครจะเริ่มก่อน ? ”

เฉียนตัวตัวถามอีกครั้ง

 “ พวกเราเหมือนเดิม ฉันไม่เชื่อว่าเราจะไม่สามารถเอาชนะไอ้บ้านนอกนี้ได้ ! ”

เฝิงเทียนต๋าตะโกนอย่างโมโห เขาคิดว่าฉินห้าวตงอาจจะดวงดีแค่ครั้งแรก แต่ต้องไม่มีครั้งที่สองอย่างแน่นอน และอีกอย่างซุนติงกั๋วเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหยกที่บริษัทของเขาจ้างมาด้วยเงินมหาศาล ครั้งนี้เขาไม่มีทางแพ้แน่นอน

คนตัดหินสองคนยกหินขนาดใหญ่ไปที่เครื่องตัดและเริ่มทำการตัดอย่างชำนาญ

ในไม่ช้าก็มีแสงสีเขียวเปล่งประกายออกมา หยกทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าก้อนหนึ่งปรากฏขึ้นท่ามกลางสายตาของทุกคน

แม้ว่าหยกจะไม่ใหญ่เกินไป แต่ขนาดของมันเท่ากับอิฐแดง และยังมีคุณภาพดีมากอีกด้วย

 “ ช่างเป็นหยกที่สวยงามจริง น่าจะเป็นชนิดเนื้อข้าวเหนียวนะ...... ”

 “ คุณซุนนี่เก่งจริงๆ ฉันได้ยินมาว่าเงินเดือนของเขาสูงถึงหนึ่งล้านหยวนเลย ดูเหมือนจะสมราคาค่าจ้าง...... ”

 “ หนุ่มน้อยคนนั้นต้องจบเห่แน่ แม้ว่าเมื่อกี้นี้เขาจะได้หยกเนื้อน้ำแข็ง แต่โชคดีไม่ได้อยู่ที่คนๆ เดียวเสมอไปหรอก ครั้งนี้เขาแพ้ราบคาบแน่นอน...... ”

ซุนติงกั๋วมีชื่อเสียงคร่ำหวอดในวงการหยกมาก หลังจากที่เขาออกโรงเอง ทุกคนก็รู้ถึงชะตากรรมของฉินห้าวตงแล้ว

อย่างแรกเลยเพราะฉินห้าวตงยังเด็กเกินไป อย่างที่สองคือการเลือกหินหยกด้วยสุนัขนั้นไร้สาระ ไม่มีใครมั่นใจในตัวเขาหรอก

ไม่นานก็ถึงเวลาตัดหินของฉินห้าวตง เนื่องจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ คนตัดหินยังคงกลึงมันอย่างตั้งใจแม้ว่าเขาจะคิดว่าหินก้อนนี้คงสู้ของซุนติงกั๋วไม่ได้ก็ตาม

เมื่อเวลาผ่านไป เศษหินกระเด็นออกมา คนตัดหินกลึงไปลึกมาก แต่ก็ยังไม่มีสีเขียวปรากฏขึ้น ในทางตรงข้ามสีของเศษหินยิ่งดำเข้มขึ้นเรื่อยๆ

 “ แน่นอนว่ามันจบเห่แล้ว...... ”

 “ ดูสิ ไม่มีสีเขียวเลยแม้แต่นิดเดียว ฉันบอกแล้วว่าโชคดีไม่ได้อยู่กับคนๆ เดียวเสมอไปหรอก...... ”

“ สุดท้ายแล้วการพนันหินก็ต้องพึ่งความสามารถอยู่ดี ชายหนุ่มคนนี้ไม่ค่อยใช้ความสามารถหรอก เนื่องจากเขาเลือกหินด้วยสุนัข ดังนั้นมันจึงเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะแพ้......”

ฉินห้าวตงยังคงแปลกใจเล็กน้อย จริงอยู่ที่เขาไม่ได้เชี่ยวชาญด้านหยก แต่เขาเลือกมันด้วยพลังวิญญาณ เห็นได้ชัดว่าหินดิบก้อนนี้มีพลังวิญญาณที่เข้มข้นแผ่ออกมา แต่ทำไมจนถึงตอนนี้ยังไม่เห็นหยกล่ะ? หรือว่าวิธีของเขามีอะไรผิดพลาด?

ในตอนนี้เอง อยู่ๆ เฉียนตัวตัวก็ตะโกนขึ้น “ หยุด ! ”

คนตัดหินทั้งสองคนไม่รู้ว่าทำไม แต่พวกเขาก็หยุดตามคำสั่ง

เฉียนตัวตัวเดินไปตรงหินก้อนนั้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาย่อตัวลงแล้วเช็ดมันอย่างตั้งใจ

ผู้ชมทุกคนต่างกำลังสงสัยว่าประธานสมาคมหินหยกคนนี้กำลังทำอะไรอยู่

พริบตาเดียว อยู่ๆ เฉียนตัวตัวก็ตื่นเต้นขึ้นมา เขาลูบหินด้วยมือที่สั่นเทา แล้วพูดพึมพำ “ เนื้อน้ำแข็งดำ มันคือเนื้อน้ำแข็งดำจริงๆ ด้วย ! ”

 “หมายความว่าไง ? ประธานเฉียนพูดว่าอะไรนะ ? อะไรคือเนื้อน้ำแข็งดำ ? ”

 “ ฉันเคยได้ยินมาว่า หยกเนื้อน้ำแข็งดำเป็นหยกสีดำชนิดหนึ่ง แต่ฉันอยู่ในอุตสาหกรรมหยกมาเป็นเวลาหลายปี แค่เคยได้ยิน ไม่เคยเห็นของจริง...... ”

 “ เด็กหนุ่มคนนี้คงไม่โชคดีขนาดนั้นหรอกมั้ง ทำไมเขาถึงเจอหยกหายากได้ล่ะ? ”

หลังจากได้ยินคำพูดของเฉียนตัวตัว ซุนติงกั๋วก็ย่อตัวลงและดูหินอย่างละเอียด “ มันดูเหมือนกับหยกน้ำแข็งดำจริงๆ ด้วย”

 

จบตอน

 

รีวิวผู้อ่าน