px

เรื่อง : คุณพ่อยอดหมอเทวดา (重生之奶爸医圣)
ตอนที่ 70 หยกเขียวจักรพรรดิ


ตอนที่ 70 หยกเขียวจักรพรรดิ

 

ฉินห้าวตงชิงส่งต้าเหมาและเอ้อร์เหมาออกไปก่อนที่กู่เทียนเฟิงจะทันได้ขยับตัว มันดูเหมือนเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ฉินห้าวตงมีเหตุผลของตัวเอง

เขารู้เป็นอย่างดีว่ากู่เทียนเฟิงเป็นที่รู้จักกันในนามของปรมาจารย์ด้านหินหยก เขาต้องมีทักษะเฉพาะเจาะจงแน่นอน

เขากว้านซื้อหินดิบจากโซนเกรด D ไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว เหลือแค่ก้อนที่มีพลังวิญญาณเข้มข้นที่สุดแค่ก้อนเดียวเท่านั้น แต่ตอนแรกที่เขาไม่ได้เลือกมันเพราะไม่อยากให้เป็นจุดสนใจของผู้คนมากเกินไป เขาคิดว่ารอให้เสร็จสิ้นการเดิมพันแล้วค่อยกลับมาซื้อมัน

แต่ตอนนี้กู่เทียนเฟิงได้มาแล้ว ถ้าเขาไม่ล่วงหน้าไปก่อน เกิดชายแก่นี่เลือกหินก้อนนั้นไป มีหวังเป็นปัญหาแน่ พอถึงตอนนั้นเขาต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

เพราะเหตุผลนี้เอง เขาจึงสั่งให้ต้าเหมาและเอ้อร์เหมารีบวิ่งไปที่หินก้อนนั้น

มันเป็นหินที่มีขนาดใหญ่มาก มีขนาดสูงเท่าคน หากพูดกันโดยทั่วไปคือโอกาสที่จะมีหยกน้อยมากถ้าไม่มีเชื้อรา รอยแตกและลวดลายเกล็ด และหินก้อนนี้ไม่มีอะไรเลย มันดูไม่แตกต่างจากหินแกรนิตธรรมดาๆ ดังนั้นมันจึงถูกวางไว้ที่โซนเกรด D

ต้าเหมาและเอ้อร์เหมากระโจนเข้าใส่หินพร้อมกัน แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะกระโดดขึ้นไป ในที่สุดพวกมันทั้งสองก็วิ่งไปมาแล้วยกขาฉี่รดไปที่หิน เหมือนเป็นสัญลักษณ์ว่าพวกมันเลือกหินก้อนนี้

“ เอาล่ะ ในเมื่อสุนัขทั้งสองตัวของผมชอบหินก้อนนี้ งั้นผมเลือกมัน ” ฉินห้าวตงพูด

แม้ว่าหินก้อนนี้จะใหญ่ที่สุดในโซน แต่ราคาของมันกลับมีมูลค่าแค่สองพันหยวนเท่านั้น ฉินห้าวตงจ่ายเงิน จากนั้นมีคนงานแปดคนเดินออกมาพร้อมกันเพื่อทำการเคลื่อนย้ายหินก้อนนี้มาให้

กู่เทียนเฟิงไม่ได้สนใจอะไร เขาเดินไปและเริ่มเลือกหินของเขา

เขาขมวดคิ้วขณะเลือก เมื่อดูจากลักษณะผิวของมันทำให้รู้ว่าหินทั้งหมดนี้เป็นหินที่มาจากเหมืองเก่าของประเทศพม่าทั้งหมด แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ไม่มีก้อนไหนต้องตาเขาเลย

แต่เขาจะไปรู้ได้ยังไงว่าหินดิบที่นี่ถูกฉินห้าวตงกว้านซื้อไปจนเหลือแค่ไม่เท่าไรแล้ว ยิ่งหลังจากการเดิมพันสองครั้งนั้น เรียกได้ว่ามันแทบไม่มีเหลือ ดังนั้นมันจึงยากมากที่จะหาหินดิบคุณภาพสูง

ด้วยเหตุนี้เอง กู่เทียนเฟิงจึงใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงถึงจะเลือกหินก้อนที่เขาพอจะยอมรับคุณภาพของมันได้ แล้วให้คนงานลากมันมาให้

ในเมื่อทั้งสองคนเลือกเสร็จแล้ว เฉียนตัวตัวจึงถามตามปกติ “ ใครจะเริ่มก่อน ? ”

“ ฉันไม่รังแกเด็กรุ่นอ่อนกว่าหรอก ให้เขาเริ่มก่อน ” กู่เทียนเฟิงพูด

“ ได้ งั้นผมเริ่มก่อน ” ฉินห้าวตงตอบรับ

จากนั้นเขาก็ให้คนตัดหินตัดหินก้อนใหญ่นี้ เนื่องจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ถึงสองครั้ง คนตัดหินก็ยังขัดมันอย่างจริงจัง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มองว่าหินก้อนนี้เป็นของดีก็ตาม

หินก้อนนี้มีขนาดใหญ่มาก หลังจากที่เทน้ำลงบริเวณบางส่วนแล้ว มันก็ยังคงไม่เห็นอะไร ในที่สุดหลังฟังความต้องการของฉินห้าวตง คนตัดหินทั้งสองจึงตัดลงไปยังใจกลางหินก้อนใหญ่โดยตรง

ทุกคนมองดูว่าชายหนุ่มคนนี้จะทำให้ประหลาดใจอีกไหม แต่ผลลัพธ์กลับทำให้ทุกคนผิดหวัง หลังจากหินถูกตัด พบเพียงพื้นที่สีขาวขนาดใหญ่แสดงออกมา ไม่มีร่องรอยสีเขียวเลยแม้แต่น้อย

“ พลาดแล้ว พลาดจริงๆ ! ฉันบอกแล้วว่าโชคไม่อยู่กับคนๆ เดียวเสมอไปหรอก…… ”

“ เป็นเรื่องปกติ ฉันก็เห็นมานานแล้วแหละว่าหินนี่ไม่ใช่หินที่ดีอะไรเลย ไม่มีอะไรอยู่ที่ผิวมัน คุณภาพของมันก็แย่จนเกินไป...... ”

ในที่สุดเฝิงเทียนต๋าที่กำลังลุ้นอยู่ก็สงบขึ้น เขาชี้ไปที่ฉินห้าวตงแล้วตะโกนอย่างเหย่อหยิ่ง “ เด็กน้อยเอ๋ย ตอนนี้แกยอมแพ้แล้วหรือยัง ? ”

จากนั้นเขาก็ตะโกนไปที่คนของเขา “ ไปเอาสุนัขสองตัวนั้นมาให้ฉัน “

 “ เดี๋ยวก่อน “  ฉินห้าวตงพูดขึ้น  “ ทำไมรีบนักล่ะ ? ต่อให้ฉันล้มเหลว แต่หินของนายก็ไม่ใช่ว่าต้องมีหยกเสมอไปนี่ อีกอย่างฉันยังตัดไม่เสร็จเลย ”

เฝิงเทียนต๋า พูด – “ ตลกจริง ปรมาจารย์กู่จะเลือกหินที่ไม่มีหยกได้ยังไงกัน เขาไม่เคยพลาดเลยนับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรก ดังนั้นแกแพ้ในการพนันนี้แล้ว ”

ผู้ชมต่างพยักหน้าให้กันและกัน เหตุผลที่ว่าทำไมกู่เทียนเฟิงถึงถูกเรียกว่าปรมาจารย์นั้น เพราะเขาไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง มีเพียงแค่ความสงสัยเดียวคือหยกที่อยู่ในหินนั่นจะมีมูลค่าเท่าไหร่

 “ ทุกอย่างมีทางเป็นไปได้ รอจนกว่าฉันจะตัดเสร็จแล้วกัน ”

จากนั้นเขาก็ให้คนตัดหินตัดหินต่อไป

ท่ามกลางสายตาจับจ้องของทุกคน คนตัดหินทั้งสองคนตัดหินซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่มีร่องรอยสีเขียวให้เห็นเลยแม้แต่น้อย

 “ ยอมแพ้ซะเถอะ ต่อให้แกตัดจนมันละเอียดแกก็หาหยกไม่เจอหรอก ”

เฝิงเทียนต๋าพูดอย่างพึงพอใจ หลังจากเสียพนันต่อเนื่องถึงสองครั้ง ในที่สุดเขาก็ชนะได้ครั้งหนึ่งแล้ว

คนตัดหินพยายามอย่างมากจนเหงื่อท่วมตัว  พวกเขาจึงพูดขึ้นเช่นกัน  “ ใช่แล้วน้องชาย จากประสบการณ์หลายปีของฉัน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีหยกในหินนี้ ”

ผู้คนทั้งหมดต่างมีความคิดว่าฉินห้าวตงแพ้แล้ว รวมถึงเฉียนตัวตัวและต้าเหมากับเอ้อร์เหมาที่เริ่มรู้สึกเสียใจแล้ว โชคร้ายที่สุนัขพันธ์ทิเบตันหิมะเลือดบริสุทธิ์จะต้องถูกเอาไปแล้ว

ฉินห้าวตงกลับไม่ยอมแพ้ เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีพลังวิญญาณที่กล้าแกร่งอยู่ท่ามกลางเศษหินก้อนนั้น เพียงแต่ว่ามันไม่ดึงดูดสายตาผู้คน จึงไม่ได้ทำการตัดเศษหินนั่น

ตอนนี้เวลาเกือบจะหมดแล้ว เขาจึงพูดกับคนตัดหินทั้งสองคนว่า “ พวกคุณทั้งสองไปพักเถอะ ขอผมลองหน่อย ”

จากนั้นเขาก็ลงมือตัดหินด้วยตัวเอง หลังจากตัดหินเป็นสองส่วนต่อเนื่องกัน ครั้งที่สามเขาเอาเศษหินที่มีพลังวิญญาณจำนวนมากออกมาได้

เมื่อกำหินไว้ในมือ การรับรู้ของพลังวิญญาณยิ่งชัดเจนมากขึ้น เขาตัดหินส่งเสียงชวนบาดแก้วหูอีกครั้ง ดีที่ตัดไปโดนบริเวณที่มีพลังวิญญาณกล้าแกร่งพอดี

 “ ชายหนุ่มนี่หัวดื้อจริงๆ ถ้าหินก้อนนี้มีหยกจริงๆ ฉันจะกินมันให้ดู....... ”

 “ ไม่แปลกหรอก สุนัขสองตัวนั้นมีมูลค่าถึงสามสิบล้านหยวนเชียวนะ ถ้าเสียมันไปคงเศร้าใจไม่น้อย...... ”

ขณะพูดคุยกันอยู่ ทันใดนั้นชายคนนั้นก็ตะลึงกับภาพที่เห็นอยู่ในมือของฉินห้าวตง “ สีเขียวออกมาแล้ว! พระเจ้าช่วย นี่ฉันไม่ได้มองผิดไปใช่ไหม? มันมีสีเขียวออกมาจริงๆ ”

อยู่ๆ ดวงตาของเฉียนตัวตัวก็เปิดกว้าง เขาเดินไปที่ฉินห้าวตงแล้วหยิบหินที่อยู่ในมือของฉินห้าวตงขึ้นมามองอย่างละเอียด แล้วอุทานด้วยความตกใจ “ เขียวจักรพรรดิ มันคือหยกเขียวจักรพรรดิบริสุทธิ์ ”

 “ น้องชาย ขอฉันจัดการที่เหลือเอง อย่าทำมันพังเด็ดขาดเชียวนะ มันเป็นหยกเนื้อเขียวจักรพรรดิบริสุทธิ์ที่ดีที่สุด ”

หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็ไม่รีรอให้ฉินห้าวตงได้ตอบรับ เขาเปิดสวิตช์ไฟเครื่องตัดหินแล้วเริ่มขัดมันอย่างระมัดระวังและนุ่มนวลราวกับว่าของที่ถืออยู่ในมือเป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุด

เมื่อได้ยินเสียงอุทานของเฉียนตัวตัว กู่เทียนเฟิงก็เดินเข้ามาและนั่งลงด้วยสีหน้าที่คาดเดาความคิดไม่ออก เขามองดูหินหยกก้อนนี้อย่างตั้งใจ

ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ในที่สุดเฉียนตัวตัวก็ขัดหินเสร็จ เขาหยิบอ่างน้ำที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาแล้วเทน้ำสะอาดลงไปที่มันอย่างระมัดระวัง ไม่นานหยกสีเขียวคุณภาพดีที่สุดก็ปรากฏต่อสายตาผู้คน

หยกมีขนาดไม่ใหญ่มาก มีขนาดใหญ่กว่าลูกเทนนิสเล็กน้อยเท่านั้น รูปทรงกลมและเรียบ สีเขียวของหยกนั้นบริสุทธิ์เหมือนกับน้ำในฤดูใบไม้ผลิ ไม่มีสิ่งเจือปนเลยแม้แต่น้อย

 “ เขียวจักรพรรดิ หยกเขียวจักรพรรดิจริงๆ ด้วย! ” เฉียนตัวตัวตะโกนด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับชูหยกที่อยู่ในมือของเขา

 “ โอ้พระเจ้าช่วย ชายหนุ่มนี่เป็นใครกัน ? ทำไมเขาถึงโชคดีได้ขนาดนี้ ? ”

 “ หยกเขียวจักรพรรดิเนื้อน้ำแข็ง ฉันแก่ปูนนี้แล้วยังไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ช่างเป็นบุญตาของฉันจริงๆ ...... ”

 “ นายเพิ่งบอกว่าถ้ามีหยกในนั้นนายจะกินมัน ตอนนี้มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นหยกเขียวจักรพรรดิเนื้อน้ำแข็งของจริง ทำไมนายไม่ไปกินมันล่ะ ? “

 “ นายล้อเล่นรึเปล่า ? แม้ว่าฉันอยากจะกินมัน แต่พวกเขาก็ไม่ให้ฉันอยู่ดี นายรู้ไหมว่าหยกเขียวจักรพรรดิเนื้อน้ำแข็งมันมีราคาเท่าไหร่ ใครจะไปให้ฉันกินล่ะ ? ”

 “ น้องชาย นี่เป็นของนาย ” เฉียนตัวตัวส่งหยกเขียวจักรพรรดิที่อยู่ในมือของเขาให้กับฉินห้าวตงอย่างฝืนใจ แม้ว่าเขาจะชอบมันมากแต่เขาก็รู้ว่ามันไม่ใช่ของเขา

 “ ประธานเฉียน ลูกบอลนี้มีมูลค่าเท่าไหร่เหรอ ? คุณช่วยประเมินมันหน่อยได้ไหม ? ”

ฉินห้าวตงรับหยกมาและถามกลับไป

 “ ลูกบอล! ” เฉียนตัวตัวเกือบสำลักน้ำลายตัวเองตาย มีคนเรียกหยกเขียวจักรพรรดิแบบนี้ด้วยเหรอ มันช่างน่าอับอายเสียจริง

แต่ของสิ่งนี้เป็นของคนอื่น เขาจึงไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งอะไรมากมาย ดังนั้นเขาจึงกระแอมพลางพูดขึ้น “ ปกติแล้วหยกเขียวจักรพรรดิจะขายโดยวัดน้ำหนักเป็นกรัม ราคาตลาดปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ หนุ่งแสนหยวนต่อกรัม และหยกของนายอยู่ประมาณห้าร้อยกรัม...... ”

ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดจบ ท่ามกลางฝูงชนก็เกิดเสียงฮือฮาดังขึ้น ชายหนุ่มคนนี้ดวงดีเกินไปแล้ว แค่สุนัขสองตัวเดินไปฉี่รดหิน ก็ได้หยกมูลค่าราวห้าสิบล้านเลยเหรอ

เมื่อเสียงรอบข้างเงียบลง เฉียนตัวตัวก็พูดต่อ “ แต่สิ่งที่ฉันกำลังพูดถึงเป็นราคาสะเก็ดของเขียวกษัตริย์เท่านั้น ซึ่งสามารถทำเป็นแค่เครื่องประดับ ชิ้นที่ใหญ่และสมบูรณ์แบบนี้มีมูลค่ามากกว่า ห้าสิบล้านหยวนแน่นอน ขายได้ร้อยล้านหยวนยังถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ”

 “ โอ้พระเจ้าช่วย มันมีมูลค่ากว่าร้อยล้านหยวนเลยเหรอ ฉันจะบ้าตาย ทำไมฉันไม่เลือกได้หินแบบนี้บ้างนะ...... ”

 “ หินนี่วางอยู่ตรงนี้มาทั้งวัน ทำไมฉันไม่เลือกมัน ? ทำไมฉันไม่เลือกมัน......? ”

เมื่อมองหยกเขียวจักรพรรดิที่อยู่ในมือของฉินห้าวตง คนหลายคนก็ต่างพากันอิจฉาจนแทบจะคลั่ง

 “ ป่าป๊า ลูกแก้วนี้สวยจัง ถังถังอยากได้ลูกแก้ว ”

แม่หนูน้อยไม่รู้ว่าอะไรคือหยกเขียวจักรพรรดิ ในสายตาของเธอมันก็แค่ลูกแก้วสวยงาม ขณะที่พูดเธอยื่นมือไปหาฉินห้าวตง

 “ อะ เอาไปเล่นเลย! ” ฉินห้าวตงพูดแล้วยื่นหยกในมือให้กับแม่หนูน้อย

ตอนนี้เองทุกคนต่างพากันอ้าปากค้าง นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? เขาเห็นหยกเขียวจักรพรรดิมูลค่าร้อยล้านเป็นลูกแก้วแล้วเอาไปให้เด็กเล่นเนี่ยนะ ถ้ามันตกพื้นขึ้นมาล่ะ ?

ถังถังรับหยกเขียวจักรพรรดิมาถือเล่นไว้ในมือ ฉินห้าวตงไม่ได้สนใจมันเลยแม้แต่นิดเดียว ส่วนคนอื่นต่างใจตุ้มๆ ต่อมๆ กลัวว่ามันจะตกพื้น

ในตอนนี้เฉียนตัวตัวมองไปที่กู่เทียนเฟิง การพนันยังไม่จบลง ตอนนี้มันควรดำเนินต่อไปได้แล้ว

 “ คุณกู่ ถึงตาคุณแล้ว ”

ตอนนี้ทุกคนสังเกตเห็นว่ากู่เทียนเฟิงคนที่งเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังเมื่อกี้นี้ ในเวลานี้ดูเหมือนจะสติหลุดลอยไปแล้ว ดวงตาของเขาดูเลื่อนลอย หลังจากที่เขาได้ยินเฉียนตัวตัวถาม เขาจึงพูดพึมพำออกมา “ ไม่ล่ะ ฉันยอมแพ้ ”

ไม่น่าแปลกใจเลยว่าเขาจะยอมแพ้ได้ง่ายดายเช่นนี้ เขาพนันหยกมาทั้งชีวิตและไม่เคยเลือกได้หยกเขียวจักรพรรดิเลย ในเวลานี้พอได้เห็นหยกเขียวจักรพรรดิในมือของฉินห้าวตง เขารู้เลยว่าเขาไม่สามารถเอาชนะได้เลยไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม

ถ้าเขาแพ้ให้กับระดับปรมาจารย์คนอื่นมันก็ยังพอยอมรับได้อยู่ แต่เขากลับแพ้ให้กับชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปี แถมหินยังถูกเลือกโดยสุนัขอีก ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป มีหวังเขาคงอับอายเกินกว่าที่จะอยู่ในวงการหยก

ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว กู่เทียนเฟิงหมดอาลัยตายอยาก เขาประกาศต่อหน้าสาธารณชนว่าเขาจะวางมือจากการเป็นนักประเมินหยก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเขาจะไม่ทำการประเมินหยกอีก จากนั้นเขาก็เดินออกจากลานขายหยกไปอย่างโดดเดี่ยว

การไปของเขาในครั้งนี้ ทำให้ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ฉินห้าวตง ชายคนนี้เป็นคนแบบไหนกัน ? เอาชนะพนันในสามเกมรวดด้วยสุนัขสองตัว และยังทำให้กู่เทียนเฟิงวางมือจากวงการนี้ได้

 

จบตอน

 

รีวิวผู้อ่าน