px

เรื่อง : ระบบมหานครคนเถื่อน (都市枭雄系统)
ตอนที่  4 ปรมาจารย์ขั้นแปด


ตอนที่  4 ปรมาจารย์ขั้นแปด


เขาไม่รู้ว่าการอ่านในโลกออนไลน์นั้นพัฒนาขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ ตระหนักถึงลิขสิทธิ์ที่เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างจริงจัง  แต่เจียงป๋ายเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นใหม่  อาจจะเรียกได้ว่านี่เป็นการบุกเบิกความสำเร็จตามธรรมชาตินั้นดีกว่าสิ่งที่เขาคิดโดยไม่รู้ตัวหลายครั้ง
“ยินดีด้วยพ่อหนุ่มน้อย  ได้รับชื่อเสียงเป็นครั้งแรก  ได้รับคะแนนเกียรติยศไป12คะแนน”
ในขณะที่เจียงป๋ายถอนหายใจถึง จูเซียน อย่างหนัก  เสียงของระบบก็ดังขึ้นในหัวของเจียงป๋าย
“คะแนนเกียรติยศ 12 คะแนนอย่างนั้นเหรอ?  ฉันทำอะไร?”
เจียงป๋ายงงๆ  มีบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจ  เขาแค่หลับไปเท่านั้นไม่ได้ทำอะไรเลย  แล้วทำไมถึงได้รับตั้ง 12 คะแนน”
อยากรู้ว่าเมื่อวานเขาได้รวบรวมความกล้าตีหัวหลิวปินไปเจ็ดทีและได้รับห้าคะแนน หรือแค่นอนหลับก็ได้รับสิบสองคะแนนแล้วเหรอ? 
“ชื่อเสียงก็เป็นเกียรติยศประเภทหนึ่งนะ  พ่อหนุ่มน้อย  ชื่อเล่นของคุณที่ชื่อเจียงป๋ายในตอนนี้ฮอตมาก  เป็นที่รู้จักกันดีในคนหมู่มาก ดังนั้นคุณก็สามารถที่จะได้รับคะแนนเกียรติยศไง”
แต่น่าเสียดาย  .......  ชื่อเสียงของคุณนั้นมีเวลาจำกัดและวิธีการนี้ทำให้ชื่อเสียงค่อนข้างต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก  การมีหนึ่งร้อยคลิกจากการสร้างคำสั่งของคุณก็สามารถสร้างความสนใจได้สูงมากและหนึ่งคนที่มีความสนใจ อย่างมากก็จะทำคะแนนเกียรติยศให้คุณได้หนึ่งเปอร์เซ็นต์ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้รับคะแนนเกียรติยศเล็กๆน้อยๆจากการคลิก  หนึ่งแสนสองหมื่นคลิกนั้นเพียงแค่สิบสองคะแนนเท่านั้นเอง!
ยินดีด้วยพ่อหนุ่มน้อย  คุณยังมีอีกวิธีหนึ่งที่จะได้รับคะแนนเกียรติยศ เส้นทางของคุณที่จะนำไปสู่ความยิ่งใหญ่นั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อมเท่านั้น”
ระบบตอบคำถามของเจียงป๋ายอย่างรวดเร็วทำให้เจียงป๋ายนั้นรู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ตอนแรกเขายังคงกังวลเกี่ยวกับวิธีที่จะได้รับคะแนนเกียรติยศอยู่ และในตอนนี้ดูเหมือนว่าตัวเองนั้นจะได้พบกับหนทางในการได้รับคะแนนเกียรติยศแล้ว
หนึ่งแสนสองหมื่นคลิกในหนึ่งคืนอย่างนั้นเหรอ  ถ้าอย่างนั้นจะเป็นอย่างไรถ้ารอให้เขียนหนังสือเล่มนี้จบ?
ถ้าตามผลตอบรับที่เห็นในวันนี้ อย่างน้อยๆต้องมีหนึ่งพันล้านคลิกเลย!
ถ้ารู้ว่าในชั่วชีวิตนี้ จูเซียน จะมีสามล้านคลิกแล้วล่ะก็  ซึ่งมันจะต้องสูงกว่านี้แน่นอน  หากมีมากกว่าร้อยล้านคนจะมีคะแนนเกียรติยศนับหมื่น  เมื่อคิดคิดดูแล้วมันก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมานิดหน่อย
“แต่น่าเสียดาย  น่าเสียดายที่ฉันจำได้แค่หนังสือสองเล่มนี้ได้  จูเซียน นั้นยังสั้นไปหน่อย  เฮ้  ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับอนุญาตสำหรับวิธีการในการขโมยวรรณกรรมนี้นะ  หรือควรจะคิดให้ดีถึงสิ่งที่ควรจะทำและเรื่องที่สำคัญที่สุด  กินข้าวก่อนคอยแก้ปัญหานี้ละกัน”                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                  
เฮ้อ เสียงถอนหายใจดังออกมา  เจียงป๋ายโยนเรื่องนี้ทิ้งไว้ข้างหลัง  17 คะแนนเกียรติยศที่อยู่ในมือ แม้ว่าเจียงป๋ายจะบอกว่าต้องแก้ปัญหาเรื่องอาหารการกินก่อน แต่เขากลับไม่รีบร้อน
จัดการสิ่งที่อยู่ในมือให้เสร็จก่อนมันถึงจะเป็นหลักการที่ถูกต้อง
“เพี๊ยะ เพี๊ยะ”  เจียงป๋ายเริ่มต้นชีวิตของเขาด้วยการทำงานหนักอีกครั้ง
ผ่านไปหนึ่งเดือนโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าได้ทำหนังสือออกมาหนึ่งร้อยยี่สิบสองล้าน  เจียงป๋ายเขียนถึงชีวิตของเขาได้อย่างสมบูรณ์
อัพเดตสองแสนบทฟรี  หนังสือของเจียงป๋ายถูกวางไว้บนชั้นวางอย่างน่าอัศจรรย์ภายในระยะเวลา  20  วัน อีกทั้งยังได้รับการสั่งจองตีพิมพ์และได้รับรางวัลจำนวนมาก รวมๆแล้ว เก้าร้อยแปดสิบเอ็ดล้านคลิก ชุดแรกได้หนึ่งเจ็ดหมื่นแสนคลิก  เฉลี่ยทั้งหมดแล้วหนึ่งแสนคลิก นั่นทำให้เจียงป๋ายมีรายได้มหาศาล
บนชั้นวางในวันเดียวกันนั้นเองเขายังส่งบทความไปอีกกว่าแสนตัวอักษร  จึงทำให้เกิดกระแสตอบรับต่างๆมากมาย
จูเซียน เหมือนกับพายุที่ถาโถมมาอย่างรุนแรงส่งผ่านไปทั่วทั้งโลกออนไลน์ เกือบทุกคนที่ได้เห็นและล้วนพูดคุยกันถึงเรื่องของชิงยวิ๋นเหมิน  จางเสี่ยวฟ๋าน  เป็นต้น  ซึ่งเป็นคำที่ถูกพูดถึงกันอย่างยาวนานมาก
ผลประโยชน์ที่ได้รับค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ  บวกกับรางวัลจากผู้เข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมด  นอกเหนือจากเว็บไซต์แล้วเจียงป๋ายก็ตาลุกวาว  แปลกใจที่พบว่าตัวเองจะสามารถได้รับมากกว่าสามล้านแปดแสนคลิก  แน่นอนว่าราคาของหนังสือเล่มนี้ได้รับการปรับใหม่เกือบครึ่งหนึ่ง  แต่ถึงอย่างนั้นเจียงป๋ายเองก็ยังรู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะลุกขึ้นกระโดดไปมา
“ตั้งสามล้านแปดแสนกว่าเลยอ่ะ  เมื่อเดือนที่แล้วยังคงกังวลเกี่ยวกับเรื่องอาหารการกินอยู่เลย ตอนนี้แค่ตดก็ออกมาเป็นเงินแล้ว  ต่อไปกินมาม่าก็สามารถเพิ่มไส้กรอกแฮมสักสองสามอันได้เลย ... เฮ้!ฉันจะไม่กินมาม่าอีกต่อไป!”
“มีเงินแล้วจะทำอะไรเหรอ?”
เจียงป๋ายเริ่มครุ่นคิดอย่างใจเย็น  เมื่อพูดถึงความรู้สึกพิเศษเกี่ยวกับเอ้อร์พ่างเพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของเงินที่ได้รับมาในวันนี้  ส่วนที่เหลือจะได้รับในวันที่สิบเดือนหน้า  ดังนั้นปัญหาก็คือวิธีการใช้เงินยังไงล่ะ
อย่างแรกจะต้องซื้อบ้าน
เอ่อ  ได้รับแล้วนะ  ห้องนี้ของเทียนตู้ราคามากกว่าสามล้าน เป็นแบบสองห้องนอน  เจียงป๋ายไม่ได้บ้าไปแล้วใช่ไหมและแน่นอนว่าเงินนี้ก็ถูกใช้ไปแล้ว

มันเป็นความจริงที่จะได้รับรางวัลสำหรับอาหารที่ดีเมื่อคุณได้รับเงินสำหรับส่วนที่เหลือ  เอาไว้ค่อยคุยกันอีกที

คิดมาถึงตรงนี้เจียงป๋ายก็ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไป
หนังสือก็เขียนเสร็จแล้ว  เขาเลยไม่มีอะไรที่ต้องทำ  ใช้เวลาว่างสองวันอย่างสบายๆ  ส่วนเรื่องราวหลังจากนั้นไว้ค่อยคุยกันอีกที
“ติ๊ง ต่อง!  ยินดีด้วยพ่อหนุ่มน้อย  ชื่อเสียงเพิ่มขึ้นแล้ว  การติดตั้งBครั้งแรกนั้นประสบความสำเร็จ   ไม่เพียงแต่จะสร้างเงินให้แล้วแต่ยังได้รับคะแนนกียรติยศอีกด้วย
ยินดีด้วยพ่อหนุ่มน้อยที่คุณสะสมได้ครบหนึ่งพันคะแนนแล้ว  ได้รับโอกาสสุ่มสลากฟรีหนึ่งครั้ง
การจับสลากรางวัลฟรีในครั้งต่อไปก็เมื่อได้รับครบ  10,000 คะแนนความนิยม หรือใช้คะแนนพันคะแนนสำหรับการจับรางวัลหลักหรือ 10,000 คะแนนสำหรับการจับระดับกลาง”
แค่เก็บของนิดหน่อย  เปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดๆก็พร้อมจะออกไปแล้ว  เจียงป๋ายก็ได้ยินเสียงนี้กังขึ้นจึงทำให้เขาต้องหยุดเดิน
วินาทีต่อมาเครื่องสล๊อตก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งต่อหน้าเจียงป๋าย  มันยังคงเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสเก้าช่อง  แต่น่าเสียดายที่ครั้งนี้ไม่ได้เขียนอะไรเอาไว้เลย  ทั้งหมดเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามขนาดใหญ่  มีเพียงแค่สีที่แตกต่างกันเล็กน้อย และไม่มีสีเหลี่ยมสีดำเลย
มีเพียงสีขาวสามช่อง  สีฟ้าสามช่อง  สีม่วงสามช่อง  ในช่องรายการที่ถัดจากสล๊อตไป  เห็นได้ชัดว่าคุณภาพของการจับสลากได้เพิ่มขึ้นมากแต่น่าเสียดายที่เจียงป๋ายไม่เคยเห็นสิ่งที่อยู่ตรงกลาง
ไม่มีอะไรที่ต้องลังเลเมื่อมองไม่เห็นมัน  แค่หลับตาและหันหลังกลับ
เครื่องสล๊อตเริ่มหมุนอย่างบ้าคลั่ง  “ซัว ซัว ซัว”  เสียงหมุนเร็วมาก  ผ่านไปสักพักก็หยุดอยู่เหนือช่องสี่เหลี่ยมสีม่วง
“ยินดีด้วยพ่อหนุ่มน้อย  ได้รับรางวัลสีม่วง  เป็นปรมาจารย์ขั้นแปด
ในวินาทีต่อมา  ร่างกายของเจียงป๋ายเริ่มสั่นเทา  พลังงานที่เพิ่มขึ้นจากที่ว่างเปล่า  ถูกเติมลงไปร่างของเจียงป๋ายทั้งหมด  เขาดูเหมือนจะอยู่ในเมทริกซ์ เกิดความรู้สึกอบอุ่นที่ไม่สามารถบรรยายได้
ก็ไม่รู้ว่านานแค่ไหน  เมื่อเจียงป๋ายตื่นขึ้นมาอีกครั้ง  ดวงอาทิตย์ที่ร้อนระอุที่ขึ้นตระหง่านตอนกลางวันได้หายไปแล้วและแทนที่ด้วยแสงจันทร์ที่สดใส
เขาบิดขี้เกียจไปมา  เจียงป๋ายพบว่าตัวเองมีอะไรสีดำบางอย่างเหนียวๆติดอยู่และมีกลิ่นเหม็นมาก  ถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว
ในขณะเดียวกันนั้น  ท่าหมัดทั้งแปดของเจียงป๋ายนั้นเขารับรู้ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ดูเหมือนว่าจะเป็นทักษะในการฝึกฝนมานานหลายทศวรรษ  เพียงแค่ปล่อยหมัดเดียวในมือก็มีเสียงคำรวมของที่เสือดาวและเสียงฟ้าร้อง เสียงลมก็ดังต่อเนื่องออกมา
เจียงป๋ายรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิม ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังราวกับว่าเขาสามารถฆ่าวัวด้วยมือเปล่าได้
ที่จริงแล้วเขาเป็นปรมาจารย์ที่แท้จริงของท่ามวยทั้งแปด   มันไม่ยากที่จะฆ่าวัวด้วยหมัดเดียว  แต่เจียงป๋ายแค่ไม่รู้อย่างแน่นอน
ในโลกนี้มีทั้งไทเก๊ก  การต่อสู้ด้วยหมัดมวยทั้งแปดท่า  หรืออาจจะพูดได้ว่า  หมัดทั้งแปดท่านั้นมีความรุนแรง
อาบน้ำแล้ว  เจียงไป๋ก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างกระตือรือร้น  เพราะทนต่อเสียงกรีดร้องของท้องไม่ไหวออกไปหาอะไรกินทันที
เขาที่เพิ่งจะออกมาข้างนอกก็ได้เจอกับสาวสวยคนหนึ่ง  สวมชุดเดรสสีชมพูพอดีตัว  ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเจียป๋าย
สาวสวยมากๆคนนี้น่าจะอายุประมาณยี่สิบ  ริมฝีปากรูปเชอร์รี่  นัยน์ตาลูกพีช  จมูกโด่ง  ผิวขาวใสดั่งน้ำ  ช่างเป็นผู้หญิงที่งดงามที่สุดเท่าที่เจียงป๋าบเคยพบมา  นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่สวยน่ามองที่สุดในสายตาและนี่คือดาราหญิงที่สง่างามที่เจียงป๋ายมักเห็นในทีวี
เจียงป๋ายไม่ใช่ภูตผีปีศาจ แต่ว่า.......แต่ก็ไม่สามารถที่จะละสายตาจากคนตรงหน้าไปได้  อดไม่ได้ที่จะมองอีกครั้ง

แต่น่าเสียดายที่คนตรงหน้านั้นกำลังเมาอยู่  จึงได้ยืนพิงกำแพงและมองมาที่เจียงป๋าย  ยิ้มเยาะเย้ยออกมา  ตรงมุมปาก  :  “มองอะไร  ไม่เคยเห็นผู้หญิงเมาเหรอ?”

รีวิวผู้อ่าน