px

เรื่อง : คุณพ่อยอดหมอเทวดา (重生之奶爸医圣)
ตอนที่ 76 บอดี้การ์ดหญิงส่วนตัว


ตอนที่ 76 บอดี้การ์ดหญิงส่วนตัว

 

ฉินห้าวตงเดินไปที่หญิงสาว เขายื่นมือขวาออกไปแล้วทาบลงบริเวณจุดฝังเข็มไป่หู่ซึ่งอยู่กลางหัวของเธอ จากนั้นถ่ายพลังลมปราณแห่งพงไพรเข้าไปช่วยเธอหลอมรวมฤทธิ์ยาเป่ยหยวน

ขณะที่พลังลมปราณแห่งพงไพรเข้าไปในร่างกายเธอ ฉินห้าวตงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าหญิงสาวมีกระดูกที่ยอดเยี่ยมและมีหลอดเลือดที่กว้างกว่าคนทั่วไป เธอมีพรสวรรค์ในการเป็นชาวยุทธอย่างแท้จริง

สิบนาทีผ่านไป ด้วยการช่วยเหลือของฉินห้าวตง ทำให้หญิงสาวทะลุขีดจำกัดในการพัฒนาที่เธอได้ฝึกฝนมาเป็นเวลานาน จนบรรลุขั้นหมิงขอบเขตที่เก้าระดับต้น

ขณะที่รู้สึงได้ถึงพลังลมปราณที่แข็งแกร่งในร่างกายเธอ หญิงสาวดีใจมาก เธอโดดลงจากเตียงและโค้งคำนับฉินห้าวตงพร้อมพูดว่า “ พี่ชาย โปรดรับฉันไว้ด้วยได้ไหม? ”

 “ เธอหมายความว่าอะไร ? ” ฉินห้าวตงถามอย่างสงสัย เขาไม่เข้าใจว่าเธอต้องการจะสื่ออะไร

 “ ในตอนแรกที่หมอดูเสียสติดูดวงให้ฉัน เขาบอกว่าฉันจะเจอกับขีดจำกัดแรกในชีวิตเมื่อฉันบรรลุถึงขั้นหมิงขอบเขตที่แปดซึ่งฉันจะไม่สามารถก้าวผ่านมันไปได้ หากไม่เจอผู้สูงศักดิ์ให้การช่วยเหลือ ”

 “ ในทางตรงกันข้ามถ้ามีคนที่ช่วยฉันให้ก้าวผ่านขีดจำกัดนี้ไปได้ เขาจะเป็นผู้อุปการะของฉัน ฉันต้องอยู่ข้างกายผู้อุปการะคนนั้น เพื่อที่จะได้รับโอกาสครั้งใหญ่ ”

ฉินห้าวตงครุ่นคิดในใจ หมอดูคนนี้เป็นคนที่มีฝีมือสูง สามารถคำนวณได้อย่างแม่นยำว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกหลายปีต่อมา

เขาลองคิดดู แม้ว่ากองกำลังเฉินปิงจะมีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่พวกเขาเป็นผู้ชาย การคุ้มกันหลินโม่โม่ยังมีช่องโหว่อยู่โดยเฉพาะตอนกลางคืน ซึ่งคืนนี้เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด

ตอนนี้มือมืดผู้คอยบงการอยู่เบื้องหลังยังไม่ถูกเปิดโปง มีโอกาสเป็นไปได้ที่เขาจะลอบสังหารหลินโม่โม่อีกครั้ง ถ้าให้หญิงสาวตรงหน้านี้เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของหลินโม่โม่คงเหมาะสมอยู่ไม่น้อย

 “ เอาล่ะ งั้นจากนี้ไปเธอก็คอยติดตามฉัน ฉันชื่อฉินห้าวตง เป็นหมอ ต่อไปนี้เธอเรียกฉันว่าเถ้าแก่แล้วกัน ”

 “ เหยาเชียนเชียนขอบคุณเถ้าแก่ ” – หญิงสาวขอบคุณฉินห้าวตงอย่างเคารพ

 “ ถ้าไม่มีอะไรอีกแล้ว งั้นเธอก็ตามฉันมา ฉันจะหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วยซ่อมแซมสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของเธอให้ ”

 “ ขอบคุณเถ้าแก่ ”

เหยาเชียนเชียนดีใจมาก แม้ว่าเธอจะฝึกฝนมาดีและมีทักษะการขโมย แต่เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการซ่อมแซมบ้านเลย ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเองก็ไม่มีคนที่มีพรสวรรค์ด้านนี้ ถ้าฉินห้าวตง หาผู้เชี่ยวชาญมาช่วยซ่อมให้คงจะดีที่สุด

เธอไม่มีของใช้อะไรมากมาย หลังจากหยิบข้าวของจำเป็นเพียงเล็กน้อยแล้ว เธอก็ออกจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไปพร้อมกับฉินห้าวตง

หลังจากกลับมาที่คฤหาสน์เลขที่ 6 ฉินห้าวตงจึงให้เหยาเชียนเชียนไปเลือกห้องของตัวเอง จากนั้นเขาก็รีบกลับห้องของเขา เขาต้องการให้แหวนมิติจดจำเขาในฐานะเจ้าของให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ข้างในนั้น

หลังจากปิดประตูห้อง เขาถือแหวนมิติไว้กลางฝ่ามือ เขาไม่ได้สังเกตมันอย่างละเอียดขณะที่อยู่ในห้องของเหยาเชียนเชียน ตอนนี้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดสักหน่อย

ตัวแหวนเป็นสีเทาและดูเหมือนจะธรรมดาทั่วไปไม่มีอะไรแปลก แต่หากมองอย่างละเอียดจะพบว่าในตัวแหวนแกะสลักลวดลายอักษรไว้

ถ้าคนอื่นมองจะไม่รู้ว่ามันคือลวดลายอะไร แต่ฉินห้าวตงกลับรู้จักมัน นี่ตัวอักษรโบราณของโลกเซียน แปลเป็นข้อความสมัยนี้ได้ว่า แดนสวรรค์

แม้ว่าเขาจะอ่านมันออก แต่ฉินห้าวตงก็ไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร หรือว่าแหวนมิติวงนี้มาจากนิกายที่มีชื่อว่าแดนสวรรค์หรือกลุ่มฝึกเซียนกลุ่มอื่น ?

เขามองมันอยู่นาน ก็ยังไม่เข้าใจถึงความหมายแฝงของคำนี้ ในที่สุดเขาจึงตัดสินใจไม่คิดถึงมันอีก เขารีบทำให้แหวนจดจำเจ้าของได้

เขาปกคลุมแหวนด้วยพลังวิญญาณเทพที่แข็งแกร่ง เพราะว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีเจ้าของ จึงง่ายต่อการจดจำเขาในฐานะเจ้าของคนใหม่ หลังจากแสงส่องวูบแล้วหายไป บนนิ้วกลางของเขามีรูปแบบวงแหวนสีดำจางๆ ปรากฏขึ้น

ฉินห้าวตงใช้จิตของตัวเองมองไปที่แหวน แล้วเข้าไปในมิติที่ว่างเปล่าทันที

เดิมทีเขามีความคาดหวังต่อแหวนมิติวงนี้เป็นอย่างมาก นึกว่าจะได้รับการถ่ายทอดวิชาฝึกเซียนของชาติที่แล้วจากในมิตินี้ แต่หลังจากเขาเข้าไปก็พบว่ามันว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย

มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เขาพอใจคือมิติในแหวนมิติวงนี้มีขนาดใหญ่มาก มันมีขนาดเกือบหนึ่งร้อยลูกบาศก์เมตร ในขณะที่แหวนมิติของเขาในชาติที่แล้วมีขนาดเพียงไม่กี่สิบตารางเมตรเท่านั้น

ฉินห้าวตงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยหลังจากเข้าไปสำรวจในมิติ ตอนนี้เขาฝึกถึงขั้นหมิงขอบเขตที่เก้าจุดสูงสุด แต่การฝึกตนของเขาคือวรยุทธการฝึกเซียน เขาจำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณเป็นจำนวนมาก หากไม่ใช้พวกสมบัติฟ้าดินหรือศิลาวิญญาณมาช่วยคงยากที่จะฝึกฝนไปถึงขั้นก่งจี

อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย ยังดีที่หลังจากมีแหวนมิติมันจะช่วยให้เขาสะดวกสบายมากขึ้น จากปกติของมากมายหรือพวกยาสมุนไพรที่เขาต้องแบกเอง เขาสามารถใส่พวกมันลงในแหวนมิติได้

หลังจากเก็บของเสร็จแล้ว เขาก็พบว่าตัวเขาเองช่างยากจนเสียจริง

แม้ว่าไม่กี่ชั่วโมงก่อนเขาจะพึ่งชนะพนันที่งานนิทรรศหินหยกจนได้เงินรางวัลมาหนึ่งร้อยสามสิบล้านหยวน แต่เขากลับใช้มันจนหมดในพริบตาเดียว ในกระเป๋าของเขาเหลือเงินสดเพียงไม่กี่แสนหยวนเท่านั้น

เช้าวันต่อมา เมื่อฉินห้าวตงตื่นขึ้น เหยาเชียนเชียนก็มารออยู่ที่หน้าประตูห้องแล้ว หลังจากการฝึกตลอดคืน ในที่สุดขั้นหมิงขอบเขตที่เก้าที่เธอพึ่งบรรลุได้มีความสเถียรภาพมากขึ้น ลมหายใจของเธอสงบและดูหนักแน่น

พวกเขาไปที่คฤหาสน์ตระกูลหลินด้วยกัน ทันทีที่พวกเขาเข้าประตูมา จ้านฝู่และเฉินเปียนก็เดินมาหาพวกเขา

 “ขอโทษครับเถ้าแก่ เมื่อคืนเราปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด โปรดลงโทษเราด้วย ”

เมื่อคืนพวกเขารีบเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลหลิน แต่กลับพบว่าทุกคนที่อยู่ในคฤหาสน์ถูกวางยาสลบหมดแล้ว แต่ยาสลบชนิดนี้มีฤทธิ์ไม่ร้ายแรงมาก แค่ทำให้คนหลับลึกไปในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น

แม้ว่าจะไม่มีใครได้รับอันตราย แต่พวกเขาก็ยังกลัวจนเหงื่อโชก พวกเขารู้สึกผิดต่อความไว้วางใจที่ฉินห้าวตงมีให้พวกเขา ดังนั้นจึงรีบมาขอรับโทษตั้งแต่เช้า

ฉินห้าวตงโบกมือก่อนจะพูดขึ้น “ ลืมมันไปเถอะ ฉันรู้ทุกอย่างแล้วและฉันไม่ได้โทษพวกนาย ”

เขาแนะนำเหยาเชียนเชียนให้ทั้งสองคนรู้จัก “ นี่คือสมาชิกคนใหม่ของบริษัทรักษาความปลอดภัยป่าป๊า และเป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดชั้นเก้า ต่อไปนี้เธอจะรับผิดชอบคุ้มกันหลินโม่โม่และถังถังในฐานะบอดี้การ์ดส่วนตัว แบบนี้จะได้แบ่งงานคุ้มกันภายในและภายนอกได้อย่างไม่มีปัญหาแล้ว ”

 “ ขอบคุณครับเถ้าแก่ ! ” จ้านฝู่และเฉินเปียนขอบคุณฉินห้าวตงและทักทายเหยาเชียนเชียน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาจำไม่ได้ว่าเธอคือเงามืดเมื่อคืนนี้

พวกเขาต้อนรับการมาของเหยาเชียนเชียนอย่างอบอุ่น เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ชาย พอถึงตอนกลางคืนจึงทำได้เพียงคุ้มกันอยู่ภายนอกคฤหาสน์ ซึ่งแบบนี้มันจะยิ่งเพิ่มความยากให้พวกเขา เพราะพวกเขาดูแลได้ไม่ทั่วถึง มันคงจะดีไม่น้อยถ้าหากมีบอดี้การ์ดสักคนที่สามารถคุ้มกันอยู่ในคฤหาสน์ได้

จากนั้นฉินห้าวตงพาเหยาเชียนเชียนเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลหลินและแนะนำเธอให้กับหลินโม่โม่รวมถึงคนอื่นด้วย

เธอรู้เรื่องที่โดนวางยาสลบเมื่อคืนแล้ว เธอตกใจมาก ดีที่เธอและถังถังไม่ได้รับอันตรายอะไร

เป็นเพราะเรื่องนี้เอง เธอจึงต้อนรับบอดี้การ์ดหญิงคนใหม่ที่ฉินห้าวตงพามาเป็นอย่างดี อีกอย่างเหยาเชียนเชียนยังมีรูปร่างหน้าตาดี มีอารมณ์มั่นคงและเคารพเธอมาก ดังนั้นหลินโม่โม่จึงพาเหยาเชียนเชียนเข้าไปในคฤหาสน์ จัดเตรียมห้องให้เธอ และเป็นเพราะทั้งสองมีรูปร่างคล้ายกัน หลินโม่โม่จึงจัดแจงเสื้อผ้าและรองเท้าใหม่ให้เหยาเชียนเชียนมากมาย

แม่หนูน้อยชอบเหยาเชียนเชียนมากและเรียกเธอว่าคุณน้าไม่หยุด มีเพียงต้าเหมาและเอ้อร์เหมา เท่านั้นที่พอได้กลิ่นของเหยาเชียนเชียน พวกมันก็จะเห่าใส่เธอไม่หยุด แต่ดีที่ฉินห้าวตงห้ามไว้

จากนั้นฉินห้าวตงคืนหยกเขียวจักรพรรดิให้กับแม่หนูน้อย แต่อย่างไรก็ตามในครั้งนี้หลินโม่โม่ ดึงมันออกไป

หลังจากมื้อเช้า ทุกอย่างในตระกูลหลินกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม หลินโม่โม่ออกไปทำงานโดยมีเหยาเชียนเชียนคอยคุ้มกัน

ในขณะเดียวกัน ที่เมืองเจียงหนานได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นมากมาย

หน่วยสอบสวนคดีอาชญากรรมของเมืองเจียงหนานได้ประสบความสำเร็จในการสืบสวนคดีทำร้ายร่างกาย แม้ว่าชายตาเดียวอย่างเมิ๋งกางจะปากหนักไม่ยอมรับสารภาพใดๆ แต่น่าหลันอู๋เซี๋ยฟังจากคำให้การของลูกน้องเขาอีกทีว่าผู้สั่งการคือโจวซุยซุย ดังนั้นเธอจึงจัดการส่วนที่เหลือตลอดทั้งคืน

อย่างไรก็ตามเฝิงเทียนต๋าได้เตรียมการไว้อย่างดี หลังจากที่เมิ๋งกางและพวกโดนจับไปได้ไม่นาน เขาก็ใช้เส้นสายของคนตระกูลเฝิงสืบข่าวจากหน่วยสอบสวนคดีอาชญากรรม

โจวซุยซุยผู้ที่เคยเป็นคนหยาบช้า ในเวลานี้เธอกลับรู้สึกกลัวเป็นอย่างมากหลังจากรู้ว่าเรื่องมันร้ายแรงแค่ไหน เธอรู้ว่าที่นี่คือประเทศจีนไม่ใช่พม่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น แม้แต่พี่ชายก็ไม่สามารถปกป้องเธอได้ ดังนั้นเธอจึงรีบขอให้เฝิงเทียนต๋าจัดการส่งเธอกลับไปที่ประเทศพม่าทันที

ความจริงพิสูจน์แล้วว่าเธอทำถูกแล้ว หลังจากเธอกลับพม่าได้ไม่นาน น่าหลันอู๋เซี๋ยก็นำคนบุกไปที่เฝิงชื่อกรุ๊ป แต่ก็ไร้ประโยชน์ โจวซุยซุยได้กลับพม่าไปเรียบร้อยแล้ว ในเวลานี้ตำรวจจีนจึงไม่สามารถทำอะไรเธอได้

เฝิงเทียนต๋ารู้สึกโล่งใจอย่างมากหลังจากส่งแฟนที่ไร้เหตุผลและอัปลักษณ์ของเขากลับไป ไม่กี่วันมานี้เขาถูกโจวซุยซุยทั้งบ่นทั้งด่าตลอดวัน เรียกได้ว่าเขาเสียสละเพื่อผลประโยชน์ของเฝิงชื่อกรุ๊ป

ถ้าพูดจากใจของเขา เขาเกลียดผู้หญิงคนนี้มาก ถ้าไม่ใช่เพราะโจวซุยซุยต้องการสุนัขของฉินห้าวตง เขาก็คงไม่ต้องมาเสียหน้าและเสียเงินทั้งหมดที่เขาเก็บสะสมมานานหลายปี

โชคดีมากที่ผู้หญิงวุ่นวายคนนี้ได้ถูกส่งกลับไปแล้ว เขาจึงลากตัวเองไปที่งานนิทรรศการหินหยกที่ศูนย์กลางหอประชุม

ไม่นานหลังจากงานเริ่มในตอนเช้า ก็มีลูกน้องเข้ามารายงานเขาว่ามีนักพนันหินหลายรายพาสุนัขของพวกเขาเข้ามา

เมื่อคืนเรื่องที่ฉินห้าวตงได้ใช้สุนัขเลือกหินดิบและเอาชนะพนันหินได้ถึงสามเกมรวดได้แพร่กระจายไปในแวดวงนักพนันหิน หลายคนมาพร้อมกับความคิดที่ว่า มาลองสักหน่อยพวกเขาจึงพาสุนัขที่เลี้ยงมาด้วย

ไม่นานนิทรรศการหินหยกแทบจะกลายเป็นนิทรรศการประกวดสุนัข มีสุนัขที่มีชื่อเสียงหลากหลายชนิดมารวมตัวกันที่นี่ ทั้งโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ฮัสกี้ ลาบราดอร์ และมีแม้กระทั่งคนนำหมูที่เป็นสัตว์เลี้ยงมาด้วย เพราะเชื่อกันว่าหมูรับรู้กลิ่นได้ดีกว่าสุนัข

เฝิงเทียนต๋าตื่นตระหนกทันที เขาไม่รู้ว่าจะมีสุนัขที่มีความสามารถเหมือนต้าเหมาและเอ้อร์เหมาอีกหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นล่ะก็ เฝิงเทียนต๋าต้องล้มละลายอย่างแน่นอน

เขารีบไปแจ้งกองควบคุมฉุกเฉิน เริ่มประกาศห้ามนำสุนัขเข้างานนิทรรศการ แต่เขาคิดว่ามันยังไม่ครอบคลุม จึงสั่งประกาศใหม่ว่าห้ามนำสิ่งมีชีวิตทุกชนิดนอกจากมนุษย์เข้ามาในงาน

เขาโล่งใจหลังจากที่เอาสุนัขทั้งหมดออกไปจากหอประชุมได้

แต่ก่อนที่เขาจะได้ทันหายใจโล่ง ก็มีข่าวกระจายไปทั่วในวงนักพนันหินว่าหินดิบที่เฝิงชื่อกรุ๊ปเอามาจากเหมืองเก่าในประเทศพม่าเป็นของปลอม ไม่มีหยกคุณภาพดีอยู่ในนั้นสักชิ้น

บางคนยังบอกอีกว่าการพนันหินคืนก่อนเป็นเพียงการจัดฉากของเฝิงชื่อกรุ๊ปเท่านั้น ที่จริงแล้วชายหนุ่มพร้อมกับสุนัขเป็นผู้ช่วยของเขา จุดประสงค์ของเขาคือต้องการการหลอกทุกคน

ในตอนแรกเฝิงเทียนต๋าไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เพราะเขาคิดว่าข่าวลือพวกนี้เป็นแค่เรื่องตลก

อย่างไรก็ตามพอเริ่มงานนิทรรศการ ลูกค้าหลายคนลองเสี่ยงเลือกหินจากในงานนิทรรศการของเขา แต่กลับไม่มีใครเปิดได้หินหยกที่มีมูลค่าสูงกว่ากว่าเดิมสามเท่าเลย พวกเขาเสียเงินกับมันโดยเปล่าประโยชน์

ผลลัพธ์เช่นนี้ได้ทำให้ข่าวลือที่กระจายออกไปมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ซึ่งแพร่ออกไปก็ยิ่งเป็นวงกว้าง ในที่สุดก็ไม่มีใครมาที่งานนิทรรศการของเฝิงชื่อกรุ๊ปเลย ในทางตรงกันข้ามพวกเขาไปที่งานนิทรรศการของหลินชื่อกรุ๊ปแทน

สถานการณ์ได้เกิดการพลิกผันครั้งใหญ่ภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน ในงานนิทรรศการของเฝิงชื่อกรุ๊ปไม่มีลูกค้าเลย แต่งานนิทรรศการของหลินชื่อกรุ๊ปกลับมีคนแออัด ซึ่งทำให้เฝิงเทียนต๋าโกรธเคืองเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ไม่สามารถหาเหตุผลได้

นอกงานนิทรรศการ ภายใต้การจัดการของน่าหลันอู๋ชวง บริษัทรักษาความปลอดภัยป่าป๊าได้พาดหัวข้อข่าวในสื่อทั่วจียงหนาน

 “ บริษัทรักษาความปลอดภัยป่าป๊ามีฝีมือไม่ธรรมดา ช่วยให้อาชญากรจากต่างแดนถูกจับกุมในประเทศจีนได้ ”

 “ เหล่าผู้หญิงถูกปล้น บริษัทรักษาความปลอดภัยป่าป๊าได้ปกป้องพวกเขาไว้ ! ”

 “บริษัทรักษาความปลอดภัยป่าป๊า นักสู้แห่งโลกบอดี้การ์ดได้ปลดเปลืองปัญหาความปลอดภัย !

ข่าวเกี่ยวกับบริษัทรักษาความปลอดภัยป่าป๊าทั้งหมดได้แสดงอยู่บนสุดในฟอรัมและโพสของทุกเว็บไซต์ขนาดใหญ่ใหญ่ เป็นจุดสนใจในสังคมเป็นอย่างมาก

สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ดึงดูดความสนใจของฉินห้าวตงเลย ในตอนนี้เขากำลังพาแม่หนูน้อยไปที่ศูนย์ศิลปะเจียงหนานเพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมประกวดการแข่งขันร้องเพลงหนูน้อยเสียงทอง

 

จบตอน

 

รีวิวผู้อ่าน