px

เรื่อง : คุณพ่อยอดหมอเทวดา (重生之奶爸医圣)
ตอนที่ 78 เคล็ดวิชาควบคุมจิตใจ


ตอนที่ 78 เคล็ดวิชาควบคุมจิตใจ

 

หวังกวนกระโดดโลดเต้นเมื่อได้ยินผล เขาตะโกนขึ้นด้วยความดีใจ “ เย้ ที่หนึ่ง ! ฉันได้ที่หนึ่ง ! ”

หวางหงปิงและหม่าหงก็แสดงสีหน้าภูมิใจเช่นกัน ด้วยอำนาจของตระกูลหวางของพวกเขา ไม่ว่าอยากได้อะไรก็ต้องได้ แม้ว่าลูกชายของพวกเขาอาจร้องเพลงได้แย่ แม้ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นอาจจะร้องเพลงเก่ง แต่แล้วยังไงล่ะ ? รางวัลที่หนึ่งต้องตกเป็นของลูกชายเขาอยู่ดี

มันไม่สำคัญว่าจะร้องดีแค่ไหน สิ่งสำคัญกว่าคือมีพ่อที่ดีต่างหากล่ะ

แม่หนูน้อยตัดพ้อทันที “ ป่าป๊า หนูเป็นนักร้องที่แย่เหรอคะ ? ทำไมหนูไม่ได้รางวัลที่หนึ่งล่ะ ? ”

หวางเจียหนีถอนหายใจเพราะเธอรู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นอย่างไร เธอจึงพยายามพูดปลอบใจแม่หนูน้อย “ อย่าเศร้าไปเลยนะถังถัง ไม่เป็นไรนะ ต่อให้พวกเราไม่ได้ที่หนึ่งพวกเราก็ยังได้ผ่านเข้ารอบ ถังถังต้องพยายามต่อไปนะ ”

รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏที่มุมปากของฉินห้าวตง นี่ได้กลายเป็นการประกวดพ่อดีเด่นไปแล้วเหรอ ? ในโลกนี้ยังมีพ่อที่เก่งกว่ามหาเทพแห่งพงไพรอย่างเขาอีกเหรอ ?

เขาพูดกับแม่หนูน้อย “ ถังถัง ไม่ต้องกังวลไป ที่จริงแล้วลูกเป็นผู้ชนะ ผู้ตัดสินแค่พูดผิดไปน่ะ ตอนนี้รออยู่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวพ่อไปเตือนเขาก่อน “

พูดจบ เขาก็ส่งแม่หนูน้อยให้กับหวางเจียหนี แล้วเดินไปตรงที่นั่งกรรมการ

เขาเดินไปประธานตัดสินแล้วพูดขึ้น “ ผลของพวกคุณผิด ผู้เข้าแข่งขันหมายเลขหกเป็นผู้ชนะ ”

ประธานตัดสินไม่คาดคิดว่าจะมีคนมาสงสัยในผลการตัดสินของพวกเขา แน่นอนว่าผลนั่นมันซังกะบ๊วย แต่พวกเขาไม่เคยอนุญาตให้ใครมาถามเพื่อปกป้องสิทธิ์ในการตัดสินของตัวเอง

เขาเงยหน้าขึ้นและขณะที่กำลังจะตำหนิคนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงคนนี้ อยู่ๆ คำพูดของเขาก็เปลี่ยนไป “ คุณพูดถูก เราทำงานผิดพลาด ฉันจะทำให้มันถูกเดี๋ยวนี้ “

พูดจบ เขาก็เดินก้าวยาวขึ้นไปบนเวทีแล้วคว้าไมค์จากมือของรองผู้ตัดสินมาประกาศ “ เมื่อครู่นี้เราได้ประกาศผลผิดไป ผู้ชนะเลิศคือผู้เข้าแข่งขันหมายเลขหก ถังถัง ! ”

ทันใดนั้นผู้ชมด้านล่างเกิดเสียงแตกฮือขึ้นมาในทันที ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าผลที่รองผู้ตัดสินพึ่งจะประกาศไปเมื่อครู่นี้ เพียงพริบตาเดียวก็ถูกประธานตัดสินมาประกาศแก้ผลใหม่

อย่างไรก็ตามผลนี้เป็นไปตามที่ทุกคนคิดไว้ในใจและก็เป็นผลที่ทุกคนต้องการ แบบนี้สิถึงจะเป็นการตัดสินที่ยุติธรรม เกิดเสียงปรบมือดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณทันที

 “ หนูเป็นผู้ชนะ ! หนูเป็นผู้ชนะแล้ว ! ” แม่หนูน้อยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ เธอโอบรอบคอหินห้าวตงแล้วหอมแก้มเขาอยู่หลายครั้ง “ ป่าป๊าเก่งจัง ! ป่าป๊าเก่งที่สุด ! ”

หวางเจียหนีมองฉินห้าวตงด้วยความแปลกใจ เธอถามอย่างไม่เชื่อ “ คุณทำได้ยังไง ? ”

 “ ง่ายมาก ประธานตัดสินเป็นคนที่มีเหตุมีผล ผมบอกเขาไปว่าผลที่ประกาศเมื่อกี้มันผิด ดังนั้นเขาก็เลยรีบขึ้นไปแก้ให้มันถูกทันที ”

ฉินห้าวตงพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง เขาไม่สามารถบอกหญิงสาวคนนี้เกี่ยวกับการที่เขาใช้เคล็ดวิชาควบคุมจิตใจ

เคล็ดวิชาควบคุมจิตใจเป็นเวอร์ชั่นอัพเกรดของเคล็ดวิชาจิตฉงน เคล็ดวิชาจิตฉงนสามารถทำให้ผู้คนพูดความจริงในใจออกมาได้ ในขณะที่เคล็ดวิชาควบคุมจิตใจสามารถทำให้คนอื่นทำตามสิ่งที่พวกเขาคิด !

ในเมื่ออีกฝ่ายอยากประกวดคุณพ่อดีเด่น ในเมื่อคณะผู้ตัดสินหวาดกลัวอำนาจของตระกูลหวาง เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากใช้พลังในการเรียกความยุติธรรมคืนให้กับแม่หนูน้อย

หวางเจียหนีไม่อยากจะเชื่อ แต่ความจริงก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว เธอเองก็ไม่สามารถหาเหตุผลที่ดีไปมากกว่านี้ได้

ตระกูลหวางเกิดความขุ่นเคือง เมื่อเห็นว่ารางวัลที่หนึ่งที่ตนพึ่งได้มาเมื่อกี้หลุดลอยออกไป หวางกวนจึงร้องไห้จ้าละหวั่นทันที เขาตีหวางหงปิงแล้วตะโกนขึ้น “ ป่าป๊าไม่ได้เป็นคนบอกเองเหรอว่าผมเป็นคนตระกูลหวาง ยังไงผมก็ต้องได้ที่หนึ่ง แต่ทำไมตอนนี้มันไม่มีแล้วล่ะ ? ”

 “ ทำไมเด็กหญิงบ้านั่นถึงได้ที่หนึ่ง ? หรือเธอร้องดีกว่าผมงั้นเหรอ ? ”

 “ ไม่ต้องกังวลไปลูก พ่อจะไปดูให้ ” หวางหงปิงเองก็ไม่คาดคิดเช่นกันว่าผู้ตัดสินที่เขาพึ่งจะไปทักทายมากลับไม่ไว้หน้ากันได้ถึงขนาดนี้ เขาจึงเดินตรงไปยังที่นั่งผู้ตัดสินด้วยความโกรธ

 “ ประธานตัดสิน เกิดอะไรขึ้น ? ไม่ใช่ว่าลูกชายฉันชนะเหรอ ? ”

ประธานตัดสินมองไปที่เขาโดยปราศจากความกลัวใดๆ และไม่ไว้หน้าเขาถึงแม้ว่าเขาจะเป็นหัวหน้าตระกูลหวางเช่นกัน

 “ หนูน้อยคนนี้ชนะเลิศอันดับหนึ่งเพราะว่าเธอร้องเพลงได้ดี ซึ่งเป็นผลที่ยุติธรรมที่สุดแล้ว ”

 “ อะไรนะ ? เธอจะดีไปกว่าลูกชายฉันได้ยังไงกัน ? อย่าลืมสิว่าลูกชายฉันเป็นคนตระกูลหวาง ! คุณตาของเขามักจะชมว่าเขาร้องเพลงเพราะเสมอ

ถึงหวางหงปิงจะโกรธมาก แต่เขายังคงมีเหตุผลอยู่ เขาพยายามบอกเป็นนัยกับผู้ตัดสินว่าพวกเขาคือคนตระกูลหวางและพ่อตาของเขาดำรงตำแหน่งรองประธานสำนักงานวัฒนธรรม

แต่ประธานตัดสินกลับไม่แสดงความนับถือหวางหงปิงแม้แต่นิดเดียว เขาตอกกลับอีกฝ่ายไปด้วยความโกรธ “ ตระกูลวงตระกูลหวางอะไรกัน ฉันปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียม ลูกชายของคุณร้องเพลงย่ำแย่แบบนี้ยังจะอยากชนะเลิศอีกเหรอ ? คุณเคยฟังที่เขาร้องจริงๆ รึเปล่าเนี่ย ? ”

หวางหงปิงโกรธจัด เขาชี้ไปที่ผู้ตัดสินแล้วตะโกนขึ้น “ หยุดเสแสร้งได้แล้ว ! อย่าลืมว่าเมื่อวาน แก...... ”

เขาโกรธมากจนเกือบจะหลุดพูดออกมาว่าเขาติดสินบนประธานตัดสินไว้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ รองผู้ตัดสินจึงรีบเข้ามาดึงห้ามเขาไว้ “ ใจเย็นครับคุณหวาง มันจะดูแย่สำหรับเราทุกคน ถ้าคุณพูดเรื่องนั้นออกไป ”

รองผู้ตัดสินไม่รู้ว่าประธานตัดสินเกิดบ้าอะไรขึ้นมา แต่เรื่องนี้มันจะกลายเป็นเรื่องแย่สำหรับพวกเขาถ้าความลับถูกเปิดเผย ดังนั้นเขาจึงรีบเดินมาหยุดหวางหงปิงไว้

หวางหงปิงลองคิดดูแล้ว มันก็จริงอย่างที่รองผู้ตัดสินพูด ดังนั้นเขาจึงจ้องไปที่ประธานตัดสินและกดความโกรธตัวเองไว้

รองผู้ตัดสินจึงพูดต่อ “ คุณหวาง แม้ว่าลูกชายของคุณจะไม่ชนะในวันนี้ แต่ผมยินดีจะให้เขาได้ที่สอง เขาสามารถเข้าร่วมในรอบชิงชนะเลิศได้เหมือนกันและผมมั่นใจว่าคุณรู้วิธีที่จะทำให้เขาเป็นแชมป์ในตอนนั้น ”

หวางหงปิงรู้ว่านี่เป็นเพียงตัวเลือกเดียวของเขา เขาทำน้ำเสียงไม่พอใจ จากนั้นกลับมายังที่นั่งของตระกูลหวาง

จากนั้นรองผู้ตัดสินขึ้นไปบนเวลาอีกครั้งเพื่อประกาศอันดับของผู้เข้าแข่งขันใหม่อีกรอบ หวางกวนตกจากอันดับหนึ่งมาเป็นอันดับสอง

ฉินห้าวตงไม่ได้สนใจมันแม้แต่นิดเดียว เขาไม่ใช่ผู้กอบกู้โลก เขาแค่ต้องการปกป้องให้แม่หนูน้อยได้รับความยุติธรรมในแบบที่เธอควรจะได้

เมื่อเขาคลายเคล็ดวิชาควบคุมจิตใจออก ประธานตัดสินก็สั่นไปทั้งตัวเหมือนกับเขาเพิ่งตื่นจากฝันร้าย แต่เรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้ว เขาได้ทำให้ตระกูลหวางขุ่นเคืองและมันสายเกินไปที่จะมาเสียใจทีหลัง

ด้วยเหตุนี้เอง การประกวดจบลงเหมือนละครตลก แต่อย่างน้อยผลมันก็ใช้ได้ แม่หนูน้อยถูกเรียกให้เข้าร่วมรอบชิงชนะเลิศตอนสองทุ่มของคืนวันพรุ่งนี้

เมื่อชนะอันดับหนึ่งในวันนี้ แม่หนูน้อยเดินออกจากประตูศูนย์ศิลปะอย่างมีความสุขพร้อมกับฉินห้าวตง

หวางเจียหนีก็รู้สึกดีเช่นกันที่มากับพ่อลูกคู่นี้ เนื่องจากแม่หนูน้อยเป็นนักเรียนของเธอ แม่หนูน้อยประสบความสำเร็จก็ถือเป็นการแบ่งปันเกียรติของเธอด้วย

 “ ถังถัง พยายามให้เต็มที่นะ ครูเชื่อว่าหนูสามารถเป็นผู้ชนะในรอบสุดท้ายได้อย่างแน่นอน ”

 “ ได้เลยค่ะ ! ได้เลย ! ถังถังจะเป็นผู้ชนะ ! ถังถังอยากเป็นนักร้อง! ”

แม่หนูน้อยโห่ร้องด้วยความดีใจและวิ่งไปข้างหน้า ทันใดนั้นก็มีกลุ่มคนมาขวางทางเธอไว้ คนที่เดินนำมาคือครอบครัวของหวางหงปิง ตามด้วยบอดี้การ์ดเจ็ดแปดคน

แม่หนูน้อยรับรู้ว่าคนพวกนี้ไม่ได้มีเจตนาดี เธอจึงรีบวิ่งกลับไปกอดขาของฉินห้าวตง

ฉินห้าวตงอุ้มแม่หนูน้อยไว้ในอ้อมแขนและมองไปที่พวกของหวางหงปิง ก่อนจะเอ่ยถาม “ มีอะไรหรือเปล่า ? ”

“ ลูกสาวของแกขโมยรางวัลที่หนึ่งของลูกชายฉันไป ตอนนี้แกต้องขอโทษเขาและให้คำสัตย์ว่าจะไม่เข้าร่วมการแข่งขันในวันพรุ่งนี้อีก ” หม่าหงพูด

แม้หวางกวนจะเป็นเด็ก แต่เขาก็ได้เรียนรู้ความเหย่อหยิ่งจากครอบครัว ดังนั้นเขาจึงตะโกนขึ้น “ เธอเอารางวัลที่หนึ่งไปจากฉัน ! ขอโทษมาเดี๋ยวนี้เลย ! ”

แม่หนูน้อยมีความกล้าขึ้นมาทันทีที่เธออยู่ในอ้อมแขนฉินห้าวตง เธอตะโกนกลับอย่างไม่ยอม “ ฉันเป็นผู้ชนะ นายเป็นนักร้องที่แย่ ! ”

“ คุณแม่ของหวางกวนคะ คุณพูดแบบนี้ไม่ถูกนะ เด็กต้องใช้ความสามารถในการแข่งขัน ถังถังเป็นผู้ชนะซึ่งเป็นผลที่ผู้ตัดสินประกาศออกมา คุณจะมาโทษคนอื่นได้อย่างไร ? อีกอย่างคุณไม่มีสิทธิ์มาห้ามไม่ให้คนอื่นเข้าร่วมการประกวดของวันพรุ่งนี้ ” หวางเจียหนีพูด

 “ แกเป็นใคร ? ” หม่าหงไม่พอใจ เธอชี้หน้าด่าหวางเจียหนี “ ถ้าฉันเคารพแก ฉันจะเรียกแกว่าคุณครู แต่ถ้าพวกฉันไม่เคารพแก แกจะไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นในสายตาของคนตระกูลหวาง เชื่อไหมว่าแค่กริ๊งเดียวฉันก็สามารถทำให้ผู้อำนวยการโรงเรียนไล่แกออกได้แล้ว ”

 “ คุณทำแบบนี้ได้ยังไง ? นั่นไม่ใช่สิ่งที่พ่อแม่สมควรเป็นนะ ! ”

หวางเจียหนีโกรธจนหน้าแดง อกของเธอสั่นไม่หยุดเพราะความโมโห

หม่าหงตะโกนด่าอย่างต่อเนื่อง “ สาวน้อย ฉันไม่ต้องการให้แกมาสอนว่าพ่อแม่ควรเป็นอย่างไร ตอนนี้ไสหัวออกไปซะ ไม่งั้นพรุ่งนี้ฉันจะทำให้แกโดนไล่ออก ”

หวางเจียหนียังต้องการจะพูดอะไรต่อ แต่ฉินห้าวตงดึงเธอมาไว้ข้างหลังเขา เขาหันไปหาหม่าหงที่มีท่าทีก้าวร้าวแล้วพูดอย่างเยือกเย็น “ ทำตัวเป็นหมาที่ฉลาดหน่อย แล้วรีบออกไปให้พ้นทางฉันเดี๋ยวนี้ ”

เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่มีความเคารพต่อตระกูลหวางแม้แต่นิดเดียว หวางหงปิงจึงมีสีหน้าดุดันขึ้น “ แกคิดว่าแกกำลังพูดกับใครอยู่ไอ้หนุ่ม ? ”

 “ ฉันรู้ ตระกูลหวางไม่ใช่หรือไง ? ” ฉินห้าวตงตอบอย่างไม่แยแส “ พวกแกมีชื่อเสียงในวงการอสังหาริมทรัพย์และพ่อตาของแกก็เป็นรองประธานสำนักงานวัฒนธรรม ”

หวางหงปิงพูดอย่างภูมิใจ “ ถูกต้อง ตอนนี้ทำตามที่ภรรยาของฉันบอกและบอกให้ลูกสาวของนายขอโทษลูกชายของฉันซะ พรุ่งนี้ฉันไม่อนุญาตให้มาเข้าร่วมการประกวดพรุ่งนี้ ”

 “ ไม่ หนูจะเข้าร่วม และหนูจะเป็นผู้ชนะ ! ”

แม่หนูน้อยตอบกลับอย่างไม่ยอม

หวังกวนตะคอกกลับ “ ไม่อนุญาตให้เธอมาก็คือไม่อนุญาต ! ถ้ายังยืนกรานที่จะมาอยู่ ฉันจะให้ป่าป๊าของฉันต่อยฟันป่าป๊าของเธอให้ร่วงหมดปากเลย ! ”

แม่หนูน้อยพูดจึงพูดขึ้น “ ขี้โม้ ป่าป๊าของฉันเก่งที่สุด เขาไม่กลัวป่าป๊าของนายหรอก ”

“ หุบปากนะนังเด็กบ้า พ่อของเธอเป็นแค่เด็กแมงดา จะมาเทียบกับตระกูลหวางของเราได้ยังไง ” หม่าหงตะโกนขึ้น

ฉินห้าวตงกวาดตามองไปที่คนของหวางหงปิงและถามด้วยท่าทีนึกสนุก“ พวกแกมีเงินไหม ? ”

หม่าหงลังเลไปชั่วครู่ จากนั้นจึงตอบกลับ “ แน่นอนสิ ตระกูลหวางของพวกเรามีเงินมากพอ ”

“ แกอยากได้เงินเหรอ ? ฉันเอาให้แกหนึ่งหมื่นหยวน ตราบใดที่ลูกสาวของแกจะไม่เข้าร่วมการประกวดพรุ่งนี้ ” หวางหงปิงยื่นข้อเสนอ

ฉินห้าวตงโบกมือแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ ไม่ใช่ ฉันกลัวว่าแกจะไม่มีเงินพอที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลต่างหาก ”

หวางหงปิงมีสีหน้าเยือกเย็นและเขาตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ “ ไอ้หนุ่ม แกรนหาที่ตายเหรอ!

เขากวักมือเรียกบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลังเขา “ สั่งสอนบทเรียนที่แสนสาหัสให้มันหน่อย ทำให้มันรู้ความเก่งกาจของพวกแก ”

บอดี้การ์ดของเขาเตรียมพร้อมนานแล้ว พวกเขาไม่คิดว่าชายหนุ่มคนนี้จะดูน่ากลัวเลยแม้แต่นิดเดียวเพราะดูเหมือนว่าจะไม่มีกล้ามไม่มีพละกำลัง เมื่อได้ยินคำสั่งของหัวหน้า พวกเขาก็พุ่งเข้าหาฉินห้าวตงทันที

บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหน้าชกหมัดไปที่หน้าของฉินห้าวตง เขาต้องการแสดงความสามารถต่อหน้าหัวหน้าของเขา เพื่อหวังจะได้ขึ้นเงินเดือนของเดือนถัดไป

คิดไม่ถึงเลยว่าหมัดของเขายังไม่ทันได้พุ่งออกไปสัมผัสโดนแม้แต่ปลายเสื้อของฉินห้าวตง เขาก็ลอยละลิ่วไปด้านหลัง ไปกระแทกเข้ากับบอดี้การ์ดอีกสองคนจนพากันล้มลงไปกองที่พื้น

ฉินห้าวตงเตะบอดี้การ์ดออกไปพร้อมกับแม่หนูน้อยที่อยู่ในอ้อมแขน จากนั้นเขาก็เตตะสลับขา เหมือนกับกำลังเตะบอล ทำให้บอดี้การ์ดทั้งหมดของหวางหงปิงล้มลงไปกองกับพื้น

 “ สุดยอด ! สุดยอด ! ป่าป๊าเก่งที่สุด ! ” แม่หนูน้อยปรบมือด้วยความร่าเริง

ตอนแรกหวางเจียหนีกังวลว่าฉินห้าวตงจะได้รับบาดเจ็บ เธอพึ่งจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเตรียมโทรแจ้งตำรวจ แต่คิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันที่เธอจะกดปุ่มที่สาม คนทั้งหมดที่อยู่ต่อหน้าก็ถูกกำราบไปเรียบร้อยแล้ว

เธออ้าปากค้างด้วยความแปลกใจ เธอคาดไม่ถึงว่าชายหนุ่มผู้ที่มักจะมีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา จะกลายเป็นนักสู้ที่น่ากลัวเช่นนี้ได้

 

จบตอน

 

รีวิวผู้อ่าน