px

เรื่อง : คุณพ่อยอดหมอเทวดา (重生之奶爸医圣)
ตอนที่ 86 กระถางธูปเสวียนเต๋อ


ตอนที่ 86 กระถางธูปเสวียนเต๋อ

 

ที่พวกผู้คนรอบข้างพากันตำหนิเจ้าของร้าน เป็นเพราะพวกเขารู้สึกสงสารสองพ่อลูกนี้ในฐานะที่พวกเขาก็เป็นพ่อแม่คนเหมือนกัน แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีคนให้ราคาหนึ่งแสนหยวนสำหรับกระถางธูปเหล็กนั่น

 

พวกเขาหันไปมองตามต้นตอของเสียง เห็นเพียงแค่ชายหนุ่มวัยประมาณยี่สิบปี กำลังเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าสองคนพ่อลูก

 

“ นายต้องการซื้อมันจริงๆ เหรอพ่อหนุ่ม ? นายไม่ได้กำลังหลอกฉันใช่ไหม ? ” ชายวันกลางคนถามด้วยความไม่เชื่อ

 

เจ้าของร้านค้าลังเลไปสักครู่ก่อนจะพูดขึ้น “ ไม่มีสมองจริงๆ ก็เห็นกันอยู่ว่าเขากำลังแกล้งคุณเล่น ไม่มีใครยอมจ่ายราคาน้้นหรอก ”

 

ฉินห้าวขี้เกียจจะอธิบายกับชายผู้ที่เห็นแก่เงินจนหน้ามืดตามัว เขาหันไปพูดกับชายวัยกลางคนอย่างตรงไปตรงมา “เรื่องจริงสิ แต่ตอนนี้ผมไม่มีเงินสด คุณเอาเลขบัญชีมาให้ผม ตอนนี้ผมจะโอนเงินให้คุณเลย ”

 

ทุกคนตกตะลึงตาค้าง พวกเขาตกใจมากที่ชายหนุ่มคนนี้เอาจริง

 

สองคนพ่อลูกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นลูกชายที่อุ้มกระถางธูปไว้เอื้อมมือไปหยิบบัตรธนาคารออกมายื่นให้เขา “ พี่ชาย นี่เป็นบัตรธนาคารของผม ผมจะเอากระถางธูปให้พี่ทันทีที่พี่โอนเงินหนึ่งแสนหยวนให้ผม ”

 

ฉินห้าวตงไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว เขารับบัตรมา จากนั้นกดโทรศัพท์โอนเงินที่ฉือโค่วไห่ให้มาแก่ชายหนุ่มคนนั้นไปหนึ่งแสนหยวน หลังจากลังเลไปพักหนึ่ง เขาก็กดโอนเงินที่เหลือไปให้อีกแปดหมื่นหยวน

 

เมื่อพิจารณาถึงความหนาแน่นของพลังจิตวิญญาณแล้ว กระถางธูปนี้้เป็นสมบัติอย่างแน่นอน ต่อให้เขาซื้อในราคาหนึ่งแสนแปดหมื่นหยวน ก็ยังถือว่าเขาได้เปรียบอยู่ดี

 

หลังจากที่เขาโอนเงินแล้ว โทรศัพท์ของหนุ่มคนนั้นก็ดังขึ้นสองครั้ง แจ้งเตือนว่าเงินได้เข้าบัญชีแล้ว

 

ชายหนุ่มคนนั้นอึ้งเมื่อเขาตรวจดูโทรศัพท์ เขาจึงรีบบอกฉินห้าวตงทันที “ พี่ชาย พี่โอนมาผิดแล้ว พวกเราคิดแค่หนึ่งแสนหยวน แต่ทำไมพี่โอนมาหนึ่งแสนแปดหมื่นหยวน ”

 

 “ ถูกแล้ว ของชิ้นนี้มีมูลค่าเหมาะสมกับราคาหนึ่งแสนแปดหมื่นหยวนและนั่นก็เป็นเงินทั้งหมดที่ฉันมี ไม่งั้นฉันก็คงจ่ายมากกว่านี้แล้ว ” ฉินห้าวตงพูด

 

“ ไม่ได้ เราต้องการแค่หนึ่งแสนหยวน ” ชายวัยกลางคนรีบหันไปพูดกับลูกชาย “ รีบคืนเงินส่วนที่เกินไปซะ ! ”

 

ฉินห้าวตงพูดห้ามเขาทันที “ ไม่เป็นไร รับมันไปเถอะ คุณก็เอาเงินที่เหลือไปซื้อยาบำรุงให้กับคนป่วยแล้วกัน ”

 

“ เอ่อ...… “ สองพ่อลูกน้ำตาไหลด้วยความซึ้งใจเมื่อเห็นว่าฉินห้าวตงจริงจัง “ ขอบคุณหนุ่มน้อย คุณช่างเป็นคนที่ดีจริงๆ ขอบคุณ ขอบคุณมาก ”

 

ฉินห้าวตง พูด “ ไม่ต้องขอบคุณหรอก ผมจ่ายเงินซื้อของของคุณ คุณไม่ได้ติดหนี้อะไรผมเลย ตรงบันทึกการโอนมีเบอร์โทรศัพท์ของผมอยู่ ถ้าคุณมีเรื่องอะไรก็โทรหาผมได้ ”

 

แม้ว่าเขาจะพูดเช่นนี้ แต่สองคนพ่อลูกก็ยังคงโค้งคำนับฉินห้าวตงอยู่ดี จากนั้นเขาก็เอากระถางธูปให้ฉินห้าวตง แล้วเดินจากไป

 

เจ้าของร้านมองดูด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย “ แสดงกันต่อไปเถอะ ฉันอยู่ในวงการของโบราณมานานกว่าสี่สิบปี ตอนนี้ยังกล้ามาแสดงละครตบตาต่อหน้าฉันอีก พวกแกมาผิดที่แล้ว !

 

ฉินห้าวตงไม่ได้พูดอะไร เขาคิดว่าไม่จำเป็นต้องพูดกับคนแบบนี้ เขาใช้เงินทั้งหมดไปแล้ว สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือเอากระถางธูปออกไปจากตรงนี้

 

เขาไม่สนใจ แต่คนอื่นกลับสนใจ ทันใดนั้นก็มีคนจากฝูงชนตระโกนขึ้น “ ตาแก่ แกเพิ่งพูดเองไม่ใช่เหรอว่าถ้ามีคนยอมจ่ายในราคาหนึ่งแสนหยวน แกจะเรียกคนนั้นว่าพ่อ ตอนนี้ชายหนุ่มคนนี้จ่ายไปตั้งหนึ่งแสนแปดหมื่นหยวน แกรออะไรอยู่ ? ”

 

คนมากมายต่างไม่พอใจที่เจ้าของร้านหวังแต่ความร่ำรวยจนไม่เหลือคุณธรรม พวกเขาพากันตะโกนด่าเจ้าของร้าน

 

“ พูดมันออกมาสิ ! เรียกเขาว่าพ่อ ! ”

 

เจ้าของร้านถลึงตาแล้วพูดขึ้น “ แกจะตะโกนหาอะไร ? ไม่เห็นเหรอว่าไอ้สามตัวนั้นกำลังแสดงละครหลอกพวกแกทั้งหมด ? ซื้อกระถางธูปนี่ในราคาหนึ่งแสนหยวนงั้นเหรอ ? ฉันกลัวว่าเขาจะไม่ได้โอนให้สักสลึงเดียว ”

 

ฉินห้าวตงเพิ่งเจอกับพวกต้มตุ๋นมาไม่นานนี้ แค่ชั่วพริบตาเดียวเขากลับถูกเรียกว่าคนต้มตุ๋นเองเสียแล้ว สิ่งนี้จึงทำให้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก

 

เขามองไปที่เจ้าของร้านและพูด “ นี่เป็นสมบัติล้ำค่า ผมจ่ายไปหนึ่งแสนแปดหมื่นหยวนยังถือว่าผมเอาเปรียบเขาเลย คุณตาบอดที่ดูไม่ออกเอง ”

 

เจ้าของร้านหัวเราะลั่น เขาหัวเราะจนน้ำตาเล็ด “ คนอย่างจางว่านคุยเนี่ยนะ ฉันอยู่ในธุรกิจค้าขายของโบราณกับปู่มาตั้งแต่ฉันอายุแปดขวบ ฉันเข้าสู่วงการของโบราณตั้งแต่อายุยี่สิบ และเปิดร้านเป็นของตัวเองตอนอายุสามสิบ ในหลายปีมานี้ไม่มีของชิ้นไหนที่ฉันจะดูไม่ออก ”

 

“ มันเห็นได้ชัดว่านั่นเป็นสิ่งของที่ทำจากเหล็กสีบลอนซ์ มันจะเป็นสมบัติได้อย่างไรกัน ? ไอ้หนุ่มน้อย อยากจะหลอกฉันก็ต้องทำให้มันเนียนๆ หน่อย ”

 

ฉินห้าวตงไม่มีอารมณ์จะพูดคุยด้วย ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้น “ ช่างเถอะ คุณจะตาบอดมันก็เป็นเรื่องของคุณ ยังไงซะผมก็ขี้เกียจเถียงกับคุณแล้ว ”

 

หลังจากพูดจบ ขณะที่เขากำลังจะออกไปพร้อมกับกระถางธูปที่อยู่ในมือนั้น จางว่านคุยกลับดูไม่พอใจ  เขาพูดด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น “ เดี๋ยวก่อน ”

 

“ อะไรอีกล่ะ ? ” ฉินห้าวตงหันไปถาม

 

“ เห็นได้ชัดว่าสามคนแกมาแสดงละครตบตาฉันถึงในร้าน ” จางว่านคุยพูดต่ออีกว่า “ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทำไมแกไม่มาพนันกับฉันให้เรื่องนี้มันกระจ่างต่อหน้าคนดูหน่อยล่ะ ? ”

 

ฉินห้าวตงสนใจขึ้นมาทันทีเมื่อเขาได้ยินคำว่าพนัน เพราะว่าไม่มีใครสามารถเอาชนะมหาเทพแห่งพงไพรเช่นเขาได้

 

“ บอกมา ว่าคุณต้องการพนันอะไร ? ”

 

“ แกบอกว่าฉันตาบอดไม่ใช่เหรอ ? ตราบใดที่แกพิสูจน์ได้ว่ากระถางธูปนี้เป็นของมีค่า ฉันจะถือว่าแกชนะ ฉันจะเติมเต็มคำสัญญาที่ฉันได้ให้ไปเมื่อกี้นี้โดยเรียกแกว่าพ่อต่อหน้าทุกคน และให้แกเลือกของจากในร้านฉันไปได้หนึ่งชิ้น ”

 

“ ในทางตรงข้ามถ้าแกแพ้ แกต้องจ่ายหนึ่งหมื่นหยวนเป็นค่าทำขวัญให้ฉัน ”

 

ฉินห้าวตงรู้สึกขยะแขยงเพราะว่าชายแก่คนนี้ไม่เพียงแต่เห็นแก่เงิน แต่ยังเป็นคนที่ชอบยกตนข่มผู้อื่น ดังนั้นเขาจึงตอบรับการพนัน  “ ผมเอาด้วย แต่คนอย่างคุณไม่น่าเชื่อถือ พวกเราต้องหาคนมาประเมิน ”

 

“ น้องชาย ฉันเป็นคนประเมินให้ได้ ”

 

ทันทีที่เสียงนั้นพูดจบ ทันใดนั้นก็มีชายวัยกลางคนสองคนก็เบียดตัวออกมาจากฝูงชน ฉินห้าวตงรู้จักคนแรกที่เดินนำออกมา เขาคือเฉียนตัวตัว คนที่ฉินห้าวตงเพิ่งพบไปเมื่อไม่กี่วันก่อน

 

“ น้องฉิน ไม่คาดคิดว่าเราจะได้เจอกันเร็วขนาดนี้ ” เฉียนตัวตัวพูดขณะที่เขาแนะนำชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างหลังให้ฉินห้าวตงรู้จัก “ นี่คือผู้บริหารของศูนย์กลางการประเมินวัตถุโบราณเจียงหนาน ผู้เชี่ยวชาญการประเมินของเก่า คุณกัวเฟิง

 

จากนั้นเขาก็หันไปพูดกับกัวเฟิง “ นี่เป็นคนที่ฉันเล่าให้ฟัง ชายหนุ่มมหัศจรรย์ที่ฉันพบเมื่อหลายวันก่อน เขาชื่อฉินห้าวตง ”

 

ฉินห้าวตงไม่รู้จักกัวเฟิงมาก่อน แต่คนในฝูงชนจำเขาได้เป็นอย่างดี

 

“ คิดไม่ถึงเลยว่าคุณกัวจะมาที่นี่ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินของโบราณเชียวนะ...... ”

 

“ แน่นอน คุณกัวเป็นคนที่เชื่อถือได้ที่สุด เขาเป็นนักประเมินวัตถุโบราณอันดับหนึ่งของเจียงหนาน ฉันเห็นเขาออกทีวีอยู่บ่อยๆ...... ”

 

ดูเหมือนว่ากัวเฟิงจะเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายท่ามกลางคนเหล่านั้น จางว่านคุยอยู่ในโลกของวัตถุโบราณมาหลายปี และเขาก็รู้ตำแหน่งของกัวเฟิงในสาขานั้นเป็นอย่างดีเช่นกัน เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับความนับถือมากที่สุด

 

ดังนั้นเขาจึงเดินไปหากัวเฟิงด้วยรอยยิ้มประจบ แล้วถามกัวเฟิวด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร “ ผู้บริหาร กัว อะไรนำคุณมาที่นี่ครับ ? ”

 

กัวเฟิงพยักหน้าตอบ “ ฉันมาเดินเล่นกับเพื่อนของฉัน และได้บังเอิญมาเจอการพนันของคุณกับชายหนุ่มคนนี้ ฉันสามารถเป็นคนประเมินให้ได้นะ พวกคุณสองคนคิดว่าไง ? ”

 

“ ผมเต็มใจอย่างยิ่ง ถ้าผู้บริหารกัวต้องการจะเป็นผู้ประเมิน ” จางว่านคุยพูดด้วยสีหน้าประจบประแจง

 

ตำแหน่งของกัวเฟิงเป็นที่นับถือในวงการคนเล่นวัตถุโบราณ แค่เอ่ยประโยคเดียวก็สามารถทำให้ร้านของเขาถูกปิดได้ หรืออาจจะไม่มีใครมาทำธุรกิจกับเขาอีกเลย ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าทำให้กัวเฟิงขุ่นเคือง

 

ฉินห้าวตงพยักหน้าเช่นกัน “ ผมเองก็ไม่คัดค้าน ”

 

กัวเฟิงเห็นดังนั้นจึงพูดขึ้น “ เนื่องจากทั้งสองตกลงแล้ว งั้นการพนันนี้ถือว่าเริ่มต้นขึ้น ตอนนี้ น้องฉิน บอกเรามาหน่อยว่าจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่ากระถางธูปนี้คือสมบัติ ? ”

 

เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านวัตถุโบราณ หลังจากเขาได้เห็นกระถางธูปผ่านตาแบบคร่าวๆ แล้ว ข้อสรุปของเขาเป็นเหมือนกับของจางว่านคุยที่ว่ากระถางธูปนี้เป็นเพียงของเหล็กสีบลอนซ์ธรรมดา มันไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นของโบราณเลย

 

ฉินห้าวตงยิ้นบางและพูดกับจางว่านคุย “ คุณมีค้อนเหล็กไหม ? ”

 

“ มี ! ”

 

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าฉินห้าวตงจะเอาค้อนเหล็กไปทำอะไร แต่เขาก็ยังคงเดินกลับเข้าไปในร้านและเอาค้อนออกมา

 

เฉียนตัวตัวถามด้วยความสงสัย “ น้องฉิน นายกำลังจะทำอะไรน่ะ ? ”

 

ฉินห้าวตงตอบด้วยรอยยิ้ม “ ผมกำลังจะทดสอบโชค บางทีในกระถางธูปนี้อาจจะมีสมบัติก็ได้นะ ? ”

 

“ มัน......มันจะได้ผลไหม ? ” เฉียนตัวตัวถามด้วยความแปลกใจ

 

เมื่อกี้นี้เขาก็ได้มองสำรวจกระถางธูปมาเหมือนกัน มันเป็นเพียงกระถางธูปธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษเลย

 

“ ลองดูแล้วกัน และถ้ามันไม่โอเค ผมก็แค่แพ้ไป ”

 

ฉินห้าวตงพูดอย่างไม่ใส่ใจ แต่ลึกๆ ข้างในเขามั่นใจเป็นอย่างดี เขารับค้อนและเริ่มเคาะไปที่กระถางเหล็กตามการหยั่งรู้ที่กล้าแกร่งของเขา

 

ดุเหมือนเขาจะเคาะไม่แรง แต่ที่จริงแล้วในการเคาะแต่ละครั้งมันแฝงไปด้วยพลัง จนทำให้กระถางธูปค่อยๆ แตกออก

 

ผู้ชมต่างพากันตะลึงและสงสัยว่าชายคนนี้เสียสติปแล้วหรือไง ? เมื่อกี้เขาเพิ่งจ่ายเงินซื้อมันมาในราคาหนึ่งแสนแปดหมื่นหยวน แต่ผ่านไปไม่เท่าไรกลับทำมันแตกแล้ว หรือเขาจะเอาไปขายเป็นเศษเหล็กอย่างที่คนอื่นว่า ?

 

จางว่านคุยยิ่มเยาะ “ ฉันอยู่มาหกสิบปีและนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพยายามจะหาสมบัติด้วยวิธีนี้ นี่เป็นการเปิดหูเปิดตาจริงๆ ! ”

 

ฉินห้าวตงเพิกเฉยต่อคำเสียดสีของเขา เขาเร่งเคาะค้อนที่อยู่ในมือ หลังจากเขาเคาะไปทั่วกระถางธูปแล้ว เขาก็วางค้อนลงและยกมือขึ้นตบเบา ๆ บนผนังด้านข้างของกระถางธูป เกิดเสียงดังเคร้ง เศษแผ่นเหล็กแตกตกลงบนพื้น

 

แต่ที่น่าแปลกใจก็คือหลังจากเศษแผ่นเหล็กตกลงมา เปยให้เห็นสิ่งของสีขาวนวล รูปร่างของมันยังคงเป็นกระถางธูปดังเดิม

 

“ พาราฟิน มันคือพาราฟิน ! “ คนมากมายจำมันได้และเริ่มอุทานขึ้น

 

สีหน้าของกัวเฟิงเปลี่ยนไป เขาตะโกนขึ้นทันที “ ภายในมันน่าจะเป็นกระถางธูป การใช้พาราฟินเคลือบเป็นวิธีการซ่อนสมบัติของคนสมัยโบราณ น้องฉิน วันนี้นายโชคดีมากเลย ”

 

คนอื่นพากันตื่นเต้นเมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งที่กัวเฟิงพูด

 

“ ชายหนุ่มคนนี้โชคดีจริงๆ ดูเหมือนว่าเขาจะเจอสมบัติจริงๆ ”

 

“ สายตาเขาตาแหลมคมมาก แม้แต่ฉันยังดูไม่ออกเลยว่ากระถางเหล็กนั่นจะมีของอยู่ข้างใน ”

 

“ มันจบแล้ว ตอนนี้จางว่านคุยต้องทำตามที่พูดแล้ว พวกเรามารอดูเขาเรียกชายหนุ่มคนนี้ว่าพ่อดีกว่า ”

 

จางว่านคุยหน้าซีด มันสายเกินไปเสียแล้วที่จะมาเสียใจทีหลัง เขาได้แต่มองดูและหวังว่าจะไม่มีอะไรอยู่ข้างในพาราฟินนั่น ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย

 

หลังจากส่วนหุ้มเหล็กแตกออก ฉินห้าวตงก็เริ่มเคาะข้างใน พยายามแยกพาราฟินออกจากสิ่งที่ถูกเคลือบอยู่ข้างใน

 

สิ่งเดียวที่เขารู้คือพลังวิญญาณที่แผ่ออกมาจากสิ่งนี้ยิ่งเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาไม่มั่นใจว่ามันคืออะไร ดูจากรรูปทรงมันแล้ว มันอาจเป็นกระถางธูปอีกอันก็ได้

 

ผู้ชมก็จ้องไปที่ฉินห้าวตงเช่นกัน พวกเขาตั้งหน้าตั้งตารอดูสมบัติที่อยู่ข้างในพาราฟินอย่างใจจดใจจ่อ

 

ไม่นานฉินห้าวตงก็เคาะบนพาราฟินจนทั่ว จากนั้นเขาให้มือเข่ามันเบาๆ เปลือกของพาราฟินที่เคลือบอยู่ด้านนอกแตกออก

 

กระถางธูปทองแดงผิวเรียบรูปทรงโบราณเปล่งแสงสีแดงสวยงามปรากฏต่อหน้าสายตาของทุกคน ผิวภายนอกของกระถางธูปถูกหล่อด้วยลวดลายละเอียดอ่อน นอกจากนี้ยังไม่มีร่องรอยของสนิมแม้แต่น้อย มันเปล่งแสงมันวาวดึงดูดใจผู้พบเห็น

 

ผู้ชมทั้งหมดต่างตกตะลึงกับกระถางธูปนี้

 

กัวเฟิงดูเหมือนจะสติหลุดไป เขาเอื้อมไปสัมผัสกระถางธูปนี้อย่างเบามือแล้วพึมพำออกมา “ กระถางธูปเสวียนเต๋อ ! มันคือกระถางธูปเสวียนเต๋อ ! ”

 

“ อะไรนะ ? กระถางธูปเสวียนเต๋อ ? กระถางธูปเสวียนเต๋อในตำนานงั้นเหรอ ? พระเจ้า ! ชายหนุ่มคนนี้ล่าสมบัติพบเข้าแล้ว…… ”

 

“ จริงเหรอ ? เขาจ่ายเงินซื้อกระถางธูปเสวียนเต๋อไปไม่เท่าไรเอง ฉันเสียใจ ! ทำไมเมื้อกี้ฉันถึงไม่ซื้อมัน ? นั่นมันสมบัติที่ประเมินราคาไม่ได้เลยนะ...... ”

 

“ เอาล่ะ นายจะเสียใจไปทำไม ? จางว่านคุยควรเป็นคนเดียวที่ต้องเสียใจที่สุดในตอนนี้ เขาพลาดสมบัติล้ำค่าที่มีคนมายื่นให้ถึงหน้าประตู แถมยังต้องเรียกชายหนุ่มคนนั้นว่าพ่ออีก...... ”

 

จบตอน

 

รีวิวผู้อ่าน