px

เรื่อง : คุณพ่อยอดหมอเทวดา (重生之奶爸医圣)
ตอนที่ 92 เขาเป็นเถ้าแก่ของพวกเรา


ตอนที่ 92 เขาเป็นเถ้าแก่ของพวกเรา

 

หม่าหงขยับแว่นกันแดดตรงจมูกของเธอแล้วกระซิบ “ ที่รัก ไอ้หนุ่มนั่นแข็งแกร่งมากนะ เราจะรับมือได้เหรอ ? ”

 

“ ไม่ต้องกังวล ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน เขาก็มาคนเดียว ครั้งนี้บอดี้การ์ดที่เราจ้างมาไม่ใช่พวกขยะอย่างครั้งที่แล้ว แต่เป็นบอดี้การ์ดมากความสามารถจากบริษัทรักษาความปลอดภัยป่าป๊า ฉันจ้างบอดี้การ์ดชั้นแปดหนึ่งคนและชั้นเจ็ดอีกหกคน พวกเขาจะตื้บไอ้เด็กนั่นเละเป็นขี้แน่นอน “

 

หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งที่แล้ว หวางหงปิงสาบานว่าจะต้องแก้แค้นให้ได้ ดังนั้นเขาจึงไล่บอดี้การ์ดเก่าของเขาออกไปจนหมด เขาใช้เงินมากมายจ้างบอดี้การ์ดเจ็ดคนของบริษัทรักษาความปลอดภัยป่าป๊า ผู้นำไม่ใช่คนอื่นใด เขาคือจางเทียหนิว บอดี้การ์ดชั้นแปด

 

หวางหงปิงพูดต่อไปอย่างกระตือรือร้น “ ฉันได้เห็นพลังของคนพวกนี้แล้ว พวกเขารู้กังฟูเป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่ชกหมัดไปเรื่อย ตราบใดที่ไอ้เด็กนั่นมาที่นี่ ฉันรับปากว่าฉันจะให้พวกเขาซัดจนมันต้องคุกเข่าและเรียกฉันว่าคุณพ่อเลยคอยดู...... ”

 

ขณะที่เขากำลังพูด หวางกวนก็ชี้ไปข้างหน้าและตะโกนขึ้น “ ป่าป๊า ดูนั่น ! พวกเขามาแล้ว ”

 

หวางหงปิงมองไปตามที่หวางกวนชี้และเห็นฉินห้าวตงเดินมาทางพวกเขาพร้อมกับถังถังและสาวสวยอีกหนึ่งคนที่เดินอยู่เคียงข้าง

 

หวางหงปิงโบกมือเรียกบอดี้การ์ดทั้งเจ็ดคนที่อยู่ด้านหลังเขาแล้วตะโกนขึ้น “ เตรียมพร้อม เดี๋ยวพอฉันให้ลงมือ ก็ไปอัดมันให้น่วมเลย ฉันจะรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นเอง ”

 

ฉินห้าวตงเดินมาถึงหน้าประตูและเห็นหวางหงปิงยืนอยู่ข้างหน้า เขาจึงทักทายด้วยรอยยิ้ม “ คุณหวาง มาที่นี่เร็วจังเลย ทำไมต้องสวมแว่นกันแดดในตอนเย็นด้วยล่ะ ? ไม่สบายตรงตาเหรอ? ”

 

“ แกสิป่วยน่ะ ป่วยมันทั้งตระกูล ! ” หวางหงปิงตะโกนอย่างโกรธจัด “ เด็กน้อย ฉันจะให้โอกาสแกอีกครั้ง คุกเข่าต่อหน้าฉันแล้วขอโทษฉันซะ แล้วพาลูกสาวของแกกลับไปไม่ต้องเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ”

 

“ แล้วถ้าฉันไม่ทำล่ะ ? ” ฉินห้าวตงถามด้วยรอยยิ้ม

 

“ ฉันก็จะอัดแกจนกว่าแกจะยอมทำตาม ! ” หวางหงปิงชี้ไปที่บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังเขาแล้วพูดขึ้น “ แหกตาดูซะ คนพวกนี้เป็นบอดี้การ์ดที่ฉันจ้างมาจากบริษัทรักษาความปลอดภัยป่าป๊า กะอีแค่กังฟูกระจอกของแก มันไม่คู่ควรกับพวกเขาหรอก ”

 

แม่หนูน้อยตะโกนออกไป “ คนขี้โม้ๆ ป่าป๊าของหนูเก่งที่สุด ! ”

 

ฉีหว่านเอ๋อเห็นดังนั้นจึงพูดขึ้น “ พี่ฉิน ต้องการให้ฉันสั่งสอนบทเรียนกับชายคนนี้ไหม ? ”

 

 “ ไม่จำเป็น เขาเป็นแค่แมลงหวี่แมลงวันตัวเล็ก ทำอะไรคลื่นลมแรงอย่างพวกเราไม่ได้หรอก ” ฉินห้าวตงตอบ

 

เมื่อเห็นว่าฉินห้าวตงไม่กลัวเขา หวางหงปิงก็ฉุนจัด เขาโบกมือให้สัญญาณบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลัง “ จัดการมันให้หนัก ให้แม่ของมันจำหน้าไม่ได้เลย ! ”

 

หวางหงปิงคิดว่าตราบใดที่เขาออกคำสั่ง จางเทียหนิวและบอดี้การ์ดคนอื่นจะเข้าไปทำร้ายฉินห้าวตง แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าเขาตะโกนอยู่นานและตะโกนเสียงดังลั่น แต่บอดี้การ์ดเหล่านี้กลับยืนนิ่ง ทำเหมือนพวกเขาไม่ได้ยินอะไรเลย

 

เขาตะโกนไปที่บอดี้การ์ด้วยความโกรธ “ เกิดอะไรขึ้นกับพวกแก ? แกหูหนวกหรือไง ? ไม่ได้ยินที่ฉันสั่งเหรอ ? ”

 

ในที่สุดจางเทียหนิวก็ขยับตัว เขาเดินไปหาฉินห้าวตงและโค้งคำนับพลางถาม “ เถ้าแก่ต้องการให้พวกผมสั่งสอนบทเรียนเขาไหม ? ”

 

เดิมทีพวกเขารู้นานแล้วว่าเป็นเถ้าแก่ของพวกเขา แต่ฉินห้าวตงส่งสายตาห้ามไม่ให้พวกเขาพูดอะไร

 

“ อะไรนะ ? เถ้าแก่เหรอ ? ” หวางหงปิงอึ้งไปชั่วขณะก่อนจะตะโกนขึ้น “ จางเทียหนิว แกเป็นบ้าแล้วหรือไง ? แกควรเรียกฉันว่าเถ้าแก่ ไม่ใช่มัน ! ”

 

ฉินห้าวตงรู้สึกขำเช่นกัน มันกลายเป็นว่าคนที่หวางหงปิงจ้างมาจัดการเขา กลับเป็นบอดี้การ์ดจากบริษัทรักษาความปลอดภัยป่าป๊าของเขาเอง

 

เขาโบกมือไปที่จางเทียหนิวแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ ช่างมันเถอะ เขาเป็นลูกค้าของเรา มันคงไม่ดีถ้าพวกนายจะไปสั่งสอนพวกเขาด้วยตัวเอง ”

 

หลังจากพูดเช่นนั้น ฉินห้าวตงก็ส่งถังถังให้กับฉีหว่านเอ๋อที่ยืนอยู่ข้างเขา แล้วเดินไปหาหวางหงปิง เขาดึงแว่นที่อยู่บนจมูกของหวางหงปิงออก แล้วยกหมัดขวาต่อยไปที่ตาของหวางหงปิง จนทำให้เกิดรอยช้ำหนักขึ้นกว่าเดิม

 

“ อ๊า ! ” หวางหงปิงร้องโหยหวยด้วยความเจ็บปวด เมื่อเขาตระหนักสิ่งที่เกิดขึ้น เขาตะโกนไปที่ ฉินห้าวตงและพวกบอดี้การ์ดอย่างโกรธเคือง “ ฉันจ่ายเงินเพื่อจ้างพวกแกมาเป็นบอดี้การ์ดของฉัน แต่พวกแกกลับยืนดุฉันถูกทำร้าย นี่มันบริษัทห่าเหวอะไรวะ ? แกฝึกบอดี้การ์ดของแกแบบนี้เหรอ ? รอฉันฟ้องพวกแกก่อนเถอะ ! ”

 

ในเวลานี้จางเทียหนิวพูดขึ้น “ คุณฟ้องไปก็ไร้ประโยชน์ มันระบุไว้ชัดเจนในสัญญาแผ่นแรกแล้วว่าเถ้าแก่ของเราอยู่เหนือทุกสิ่งและต้องทำตามคำสั่งของเขา ”

 

“ คุณได้ละเมิดข้อตกลงโดยขอให้พวกเราลงมือจัดการเถ้าแก่ของพวกเรา ดังนั้นมันเป็นตัวคุณเองที่ละเมิดข้อตกลง ”

 

“ อะไรนะ ? แกพูดว่ามันเป็นเถ้าแก่ของพวกแกงั้นเหรอ ? ”

 

หวางหงปิงสับสน เขาใช้เวลานานอยู่พอควรก่อนที่จะเรียกสติตัวเองกลับมาได้ เขาตระหนักได้ว่าคำว่า “ เถ้าแก่ “ ที่จางเทียหนิวพูดเมื่อกี้นี้มันแตกต่างจากสิ่งที่เขาเข้าใจ และเขาคิดไม่ถึงเลยว่าชายที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นเถ้าแก่ของบริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งนี้

 

ฉินห้าวตงยิ้มให้เขา “ ขอบคุณที่ซื้อบริการของบริษัทพวกเรา ”

 

จากนั้นเขาก็หันไปพูดกับจางเทียหนิวและคนอื่นๆ “ คุณหวางเป็นลูกค้าของบริษัทของเรา พวกนายต้องปกป้องเขาเป็นอย่างดีนะ อย่าทำให้เขาผิดหวังล่ะ ”

 

หลังจากพูดจบ เขาก็รับถังถังมาจากอ้อมแขนของฉีหว่านเอ๋อแล้วหันไปยิ้มให้กับหวางหงปิง ก่อนที่จะเดินเข้าไปในศูนย์ศิลปะ

 

หวางหงปิงเจ็บใจมากจนเหมือนอกของเขาจะระเบิดออกมา คิดจะปกป้องฉันให้ดีงั้นเหรอ ? แกเพิ่งจะทำร้ายฉันไป จำไมได้หรือไง ?

 

เมื่อเห็นฉินห้าวตงจากไป หวางหงปิงหันไปตะโกนใส่จางเทียหนิวและคนอื่นทันที “ ไสหัวไปซะ ! พวกแกทั้งหมดเลย ไสหัวไปเดี๋ยวนี้ ! พวกแกโดนไล่ออก ”  

 

จางเทียหนิวยังคงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ คุณหวาง คุณสามารถไล่เราได้ แต่ก่อนอื่นคุณต้องรู้เรื่องนี้ก่อน คุณได้ละเมิดข้อตกลง ดังนั้นเราจะไม่คืนเงินของคุณแม้คุณจะไล่เราออก”

 

ตอนที่หวางหงปิงจ้างบอดี้การ์ดจากบริษัทรักษาความปลอดภัยป่าป๊า เขาได้เซ็นสัญญากับบริษัทอย่างเข้มงวดตามลำดับขั้นตอน บทความแรกของข้อตกลงกล่าวไว้ว่า ผู้ว่าจ้างไม่สามารถขอให้พนักงานทำสิ่งที่ต่อต้านเถ้าแก่ของพวกเขาได้

 

เขาไม่เคยคิดว่าฉินห้าวตงจะเป็นเถ้าแก่ของบริษัทนี้ ดังนั้นเขาจึงเซ็นสัญญาโดยปราศจากความลังเลใดๆ และยังต้องจ่ายค่าปรับหากผิดสัญญาเป็นเงินจำนวนมาก อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาเป็นคนที่ละเมิดสัญญาเอง

 

“ ไปไหนก็ไป ! พวกแกทั้งหมดเลย ฉันไม่อยากได้เงินคืนหรอก ” หวางหงปิงรีบไล่จางเทียหนิวและคนอื่น ถึงแม้เขาจะเสียเงินไปมากมายเพราะมัน แต่มันก็ดีกว่าทำให้พวกนั้นโกรธ

 

เขาได้จ้างบอดี้การ์ดมาจัดการกับฉินห้าวตง อย่างไรก็ตามดูจากสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น แค่ฉินห้าวตงเอ่ยปากมาสักประโยคหนึ่ง คนเหล่านี้ต้องมาทำร้ายเขาอย่างแน่นอน ดังนั้นมันจึงเป็นการดีกว่าที่จะไล่พวกเขาออก

 

“ ลาก่อนคุณหวาง หวังว่าจะใช้บริการเราใหม่ในอนาคต ”

 

เนื่องจากจางเทียหนิวไม่สนใจเรื่องพวกนี้ ตอนนี้บริษัทรักษาความปลอดภัยป่าป๊ากำลังมีชื่อเสียงโด่งดัง ยังมีคนอื่นอีกมากมายที่รอจ้างพวกเขาอยู่ เขาไม่สนใจกับการสูญเสียนายจ้างไปแค่คนเดียวหรอก ยิ่งไปกว่าเขายังได้รับเงินมากมายจากธุรกิจนี้

 

เขาโบกมือลาหวางหงปิงอย่างสุภาพ จากนั้นก็กลับไปที่บริษัทพร้อมกับคนอื่น

 

เมื่อเห็นจางเทียหนิวและคนอื่นเดินจากไป หวางหงปิงรู้สึกโกรธเคืองอย่างที่สุด แต่เขาคิดไม่ออกว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไงเพราะว่าบอดี้การ์ดที่เขาจ้างเป็นพนักงานของฉินห้าวตง การประกวด เพิ่งจะเริ่มไม่นาน ดังนั้นเขาทำได้แค่พาหวางกวนเข้าไปในงานประกวด

 

หลังจากฉินห้าวตงเข้าไปในงาน เขาก็เห็นหวางเจียหนีกำลังรออยู่ที่นั่น เมื่อเทียบกับเมื่อวานก่อน วันนี้เธอดูมีความสุขเป็นอย่างมาก

 

“ สวัสดีครูหวาง ! ”

 

ถังถังพูดทักทายหวางเจียหนีก่อนใคร

 

“ ครูหวาง วันนี้มีเรื่องดีอะไรหรือเปล่า ? ” ฉินห้าวตงถามด้วยรอยยิ้ม

 

“ แน่นอน ! ” หวางเจียหนีพูดพลางหยิบหนังสือเล่มเล็กออกมา มันมีตัวอักษรพิมพ์ไว้ว่า ‘ ใบ รับรองการหย่า ’

 

เธอพูดต่อด้วยความตื่นเต้น “ ฉันหย่าแล้ว ในที่สุดก็กำจัดปีศาจต่งเชาออกไปจากชีวิตได้สักที ! ”

 

“ โอ้ ดีจังที่ได้ยินแบบนั้น ! ” ฉินห้าวตงพูด

 

“ ขอบคุณนะคุณหมอฉิน ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือของคุณ ฉันก็คงไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง ”

 

หวางเจียหนีพูดด้วยความซาบซึ้ง

 

“ แค่ปัญหาเล็กน้อยเอง ตอนนี้ต่งเชาก็ได้เข้าคุกไปแล้ว นับแต่นี้ไปคุณสามารถใช้ชีวิตอยู่ในเซียงเจียงได้อย่างสงบสุขแล้ว มาหาผมได้เสมอถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ ”

 

หลังจากฉินห้าวตงพูดจบ หวางเจียหนีดูเศร้าหมองไปเล็กน้อยและความตื่นเต้นก็หายไปจากใบหน้าของเธอ “ คุณหมอฉิน ตอนนี้ต่งเชาถูกปล่อยตัวออกมาจากคุกแล้ว ตระกูลของเขาเป็นผู้มีอิทธิพลในเซี่ยงไฮ้ ระวังไอ้สารเลวนี่จะมาแก้แค้นคุณด้วยนะ ”

 

ฉินห้าวตงไม่สนใจต่งเชาแม้แต่นิดเดียว แต่เขาก็ยังถามด้วยความแปลกใจ “ ไม่ใช่ว่าไอ้สารเลวนั่นมันสุมหัวเสพยาเหรอ ? ทำไมเขาถึงถูกปล่อยตัวออกมาล่ะ ? ”

 

 “ มีฉันเพียงคนเดียวที่รู้ว่าเขาติดยา ลำพังแค่คำให้การจากฉันคนเดียวยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาเข้าคุก ดังนั้นเจ้าหน้าที่น่าหลันจึงทำได้แค่ปรับเขา พฤติกรรมของเขาไม่เข้าข่ายอาชญากรรม ” หวางเจียหนีตอบ

 

ฉินห้าวตงพยักหน้าและรู้ว่าเรื่องพวกนี้ลงเอยได้แค่แบบนั้น เพราะว่าตำรวจต้องพึ่งหลักฐานเพื่อตัดสินคดีความ

 

ฉินหาวตงจึงพูดขึ้น “ ถูกปล่อยตัวออกมาก็ไม่เป็นไร ในเมื่อตอนนี้คุณอยู่ที่เจียงหนาน คุณโทรหาผมได้เสมอถ้าเขาก่อปัญหาให้คุณ ”

 

หวางเจียหนี พูด “ ฉันไม่สนใจเรื่องนั้นหรอก มันเป็นปัญหาของฉันเอง ฉันกลัวว่าจะสร้างปัญหาให้คุณด้วยซ้ำ ”

 

ฉินห้าวตงยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น เขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะสร้างปัญหาให้ผมหรอก ”

 

ขณะที่คุยกัน การแข่งขันก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

 

เพลงที่ถังถังร้องในวันนี้เป็นเพลงเด็กที่มีชื่อว่า คุณพ่อแสนดี เสียงหวานของเธอและการแสดงที่ยอดเยี่ยมเอาชนะใจผู้ชมอย่างล้นหลามหลังจากจบการแสดง

 

ฉินห้าวตงประทับใจมากเมื่อได้ดูการแสดงของลูกสาวบนเวที เขารู้สึกถึงความรักของถังถังที่มีให้เขา ไม่มีอะไรสามารถหยุดความสัมพันธ์ทางสายเลือดของพ่อลูกได้

 

เนื่องจากมันเป็นรอบรองชนะเลิศ การแข่งขันก็ยิ่งเข้มข้นมากกว่าเดิม อย่างไรก็ตามถังถังก็ยังคงได้ที่หนึ่งด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเธอ

 

สิ่งที่ฉินห้าวตงแปลกใจก็คือไม่รู้ว่าหวางหงปิงใช้วิธีอะไรทำให้หวางกวนคนที่ร้องเพลงเสียงเหมือนหมู เข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศได้

 

อย่างไรก็ตามมันไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ตราบใดที่มันไม่กระทบถังถัง เขาก็ขี้เกียจจะไปใส่ใจ

 

เมื่อรอบรองชนะเลิศจบลง ผู้เข้าแข่งทั้งสิบคนได้เข้ารอบไปสู่รอบชิงชนะเลิศที่จะจัดขึ้นในคืนวันพรุ่งนี้

 

แต่สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายของทุกคนก็คือ เจ้าภาพของการแข่งขันได้ประกาศกฎใหม่ว่าผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนสามารถเชิญใครก็ได้เข้ามาร่วมการแสดงด้วยในรอบชิงชนะเลิศ กรรมการจะตัดสินการแข่งขันจากความสามารถในการแสดงและการช่วยเหลือกันและกันของทั้งคู่

 

“ ป่าป๊า ป่าป๊า หนูชนะที่หนึ่งอีกแล้ว !

 

หลังจากจบการแข่งขัน ถังถังวิ่งไปกอดฉินห้าวตงเหมือนกับนกน้อยที่มีความสุข

 

“ วันนี้ถังถังร้องเพราะมากๆ เลย ฉันเชื่ออยู่แล้วว่าหนูจะได้ที่หนึ่งและเข้ารอบชิงชนะเลิศ ”

 

ฉีหว่านเอ๋อพูดจากใจจริง แม้ว่าเธอจะเพิ่งรู้จักถังถังได้ไม่นานนัก แต่เธอก็หลงรักแม่หนูน้อยสุดน่ารักสดใสคนนี้เข้าเต็มเปา

 

หวางเจียหนีก็พูดเช่นกัน “ ถังถัง ในอนาคตหนูต้องกลายเป็นนักร้องดังแน่นอน ”

 

แม่หนูน้อยพูดอย่างร่าเริง “ ดีเลย ! ดีเลย ! ในตอนที่หนูเป็นนักร้องดัง หนูจะพาป่าป๊าไปร้องเพลงรอบโลกเลย !

 

ฉินห้าวตงพูดด้วยรอยยิ้ม “ ถังถัง วันพรุ่งนี้ลูกจะร้องเพลงอะไร? บอกป่าป๊าได้ไหม ? ”

 

ถังถังตอบ “ พรุ่งนี้เป็นรอบชิงชนะเลิศ หนูขอร้องเพลงของโอวหยางชานชานได้ไหม? ”

 

“ แน่นอน ลูกสามารถร้องเพลงอะไรก็ได้ที่ลูกชอบ ”

 

สำหรับฉินห้าวตงแล้ว ความสุขของถังถังเป็นสิ่งสำคัญที่สุดและการแข่งขันก็เป็นเพียงเรื่องรองเท่านั้น

 

หวางเจียหนีพูดขึ้น “ คุณหมอฉิน ในการแข่งขันของวันพรุ่งนี้คนที่มาช่วยแสดงสำคัญมาก เราต้องหาคนแสดงที่ยอดเยี่ยมเพื่อช่วยถังถัง ไม่เช่นนั้นแล้วอาจกระทบต่อผลการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ  ”

 

“ ถ้าคุณคิดไม่ออกว่าจะหาใครมาช่วย ฉันสามารขอให้เพื่อนของฉันมาช่วยได้ ฉันมีเพื่อนหลายคนเป็นศิลปิน ความสามารถไม่เลวเลย นับว่ามีชื่อเสียงพอสมควรในเมืองเจียงหนาน ฉันสามารถขอให้พวกเขามาช่วยได้ ”

 

“ คนช่วยทำการแสดงที่มีผีมือเหรอ ? ” รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของฉินห้าวตง เขาพูดขึ้น “ ขอบคุณนะ ไม่รบกวนคุณหรอก ผมมีตัวเลือกที่เหมาะสมแล้ว ”

 

เมื่อเห็นว่าฉินห้าวตงเตรียมการไว้แล้ว หวางเจียหนีจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ พวกเขาพูดคุยกันสนุกสนานพลางออกจากลานแข่งขันพร้อมกัน หลังจากพวกเขาออกมาไม่นาน ทันใดนั้นก็มีรถเก๋งสีดำวิ่งมาทางพวกเขาด้วยความเร็วสูงแล้วจอดตรงหน้าพวกเขาด้วยเสียงเบรคดังเอี๊ยด

 

เมื่อประตูเปิดออก ต่งเชาเดินลงมาจากรถพร้อมกับชายวัยกลางคนสองคนที่ดูโหดเหี้ยม

 

หลังจากเห็นต่งเชา หวางเจียหนีก็หวาดกลัวอย่างมาก รอยยิ้มของเธอหายไปจากใบหน้า เธอตัวสั่น เธอกลัวไอ้ปีศาจสารเลวคนนี้จริงๆ

 

ฉินห้าวตงพุดปลอบเธออยู่ข้างๆ “ อยู่กับผม ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร !

 

ในตอนนี้ต่งเชาเดินเข้ามาและตะโกนไปที่พวกเขา “ ไอ้หนุ่ม ไม่คิดว่าจะได้เจอแกเร็วขนาดนี้ ”

 

หลังจากนั้นเขาก็ชี้ไปที่หวางเจียหนีแล้วพูดขึ้น “ นังโสเภณี แกคิดว่าจะกำจัดฉันออกไปจากชีวิตแกด้วยใบรับรองการหย่าแค่เผ่นเดียวน่ะเหรอ ? จะบอกอะไรให้ นอกซะจากว่าแกจะตาย ไม่อย่างนั้นแกไม่มีทางหนีพ้นน้ำมือของฉันได้หรอก ! ”

 

 

จบตอน

 

รีวิวผู้อ่าน