px

เรื่อง : The Strongest System จบแล้ว!!!
บทที่ 17 : ได้ EXP แค่ 10 ..กากไปมั้ยพี่


 บทที่ 17 : ได้ EXP แค่ 10 ..กากไปมั้ยพี่

 

ตอนนี้หลินฟ่านไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเขาหาอิฐรอบบ้านพักและโยนมันเข้าเตาหลอมอย่างบ้าคลั่งราวกับปีศาจ นอกเหนือจากค่าประสบการณ์ที่ได้แล้วตอนนี้สิ่งของที่เขาหลอมออกมาได้ มีแค่กองดินเหนียวหรือกระเบื้องที่ไร้ประโยชน์เท่านั้น ตอนนี้ Lv ของช่างตีเหล็กเขาเลื่อนไปถึง Lv4 แล้วแต่เขายังสร้างได้แต่ขยะ มันทำให้เขารู้สึกสับสนเล็กน้อย

'อะไรวะ อุตส่าห์ปลดล็อคอาชีพได้ แต่ดันสร้างได้แต่ขยะพวกนี้เหรอ?’ ...เอาจริงๆสิ่งที่สร้างออกมาได้มันก็ไม่ถึงกับเป็นขยะสักทีเดียว ตอนนี้อิฐกากๆที่เขาหลอมมันกลายเป็นกระเบื้องที่แข็งแรงทนทานมากทีเดียว

หลินฟ่านมองกองกระเบื้องและดินเหนียวที่สร้างออกมาได้อย่างหัวเสีย "โอ๊ย ไม่เชื่อโว้ย ว่ามันจะได้แต่ของกากๆ... " หลินฟ่านตะโกนออกมาด้วยความหัวเสีย ก่อนที่เขาจะโยนทุกสิ่งทุกอย่างด้านหน้าลงเตาหลอม

'ติ๊ง!! ... วัสดุแตกสลายและหายไป'

'ติ๊ง!! ... วัสดุแตกสลายและหายไป'

"เชี่ยไรวะเนี่ย?" ตอนนี้หลินฟ่านโยนกระเบื้องที่เขาสร้างขึ้นมาหายไปหมด นอกจากนั้นรอบๆบริเวณเขาวัสดุทั้งหมดก็ไม่มีเหลืออีกแล้ว ตอนนี้นอกจาก Lv ของอาชีพช่างตีเหล็กที่เพิ่มขึ้นมา ก็ไม่เหลืออะไรเลย  นอกจากนั้นของที่เขาสร้างยังไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง มันเลยทำให้เขาสงสัยเล็กน้อย

‘ไม่น่าจะเป็นแบบนี้ไปได้... อาชีพช่างตีเหล็กมันไม่ควรจะสร้างได้แต่ของพวกนี้สิวะ นี่อะไรได้แต่ขยะ?’

 

หลังจากที่หลินฟ่านยุ่งอยู่กับการหลอมอิฐเป็นเวลานาน ทั้งวันก็ได้ผ่านพ้นไป ตอนนี้การทดสอบคัดเลือกศิษย์ก็จบลงแล้ว ศิษย์ทั้งหลายก็ทยอยกลับบ้านพักกัน

"ศิษย์น้องหลิน เกิดอันใดขึ้นกับกำแพงรอบที่พักเจ้างั้นหรือ?" หยินโม่เฉินที่มาหาหลินฟ่านถึงกับงงอย่างหนัก เมื่อเขามองไปรอบๆที่พักของหลินฟ่านกำแพงอิฐที่เคยมีอันตรธานหายไปหมด

"เอ๋ ข้าก็ไม่รู้สิ ตื่นมามันก็ไม่มีแล้วนะ แล้วการทดสอบวันนี้ล่ะศิษย์พี่ เป็นยังไงบ้าง? "หลินฟ่านกล่าวถามออกมาเนือยๆ ตอนนี้เขาเจ็บปวดเกินกว่าจะนึกถึงเรื่องการหลอมอิฐ

“ยอดเยี่ยมยิ่งนัก! มีเหล่าศิษย์ที่มีแววอัจฉริยะมากมายเหลือเกิน บางคนเหนือล้ำกว่าข้าไปมากเลยทีเดียว"หยินโม่เฉินกล่าวด้วยความตื่นเต้น แต่เมื่อเขาสังเกตเห็นถึงท่าทีเศร้าซึมของหลินฟ่านเขาก็ต้องหยุดพูดบรรยายเหตุการณ์ในทันที

“ศิษย์น้องเจ้าเป็นอันใดหรือไม่? เหตุใดจึงดูอาการมิค่อยดีเช่นนี้ หรืออาการบาดเจ็บครั้งล่าสุดของเจ้ายังมิหายดี? บัดซบ ข้านี่แย่จริงๆ! เป็นถึงศิษย์พี่แต่กลับไปสนใจการทดสอบ มิได้มาดูแลศิษย์น้องเช่นเจ้า ซ้ำยังมิได้ไปทวงความยุติธรรมให้เจ้าอีก"หยินโม่เฉินกล่าว

"ไม่มีอะไรหรอกศิษย์พี่ ข้าแค่เหนื่อยๆน่ะ หลินฟ่านกล่าวออกมาอย่างสลด

"ศิษย์น้อง...." หยินโม่เฉินมองท่าทางหลินฟ่านแล้วอดคิดไปไม่ได้ว่า  ‘ท่าทางของเขาเหมือนผิดหวังในตัวข้า’

...

หลินฟ่านนอนลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า เขาถอนหายใจออกมาเป็นระยะๆ 'วันนี้แม่งเฟลชิบ น่าจะได้อะไรดีๆสักอย่าง แต่แม่ม ทั้งวันไม่ได้ปลวกอะไรเลย’ ....แล้วของที่ได้จากเศษอิฐโง่ๆ จะให้มันดีสักแค่ไหนละเฟ้ย!!!

"แม่งเอ๊ยยยยย...หงุดหงิด" หลินฟ่านนอนดิ้นถีบผ้าปูที่นอนไปมา ตอนนี้เขาหลับไม่ลงจริงๆ.. หลังจากที่หลินฟ่านนอนนิ่งๆ ความเงียบก็เริ่มแผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง คงเหลือแต่เพียงเสียงเผาไหม้ของน้ำมันในตะเกียงบนโต๊ะ ตอนนี้ข้างนอกก็เป็นเวลาค่ำคืนแล้ว แสงจันทร์เริ่มส่องสว่างนำทางสรรพสัตว์ที่ออกหากินในยามราตรี

"โว้ยยยย รับไม่ได้ว้อยยยย....ปับ" เสียงโอดครวญดังขึ้นมาทำลายความเงียบอีกครั้ง หลินฟ่านลุกขึ้นมา ก่อนที่จะปาหมอนไปอัดข้างฝาอย่างจัง

เขาค่อยๆลุกออกจากเตียงก่อนจะออกจากบ้านแล้วเดินไปตามถนนที่มืดมิด

...

ในบ้านพักของศิษย์นอกนิกายหลังหนึ่งยังคงสว่างไสวจากเปลวไฟในตะเกียง เป็นเครื่องหมายว่าเจ้าของบ้านพักยังไม่ได้หลับไหล ภายในบ้าน...หวังเทียนเฟิงกำลังนั่งยิ้มด้วยความตื่นเต้นดีใจ หลังจากที่วันนี้มันได้รับตำราวิชาจากศิษย์พี่อี้ซั่งเทียนของมัน

"ฝ่ามือเพลิงผลาญ"

วิชาและทักษะต่างๆบนแผ่นดินนี้จะถูกแบ่งออกเป็นสี่ระดับคือ ส่องประกาย,ทมิฬ,โลก,สวรรค์

แม้ว่าตำราวิชา ฝ่ามือเพลิงผลาญนี้จะเป็นทักษะระดับทมิฬขั้นต่ำ แต่หวังเทียนเฟิงก็ดีใจมาก เพราะศิษย์สายนอกนั้นส่วนมากจะได้รับวิชาระดับส่องประกายเท่านั้น และมีเฉพาะศิษย์สายในที่มีโอกาสได้รับและฝึกวิชาระดับทมิฬ

หวังเทียนเฟิงรีบเปิดตำรายุทธ์ที่ได้รับมาก่อนที่จะจดจำวิธีการฝึกอย่างตื่นเต้น ตราบใดที่เขาสามารถฝึกฝนวิชาฝ่ามือเพลิงผลาญนี้ได้สำเร็จ และใช้มันออกได้อย่างคล่องแคล่ว  หนี่หมิงหยางจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกต่อไป

หวังเทียนเฟิงนึกถึงหนี่หมิงหยางทีไรก็อดบ่นออกมาด้วยความโกรธแค้นไม่ได้ “โชคดียิ่งนักที่ไอเจ้านั่นมิได้อยู่ในสายตาของศิษย์พี่อี้ หากศิษย์พี่อี้ลงมือสักเล็กน้อย มันคงมิได้ทำตัวยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้”

หวังเทียนเฟิงเข้าใจดีถึงเหตุผลที่ศิษย์พี่อี้ของเขาไม่สนใจหรือลงมืออะไรกับมัน เพราะมันมิได้คู่ควรอะไรให้ศิษย์พี่อี้ลงมือด้วยตัวเอง หลังจากที่อ่านกระบวนการฝึกในตำราไปได้สักพัก หวังเทียนเฟิงก็เริ่มนั่งขัดสมาธิ ประสานฝ่ามือไว้กลางอก ก่อนที่จะเริ่มต้นเดินลมปราณหมุนเวียนผ่านจุดชีพจรตามตำราวิชา

ก๊อก ก๊อก...

ในขณะที่กำลังจะเดินลมปราณนั้นเอง เสียงจากภายนอกก็ดังรบกวนขึ้นมา 'ผู้ใดกันมาเอาดึกดื่นป่านนี้?

ก๊อกก๊อก ...  เสียงเคาะดังขึ้นอีกครั้ง

"มาแล้วมาแล้ว ป่านนี้มิหลับมินอน เจ้าเป็นผู้ใดและมีอันใดกัน" หวังเทียนเฟิงตะโกนออกมาก่อนที่จะเดินออกไปเปิดประตู แต่ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่หน้าประตู เมื่อหวังเทียนเฟิงไม่พบใครมันก็กลับไปนั่งขัดสมาธิเตรียมพร้อมเดินลมปราณต่อ

ก๊อก ก๊อก ...  เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง

"เป็นผู้ใดกัน?" หวังเทียนเฟิงไม่ได้ลุกออกไปเปิดประตูเขาเลือกที่จะตะโกนถามแทน แต่หลังจากตะโกนไปแล้วไม่มีเสียงตอบหวังเทียนเฟิงจึงรอจังหวะ เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง เขารีบพุ่งออกไปเปิดประตูด้วยความเร็ว

"ผู้ใดกัน? ไสหัวออกมาไอบัดซบ กล้ามารบกวนข้ากลางดึก! มิรู้หรือตายสะกดเยี่ยงไร! "หวังเทียนเฟิงตะโกนออกมา หลังจากที่เปิดประตูออกมาแล้วพบกับความว่างเปล่า

...

ในมุมมืด พบหลินฟ่านกำลังหัวเราะเยาะหวังเทียนเฟิง หลังจากที่เห็นมันหงุดหงิดเพราะถูกกลั่นแกล้ง ตอนนี้อารมณ์ขุ่นมัวจากการหลอมอิฐจนหายเกลี้ยงเริ่มหมดไป หลังจากหวังเทียนเฟิงปิดประตู หลินฟ่านก็ค่อยๆย่องไปหน้าประตูเพื่อจะเคาะ ก่อกวนอีกครั้ง...สมัยก่อนมันเคยได้ฉายานับร้อย จากการตระเวนกดออดของชาวบ้านเขายามดึก แต่ไม่เคยถูกจับได้สักครั้ง อาทิเช่น ไอเด็กเปรต พ่อแม่ไม่สั่งสอน ชาติชั่ว สารเลว บลาๆๆ ฯลน

...แต่ครานี้ในขณะที่มันกำลังจะเคาะประตูก่อกวน มันกลับพบหวังเทียนเฟิงเปิดประตูออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

หลินฟ่านรู้สึกทึ่งและปราดใจอย่างมาก แววตาของมันแสดงออกถึงความคาดไม่ถึงอย่างเห็นได้ชัด 'เชี่ย...แม้ง ไม่คิดเลยไอควายถึกหวัง นี่จะรู้วิธีหลอกล่อ แบบนี้ด้วย หมดกันฉายา พันบ้านไร้ตัวตน ของข้า'

"ไอเด็กนรก คาดมิถึงจริงๆว่าจักเป็นเจ้า ตอนนี้ข้าจะทำให้เด็กบัดซบเช่นเจ้ารู้ซึ้งถึงผลลัพธ์ที่กล้ามาก่อกวนข้า"หลังจากที่หวังเทียนเฟิงเปิดมาเจอหน้าหลินฟ่านมันไม่คิดประนีประนอมอะไรอีก มันกำหมัดก่อนที่จะชกหลินฟ่านออกมาเต็มเหนี่ยว

"ไอเด็กปากสุนัข ข้าอยากรู้นักยามนี้จักมีใครมาช่วยเจ้าได้ ตายยยยย!!!" ณ จุดๆนี้หวังเทียนเฟิงโกรธจนไม่คิดยั้งมือแล้ว มันกะต่อหลินฟ่านให้ตายคามือ ระบายความโกรธที่ถูกก่อกวนยามฝึกวิชา

ปัง!!! ...

หวังเทียนเฟิงทุ่มกำลังทั้งหมดลงไปในหมัดนี้ มันคิดว่าครั้งนี้หลินฟ่านต้องอาการสาหัสเจียนตายแน่ๆ

'ติ๊ง!! ... ขอแสดงความยินดี' กายปีศาจนิรันดร์ ' EXP +10'

"ห๊ะะะ?" หลินฟ่านรู้สึกทึ่ง

ส่วนหวังเทียนเฟิงแทบไม่เชื่อสายตา มันก็ทึ่งเช่นกัน...ตอนนี้ต่างคนต่างทึ่ง แต่ทึ่งกันคนละแบบ

"จะ..เจ้า " หวังเทียนเฟิงจ้องมองหลินฟ่านอย่างไม่เชื่อสายตา 'เหตุใดมันจึงมิเป็นอันใดแม้แต่น้อย?'

สำหรับฟลินฟ่านมันก็เหวอไปเลย หมัดเมื่อกี้ เดินชนประตูยังรู้สึกเจ็บมากกว่า มันแทบไม่เชื่อเลยว่าจะได้รับ EXP แค่ 10

‘เชี่ย ไรวะเนรี่ยยยยยยยยยยยย! ทำไมมันได้แค่นี้วะไอกากเอ๊ย’

"เด็กสารเลว เจ้าอย่าได้ใจไปนัก ข้ามิได้ใช้กำลังมากมายอันใด แค่ลงมือเล็กๆน้อยๆเท่านั้น"หวังเทียนเฟิงไม่อยากรับความจริงที่ว่าเขาทำอะไรหลินฟ่านไม่ได้ เขาตะโกนข่มขู่หลินฟ่านออกไป เพื่อให้มันรู้ว่าหากหาเรื่องมันแล้วจะจบลงด้วยความเจ็บปวดยังไง

แต่ทันใดนั้นเองมันก็รู้สึกว่าโลกทั้งโลกกำลังถล่มลงมา ความเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัสจู่โจมทำลายความแข็งแกร่งของมัน สองขาสิ้นไร้เรี่ยวแรงทั้งร่างอ่อนระทวยคุกเข่าลงไปกับพื้น ...เสียงที่ลอยเข้าหูเมื่อครู่ก่อนที่มันจะทรุดลงไปคือ “ลิงขโมยลูกท้อ”

"จริงดิ 10 EXP เนี่ยนะ? เชี่ยยย ไร้ประโยชน์สิ้นดี" หลินฟ่านส่ายหัว ก่อนจะเช็ดมือกับกางเกง แล้วมันก็เดินจากไป

'ติ๊ง!! ... ขอแสดงความยินดี "ลิงขโมยลูกท้อ" EXP +100'

'ติ๊ง!!... พ่เอาชนะ หวังเทียนเฟิงระดับมนุษย์ขั้นที่ 6 EXP +500'

...

"จะ ... เจ้า" หวังเทียนเฟิงที่โมโหราวกับทศกัณฑ์ถูกเผากรุงลงกาเมื่อสักครู่ กล่าวเสียงอ่อนระทวยออกมาด้วยน้ำตานองหน้า สองมือของมันกุมไข่ทั้งสองใบไว้อย่างเหนียวแน่น ความปวดร้าวที่พวงสวรรค์มันสะท้านไปทั้งร่างกาย

"หลินฟ่าน ข้าจักมิมีวันอภัยให้เจ้า!" หวังเทียนเฟิงเค้นเสียงสุดท้ายออกมาทั้งน้ำตา ก่อนที่มันจะสลบไป

หลินฟ่านเดินฝ่าความมืดมาอย่างเสียอารมณ์

"ต่อยมาทั้งทีเจือกได้แค่10 EXP กากชิบหาย ... "

 

รีวิวผู้อ่าน