px

เรื่อง : ระบบมหานครคนเถื่อน (都市枭雄系统)
ตอนที่ 21  คุณชายที่บ้าบอ


ตอนที่ 21  คุณชายที่บ้าบอ

สองฝ่ายจับมือกัน ประธานฉางเปิดปากแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่กังวลว่า: “คุณชายเจียงเป็นเพื่อนของเหลาหม่า ฉันก็จะพูดสิ่งที่ฉันรู้ทั้งหมดให้ฟัง จางเทียนอั๋งคนที่คุณพูดถึงนั้นฉันก็รู้จักเหมือนกัน ลูกชายของประธานจางที่อยู่หาวเจียงกรุ๊ปพูดความจริง......ดูมีปัญหานิดหนึ่ง ถ้าไม่จำเป็น ฉันเตือนคุณว่าอย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่า

ซูเจี๋ยดูแล้วก็ไม่ใช้คนดีอะไร ตอนที่มาถึงก็พาชายร่างใหญ่กี่สิบคนมาด้วย พวกเขารอเจียงป๋ายอยู่ที่นี่ เจียงป๋ายก็ตั้งใจมาหาจางเทียนอั๋ง  แค่มองก็รู้แล้วมาทำอะไร ถ้าไม่ใช่เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับหม่าฉางหยาง เกรงว่าประธานฉางจะไม่พูดเลย

แน่นอน......เขาเป็นประธานที่นี่ เขาก็ไม่อยากให้พื้นที่ของตนเองเกิดเรื่องไม่ดี

 “หาวเจียง? จางฉางเกิง? ”ซูเจี๋ย ได้ยินคำพูดนี้สีหน้าก็เปลี่ยนไป สีหน้าดูกังวลแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ดูออกว่าเขารู้เรื่องของหาวเจียงกรุ๊ป

 “ไม่ผิด ก็คือเขา ดังนั้นฉันจึงพูดว่าถ้าไม่จำเป็น......” ประธานฉาง พยักหน้าและใช้เสียงอ่อนพูดออกมา คำพูดยังพูดไม่จบความหมายก็ชัดเจนแล้ว

 “ประธานฉาง บอกห้องฉันมา ที่ตรงนี้ก็ไม่มีเรื่องของคุณแล้ว พวกเราไปเอง เรื่องของพวกเราดึงคุณมาเกี่ยวข้องไม่ได้” เจียงป๋ายอ้าปากพูด ให้ประธานฉางออกไป

อีกฝ่ายได้ยินคำพูดนี้ ก็สบายใจขึ้น บอกเลขห้องแล้วก็เดินจากไป

 “ทำไม  รู้จักเหรอ?” หลังจากเขาได้เดินออกไปเจียงป๋ายก็ถามขึ้นมา

 “อืม เคยเจอสองครั้ง ตอนที่อยู่กับอาจารย์ของฉัน จางฉางเกิงคนนี้เข้าถึงยากมาก หมอนี่เมื่อก่อนก็เป็นอันธพาล พึ่งความโหดใช้เวลาไม่นานก็เปิดสนามได้ หลังจากนั้นก็แต่งงานกับภรรยา ยืมหน้าตาของพ่อตา ค่อยๆลบล้างความชั่ว สิบกว่าปีที่ผ่านมานี้หาวเจียง พัฒนาอย่างดุเดือด จากบริษัทที่ขายของปลอม ขายสิ่งผิดกฎหมายกลายเป็นเสือใหญ่ในหนึ่งพื้นที่ จนไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับตลาดที่ดิน สินค้าอุตสาหกรรม การนำออกสินค้า และอีกหลายๆอย่าง

   

ในกี่ปีมานี้แม้จะค่อยๆวางมือ แต่ก็ยังมีลูกน้องที่เหี้ยมโหดอยู่ และยังได้ข่าวว่าธุรกิจการค้าที่ผิดกฎหมายยังมีอยู่ไม่น้อย มีคนไม่น้อยที่อยู่ในมือเขาเพื่อที่จะทำมาหากิน เป็นใหญ่ในพื้นที่นี้  เหลาหม่าถ้าเทียบกับคนพวกนั้นแล้วก็คือพ่อมดน้อยไปเจอพ่อมดใหญ่ ถ้าพูดแบบไม่น่าฟังเหลาหม่าในสายตาของจางฉางเกิงก็แค่นักเลงที่หมดพิษสงแล้วเท่านั้นเอง ขึ้นหน้าเวทีไม่ได้”

  ซูเจี๋ยอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนพูด

พูดจบก็พูดเพิ่มต่อว่า: “จางเทียนอั๋งที่คุณพูดถึงนี้ คิดว่าน่าจะเป็นลูกชายคนเดียวของเขาจางฉางเกิง อายุ32ปีถึงจะมีลูกชายคนนี้ คู่สามีภรรยารักเขามาก หมอนี่คือลูกที่ล้างผลาญพ่อแม่ที่ใครๆก็รู้กัน ผู้ชายที่เจ้าชู้ กี่ปีนี้เรื่องร้ายๆไม่เคยไม่ทำ คาดว่าครั้งนี้ไม่ได้มีแค่เลี้ยงข้าวง่ายๆแบบนี้แน่”

พูดจบก็กังวลไปได้แปบเดียว แล้วพูดต่อ: “ในที่นี้จางฉางเกิงถือว่ามีรากฐานมั่นคง ไม่น่าที่จะไปยั่วยุ ไม่อย่างงั้นฉันจะโทรหาอาจารย์ของฉัน จางฉางเกิงกับอาจารย์ฉันก็มีความสัมพันธ์กัน ปกติก็เคารพคนแก่ ให้เขาออกหน้าน่าจะมีผล”

 “ไม่ต้อง! ไม่ต้องไปสนว่าเขาคือใคร?จะเป็นจางฉางเกิงก็ดี หรือจะเป็น หวังฉางเกิงก็ดี ฉันต้องกลัวเขาเหรอ ?เขาเข้ามาหาเรื่องเอง งั้นก็ไปจัดการ!อย่างมากก็แค่ฆ่าให้เลือดไหลเหมือนสายน้ำ

เจียงป๋ายหรี่ตาแล้วพูดอย่างเย็นชา ทำให้ซูเจี๋ยที่อยู่ข้างๆเครียดจนดึงสติกลับมา เจียงป๋ายเป็นคนจริง กำปั้นหมัดหมวดแปดท่าที่มีพลังสูงจนฆ่าคนได้ ถ้าลงมือจริงๆก็จะให้ที่สุด เลือดไหลอย่างสายน้ำคำนี้ไม่ได้พูดเล่นๆ

 “ดี! แบบนี้ถึงจะเป็นพี่ใหญ่ของฉัน! พวกเรามาจัดการกับจางฉางเกิงนี้ อย่างมากก็แค่ฆ่าให้เลือดไหลเป็นสายน้ำน้ำ! เขามีธุรกิจที่ใหญ่โตก็จริง แต่เรามาดูว่าเขาแตะต้องได้ไหม!”

ซูเจี๋ยหัวเราะออกมา แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา ผู้แข็งแกร่งพูดอะไรออกไปแล้วก็จะไม่คืนคำ

พูดพลางพาคนขึ้นไปที่ห้องพักพิเศษของประธาน เพิ่งถึงหน้าห้องก็มีชายร่างใหญ่ที่ใส่ชุดสีดำ4คนจะมาห้ามไว้ ไม่รอเจียงป๋ายลงมือ ซูเจี๋ยก็วิ่งไป กี่สิบคนที่อยู่ข้างๆซูเจี๋ยก็ไม่รอช้าตามไปลงมือ ไม่นานชายร่างใหญ่4คนนั้นที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของทหารก็ล้มลงไป ถูกกดไว้ขยับไม่ได้!

 “ผัวะ!” เจียงป๋ายถีบประตูล้มอย่างเสียงดัง แล้วเดินเข้าไป

เมื่อได้เข้าไปแล้วก็ถอนหายใจ เห็นหลินหวานหยู กำลังนั่งอยู่ข้างโต๊ะอาหารที่อยู่กลางห้อง ภาพเลวร้ายที่เขาคิดไว้ยังไม่เกิดขึ้น

 “นายเป็นใคร!”

เจียงป๋ายเพิ่งเข้าห้องก็ถูกชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามของหลินหวานหยูเห็น ชายหนุ่มก็ได้ยืนขึ้นแล้วตะโกนใส่

ชายใส่ชุดสูทสีดำที่อยู่ข้างหลังเขา เห็นเจียงป๋ายและคนอีกมากมายเข้ามา ก็รีบเข้าไปจีบตัวชายหนุมไว้ ดูก็รู้แล้วว่าจะทำอะไร

เสียงตะโกนนี้ทำให้หลินหวานหยูหันหลังกลับไปมอง เห็นเป็นเจียงป๋ายก็ตกใจ แล้วลุกขึ้นมา เหมือนเด็กที่ทำผิดอะไร คืนสติแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า: “เจียงป๋าย นายมาทำไมเหรอ?”

 “เธอมันผู้หญิงโง่เง่า ถ้าฉันไม่มา เธอก็จะถูกคนอื่นกินจนเหลือแค่กระดูกยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ!” ถอนหายใจไปหนึ่งครั้ง จากเดิมอยากจะด่าหลินหวานหยู แต่เห็นเธอเป็นแบบนั้นก็เปลี่ยนคำพูดทันที

 “หื้อ?” หลินหวานหยูมองหน้าเจียงป๋าย หลังจากนั้นก็เหมือนคิดอะไรได้ หันหลังกลับไปมองจางเทียนอั๋ง

 “แกก็คือเจียงป๋าย?” จางเทียนอั๋งก็รู้ว่าเจียงป๋ายคือใคร แต่ดูท่าทางก็ไม่ได้เห็นเจียงป๋ายอยู่ในสายตา ในคำพูดดูไม่เป็นมิตร

 “รู้จักฉัน? ถ้างั้นแกต้องรู้ว่าเรื่องของฉันจัดการได้แล้ว แกยังกล้าหลอกหวานหยู!” เจียงป๋ายก็ใช้น้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรเหมือนกัน

 “รู้แล้วก็จะยังไง? ฉันรู้ว่าแกสู้เก่ง คนเดียวสามารถสู้สิบกว่าคนได้?คนที่อยู่ข้างแกก็คือนักเลงใหญ่ซูเจี๋ย?แต่ก็จะทำไม!วันนี้แกกล้ามาที่นี่!ฉันคิดว่าแกไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว”

 “จากเดิมฉันคิดจะมาเล่นๆสนุกๆ คิดจะตั้งข้อแม้กับหลินหวานหยู แต่เธอเหมือนชอบแกมาก เพื่อญาติผู้พี่คนนี้ถึงกับมาขอให้ฉันช่วย จากเดิมฉันคิดอยู่ว่าพูดกับเธอรุนแรงหน่อย เธอก็จะยอมถอดเสื้อให้ฉันเล่นๆ แต่แกกับมาถึงที่นี้ทำให้เรื่องเยอะ! คิดว่าวันนี้ฉันคงต้องมาแบบไม้แข็งแล้วล่ะ!”

   จางเทียนอั๋งพูดอย่างเย็นชา ไม่เห็นเจียงป๋ายอยู่ในสายตา ถึงจะเป็นเช่นนี้แต่ตอนนี้ฝ่ายของซูเจี๋ย ก็ได้เปรียบกว่ากี่สิบคนที่ยืนอยู่ตรงนี้

 จางเทียนอั๋งไร้ยางอายหน้าด้านจริงๆ!” ไม่รอให้เจียงป๋ายได้พูด หลินหวานหยูก็พูดออกมาอย่างโกรธ สีหน้าแดงไปหมดก็ไม่รู้เพราะโกรธหรืออับอาย

 “เห้ ไร้ยางอายหน้าด้าน? คำพูดนี้หมายความว่าอะไรหรอ ใครบอกให้เธอหน้าตาสวยเอง จากเดิมที่จีบเธอ เธอมาอยู่กับฉันดีๆเรื่องก็จบแล้ว กินดื่มเธอจะขาดหรอ?แต่เธอกลับไม่ยอม ไปชอบหมอนี่ ถ้าแบบนั้นฉันก็ต้องเล่นๆกับเธอ เธอชอบเขาไม่ใช่เหรอ?วันนี้ฉันก็จะเล่นเธอต่อหน้าเขา!” จางเทียนอั๋งหัวเราะอย่างเสียงดัง พูดออกมาอย่างไม่รู้สึกอาย

หลังจากพูดจบก็โบกมือ บอดี้การ์ด2คนที่อยู่ข้างๆเขาก็เอาปืนออกมาชี้ไปที่เจียงป๋าย หลังจากนั้นก็ตะโกนกับคนข้างหลังว่า: “พ่อของฉันคือจางฉางเกิง เจ้าของหาวเจียงกรุ๊ป ถ้าไม่อยากตายก็หนีไปซะ!”

หนึ่งคำพูดจบ คนที่ตามซูเจี๋ยมาก็มีคนเริ่มถอยออกไป2ก้าว และหนีไป เหลืออยู่แค่สิบกว่าคน

คนที่เหลือถึงจะไม่ได้หนี แต่เห็นได้ชัดว่าสีหน้าดูไม่ดีและกำลังที่ดูไม่แกร่งพอ

ชื่อเสียงความโหดเหี้ยมของจางฉางเกิง ที่นี่ใครๆก็รู้

รีวิวผู้อ่าน