px

เรื่อง : The Strongest System จบแล้ว!!!
บทที่ 19 : ศิษย์คนนี้เย็นชาดี ใช้ได้ๆ!!


บทที่ 19 : ศิษย์คนนี้เย็นชาดี ใช้ได้ๆ!!

 

 

ยามเช้าของวันต่อมา ...

หลินฟ่านศรัทธาในวลีที่ว่า

ยามเช้าวิหกออกโผบินไปหาหนอนจิกกิน...แน่นอนสำหรับหลินฟ่าน นกจะกินหนอนกินอะไรก็ให้มันกินไปเถอะ! แต่หนอนน้อยของมันต้องถูกขัดถูทุกเช้า

สำหรับนิกายเขตนอกนี้ เวลาทุกวินาทีสำคัญอย่างมากหลินฟ่านมันไม่คิดจะเสียเวลาในแต่ละวันไปโดยเปล่าประโยชน์...มันต้องเดินเล่นหาเรื่องให้ทั่ว!

เช้า..สาย..บ่าย..เย็น

ทุกวันหลินฟ่านจะใช้เวลาพวกนี้ออกไปสังเกตการณ์เหล่าศิษย์ในนิกายเขตนอก สำหรับที่เหลือจะเป็นเวลาพัก ที่เหล่าศิษย์ในนิกายต่างคนต่างอุดอู้บ่มเพาะอยู่ในบ้าน สำหรับหลินฟ่านให้เขาอยู่บ้านอย่างเดียวเขารู้สึกอึดอัด มันน่าเบื่อและไม่รู้จะทำอะไร

เวลานี้หลินฟ่านเดินโต๋เต๋อยู่บนทางไปโรงอาหาร มันคิดที่จะไปกินอาหารเช้า  สายตาของมันเปล่งประกายมองไปรอบๆบริเวณอย่างทั่วถึงเพื่อดูว่ามีอะไรน่าสนใจหรือไม่ ทันใดนั้นสายตาของมันก็ไปหยุดอยู่ที่ศิษย์นิกายคู่หนึ่ง หลินฟ่านเดินเข้าไปหาเป้าหมายในวันนี้ของเขาด้วยใจตั้งมั่น ศิษย์ทั้งสองกำลังทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างรุนแรง ราวกับว่าจะถึงขั้นแตกหักลงไม้ลงมือต่อกัน

"เฮ่ๆ ศิษย์พี่ทั้งสองใจเย็นๆนะ มีอะไรค่อยๆคุยกัน อย่าลงไม้ลงมือกันเลย เดี๋ยวจะเจ็บตัวกันซะเปล่าๆ มาๆพวกท่านมีปัญหาอะไรไหนเล่าให้หมอฟังซิ"หลินฟ่านเข้าไปสอดการทะเลาะของทั้งคู่ก่อนที่จะค่อยๆกล่าวออกมา

"ศิษย์น้องเจ้ามาได้พอดี เจ้าฟังแล้วช่วยข้าตัดสินเอาเองแล้วกัน มันผู้นี้ขอยืม เม็ดยาเร่งลมปราณ ของข้าเพื่อนำไปฝึกพื้นฐานให้มั่นคง หลังจากนั้นมันกล่าวว่าเดือนต่อมามันจักชดเชย เม็ดยาเร่งลมปราณพิเศษให้ข้าถึง 10 เม็ด แต่ตอนนี้มันเลือกที่จะกลับคำ ยอมกลืนน้ำลายตนเองมิทำตามสัญญา เจ้าว่ามันน่ารังเกียจไหมเล่า?"คนที่กล่าวออกมาก็ไม่ได้ดูแข็งแกร่งอะไรมากมายนัก ตอนนี้มันกำลังโกรธมาก เมื่อเห็นหลินฟ่านผ่านมา มันจึงได้โอกาสระบายอารมณ์

ศิษย์อีกคนที่ได้ฟังคำกล่าว มันก็อดทนไม่ได้ถึงกับต้องพูดโต้แย้งออกมา "เจ้าอย่าได้กล่าววาจาโกหกพกลมเช่นนี้ ข้ามิเคยบอกเจ้าสักครั้งว่าข้าจะชดใช้โอสถพิเศษคืนเจ้าถึง 10 เม็ด ศิษย์น้องเจ้าอย่าได้ฟังความข้างเดียว! ข้าบอกเขาว่าข้าจะคืนเม็ดยาเร่งลมปราณพิเศษเพียง 1 เม็ดเท่านั้น"

เห็นทั้งสองคนโต้เถียงกันเรื่องนี้หลินฟ่านอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ใครจะไปคิดว่านิกายแบบนี้จะมีคนคล้ายๆพวกปล่อยกู้ดอกเบี้ยสูงด้วย?

"ใจเย็นๆ ศิษย์พี่ทั้งสองลองฟังข้าก่อนนะ ตอนที่พวกท่านตกลงแลกเปลี่ยนสิ่งของกัน พวกท่านได้บันทึกเอาไว้เป็นลายลักษณ์อักษรรึเปล่า? "หลินฟ่านกล่าวถามออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง

"มิได้บันทึกสิ่งใดเอาไว้ นี่เป็นเพราะข้าไว้ใจมัน ขาเลยให้เม็ดยาแก่มัน ผู้ใดจะไปคาดคิดว่ามันจักเป็นคนเยี่ยงนี้? "

"เจ้าอย่าได้พูดเหลวไหล คำพูด ‘จักเป็นคนเยี่ยงนี้’ ของเจ้ามีความหมายอันใด ในเมื่อข้าบอกแก่เจ้าไปชัดแจ้งแล้วว่าข้าจักคืนเพียงโอสถพิเศษเพียงแค่ 1 เม็ดเท่านั้น... "

...

เมื่อเห็นทั้งสองคนกลับมาเถียงกันน้ำไหลไฟดับอีกครั้ง หลินฟ่านจึงเดินเข้าไปจับไหล่ของทั้งคู่  "ศิษย์พี่ทั้งสองโปรดใจเย็น แค่ลองฟังคำพูดของข้าดู"

"ก็ได้ ศิษย์น้องมีคำใดจะกล่าว"

"ก็ได้ เจ้าว่ามา"

หลินฟ่านมองไปที่ชายทั้งสองคน "ศิษย์พี่ทั้งสองคน ท่าทางจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันใช่หรือไม่"

"ฮึ่ม! เรื่องนั้นมันเป็นอดีตไปแล้ว ข้ามินับมันเป็นเพื่อนอีกต่อไป"

"เฮอะ ใช่ว่าข้าจะอยากเป็นเพื่อนกับเจ้า"

หลินฟ่านยิ้ม ก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างจริงจัง "เฮ่ ศิษย์พี่ทั้งสอง พวกท่านคิดว่าจากคนที่เคยเป็นเพื่อนกัน ต้องกลับกลายมาเป็นศัตรู มันไม่น่าเสียดายไปหน่อยเหรอ?"

หลังจากที่ทั้งคู่ได้ยินคำพูดของหลินฟ่านก็เงียบไปสักพักก่อนที่จะกล่าวออกมา

"หากเขามอบเม็ดยาเร่งลมปราณพิเศษแก่ข้า 10 เม็ด ข้ายังนับว่าเขาเป็นเพื่อนของข้า"

"เป็นไปมิได้ เพียงแค่เจ้ายอมรับผิดว่า เป็นเจ้าที่จดจำผิดไปเอง ข้ายังกล่าวได้ว่าเจ้ายังเป็นสหายของข้า"

...

หลังจากนั้นทั้งสองก็เริ่มเถียงกันอีกครั้ง หลินฟ่านถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะกรีดกรายนิ้วของเขา "เอาล่ะๆ ศิษย์พี่ทั้งสองไม่ต้องเสียเวลาเถียงกันแล้ว ปัญหานี้ให้ข้าจัดการเอง รับรองว่าข้าสามารถทำให้พวกท่านกลับมาเป็นเพื่อนกันได้อีกครั้ง ".

ทั้งสองได้แต่มองไปยังหลินฟ่านอย่างสงสัย พวกมันไม่รู้ว่าศิษย์น้องผู้นี้จะทำอะไร แต่ทันใดนั้นเองพวกมันก็ได้ประจักษ์ทันที

"ลิงขโมยลูกท้อ"

'ติ๊ง!! ... ขอแสดงความยินดี "ลิงขโมยลูกท้อ" EXP +300 '

'ติ๊ง!! ... ขอแสดงความยินดี "ลิงขโมยลูกท้อ" EXP +300 '

'ติ๊ง!! ... ขอแสดงความยินดี เอาชนะ ศิษย์ระดับการบ่มเพาะมนุษย์ขั้นที่ 5  EXP +400 '

'ติ๊ง!!  ... ขอแสดงความยินดี เอาชนะ ศิษย์ระดับการบ่มเพาะมนุษย์ขั้นที่ 4  EXP +300 '

...

หลินฟ่านมองทั้งสองคนที่ล้มตัวลงไปกุมไข่ด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของพวกมันสั่นสะท้านราวกับว่าความเจ็บปวดนี้มันบาดลึกไปถึงทรวงใน สำหรับหลินฟ่านเขารู้สึกว่า ถ้าอยากให้ทั้งคู่คืนดีกัน มีแต่ต้องให้พวกมันทั้งคู่มีศัตรูร่วมกัน ...ดังนั้นเพื่อผดุงความบริสุทธิ์ของมิตรภาพคนทั้งสอง หลินฟ่านยินยอมรับบทคนเลว เพื่อให้ทั้งคู่กลับกลายมาเป็นเพื่อนแท้ ที่ร่วมสู้ศึกด้วยกันอีกครั้ง

ใครจะกล้าว่าเขา ในเมื่อเขาเป็นคนดีทำเพื่อคนอื่นแบบนี้ ?

...

หลังจากนั้นหลินฟ่านก็เดินเส้นทางสายนี้ต่อไป ยามใดที่เขาเห็นคนอื่นกำลังมีปัญหากันเขาจะก้าวเข้าไปยุติความขัดแย้ง แม้ว่ามันอาจจะเป็นการทำให้คนอื่นรังเกียจ แต่เขาจะน้อมรับเอาไว้ เพราะสิ่งที่เขาทำนั้นมีความตั้งใจอันดีงาม สักวันทุกคนต้องเข้าใจถึงเจตนาดีของเขาเป็นแน่...

"อ้าวว ศิษย์พี่หาน ... "ทันใดนั้นเองหลินฟ่านก็เห็นหานลู่ เขานึกย้อนคิดไปถึงเรื่องเมื่อวาน หลินฟ่านรู้สึกผิดเล็กน้อยที่เอาขี้ไปละเลงหน้าบ้านเขา

...วันนี้หานลู่อยู่ในสภาพอารมณ์ที่ค่อนข้างดี เมื่อคืนวานเขาสามารถตัดผ่านไปยังระดับมนุษย์ขั้นที่ 5 ได้ แม้ว่ามันจะไม่ถึงระดับมนุษย์ขั้นที่ 6 แต่เขาก็ยอมรับได้ คิดซะว่าปูพื้นฐานในชั้นนี้ให้แน่นก่อนก็ดีเหมือนกัน

แต่ในขณะที่กำลังเดินอยู่นั้น หานลู่ก็ได้ยินเสียงเรียกตัวเขา ทำให้เขามองไปรอบๆด้วยความสงสัย แต่เมื่อเขาเห็นคนที่ส่งเสียงเรียกการแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที เขารีบก้มหน้าก้มตาหันหลังจากไปด้วยตัวที่สั่นราวกับจะระเบิด

เพราะหานลู่กลัวว่ามันจะทนไม่ไหว จนฆ่าไอเด็กบัดซบตรงหน้าอย่างโหดเหี้ยมไร้ความปราณี แต่ตรงนี้มันที่แจ้งเกินไปมันอาจจะสร้างปัญหาและส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเขาได้

"ศิษย์พี่... เฮ่ ศิษย์พี่ เฮ้ เดี๋ยวก่อนนน "หลินฟ่านตะโกนออกมาอีกหลายครั้ง แต่เมื่อยังเห็นว่าหานลู่ไม่ได้สนใจเขา มันก็ทำได้แค่เพียงถอนหายใจ ‘อะไรของเขากัน จะแค้นข้าอะไรขนาดน้าน’

หลังจากนั้นหลินฟ่านก็กลับไปตั้งหน้าตั้งตาทำกรรมดีของเขาต่อไป...ทำความดีช่วยเหลือเหล่าศิษย์ที่มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง ด้วยการระเบิดไข่พวกมันให้หมด...

หลังจากความพยายามอย่างต่อเนื่องในที่สุดค่า EXP ของ "ลิงขโมยลูกท้อ" ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากจนถึงค่าที่ต้องการ

'ติ๊ง!! ... ขอแสดงความยินดี "ลิงขโมยลูกท้อ" เพิ่ม Lv ขึ้น'

หลินฟ่านรู้สึกดีมาก เขาอยากรู้จริงๆว่า วิชาลิงขโมยลูกท้อของเขา ถ้าถึงจุดๆหนึ่งแล้ว มันจะพัฒนาไปเป็นวิชาอะไร ที่ล้ำลึกกว่า ลิงขโมยลูกท้อในปัจจุบัน

หลังจากที่ใช้วิชา "ลิงขโมยลูกท้อ"อย่างต่อเนื่อง เขาก็ตระหนักถึงความโกงของมัน มันไม่สามารถป้องกันได้เลย ถ้าวิชานี้เลื่อนระดับไปสูงสุดมันจะเป็นอย่างไรกัน วิชานี้มันจะก้าวไปยังดินแดนไหนกันแน่ ดูเหมือนวิชาของโลกนี้ทั้งหมดจะเริ่มจากง่ายไปยาก ทุกๆวิชาขั้นสูงต่างก็พัฒนามาจากวิชาระดับรากหญ้าทั้งนั้น

ที่มาของการสรรค์สร้างวิชาที่ยิ่งใหญ่ก็ได้แนวทางจากวิชาพื้นฐานนี่ล่ะ ผู้สร้างวิชาขั้นเทพทั้งหลายก็ไต่เต้ามาจากระดับง่ายๆ ค่อยๆพัฒนาพวกมันจนกลายเป็นวิชาระดับสูง

"ลิงขโมยลูกท้อ" มีเพียงหนึ่งกระบวนท่าเท่านั้น สำหรับคนอื่นที่ใช้วิชานี้ ก็ทำได้เพียงใช้มันแค่ระดับแรกไม่ต่างอะไรจากจุดเริ่มต้นของวิชา สำหรับเขา ที่เก็บค่า EXP มาจนมันเพิ่ม Lv ไปไกลโขกว่าจุดสูงสุดดั้งเดิม  ผลลัพธ์มันเหนือความคาดหมายไปมาก

ตอนนี้แม้แต่ผู้คิดค้นวิชา "ลิงขโมยลูกท้อ" ก็ใช้วิชานี้เทียบกับเขาไม่ได้ หลินฟ่านมีความฝันอันยิ่งใหญ่ความฝันหนึ่ง สักวันมันจะยกระดับวิชาลิงขโมยลูกท้อนี้ให้สูงสุดเหนือวิชาใดในใต้หล้า...

เมื่อหลินฟ่านเดินมาถึงโรงอาหารเขาก็มองไปรอบๆทันที แล้วเขาก็ตระหนักได้ว่ามีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกำลังรวมตัวกันอยู่ ราวกับว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นสักอย่าง

หลินฟ่านมองภาพตรงหน้าด้วยอาการลิงโลดมันรีบเดินเข้าไปเผือกในทันที ‘มีไรกัน มีไรกันนน!’ ดูเหมือนว่าต้องมีเรื่องใหญ่อะไรเป็นแน่หลินฟ่านพุ่งเข้าไปด้วยความหวังว่าจะมีเรื่องให้มันฉกฉวยโอกาส ปรับทัศนคติ ทุกคนให้หันมาสมัครสมานสามัคคีกันอีกครั้ง ....แต่เมื่อมันเห็นคนๆหนึ่งมันก็หมดความคึกลงในทันที

'หวังเทียนเฟิง ...ไอกากที่ต่อยเขาได้ 10 EXP นี่หว่า เฮ่อนึกว่าจะเจอใครเจ๋งๆ ซะอีก' ปัจจุบันหวังเทียนเฟิงก็ยังมีระดับเท่าเดิมหลินฟ่านเลยไม่ค่อยสนใจมัน ดูเหมือนตอนนี้มันกำลังจะรังแกคนอ่อนแออีกแล้ว

ดูเหมือนจะเป็นเหตุการณ์ศิษย์ใหม่คนหนึ่งถูกแย่งชิงอาหาร แต่ศิษย์คนนี้แปลกมาก ท่าทางของเขาสงบนิ่งผิดวิสัยภายนอกมันดูสงบนิ่งราวกับสายน้ำ  หากแต่หลินฟ่านกลับสัมผัสได้ถึงภายในของมันที่คุกรุ่นไปด้วยความโกรธ จิตสังหารของมันระอุอยู่ด้านในอย่างมหาศาล

คนรอบๆเริ่มกระซิบกระซาบกัน

"ฟางฮั่นช่างโชคร้ายยิ่งนัก"

"นั่นสิ มันพึ่งเข้ามาใหม่กลับต้องประสบเหตุการณ์เช่นนี้เสียแล้ว"

...

"เจ้าไสหัวไปได้แล้ว ไอขี้แพ้!!"หวังเทียนเฟิงมองไปยังฟางฮั่นก่อนที่จะกล่าวไล่ออกมาอย่างดูแคลน ก่อนหน้านี้หวังเทียนเฟิงพึ่งผิดหวังอยากหนัก จากการที่ไม่สามารถทำอะไรหลินฟ่านได้ ตอนนี้ได้รังแกคนอ่อนแอ มันเลยมีความสุขขึ้นมามาก

ฟางฮั่นได้แต่กัดฟันของเขาเอาไว้ เขารู้ดีว่าเบื้องหลังของหวังเทียนเฟิงคืออี้ซั่งเทียน ดังนั้นตอนนี้เขาเลือกที่จะอดทนเอาไว้ สักวันไม่ว่าจะเป็น อี้ซั่งเทียน หวังเทียนเฟิงหรือใครก็ตาม พวกมันเป็นได้แค่หินรองเท้าให้มันก้าวขึ้นไปโบยบินเท่านั้น

และสิ่งที่ทำให้ฟางฮั่นมั่นใจว่าจะก้าวข้ามพวกมันไปได้ เพราะว่า เขามีมรดกวิญญาณโบราณ ที่ใช้ในการฝึกฝนเพื่อก้าวเข้าสู่เส้นทางราชันย์ปีศาจอยู่นั่นเอง  หลินฟ่านมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าได้สักพัก มันก็คิดว่าตัวมันก็เป็นศิษย์ในนิกายคนหนึ่ง เมื่อเห็นศิษย์ที่พึ่งเข้ามาใหม่ถูกรังแกมันควรออกหน้าบ้างอะไรบ้าง

หลินฟ่านกระแอมส่งเสียดังแทรกขึ้นมา "อะแฮ่ม!! หวังเทียนเฟิง.. เจ้าอยากโดนขโมยลูกท้ออีกรึเปล่า"

ทันใดนั้นคนที่กำลังแสดงท่าทางหยิ่งยโสโอหังอยู่อย่างหวังเทียงเฟิน ก็ถึงกับสะดุ้ง มันหันไปมองรอบๆ แล้วเมื่อมันพบว่าหลินฟ่านกำลังจ้องมาที่มันอยู่พร้อมกับ ขยำมือเล่นในอากาศ มันถึงกับหน้าซีดเหงื่อตก พวงสวรรค์ของมันรู้สึกเสียวซ่านขึ้นมา อย่างหนาวเหน็บจับใจ

จากนั้นมันไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้ครึ่งคำ มันรีบวางจานอาหารก่อนที่จะหันหลังจากไปเงียบๆ เมื่อเห็นหวังเทียนเฟิงคิดจะไปหลินฟ่านก็ไม่ได้มีกะใจจะหยุดหรือรั้งอะไรมันไว้ มันก็เป็นแค่ไอกากให้ค่า EXP แค่ 10 มีหรือไม่มีมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกัน

"ขอบคุณมากศิษย์พี่" ฟางฮั่นเดินมาหยิบจานอาหารก่อนที่จะกล่าวขอบคุณ แล้วก็จากไปในทันที

"หืม ไอนี่ดูเข้าท่า ท่าทางเย็นชาดี ใช้ได้ๆ... "หลินฟ่านยิ้มแย้มออกมา คนลักษณะนี้ส่วนมากในนิยายหลังจากนี้มันต้องก้าวหน้า และเก่งขึ้นอย่างรวดเร็ว อนาคตของมันต้องเป็นคนเก่งกาจและโดดเด่นอย่างมาก ..สำหรับเขาพวกแบบนี้ล่ะที่จะมีประโยชน์ในการเก็บค่า EXP ของเขา

 

รีวิวผู้อ่าน