px

เรื่อง : คุณพ่อยอดหมอเทวดา (重生之奶爸医圣)
ตอนที่ 100 จักรพรรดินีแห่งวงการเพลง


ตอนที่ 100 จักรพรรดินีแห่งวงการเพลง

 

“ พระเจ้าช่วย สามารถเชิญเฉาเป้ยเป้ยมาเป็นนักร้องรับเชิญได้ นี่มันลูกเต้าเหล่าใครกันเนี่ย ช่างมีอำนาจเหลือเกิน...... ”

 

“ เฉาเป้ยเป้ย ฉันเป็นแฟนตัวยงของคุณเลย…... ”

 

“ เฉาเป้ยเป้ย ฉันรักคุณ ! ”

 

ผู้ชมต่างอารมณ์พลุ่งพล่านเมื่อพวกเขาเห็นการปรากฏตัวของเฉาเป้ยเป้ย หวางหงปิงมองไปที่ ฉินห้าวตงด้วยสีหน้าภูมิใจสุดจะบรรยาย

 

ฉินห้าวตงส่ายหัวเงียบๆ คิดไม่ถึงเลยว่าไอ้หนุ่มที่ดูเหมือนผู้ชายก็ไม่ใช่ผู้หญิงก็ไม่เชิงจะมีชื่อเสียงโด่งดังได้ถึงเพียงนี้

 

เฉาเป้ยเป้ยและหวางกวนร่วมกันร้องเพลง ‘แม่ดีที่สุดเสมอ บนเวที เฉาเป้ยเป้ยเป็นนักร้องมืออาชีพ เขาร้องเพลงได้ดีมากและสามารถกลบข้อผิดพลาดทั้งหมดของหวางกวนด้วยทักษะการร้องที่ยอดเยี่ยมของเขา

 

เมื่อเพลงจบลง เสียงปรบมือดังขึ้นทั่วลานแสดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาแฟนคลับของเฉาเป้ยเป้ยที่ดูตื่นเต้นและหยุดกรี๊ดส่งเสียงเชียร์ไม่ได้เลย

 

หลังจากการแสดงของพวกเขาจบลง เฉาเป้ยเป้ยจับมือหวางกวนและโบกมือให้บรรดาแฟนคลับที่อยู่ล่างเวที เขาดูท่าจะมีชื่อเสียงโด่งดังจริงๆ ด้วย

 

“ ฉันรู้คำตอบเรียบร้อยแล้วละ ผู้ชนะต้องเป็นเฉาเป้ยเป้ยและเด็กคนนั้นแน่นอน...... ”

 

“ นี่ยังต้องบอกอีกเหรอ? ฉันเองก็รู้เหมือนกันว่าถ้าหากเฉาเป้ยเป้ยมา ขอแค่กรรมการไม่ตาบอด ยังไงรางวัลชนะเลิศก็ต้องตกเป็นของพวกเขา...... ”

 

“ แต่ต่อไปยังมีเด็กอีกคนขึ้นทำการแสดงนะ ได้ยินมาว่าเธอร้องเพลงดีมาก แต่ก็คงจะไร้ประโยชน์ เพราะเธอคงเอาชนะเฉาเป้ยเป้ยไม่ได้...... ”

 

หลินโม่โม่และหวางเจียหนีหน้าตาบูดบึ้งเมื่อพวกเธอได้ยินว่ามีโอกาสเพียงน้อยนิดที่แม่หนูน้อยจะชนะ

 

“ ห้าวตง นักร้องรับเชิญที่คุณหามาอยู่ไหน ทำไมฉันไม่เห็นเขาเลย ? คุณลืมไปแล้วหรือเปล่า ? ” หลินโม่โม่ถามอย่างไม่พอใจ

 

หวางเจียหนีบ่นตามเช่นกัน “ ใช่แล้ว คุณลืมสิ่งสำคัญแบบนี้ได้ยังไง ? คุณก็เห็นว่าแล้วว่านักร้องรับเชิญช่วยได้มากขนาดไหน พวกเขาสามารถทำให้การแสดงดูโดดเด่นขึ้นและอาจจะส่งผลต่อการประกวดด้วย ”

 

ฉินห้าวตงพูดด้วยรอยยิ้ม “ ไม่ต้องห่วงไป การแสดงของถังถังยังไม่เริ่มขึ้นเลย พวกคุณจะใจร้อนไปทำไม ”

 

หวางเจียหนีเพิ่งจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างเข้า เธอจึงถามขึ้นอย่างสงสัย “ ใช่แล้ว การแสดงคนล่าสุดได้จบลงไปแล้ว ทำไมการแสดงของถังถังยังไม่เริ่มขึ้นล่ะ ? พิธีกรลืมเหรอ ? ”

 

ผู้ชมต่างส่งเสียงเอะอะขึ้น “ เกิดอะไรขึ้นกัน ? ฉันจำได้ว่าเหลือเด็กอีกคนหนึ่งนะ ทำไมเธอยังไม่เริ่มการแสดงล่ะ ? ”

 

หม่าหงพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ “ เป็นเพราะว่าเห็นการแสดงของลูกชายฉันและรู้ถึงผลแพ้ชนะแล้ว เลยไม่อยากให้ลูกของตัวเองมาแข่งอีก ? ”

 

หวางหงปิงอุ้มหวางกวนแล้วพูดเสียดสี “ จะทำแบบนั้นไม่ด้นะ ต่อให้รางวัลชนะเลิศเป็นของลูกชายเรา แต่ก็ยังมีรางวัลที่สองนี่นา ต่อให้ต้องเป็นที่สอง เด็กผู้หญิงคนนั้นก็ต้องขึ้นทำการแสดงบนเวทีอยู่ดี ”

 

ขณะที่ทุกคนกำลังวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นาๆ อยู่นั้น พิธีการก็ถือไมโครโฟนเดินขึ้นไปบนเวทีแล้วพูดกับผู้ชม “ ทุกคนอย่าร้อนใจไป เพราะว่าการแสดงของผู้เข้าแข่งขันคนต่อไปจะมีนักร้องปริศนาเป็นนักร้องรับเชิญ ดังนั้นพนักงานของเราจึงจำเป็นต้องจัดเวทีสักหน่อย แต่เราจะรบกวนเวลาไม่นาน อีกเดี๋ยวการแสดงก็จะเริ่มต้นขึ้นแล้วครับ ”

 

ผู้ชมเกิดความสงสัยทันทีหลังจากที่เขาพูดเช่นนั้น การปรากฏตัวของเฉาเป้ยเป้ยในวันนี้ได้สร้างความแปลกใจให้กับทุกคนมากพอแล้ว ตอนนี้พิธีกรยังพูดอีกว่ายังมีนักร้องรับเชิญปริศนาอีกคนหนึ่ง พวกเขากำลังสงสัยว่านักร้องคนนี้เป็นใคร ?

 

หม่าหงยิ้มเยาะพลางพูดขึ้น “ อย่าเล่นใหญ่เลย ไม่มีใครดังไปกว่าเฉาเป้ยเป้ยอีกแล้ว ”

 

หวางหงปิงพูดเสริม “ ใช่แล้ว ไอ้เด็กแมงดานั่นไม่ได้เป็นไปมากกว่าผู้นำบอดี้การ์ดหรอก ก็แค่พวกเศรษฐีใหม่คนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีปัญญาเชิญนักร้องดังมาได้หรอก ”

 

หลินโม่โม่มองฉินห้าวตงด้วยท่าทีสงสัย ก่อนจะเอ่ยถามเขา “ นักร้องรับเชิญปริศนางั้นเหรอ ? คุณกำลังคิดจะทำอะไร ? ”

 

ฉินห้าวตงตอบด้วยรอยยิ้ม “ รอดูไปเถอะ เดี๋ยวคุณก็รู้เอง ”

 

“ คนหลอกลวง ” หลินโม่โม่มองค้อนเขา จากนั้นหันไปมองที่เวที

 

ในเวลานี้พิธีกรประกาศขึ้น “ ยินดีต้อนรับผู้เข้าแข่งขันหมายเลขสิบขึ้นมาบนเวทีครับ !

 

ฉินห้าวตงหอมแก้มแม่หนูน้อยไปหนึ่งฟอด ก่อนจะพูดขึ้น “ ถังถัง ไม่ต้องตื่นเต้นนะ หนูจะเป็นผู้ชนะอย่างแน่นอน ! ”

 

แม่หนูน้อยดูสบายมาก เธอพูดขึ้นอย่างมั่นใจ “ ป่าป๊า หม่าม๊า หนูจะทำให้ดีที่สุด ! ”

 

หลังจากนั้นเธอก็เดินขึ้นไปบนเวที วันนี้เธอแต่งตัวในชุดเจ้าหญิงสีขาวพร้อมกับกิ๊บหนีบผมสีแดง เธอดูเหมือนเจ้าหญิงน้อยที่หลุดออกมาจากแดนเทพนิยาย ความงดงามบนใบหน้าของเธอเอาชนะใจคนดูจนเรียกเสียงปรบมือได้มากมายทันทีที่เธอเดินขึ้นเวที

 

“ แค่หน้าตาน่ารักแล้วจะมีประโยชน์อะไร ? เธอเอาชนะลูกชายของฉันไม่ได้หรอก ” เห็นได้ชุดว่าหม่าหงอิจฉาความน่ารักของแม่หนูน้อย

 

“คุณพูดถูก จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีนักร้องรับเชิญคนไหนปรากฏตัวออกมา ต่อให้เธอร้องดีแค่ไหน เธอก็ไม่มีทางร้องดีไปกว่าเฉาเป้ยเป้ยหรอก เธอไม่มีทางเอาชนะลูกชายเราได้ ”

 

หวางหงปิงเพิ่งพูดจบ ทันใดนั้นแสงบนเวทีก็ส่องสว่างขึ้น สายตาของทุกคนจับจ้องไปบนเวที ไม่รู้ว่าด้านหลังเวทีมีผ้าม่านสีขาวกั้นไว้ตอนไหน

 

พวกเขามองไม่ชัดว่าอะไรอยู่ข้างหลังผ้าม่าน แต่พวกเขาพอจะมองเห็นรางๆ ว่ามีเปียโนอยู่ตรงนั้น และด้านหลังเปียโนมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ ผู้หญิงคนนั้นมีรูปร่างดีและผมยาว แม้ว่าจะมีผ้าม่านบังไว้ แต่ทุกคนก็สามารถรู้สึกถึงความสง่างามของเธอได้

 

“ ใครกันน่ะ ? เธอเป็นนักร้องรับเชิญปริศนาเหรอ ? ”

 

“ เธอเป็นใครกัน ? เธอดูสวยมาก ”

 

“ พูดจาเหลวไหล ยังไม่ทันได้เห็นหน้า จะรู้ได้ไงว่าเธอสวย แต่เธอดูคุมการแสดงได้จริงๆ...... ”

 

หลินโม่โม่หันไปถามฉินห้าวตง “ เธอเป็นนักร้องรับเชิญที่คุณหาให้ลูกสาวฉันจริงๆ เหรอ ? ”

 

ฉินห้าวตงพูดด้วยรอยยิ้ม “ แน่นอน การประกวดร้องเพลงของถังถังสำคัญขนาดนี้ ผมจะลืมได้ไง ”

 

 “ เธอเป็นใคร ? เธอดูคุ้นๆ นะ ” หวางเจียหนีถาม

 

“ ไม่ต้องห่วง ผมบอกพวกคุณแล้วว่าเธอคือนักร้องรับเชิญปริศนา ถ้าบอกไปก็ไม่เป็นปริศนาสิ ”

 

หลังจากฉินห้าวตงพูดจบ การแสดงก็เริ่มต้นขึ้น แม่หนูน้อยถือไมโครโฟนและพูดกับผู้ชม “ หนูชื่อถังถัง เป็นผู้เข้าแข่งขันหมายเลขสิบ การแสดงในวันนี้ของหนูมีชื่อว่าต่อหน้าดอกไม้และภายใต้พระจันทร์

 

“เด็กผู้หญิงคนนี้มีความมั่นใจมาก กล้าเลือกเอาเพลงของโอวหยางชานชานมาร้องประกวด ”

 

“ นี่เป็นเพลงใหม่ของโอวหยางชานชานนี่นา ฉันชอบเพลงนี้ที่สุด แต่ฉันไม่มั่นใจว่าเจ้าหญิงน้อยคนนี้จะร้องดีหรือเปล่า ”

 

หลังจากที่ถังถังพูดจบ หญิงสาวหลังผ้าม่านบรรเลงเพลง เสียงทำนองอันไพเราะดังขึ้น เป็นทำนองนำของเพลง ‘ ต่อหน้าดอกไม้และภายใต้พระจันทร์ ‘

 

แม่หนูน้อยจับไมโครโฟนแล้วเริ่มร้องเพลง น้ำเสียงหวานของเธอเข้ากับทำนองเพลงที่ถูกบรรเลงด้วยเปียโน เธอเพิ่งร้องไปได้ไม่กี่ท่อน ก็เรียกเสียงปรบมืออันท่วมท้นจากผู้ชมได้

 

หวางเจียหนีชื่นชมการแสดงของแม่หนูน้อย “ ถังถังมีพรสวรรค์จริงๆ อายุแค่นี้แต่กลับร้องเพลงออกมาได้ดีเช่นนี้ มันเป็นอะไรที่ยากมาก แต่น่าเสียดายที่เธอยังเด็กไปนิด จึงไม่ค่อยเหมือนต้นฉบับเท่าไร ”

 

ฉินห้าวตงพูด “ ไม่ต้องห่วง เรายังมีนักร้องรับเชิญอยู่ ”

 

ในตอนนี้เอง เสียงอันไพเราะดังมาจากหลังผ้าม่านร้องประสานเสียงกับแม่หนูน้อยได้อย่างสมบูรณ์แบบ เสียงของเธอใสกังวาลราวกับนางฟ้านางสวรรค์ ด้วยน้ำเสียงอันไพเราะทำให้กลบข้อผิดพลาดของแม่หนูน้อยที่หวางเจียหนีเพิ่งพูดมาเมื่อกี้จนหมด

 

“ พระเจ้า ! เพราะมาก ! เพราะมากจริงๆ ” หวางเจียหนีอ้าปากค้าง หลังจากลังเลไปพักหนึ่ง เธอจึงดึงฉินห้าวตงมาถาม “ เธอเป็นใคร ? ทำไมถึงร้องดีได้ขนาดนี้ ? ทำไมถึงร้องดีเหมือนโอวหยางชานชานเลย ”

 

ไม่เพียงแค่หวางเจียหนีเท่านั้นที่แปลกใจ แต่ผู้ชมทุกคนต่างก็แปลกใจเช่นกัน พวกเขาตกตะลึงกับความสามารถของนักร้องรับเชิญคนนี้

 

หม่าหงกระซิบที่ข้างหูหวางหงปิงด้วยความกังวล “ ดูเหมือนว่าไอ้เด็กแมงดานั่นจะหานักร้องรับเชิญได้นะแล้วก็หาได้ดีด้วย ฉันเริ่มรู้สึกหวั่นๆ กับรางวัลชนะเลิศของลูกชายเราแล้ว ”

 

หวางหงปิงพูดปลอบ “ ไม่มีอะไรต้องกังวล ทักษะการร้องไม่มีประโยชน์หรอก สิ่งที่สำคัญคือตัวบุคคลต่างหากว่าเขาเป็นใคร จะมีชื่อเสียงไปกว่าเฉาเป้ยเป้ยได้อย่างไร ? ”

 

“ คุณพูดถูก ชื่อเสียงสำคัญที่สุด กรรมการบางคนของที่นี่เป็นแฟนคลับของเฉาเป้ยเป้ย และพวกเขาจะเทคะแนนให้เราสูงแน่นอน ”

 

หม่าหงพยักหน้า เธอเห็นด้วยกับหวางหงปิง แต่เธอไม่ได้สังเกตว่าเฉาเป้ยเป้ยมองไปที่ผู้หญิงหลังม่านด้วยสีหน้าตกตะลึงอ้าปากค้าง

 

นักร้องรับเชิญและเด็กน้อยที่อยู่บนเวทีร้องประสานเสียงกันได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่ท่อนฮุคของเพลงจะมาถึง นักร้องปริศนายืนขึ้น เธอยกมือของเธอค่อยๆ เปิดผ้าม่านออก จากนั้นเดินขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับไมโครโฟน

 

เมื่อเธอดึงผ้าม่านออกเผยตัวจริงของเธอออกมา ตอนแรกผู้ชมต่างพากันเงียบ จากนั้นทุกคนลุกขึ้นยืนพร้อมทั้งกรีดร้องและส่งเสียงเชียร์ลั่นเวที

 

“ โอวหยางชานชาน พระเจ้า ! ไอดอลของฉัน ในที่สุดฉันก็ได้เจอเธอแล้ว ใจฉันเต้นรัวเป็นกลองชุดเลย ! ฉันกำลังจะบ้าไปแล้ว ! ”

 

“ โอวหยางชานชานจริงๆด้วย ฉันบอกนายแล้วว่าไม่มีใครร้องเพลงนี้ได้ดีไปกว่าเธอ...… ”

 

“ โอวหยางชานชาน ฉันรักคุณ ฉันรักคุณ…... ”

 

เสียงกรี๊ดและเสียงเชียร์ของผู้ชมกระหึ่มไปถึงเพดาน ผู้ชมทั้งหมดต่างคลั่งไคล้โอวหยางชานชาน

 

หวางเจียหนีคว้าแขนของฉินห้าวตงไว้แน่น เล็บของเธอกดลงบนผิวของเขา เธอดูตื่นเต้นมากจริงๆ “ โอวหยางชานชานจริงๆด้วย ! คุณทำแบบนี้ได้ยังไง ? ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงไม่อยากให้ฉันหานักร้องรับเชิญให้ถังถัง ไม่มีใครดีไปกว่าโอวหยางชานชานอีกแล้ว ”

 

หลินโม่โม่อาจไม่ใช่หนึ่งในแฟนคลับ แต่เธอก็รู้จักชื่อเสียงของโอวหยางชานชานเป็นอย่างดี เธอแปลกใจตั้งแต่ลายเซ็นที่ฉินห้าวตงเอาให้ครั้งที่แล้ว แต่เธอแปลกใจยิ่งกว่าที่วันนี้ฉินห้าวตงสามารถเชิญ โอวหยางชานชานมาที่นี่ในฐานะนักร้องรับเชิญได้

 

โอวหยางชานชานเป็นหนึ่งในนักร้องที่โด่งดังที่สุดในประเทศจีนและเป็นจักรพรรดินีแห่งวงการเพลงอย่างแท้จริง เธออยู่ในระดับที่สูงกว่าเฉาเป้ยเป้ยมาก นักร้องซุปเปอร์สตาร์อย่างเธอไม่เคยเข้าร่วมงานใดๆ ที่เธอไม่ชอบ ไม่ว่าจะจ่ายเงินให้มากเท่าไหร่ก็ตาม ไม่มีใครรู้ว่าฉินห้าวตงทำได้อย่างไร

 

คนที่ใจเย็นที่สุดในนี้คือฉินห้าวตง เขารีบโทรหาโอวหยางชานชานทันทีหลังจากที่เขารู้ว่าแม่หนูน้อยต้องการนักร้องรับเชิญ โอวหยางชานชานปฏิบัติต่อฉินห้าวตงเหมือนผู้ที่มีพระคุณของเธอ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ เธอจึงไม่ปฏิเสธคำเชิญของเขา ดังนั้นเธอจึงมาร่วมสร้างความสนุกที่นี่ด้วย

 

หวางหงปิงและหม่าหงตกตะลึงตาค้าง พวกเขาต้องใช้เส้นสายมากมายกว่าจะเชิญเฉาเป้ยเป้ยมาได้ แถมยังต้องจ่ายค่าเสียเวลาให้เฉาเป้ยเป้ยอีกสองแสนหยวน ไม่อย่างนั้นเขาจะเชิญนักร้องระดับนี้มาร่วมทำการแสดงกับลูกชายได้อย่างไร

 

พวกเขาคิดว่าหลังจากที่พวกเขาลงทุนไปมากมายเช่นนี้แล้ว จะทำให้หวางกวนเป็นผู้ชนะ แต่ โอวหยางชานชานเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งวงการเพลงโดยแท้จริง แค่เธอปรากฏตัว ก็ทำลายความฝันของพวกเขาไม่มีชิ้นดี

 

ผู้ชมด้านล่างเวลาต่างคลั่งไคล้ แต่นั่นไม่มีอิทธิพลใดๆ ต่อทั้งสองคนที่กำลังทำการแสดงอยู่บนเวทีเลย แม่หนูน้อยตื่นเต้นมากเมื่อเธอเห็นโอวหยางชานชานเป็นครั้งแรก จากนั้นเธอก็พยายามร้องเพลงให้ดียิ่งขึ้น แม่หนูน้อยน่ารักและโอวหยางชานชานผู้งดงามจับมือกันร้องเพลง ทำให้ภาพการแสดงบนเวทีนี้ดูน่าประทับใจยิ่งขึ้น

 

เมื่อพวกเขาร้องจบเพลง ผู้ชมด้านล่างเวทีส่งเสียงเชียร์อย่างท่วมท้น ผู้ชมทุกคนจากล่างเวทีพยายามขึ้นไปบนเวทีเพื่อขอถ่ายรูปกับดอวหยางชานชาน แม้แต่เฉาเป้ยเป้ยที่นั่งถัดจากหวางหงปิงก็วิ่งตามคนอื่นขึ้นไปด้วย

 

โชคดีที่สตาฟของเวทีได้เตรียมตัวสำหรับเรื่องนี้ไว้แล้ว บอดี้การ์ดนับสิบคนยืนอยู่บนเวทีเหมือนกับกำแพงพยายามปกป้องโอวหยางชานชานไว้ ราชาทหารเฉินฟู่กุ้ยและบอดี้การ์ดชั้นแปดอีกสี่คนล้อมโอวหยางชานชานและแม่หนูน้อยไว้ตรงกลาง

 

“ ทุกท่านได้โปรดใจเย็นลงด้วย การแข่งขันของเรายังไม่จบ โปรดนั่งที่ด้วย...... ”

 

ในที่สุดผู้ชมก็นั่งลงหลังจากการโน้มน้าวและพูดปลอบของพิธีกร แต่พวกเขายังคงมองไปที่ โอวหยางชานชานด้วยสายตาที่ตื่นเต้น พวกเขาแยกย้ายกันกลับไปที่นั่งของตน จากนั้นการให้คะแนนในรอบชิงชนะเลิศได้เริ่มต้นขึ้น

 

 

จบตอน

 

 

รีวิวผู้อ่าน