ดั่งเช่นคราวก่อน เจียงเฟยยัดค่าสถานะทั้งหมดที่ได้มาไปกับค่าVIT พลังชีวิตและพลังป้องกันของเขาเพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย การต่อสู้กับมอนสเตอร์เองก็ลำบากน้อยลงไม่น้อย แม้ว่าเขาจะยังใช้โพชั่นไม่หมดแต่ก็ไม่จำเป็นต้องยกซดต่อเนื่องเหมือนอัดเหล้าอยู่ในเทศกาลเบียร์อีกต่อไป!
ครึ่งชั่วโมงต่อมาในที่สุดเจียงเฟยก็พบกับบอสตัวที่สองของดันเจี้ยน!
โคลเมียร์ (รูปแบบมนุษย์ , อีลิท)
Level : 18
พลังชีวิต : 3,150
พลังโจมตี : 188
สกิล : Bash(ทุบ) , Roar(คำราม) , Slam(ฟาด) , Frenzy (คลั่ง)
หมายเหตุ : มินิบิสของเหล่ามนุษย์หมีผู้ชั่วร้าย มีความสามารถในการโจมตีระดับทุบทำลายพื้นดินได้อย่างง่ายดาย ระดับภัยคุกคาม – เหนือกว่าค่าเฉลี่ย!
ชัดเจนแล้วว่าบอสของเหล่ามนุษย์หมีตัวนี้ดุร้ายยิ่งกว่ามากเมื่อเทียบกับบอสมนุษย์เสือตัวก่อนหน้า ทั้งพลังโจมตีและพลังชีวิตของมันมากกว่าอย่างสิ้นเชิง นอกจากนั้นแหวนลึกลับยังบอกอย่างชัดเจนว่าระดับภัยคุกคามของมันเหนือกว่าค่าเฉลี่ย!
“เอาล่ะมาลองดูเลยดีกว่า!” เจียงเฟยเคลียดันเจี้ยนมาจนถึงขนาดนี้แล้วเขาคงไม่ยอมล้มเลิกถ้ายังไม่ได้ลองเป็นแน่ นอกจากนั้นการตายในดันเจี้ยนก็ยังมีโทษไม่เท่าไหร่เอง ถ้าผู้เล่นตายในแผนที่ปกติจะถูกลดเลเวลไปเต็มๆหนึ่งเลเวลหรือต่อให้มีคลาสนักบวชมาชุบชีวิตก็ยังเสียค่าประสบการณ์ถึง50%อยู่ดี บทลงโทษจากการตายภายในดันเจี้ยนกลับต่ำกว่า การตายในดันเจี้ยนจะเสียค่าประสบการณ์เพียงแค่20%เท่านั้น นี่เองจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลทำให้เหล่าผู้เล่นต้องการเข้ามาท้าทายดันเจี้ยน ถ้าเข้ามายังดันเจี้ยนก็เสี่ยงที่จะเสียเลเวลแล้วถ้างั้นทำไมถึงไม่ลองดูเสียหน่อยล่ะ!?
พุ่งชน!
-50!
เจียงเฟยเปิดบอสทันที มันได้ชื่อว่าเป็นเพียงแค่บอสระดับอีลิทเท่านั้นจึงมีความสามารถในการต้านทานสกิลCC(คราวด์ คอนโทรล)ไม่มากนัก ด้วยเหตุนี้มันจึงถูกทำให้มึนงงหรือถูกขัดจังหวะการโจมตีได้อยู่ การโจมตีแรกของเจียงเฟยทำให้มันติดสถานะมึนงงไปถึง2วินาทีเต็มๆ!
หมัดเหล็ก!
-300!
ค้อนเพลิง!
-552! (คริติคอล)
-14!
-10! (ดูดเลือด)
-10! (ฉีกกระชาก – 1 แสต็ค
-16!
-10! (ดูดเลือด)
-20! (ฉีกกระชาก – 2 แสต็ค)
เจียงเฟยงัดทุกอย่างออกมาใช้ในระหว่างที่บอสกำลังติดสตั้น คริติคอลจากค้อนเพลิงทำให้เขาประหลาดใจระคนดีใจไม่น้อย เมื่อรวมกับความเสียหายจากหมัดเหล็กเข้าไปอีกทำให้บอสเสียเลือดไปกว่าหนึ่งส่วนสามของพลังชีวิตทั้งหมด!
ยังไงก็ตามการโจมตีปกติของเขากลับค่อนข้างน่าอดสูไม่น้อย พวกมันสร้างความเสียหายเฉลี่ยเพียงแค่ราวๆ20หน่วยเท่านั้น ดูยังไงก็ค่อนข้างย่อยยับและไม่น่ามองอย่างยิ่ง โชคดีที่ผลจากสกิลดูดเลือดและฉีกกระชากยังสามารถฉุดดาเมจขึ้นมาได้อีกหน่อย!
“อ๊าว!” หลังจากผ่านไป2วินาทีบอสก็หายจากอาการสตั้น ความเสียหายมหาศาลที่เขาทำได้ในช่วงเวลา2วินาทีทำให้บอสคลั่งขึ้นมาทันที!
-187!
ทั่วทั้งร่างของบอสส่องแสงสีแดงออกมา พลังโจมตีของมันทบทวีคูณมากยิ่งขึ้น เพียงแค่การทุบเพียงครั้งเดียวก็สร้างความเสียหายให้เจียงเฟยได้เกือบ200แล้ว!
“โฮก!” ราวกับว่ามันต้องการประกาศชัยของมัน บอสมนุษย์หมีส่งเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดออกมา แสงสีเงินปรากฏขึ้นบนร่างของเจียงเฟยครู่หนึ่ง เขามองดูค่าพลังโจมตีของตนและพบว่ามันลดลงไปถึง12หน่วย!
เสียงคำรามของบอสมีผลทำให้พลังโจมตีของผู้เล่นลดลงอย่างมหาศาลแต่สกิลนี้เมื่อใช้กับเจียงเฟยเรียกว่าแทบจะไม่ส่งผลกระทบใดๆเลยก็ว่าได้ พลังโจมตีของเจียงเฟยตามปกติก็แย่อยู่แล้วดังนั้นลดลงไปอีกก็ไม่ใช่ปัญหา!
-1!
-10! (ดูดเลือด)
-30! (ฉีกกระชาก – 3 แสต็ค)
ดั่งที่คาด การโจมตีของเจียงเฟยไม่อาจเจาะการป้องกันของบอสได้อีกต่อไปแต่ผลจากสกิลติดตัวอย่างดูดเลือดกับฉีกกระชากก็ยังคงทำงานตามปกติ
ร้ายแรงเหมือนเดิม!
ยิ่งหนึ่งหนุ่มหนึ่งหมีสู้กันนานเท่าไหร่ผลจากสกิลฉีกกระชากที่ติดอยู่บนตัวบอสก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้นและในตอนนี้ก็มากถึง10แสต็คแล้ว ยังไงก็ตามพลังชีวิตของเจียงเฟยในตอนนี้ก็ต่ำกว่า50%แล้วเหมือนกัน เขาจึงต้องเริ่มกระดกโพชั่นเข้าสู้แล้ว!
ค้อนเพลิง!
-247!
หลังจากเจียงเฟยเลเวลอัพค่าVITของเขาก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ขยายความให้ชัดๆเลยก็คือเขาได้พลังชีวิตเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง ความเสียหายของค้อนเพลิงเองก็เพิ่งขึ้นเช่นกัน! ในเวลาเดียวกันสกิลฉีกกระชากก็ส่งผลถึง10แสต็คแล้ว ผลจากการติดสถานะเลือดออกทำให้เสียเลือด100หน่วยทุกๆวินาทีช่างเป็นอะไรที่น่าประทับใจยิ่งนัก!
เมื่อการต่อสู้ดำเนินต่อไปทั้งสองฝ่ายต่างก็แลกเปลี่ยนการโจมตีกันอย่างหนักหน่วง แม้ว่าเจียงเฟยจะเริ่มอัดโพชั่นแล้วแต่เขาก็ยังคงเสียเปรียบอยู่ดี กระทั่งผลฟื้นฟูเลือดจากสกิลดูดเลือดก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น!
ขนาดว่านี่บอสยังไม่ได้เข้าสู่สถานะบ้าคลั่งนะไม่อย่างนั้นเจียงเฟยคงโดนหมีตบตายไปนานแล้ว!
“โฮก!” เมื่อพลังชีวิตของบอสเหลือเพียง20%จู่ๆมันก็พุ่งเข้าใส่เจียงเฟยอย่างฉับพลัน ร่างอันใหญ่โตของมันลอยขึ้นกลางอากาศและใช้ท่ากระโดดทับใส่เจียงเฟย (five star frog-splash? ท่านใดงงเซิร์ทกูเกิ้ลเลย)
“ปัง!”
-325!
ท่านติดสถานะมึนงง!
เจียงเฟยไม่ทราบเลยว่าจะตอบโต้ท่านี้ยังไง นอกจากนี้ตัวเขาก็ไม่ใช่คลาสสายความเร็วเสียด้วย แม้ว่าเขาอยากจะหลบแต่เขาก็หลบไม่พ้นอยู่ดี!
ความเสียหายมหาศาลมากเกินกว่าสามแต้มบวกกับสถานะมึนนอีกหนึ่งวินาทีทำให้เจียงเฟยไม่อาจเคลื่อนไหวได้ทำให้บอสมีโอกาสจู่โจมอย่างต่อเนื่อง!
-112!
“เชี่ย! นี่มันจะเกินไปแล้วนะเฮ้ย!” พอเจียงเฟยขยับได้อีกครั้งเขาก็เหลือเลือดต่ำกว่า300ซะแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นก็คือพลังชีวิตของบอสยังเหลือเยอะกว่า700!
“เอาวะลองซักตั้ง!” เจียงเฟยคำรามพร้อมเหวี่ยงค้อนใส่หัวบอสอย่างรุนแรง!
ค้อนเพลิง!
-237!
“ว้าวประสงค์ของพระเจ้าหรือไงเนี่ย!” เจียงเฟยที่กำลังกังวลว่าไม่อาจรับการโจมตีจากบอสได้เกินสองครั้งแน่ๆทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าคูลดาวน์ของสกิลหมัดเหล็กหมดลงแล้ว!
หมัดเหล็ก!
-300!
-100!
หลังจากหมัดเหล็กถูกใช้ สถานะเลือดออกก็ปรากฏขึ้นมาบนหัวของบอสพอดิบพอดี!
“อ๊าว…” พร้อมกับเสียงกรีดร้องอย่างน่าสังเวช หมีปิศาจโคลเมียร์ก็ถึงแก่กรรมในที่สุด!
“ติ๊ง! ท่านสังหารหมีปิศาจโคลเมียร์ ได้รับค่าประสบการณ์5,575หน่วย!”
“ติ๊ง! ท่านสังหารบอสทั้งหมดภายใน ‘ส่วนลึกภายในป่าราตรี(ระดับปกติ)’ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านเคลียดันเจี้ยน ‘ส่วนลึกภายในป่าราตรี’ โหมดปกติสำเร็จ!”
“ติ๊ง! ปาร์ตี้ของท่านคือปาร์ตี้แรกที่สามารถเคลีย ‘ส่วนลึกภายในป่าราตรี’ ในระดับความยากปกติได้สำเร็จ โปรดตั้งชื่อปาร์ตี้ของท่านด้วยค่ะ!”
“ซ่อนชื่อ!” เจียงเฟยตัดสินใจไม่ทำตัวเป็นจุดเด่น
“ติ๊ง! ประกาศต่อทุกท่าน – ปาร์ตี้ ‘ซ่อนชื่อ’ ได้ทำการเคลียดันเจี้ยน ‘ส่วนลึกภายในป่าราตรี’ ในระดับความยากปกติสำเร็จ ขอทุกท่านโปรดแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘เวเดอร์ไกร์เดอร์’ ที่อยู่ในปาร์ตี้ด้วยค่ะ!”
“ติ๊ง! ประกาศต่อทุกท่าน – ปาร์ตี้ ‘ซ่อนชื่อ’ ได้ทำการเคลียดันเจี้ยน ‘ส่วนลึกภายในป่าราตรี’ ในระดับความยากปกติสำเร็จ ขอทุกท่านโปรดแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘เวเดอร์ไกร์เดอร์’ ที่อยู่ในปาร์ตี้ด้วยค่ะ!”
“ติ๊ง! ประกาศต่อทุกท่าน – ปาร์ตี้ ‘ซ่อนชื่อ’ ได้ทำการเคลียดันเจี้ยน ‘ส่วนลึกภายในป่าราตรี’ ในระดับความยากปกติสำเร็จ ขอทุกท่านโปรดแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘เวเดอร์ไกร์เดอร์’ ที่อยู่ในปาร์ตี้ด้วยค่ะ!”
การประกาศถูกประกาศต่อเนื่องถึงสามครั้ง เมืองทุกเมืองภายในดอร์นเบรกต่างก็เงียบสงัดไปในบัดดล ไม่ใช่แค่ผู้เล่นคนอื่นๆเท่านั้นที่มึนงงแต่เป็นเจียงเฟยนี้แหละที่ตื่นตระหนกที่สุด เชี่ยเอ๊ย! บอกให้ซ่อนชื่อไม่ให้เปิดเผยชื่อไม่ใช่ตั้งชื่อแบบนั้น!
เจียงเฟยไม่คิดเลยว่าระบบจะงี่เง่าถึงขนาดนี้ เขาบอกให้พวกมันซ่อนชื่อไม่ใช้ให้ตั้งชื่อปาร์ตี้เขาว่าปาร์ตี้ซ่อนชื่อ!
“บ้าอะไรวะ! ดันเจี้ยนโผล่แล้ว?”
“เชี่ย! ดันเจี้ยนโผล่แล้ว! เร็วเข้าส่งคนไปตรวจสอบเร็ว!”
“มีคนเจอดันเจี้ยนแล้วและยังโซโล่มันสำเร็จอีกด้วย! บ้าไปแล้ว!”
ผู้เล่นทั่วๆไปเริ่มถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องนี้กัน ส่วนเหล่าผู้ที่รู้จักเจียงเฟยต่างก็สับสนกันจนเส้นประสมองปูด!
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ไม่ใช่ว่าเวเดอร์ไกร์เดอร์เป็นช่างตีเหล็กรึไง? ทำไมเขาถึงโซโล่ดันเจี้ยนได้? นี่มันบ้าอะไรกัน?” ดาบครามแห่งทิศใต้พึมพำกับตัวเอง คิ้วของเขาขมวดจนกลายเป็นปม
“คนผู้นี้ไม่ธรรมดาแล้ว! กระทั่งสามารถเล่นคลาสสายผลิตได้ถึงขั้นนี้!” เสียงแหบแห้งของภูติแสยะยิ้มทำให้เหล่าคนที่อยู่ใกล้ๆขนลุกไปตามๆกัน!
“ฮ่าๆๆๆๆ! น่าสนใจจริงๆ! ดูเหมือนในอนาคตฉันคงต้องให้ความสนใจเวเดอร์ไกร์เดอร์คนนี้ให้มากเข้าไว้แล้วสิ!” จุ่ยเซี่ยวเหยายิ้ม ความสนใจของเขาเริ่มสนใจคนผู้นี้จริงๆจังๆแล้ว!
“น้องชายนายทำให้ฉันกังวลขึ้นมาจริงๆแล้วสิ! นายเป็นตัวประหลาดหน้าเตาหลอมที่หลุดมาจากไหนกันแน่?” เลดี้คาสโนว่าพึมพำกับตัวเองและสะบัดเลือดที่ติดอยู่บนกระบองของเธอออก ถ้าเห็นจะทราบทันทีเลยว่าเลือดพวกนี้มาจากการทุบศีรษะของมอนสเตอร์เลเวล22