px

เรื่อง : The Almighty Ring
Chapter 39 : จ้าวปิศาจ


 

ศัตรูมีจำนวนค่อนข้างเยอะแต่ทหารเองก็ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี ปาร์ตี้ทั้งสองมีพลังไม่มากไม่น้อยไปกว่ากันแม้แต่น้อย ปาร์ตี้ของเจียงเฟยที่โผล่เข้ามาจึงกลายเป็นตัวทำลายสมดุลนั้น ตอนนี้ขึ้นอยู่กับเวลาแล้วว่ามอนทั้งหมดจะถูกกำจัดสินเมื่อไหร่!

ยอดเยี่ยมยิ่งนัก! พวกเจ้าเป็นกำลังเสริมของพวกเรางั้นรึ?

โมเรียหันมาทางเจียงเฟยและสาวๆระหว่างที่ดึงดาบออกจากร่างของมอนสเตอร์

ไม่ใช่หรอกครับพวกเราเป็นแค่นักเดินทางที่ผ่านทางมาเท่านั้น พวกเราถูกส่งมาโดยคนของท่านที่กำลังตามหาท่านอยู่!” เจียงเฟยกล่าว

อืม ในเมื่อพวกเจ้าอยู่ที่นี่แล้วก็ช่างเรื่องราวอื่นใดเถิด ดั่งที่พวกเจ้าเห็นพวกเราติดกันอยู่ภายในนี้ นักผจญภัยเอ๋ยข้าในฐานะของนายร้อยกองทหารแห่งจักรวรรดิขอความช่วยเหลือจากพวกเจ้า ได้โปรดช่วยพวกเรากำลังปิศาจที่หลงเหลือด้วยเถิด!” โมเรียกล่าว

ติ๊ง! ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 15,000แต้ม ได้รับเงิน5ซิลเวอร์ รายละเอียดเควสได้รับการอัพเดท

[เควส : พงไพรอันผิดแปลก(ดันเจี้ยน) เฟชแรกของเควสสำเร็จเป็นที่เรียบร้อย!]

[เฟชที่สอง : ช่วยเหลือกัปตันหน่วยลาดตระเวนโมเรีย!]

แน่นอน!” เควสนี้อาจจะเป็นเควสที่เจียงเฟยเป็นผู้เริ่มแต่เมื่อมันถูกยกระดับให้กลายเป็นเควสดันเจี้ยนทุกๆคนในปาร์ตี้จึงมีส่วนร่วมทั้งสิ้น!

กัปตัน! พวกเรา...สถานการณ์ของพวกเราไม่สู้ดีแล้ว!” ในตอนที่เจียงเฟยและคนอื่นๆกำลังจะก้าวขึ้นไปทันใดนั้นหนึ่งในทหารNPCก็ตะโกนออกมา!

เกิดอะไรขึ้น? โมเรียหันไปถามด้วยน้ำเสียงกังวล

กัปตันดูโน่น!”

หือ? โมเรียหันไปทางที่นิ้วของทหารผู้นั้นชี้ไปและทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็แสดงสีหน้าแตกตื่นออกมา

โอ้เชี่ย!” เจียงเฟยเองก็ตื่นตระหนกเช่นกัน ปาร์ตี้ของเขาอยู่ภายนอกจึงไม่ได้รับรอยขีดข่วนแต่ทหารNPCบางคนที่เสียชีวิตในการต่อสู้ในตอนนี้ทหารเหล่านี้เริ่มลุกขึ้นยืนขึ้นมาแล้ว!

คอนทาเจี้ยน!”

เจียงเฟยคาดการณ์สถานการณ์ได้ในทันที สมาชิกปาร์ตี้ของเขาเองก็สงบกันใจไม่อยู่ พวกเธอไม่มีแหวนลึกลับสุดแสนขี้โกงเหมือนเขาและไม่รู้ด้วยว่าดิ คอรัปเตอร์พวกนี้มีสกิลเช่นนี้

กร๊อก...แคร๊ก....

ทหารNPCเหล่านี้ยืนขึ้นมาอีกครั้ง กล้ามเนื้อและเส้นประสาทของพวกเขาฉีกปริแตกและฉีกขาด กระดูกของพวกเขาแตกหักและจากนั้นร่างกายของพวกเขาก็เริ่มบิดผิดรูปอย่างรวดเร็ว ชิ้นส่วนผ้าและเกราะปลิดปลิวกระจายออก เพียงเสี้ยวพริบตาพวกเขาก็เปลี่ยนไปเป็นสัตว์ประหลาดน่ารังเกียจสูงราว2เมตรไปแล้ว ร่างกายของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยก้อนเนื้อน่าขยะแขยง

ทำลายพวกมันให้หมด!”

โมเรียได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเขาจะดูเสียขวัญแต่เขาก็ยังคงลงมือ!

แต่กัปตันครับ! พวกเขาทั้งหมด...

ทหารของเขายังคงลังเลแม้ว่านี่จะเป็นคำสั่งโดยตรงจากหัวหน้าก็ตาม อย่างไรเสียคนพวกนี้ทั้งหมดต่างก็เป็นอดีตสหายร่วมศึกของพวกเขาทั้งนั้น!

พวกเขาตายไปแล้ว อย่าปล่อยให้มอนสเตอร์น่ารังเกียจเหล่านี้ทำให้เลือดเนื้อของพวกเขาต้องมีมลทิล!” โมเรียคำรามและพุ่งเข้าสู่การต่อสู้เพียงลำพัง

ไปช่วยเขา!”

เจียงเฟยตะโกนบอกสาวๆและเข้าไปช่วยกัปตันผู้นั้นอย่างรวดเร็ว!

[ก้อนเนื้ออันน่ารังเกียจ (ประเภทมนุษย์, อีลิท)]

[Level : 19]

[พลังชีวิต : 3,000]

[พลังโจมตี : 275]

[สกิล : คอนทาเจี้ยน ถ้าบาดเผลไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีความช่วยร้ายจะเข้าครอบงำและเปลี่ยนท่านให้กลายเป็นหนึ่งในพวกมัน!]

[หมายเหตุ : ทหารมนุษย์ทั่วๆไปที่ติดเชื้อการโจมตีของพวกเขาจะรุนแรงขึ้นอย่างมหาศาลและจะได้รับความสามารถในการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น! ระดับภัยคุกคาม – ปานกลาง]

แม้ว่าเจียงเฟยและแก๊งค์ของเขาจะทรงพลังกว่ากลุ่มผู้เล่นคนอื่นๆในเลเวลเดียวกันแต่มอนสเตอร์เหล่านี้เองก็โหดหินไม่น้อย – พอๆกับมนุษย์เสือระดับอีลิทในช่วงต้นของดันเจี้ยนเลยก็ว่าได้  สำหรับทหารNPCแล้วค่าสถานะระดับนี้ถือได้้ว่าน่าหวาดหวั่นโดยแท้!

อ๊าก!”

พระเจ้าช่วย! เจ้าเป็นอะไรไหม?

ทหารผู้หนึ่งส่งเสียงกรีดร้องเจียนจะขาดใจออกมาและคว้าไปที่บาดแผลที่ดูไม่น่าเป็นอัตรายถึงชีวิตแน่น เสียงกรีดร้องนี้ฟังดูแล้วหาใช่ว่าเป็นเสียงกรีดร้องที่ถูกเปล่งออกมาเนื่องจากหวาดกลัวในสภาพของอดีตสหายแต่ในความเป็นจริงแล้วกลับเป็นเสียงกรีดร้องก่อนที่เขาจะเปลี่ยนกลายเป็นหนึ่งในพวกมัน

ทุกๆคนระวังให้ดี อย่าปล่อยให้พวกมันสัมผัสพวกคุณได้ไม่อย่างนั้นแล้วพวกคุณจะกลายเป็นพวกเดียวกับพวกมัน!”เจียงเฟยตะโกน

แม้จะแนะนำไปแล้วแต่พูดยังไงเสียก็ง่ายกว่าทำ ทหารเหล่านี้ไม่อาจสู้กับมอนสเตอร์พวกนี้ได้เลย ถ้าอยากจะบอกให้พวกเขาอย่าโดนโจมตีก็เหมือนกับบอกให้พวกเขายืนแห้งอยู่เฉยๆใต้ฝักบัวนั่นแล

อั่ก...

ทหารคนแล้วคนเล่าตกเป็นเหยื่อไปเรื่อยๆ ได้แผลตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยแต่ก็มากพอจะทำให้พวกเขาติดเชื้อและเปลี่ยนให้กลายเป็นปิศาจที่ส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างน่าสังเวชแล้ว ไม่นานนักก้อนเนื้อน่ารังเกียจก็ปรากฏอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง!

ฆ่า!” เหล่าทหารที่เหลืออยู่เป็นกลุ่มสุดท้ายจ้องมองดูเหล่าสหายร่วมรบตกสู่ความชั่วร้ายคนแล้วคนเล่าด้วยหัวใจที่แตกสลาย

สิบนาทีอันแสนยาวนานต่อมาปิศาจทั้งหมดต่างก็นอนกองไร้ซึ่งชีวิตอีกต่อไป ยังไงก็ตามนอกจากเจียงเฟยและผองเพื่อนแล้วก็เหลือเพียงหัวหน้าหน่วยลาดตระเวนอย่างโมเรียเท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่ได้

เฮ้อ... เจียงเฟยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแต่ก็ไม่กล้าละสายตาจากซากศพที่กองอยู่บนพื้น

นักผจญภัยดูเหมือนพวกเราจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่ที่นี่แล้วนะ!” โมเรียสาวเท้าเดินเข้ามา แต่ละย่างก้าวของเขาหนักหน่วงยิ่งนักใบหน้าของเขาเองก็ซีดลงไม่น้อย

หมายความว่ายังไงหรอครับคุณกัปตัน? เจียงเฟยถาม

นี่คือรายงานของป่าราตรีได้โปรดส่งมอบมันให้กับบาทหลวงฟิลิปในเมืองดอร์นไลท์ด้วยเถิด บางทีเขาอาจจะจบชีวิตปิศาจทั้งหมดลงได้!” โมเรียหยิบม้วนหนังสือออกมาจากผ้าคลุมและส่งมันให้กับเจียงเฟย

ติ๊ง! เควสได้รับการอัพเดท!”

[เป้าหมาย : ส่งรายงานการตรวจสอบให้กับบาทหลวงฟิลิป!]

[รางวัล : ค่าประสบการณ์50,000แต้ม เงิน10ซิลเวอร์]

แล้วคุณล่ะกัปตัน? เจียงเฟยถามและเก็บม้วนหนังสือลงไปอย่างระมัดระวัง

ข้าน่ะรึ? ฮ่ะๆๆ.... โมเรียยิ้มออกมาอย่างอ่อนแรงและหัวเราะออกมาอย่างขมขื่นจากนั้นก็ชี้ไปที่บริเวณเอวของตน

อะไรกัน?!” เจียงเฟยมองตามและพบว่ามีรอยข่วนอยู่สามรอยตรงบริเวณชายโครงด้านซ้ายของกัปตันผู้นี้ เกราะที่ส่องแสงแวววาวของเขาฉีกขาดและเลือดสีแดงดำก็เริ่มไหลนอง

มันอาจจะไม่นับว่าเป็นบาดแผลที่ร้ายแรงถึงชีวิตยิ่งเป็นถึงนักรบผู้ช่ำชองอย่างกัปตันผู้นี้แล้วยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง! แต่สกิลคอนทาเจี้ยนต่างหากที่กำลังจะคร่าชีวิตของเขา!

ไปเร็วเข้า ข้าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว!” น้ำเสียงของโมเรียเข้มขึ้นใบหน้าของเขาเริ่มบิดเบี้ยว

มัน...มันสายไปแล้ว! ฆ่าข้าเดี๋ยวนี้!” ดวงตาของโมเรียเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง

อ๊า!” สาวๆด้านหลังเจียงเฟยกรีดร้องกันออกมาด้วยความเสียใจและหวาดกลัว พวกเธอจ้องมองมาที่กัปตันผู้นี้ด้วยสายตาเห็นใจ

อั่ก!” ในตอนนั้นเองโมเรียก็เปลี่ยนร่างจนสมบูรณ์!

[โมเรีย ดิ เดม่อนลอร์ด(จ้าวปิศาจโมเรีย) (รูปแบบมนุษย์ , อีลิทขั้นสูง)]

[Level : 22]

[พลังชีวิต : 8,800]

[พลังโจมตี : 585]

[สกิล : ทุบรุนแรง , กวาดรุนแรง , กลืนกิน , กองเนื้อ , เนตรแห่งความตาย!]

[หมายเหตุ : เจ้าหน้าที่มนุษย์ระดับต่ำที่ถูกความชั่วร้ายครอบงำ การโจมตีของเขาทรงพลังขึ้นมหาศาล – ระดับภัยคุกคาม – สูงมาก]

หลังจากเปลี่ยนร่างจนสมบูรณ์บอสก็พุ่งเข้าใส่พวกเขาที่ยืนอยู่ห่างออกมาราวๆสามเมตร ก้อนเนื้อน่าขยะแขยงงอกขึ้นทั่วร่างกายของมัน ดูไปแล้วราวกับยักษ์ตัวใหญ่ไร้ผิวหนัง กล้ามเนื้อของมันสามารถมองเห็นได้ชัดถนัดตาตั้งแต่หัวจรดเท้า!

ขอเดาเลยว่าไอ้ห่านี่คือบอสตัวที่สามสินะ? เจียงเฟยมองไปยังยักษ์ตัวนั้นและพึมพำออกมา

 

 

 

รีวิวผู้อ่าน