ศัตรูมีจำนวนค่อนข้างเยอะแต่ทหารเองก็ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี ปาร์ตี้ทั้งสองมีพลังไม่มากไม่น้อยไปกว่ากันแม้แต่น้อย ปาร์ตี้ของเจียงเฟยที่โผล่เข้ามาจึงกลายเป็นตัวทำลายสมดุลนั้น ตอนนี้ขึ้นอยู่กับเวลาแล้วว่ามอนทั้งหมดจะถูกกำจัดสินเมื่อไหร่!
“ยอดเยี่ยมยิ่งนัก! พวกเจ้าเป็นกำลังเสริมของพวกเรางั้นรึ?”
โมเรียหันมาทางเจียงเฟยและสาวๆระหว่างที่ดึงดาบออกจากร่างของมอนสเตอร์
“ไม่ใช่หรอกครับพวกเราเป็นแค่นักเดินทางที่ผ่านทางมาเท่านั้น พวกเราถูกส่งมาโดยคนของท่านที่กำลังตามหาท่านอยู่!” เจียงเฟยกล่าว
“อืม ในเมื่อพวกเจ้าอยู่ที่นี่แล้วก็ช่างเรื่องราวอื่นใดเถิด ดั่งที่พวกเจ้าเห็นพวกเราติดกันอยู่ภายในนี้ นักผจญภัยเอ๋ยข้าในฐานะของนายร้อยกองทหารแห่งจักรวรรดิขอความช่วยเหลือจากพวกเจ้า ได้โปรดช่วยพวกเรากำลังปิศาจที่หลงเหลือด้วยเถิด!” โมเรียกล่าว
“ติ๊ง! ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 15,000แต้ม ได้รับเงิน5ซิลเวอร์ รายละเอียดเควสได้รับการอัพเดท”
[เควส : พงไพรอันผิดแปลก(ดันเจี้ยน) เฟชแรกของเควสสำเร็จเป็นที่เรียบร้อย!]
[เฟชที่สอง : ช่วยเหลือกัปตันหน่วยลาดตระเวนโมเรีย!]
“แน่นอน!” เควสนี้อาจจะเป็นเควสที่เจียงเฟยเป็นผู้เริ่มแต่เมื่อมันถูกยกระดับให้กลายเป็นเควสดันเจี้ยนทุกๆคนในปาร์ตี้จึงมีส่วนร่วมทั้งสิ้น!
“กัปตัน! พวกเรา...สถานการณ์ของพวกเราไม่สู้ดีแล้ว!” ในตอนที่เจียงเฟยและคนอื่นๆกำลังจะก้าวขึ้นไปทันใดนั้นหนึ่งในทหารNPCก็ตะโกนออกมา!
“เกิดอะไรขึ้น?” โมเรียหันไปถามด้วยน้ำเสียงกังวล
“กัปตันดูโน่น!”
“หือ?” โมเรียหันไปทางที่นิ้วของทหารผู้นั้นชี้ไปและทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็แสดงสีหน้าแตกตื่นออกมา
“โอ้เชี่ย!” เจียงเฟยเองก็ตื่นตระหนกเช่นกัน ปาร์ตี้ของเขาอยู่ภายนอกจึงไม่ได้รับรอยขีดข่วนแต่ทหารNPCบางคนที่เสียชีวิตในการต่อสู้ในตอนนี้ทหารเหล่านี้เริ่มลุกขึ้นยืนขึ้นมาแล้ว!
“คอนทาเจี้ยน!”
เจียงเฟยคาดการณ์สถานการณ์ได้ในทันที สมาชิกปาร์ตี้ของเขาเองก็สงบกันใจไม่อยู่ พวกเธอไม่มีแหวนลึกลับสุดแสนขี้โกงเหมือนเขาและไม่รู้ด้วยว่าดิ คอรัปเตอร์พวกนี้มีสกิลเช่นนี้
“กร๊อก...แคร๊ก....”
ทหารNPCเหล่านี้ยืนขึ้นมาอีกครั้ง กล้ามเนื้อและเส้นประสาทของพวกเขาฉีกปริแตกและฉีกขาด กระดูกของพวกเขาแตกหักและจากนั้นร่างกายของพวกเขาก็เริ่มบิดผิดรูปอย่างรวดเร็ว ชิ้นส่วนผ้าและเกราะปลิดปลิวกระจายออก เพียงเสี้ยวพริบตาพวกเขาก็เปลี่ยนไปเป็นสัตว์ประหลาดน่ารังเกียจสูงราว2เมตรไปแล้ว ร่างกายของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยก้อนเนื้อน่าขยะแขยง
“ทำลายพวกมันให้หมด!”
โมเรียได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเขาจะดูเสียขวัญแต่เขาก็ยังคงลงมือ!
“แต่กัปตันครับ! พวกเขาทั้งหมด...”
ทหารของเขายังคงลังเลแม้ว่านี่จะเป็นคำสั่งโดยตรงจากหัวหน้าก็ตาม อย่างไรเสียคนพวกนี้ทั้งหมดต่างก็เป็นอดีตสหายร่วมศึกของพวกเขาทั้งนั้น!
“พวกเขาตายไปแล้ว อย่าปล่อยให้มอนสเตอร์น่ารังเกียจเหล่านี้ทำให้เลือดเนื้อของพวกเขาต้องมีมลทิล!” โมเรียคำรามและพุ่งเข้าสู่การต่อสู้เพียงลำพัง
“ไปช่วยเขา!”
เจียงเฟยตะโกนบอกสาวๆและเข้าไปช่วยกัปตันผู้นั้นอย่างรวดเร็ว!
[ก้อนเนื้ออันน่ารังเกียจ (ประเภทมนุษย์, อีลิท)]
[Level : 19]
[พลังชีวิต : 3,000]
[พลังโจมตี : 275]
[สกิล : คอนทาเจี้ยน ถ้าบาดเผลไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีความช่วยร้ายจะเข้าครอบงำและเปลี่ยนท่านให้กลายเป็นหนึ่งในพวกมัน!]
[หมายเหตุ : ทหารมนุษย์ทั่วๆไปที่ติดเชื้อการโจมตีของพวกเขาจะรุนแรงขึ้นอย่างมหาศาลและจะได้รับความสามารถในการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น! ระดับภัยคุกคาม – ปานกลาง]
แม้ว่าเจียงเฟยและแก๊งค์ของเขาจะทรงพลังกว่ากลุ่มผู้เล่นคนอื่นๆในเลเวลเดียวกันแต่มอนสเตอร์เหล่านี้เองก็โหดหินไม่น้อย – พอๆกับมนุษย์เสือระดับอีลิทในช่วงต้นของดันเจี้ยนเลยก็ว่าได้ สำหรับทหารNPCแล้วค่าสถานะระดับนี้ถือได้้ว่าน่าหวาดหวั่นโดยแท้!
“อ๊าก!”
“พระเจ้าช่วย! เจ้าเป็นอะไรไหม?”
ทหารผู้หนึ่งส่งเสียงกรีดร้องเจียนจะขาดใจออกมาและคว้าไปที่บาดแผลที่ดูไม่น่าเป็นอัตรายถึงชีวิตแน่น เสียงกรีดร้องนี้ฟังดูแล้วหาใช่ว่าเป็นเสียงกรีดร้องที่ถูกเปล่งออกมาเนื่องจากหวาดกลัวในสภาพของอดีตสหายแต่ในความเป็นจริงแล้วกลับเป็นเสียงกรีดร้องก่อนที่เขาจะเปลี่ยนกลายเป็นหนึ่งในพวกมัน
“ทุกๆคนระวังให้ดี อย่าปล่อยให้พวกมันสัมผัสพวกคุณได้ไม่อย่างนั้นแล้วพวกคุณจะกลายเป็นพวกเดียวกับพวกมัน!”เจียงเฟยตะโกน
แม้จะแนะนำไปแล้วแต่พูดยังไงเสียก็ง่ายกว่าทำ ทหารเหล่านี้ไม่อาจสู้กับมอนสเตอร์พวกนี้ได้เลย ถ้าอยากจะบอกให้พวกเขาอย่าโดนโจมตีก็เหมือนกับบอกให้พวกเขายืนแห้งอยู่เฉยๆใต้ฝักบัวนั่นแล
“อั่ก...”
ทหารคนแล้วคนเล่าตกเป็นเหยื่อไปเรื่อยๆ ได้แผลตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยแต่ก็มากพอจะทำให้พวกเขาติดเชื้อและเปลี่ยนให้กลายเป็นปิศาจที่ส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างน่าสังเวชแล้ว ไม่นานนักก้อนเนื้อน่ารังเกียจก็ปรากฏอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง!
“ฆ่า!” เหล่าทหารที่เหลืออยู่เป็นกลุ่มสุดท้ายจ้องมองดูเหล่าสหายร่วมรบตกสู่ความชั่วร้ายคนแล้วคนเล่าด้วยหัวใจที่แตกสลาย
สิบนาทีอันแสนยาวนานต่อมาปิศาจทั้งหมดต่างก็นอนกองไร้ซึ่งชีวิตอีกต่อไป ยังไงก็ตามนอกจากเจียงเฟยและผองเพื่อนแล้วก็เหลือเพียงหัวหน้าหน่วยลาดตระเวนอย่างโมเรียเท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่ได้
“เฮ้อ...” เจียงเฟยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแต่ก็ไม่กล้าละสายตาจากซากศพที่กองอยู่บนพื้น
“นักผจญภัยดูเหมือนพวกเราจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่ที่นี่แล้วนะ!” โมเรียสาวเท้าเดินเข้ามา แต่ละย่างก้าวของเขาหนักหน่วงยิ่งนักใบหน้าของเขาเองก็ซีดลงไม่น้อย
“หมายความว่ายังไงหรอครับคุณกัปตัน?” เจียงเฟยถาม
“นี่คือรายงานของป่าราตรีได้โปรดส่งมอบมันให้กับบาทหลวงฟิลิปในเมืองดอร์นไลท์ด้วยเถิด บางทีเขาอาจจะจบชีวิตปิศาจทั้งหมดลงได้!” โมเรียหยิบม้วนหนังสือออกมาจากผ้าคลุมและส่งมันให้กับเจียงเฟย
“ติ๊ง! เควสได้รับการอัพเดท!”
[เป้าหมาย : ส่งรายงานการตรวจสอบให้กับบาทหลวงฟิลิป!]
[รางวัล : ค่าประสบการณ์50,000แต้ม เงิน10ซิลเวอร์]
“แล้วคุณล่ะกัปตัน?” เจียงเฟยถามและเก็บม้วนหนังสือลงไปอย่างระมัดระวัง
“ข้าน่ะรึ? ฮ่ะๆๆ....” โมเรียยิ้มออกมาอย่างอ่อนแรงและหัวเราะออกมาอย่างขมขื่นจากนั้นก็ชี้ไปที่บริเวณเอวของตน
“อะไรกัน?!” เจียงเฟยมองตามและพบว่ามีรอยข่วนอยู่สามรอยตรงบริเวณชายโครงด้านซ้ายของกัปตันผู้นี้ เกราะที่ส่องแสงแวววาวของเขาฉีกขาดและเลือดสีแดงดำก็เริ่มไหลนอง
มันอาจจะไม่นับว่าเป็นบาดแผลที่ร้ายแรงถึงชีวิตยิ่งเป็นถึงนักรบผู้ช่ำชองอย่างกัปตันผู้นี้แล้วยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง! แต่สกิลคอนทาเจี้ยนต่างหากที่กำลังจะคร่าชีวิตของเขา!
“ไปเร็วเข้า ข้าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว!” น้ำเสียงของโมเรียเข้มขึ้นใบหน้าของเขาเริ่มบิดเบี้ยว
“มัน...มันสายไปแล้ว! ฆ่าข้าเดี๋ยวนี้!” ดวงตาของโมเรียเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง
“อ๊า!” สาวๆด้านหลังเจียงเฟยกรีดร้องกันออกมาด้วยความเสียใจและหวาดกลัว พวกเธอจ้องมองมาที่กัปตันผู้นี้ด้วยสายตาเห็นใจ
“อั่ก!” ในตอนนั้นเองโมเรียก็เปลี่ยนร่างจนสมบูรณ์!
[โมเรีย ดิ เดม่อนลอร์ด(จ้าวปิศาจโมเรีย) (รูปแบบมนุษย์ , อีลิทขั้นสูง)]
[Level : 22]
[พลังชีวิต : 8,800]
[พลังโจมตี : 585]
[สกิล : ทุบรุนแรง , กวาดรุนแรง , กลืนกิน , กองเนื้อ , เนตรแห่งความตาย!]
[หมายเหตุ : เจ้าหน้าที่มนุษย์ระดับต่ำที่ถูกความชั่วร้ายครอบงำ การโจมตีของเขาทรงพลังขึ้นมหาศาล – ระดับภัยคุกคาม – สูงมาก]
หลังจากเปลี่ยนร่างจนสมบูรณ์บอสก็พุ่งเข้าใส่พวกเขาที่ยืนอยู่ห่างออกมาราวๆสามเมตร ก้อนเนื้อน่าขยะแขยงงอกขึ้นทั่วร่างกายของมัน ดูไปแล้วราวกับยักษ์ตัวใหญ่ไร้ผิวหนัง กล้ามเนื้อของมันสามารถมองเห็นได้ชัดถนัดตาตั้งแต่หัวจรดเท้า!
“ขอเดาเลยว่าไอ้ห่านี่คือบอสตัวที่สามสินะ?” เจียงเฟยมองไปยังยักษ์ตัวนั้นและพึมพำออกมา