px

เรื่อง : The Almighty Ring
Chapter 45 : ช่วยคนใหญ่คนโตเอาไว้ซะแล้ว


 

ระหว่างทางไปโรงพยาบาลเจียงเฟยกดโทรไปหาจ้าวเฟิง เขาพยายามอธิบายสถานการณ์ที่กำลังพบและบอกให้จ้าวเฟิงลาเรียนให้เขาด้วย ยังไงเสียเขาก็คงกลับไปเรียนไม่ทันอยู่แล้ว!

เมื่อมาถึงโรงพยาบาลหมอก็มาถามเขาหลายคำถามก่อนที่จะลากเจียงคนเจ็บจากไป – ชายหนุ่มเองก็ยังคงนอนอยู่บนนั้นเช่นเดิม จู่ๆสรรพเสียงก็เงียบสงัดลงและเจียงเฟยก็ถูกทิ้งให้นั่งอย่างเงียบๆอยู่คนเดียวบริเวณทางเดินของโรงพยาบาล

เฮ้! เธอพอจะมีเวลาซักนาทีหนึ่งไหม!”

คนผู้นี้คือหน่วยแพทย์ที่มาหยุดเขาเอาไว้ตรงพื้นที่เกิดอุบัติเหตุ

ผมหรอ? เจียงเฟยมองไปรอบๆเพื่อให้แน่ใจว่าคนที่เธอต้องการจะคุยด้วยคือเขาจริงๆ

แน่นอนสิว่าเป็นนาย ตำรวจมาแล้วและพวกเขาก็อยากจะถามคำถามนายซักสองสามคำ เธอกล่าว

โอเค!” เจียงเฟยพยักหน้ารับ เขาเดินตามหน่วยแพทย์คนนั้นเพื่อให้การกับตำรวจ ตอนนี้เขาไม่มีอะไรต้องทำที่นี่แล้วจริงๆ!

เอาล่ะ นายกลับไปโรงเรียนได้แล้ว พวกเราจะตรวจสอบให้ชัดเจนว่าคำพูดและการกระทำอันกล้าหาญนั้นของเธอเป็นจริงไหม

โดยรวมแล้วตำรวจจราจรถือว่าเป็นมิตรไม่น้อย

เดี๋ยวก่อน!” ตอนที่เจียงเฟยกำลังจะจากไปก็มีพยาบาลคนหนึ่งเรียกเขาเอาไว้

ยังมีอะไรอีกหรอครับ? เจียงเฟยถามแบบไม่แน่ใจนัก

คนไข้อยากจะคุยกับเธอ พยาบาลกล่าว

เข้าใจแล้ว!” เจียงเฟยพยักหน้ารับ ทำไมจะไม่ล่ะ? เขาเป็นผู้ช่วยชีวิตชายหนุ่มคนนั้นเอาไว้ไม่ได้ไปฆ่าพ่ออีกฝ่ายเสียหน่อย เขาไม่มีอะไรต้องกลัวอยู่แล้ว!

เจียงเฟยเดินตามพยาบาลไปยังตึกผู้ป่วย เขาได้ยินหมอสองคนซุบซิบคุยกันถึงคนผู้หนึ่ง

ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ตามคำให้การของนักเรียนคนนั้นและสิ่งที่ตำรวจกล่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์รถชนนั่นอีก เด็กคนนั้นควรจะถูกส่งไปทำพิธีไม่ควรจะเข้ารับการรักษาแล้วด้วยซ้ำ แล้วทำไมเขาถึงหลุดมาได้โดยที่มีอาการสับสนเล็กน้อยและอวัยวะภายในได้รับความเสียหายบางส่วนเท่านี้เองล่ะ?

เด็กคนนี้โชคดีมากจริงๆ!”

ฮึ่ม! พวกไข่ในหินรุ่นที่สองพวกนี้ไม่รู้จักค่าของชีวิตเอาเสียเลย ครั้งนี้เขาโชคดีรอดมาได้ก็คงทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆจนมันสายเกินแก้เข้าซักวันนั่นแหละ!”

...

...

นายจะจะพบฉันงั้นหรอ? เจียงเฟยเข้ามายังตึกผู้ป่วยพิเศษ

ขอเวลาให้พวกเราซักครู่ได้ไหม ผมอยากจะคุยกับเขาตามลำพัง ชายหนุ่มผู้นั้นกล่าวกับพยาบาล

ตกลง! ถ้ามีอะไรก็กดปุ่มที่อยู่ข้างๆก็แล้วกัน!” พยาบาลชี้ไปที่ปุ่มๆหนึ่งและเดินออกไป

ขอบคุณมากจริงๆน้องชาย! ถ้าไม่ได้นายฉันคงตายไปแล้ว!” ชายหนุ่มผู้นั้นนั่งลงและเริ่มคุยกับเจียงเฟยพร้อมด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

ฮะๆ เอาเถอะตอนนี้นายก็ดูเหมือนคนตายไปแล้วนั่นแหละ!”

เจียงเฟยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก สภาพของชายคนนี้เมื่อตอนนั้นดูเหมือนผีมากกว่ามนุษย์เยอะ กระดูกซี่โครงของเขาแตกหักหลายที่และกระอักเลือดออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ตัวเขาอยู่ห่างจากความตายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ใช่แล้วล่ะ ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายเอาอะไรให้ฉันดื่มแต่ฉันทราบดีว่าสิ่งนั้นคือสิ่งที่ช่วยชีวิตฉันเอาไว้! อย่างที่พวกเรากล่าวกันเสมอๆ คงไม่มีคำใดสามารถแสดงความขอบคุณต่อความใจดีที่นายมีต่อฉันอีกแล้ว ฉันฮั่นเทียนหยู จากนี้เป็นต้นไปนายคือน้องชายที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับฉัน!” ชายหนุ่มวัยเยาว์กล่าวออกมาด้วยท่าทีซื่อตรง โพชั่นขวดนั้นยื้อสภาพของเขาเอาไว้แต่เขาก็ยังจำเป็นต้องพักฟื้นอยู่ดี

ฮั่นเทียนหยู? ทำไมฟังดูคุ้นหูจังนะ? เจียงเฟยพึมพำกับตัวเอง

ฮั่นเทียนหยูยิ้ม

ฮะๆ ฉันเคยออกทีวีอยู่หลายครั้งน่ะ ครอบครัวของฉันคือเจ้าของกลุ่มธุรกิจแมนต้าไง

พระเจ้าช่วย! ‘กลุ่มธุรกิจหนวดปลาหมึก นั่นน่ะนะ? น้ำเสียงของเจียงเฟยดังขึ้นโดยไม่เจตนา

กลุ่มธุรกิจแมนต้าหาใช่บริษัททั่วๆไป มันถูกเรียกว่า กลุ่มธุรกิจหนวดปลาหมึก ก็เพราะพวกเขาเข้าไปมีเอี่ยวกับบริษัทมีชื่อแทบจะทุกแห่งของมนุษย์ ตั้งแต่ค้าอาวุธไปจนถึงสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน ตั้งแต่อากาศยานไปจนถึงเรื่องเล็กน้อยเท่าปลายเข็ม กลุ่มธุรกิจแมนต้าล้วนเข้าไปมีเอี่ยวในทุกๆเรื่อง

แกนหลักของเรื่องของคือฮั่นเทียนหยูผู้นี้ — คือบุตรชายเพียงคนเดียวของเจ้าของกลุ่มธุรกิจแมนต้า กล่าวได้ว่าเขาเป็นรัชทายาทของจักรวรรดิแห่งธุรกิจทั้งหมดเลยก็ว่าได้ เจียงเฟยเคยเห็นเขาแต่ในทีวีเท่านั้นไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้มาช่วยชีวิตของเจ้าชายผู้นี้เอาไว้!

ปัง!” ในตอนนั้นเองประตูห้องผู้ป่วยก็แทบจะปลิวหลุดจากบานพับ

นายน้อยเป็นอะไรไหมครับ? ชายวัยกลางคนวิ่งเข้ามาตามมาด้วยชายร่างยักษ์อีกแปดคน พวกเขากระจายวงล้อมกันอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นขบวนแถว บางคนคุ้มกันบริเวณทางเข้า บางคนคอยระวังตรงหน้าต่าง สองคนเข้ามาแทรกระหว่างเจียงเฟยและฮั่นเทียนหยูอย่างรวดเร็วจนยากจะกล่าวได้ว่าเป็นเพียงความบังเอิญหรือถูกคิดเอาไว้ก่อนแล้ว

ฉันยังไม่ตาย!”

ฮั่นเทียนหยูกรอกตากล่าว

นายน้อยท่านพยายามจะทำให้กระผมหวาดกลัวจนตายรึไง? ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับท่านกระผมจะกล่าวกับนายท่านยังไง?

หลังจากเห็นว่าฮั่นเทียนหยูสบายดีชายวัยกลางคนก็เริ่มหอบหายใจอย่างหนักราวกับว่าพึ่งไปวิ่งมาราธอนมา

ไม่เป็นอะไรแล้วน่าลุงต้า ผมสบายดี ไปแจ้งได้แล้วว่าผมจะทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลในไม่ช้านี่แหละ!” ฮั่นเทียนหยูโบกมือกล่าวกับชายวัยกลางคน

นายน้อยท่านไม่เป็นอะไรจริงหรือ? กระผมได้ยินตำรวจจราจรกล่าวกันว่าอุบัติเหตุทางรถยนตร์ครั้งนั้นดูราวกับเหตุระเบิดก็ไม่ปาน

ลุงต้าดูจะยังไม่สบายใจ

โชคดีที่ผมไม่ได้ขาดเข็มขัดนิรภัยเลยถูกรถเหวี่ยงออกมาจากกระจกหน้าก่อนที่จะเกิดการชน สมองของผมเลยแค่กระทบกระเทือนเล็กน้อยเท่านั้น

ไม่รู้ด้วยเหตุผลใดฮั่นเทียนหยูจึงเลือกตัดเรื่องของเจียงเฟยและโพชั่นเพิ่มเลือดของเขาออกไปจากเรื่องที่เล่าออกมา เขากล่าวแต่ว่ารอดมาได้เพราะโชค

นายน้อยผมจะขอออกไปคุยกับคุณหมอซักหน่อย ถ้าทุกๆอย่างปกติดีพวกเราจะพาท่านกลับบ้านทันที!” ลุงต้ากล่าว

ตกลง! แล้วก็เอาเจ้าพวกนี้ออกไปด้วย ผมต้องการคุยกับเด็กคนนี้เป็นการส่วนตัว!”ฮั่นเทียนหยูกล่าว

อึก...เข้าใจแล้วครับ ความคิดที่ว่าต้องทิ้งนายน้อยเอาไว้กับคนแปลกหน้าทำให้ลุงต้านั่งไม่ติดแต่เขาเป็นเพียงนักเรียนมัธยมธรรมดาๆอย่างไม่ต้องสงสัย!

ขอบคุณมากนะ!” หลังจากทุกคนออกไปแล้วเจียงเฟยก็พยักหน้าให้กับฮั่นเทียนหยู

เอาเถอะ ฉันทราบดีว่านายคงไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่านายมียาอายุวัฒนะที่ใช้สำหรับฟื้นฟูชีวิตได้หรอก ทุกๆคนต่างก็มีความลับของตน ถ้าจะบอกว่าฉันไม่สงสัยก็คงไม่ได้แต่ฉันจะไม่ถามให้มากความหรอก ฮั่นเทียนหยูกล่าว

อา เจียงเฟยยกนิ้วโป้งให้กับฮั่นเทียนหยู ดูเหมือนทั้งสองคนจะลุข้อตกลงบางอย่างเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนี้อย่างเงียบๆไปแล้ว นี่เป็นความเข้าใจระหว่างคนฉลาดด้วยกัน

ฉันเรียกนายว่าน้องชายมาทั้งวันแล้วแต่กระทั่งชื่อของนายนายยังไม่บอกฉันเลย นายกำลังดูถูฉันอยู่รึไง? ฮั่นเทียนหยูยิ้มกว้าง

โว้วดูตัวเองห่นอยเถอะ ใครจะไปกล้าดูถูกเจ้าชายของกลุ่มธุรกิจแมนต้ากัน? ฉันชื่อเจียงเฟย เจียงเฟยขยิบตาให้

พวกเราเป็นพี่น้องกันแล้วตัดคำว่า เจ้าชาย ทิ้งไปได้เลย  ดูเหมือนว่านายจะอ่อนกว่าฉันอยู่ซักหน่อยนะ จากนี้เรียกฉันว่าพี่อวี่แล้วกันหรือถ้าไม่ก็เรียกชื่อฉันตรงๆเลย!” ฮั่นเทียนหยูโบกมือให้อย่างเป็นกันเอง

ตกลงพี่อวี่ก็พี่อวี่!” เจียงเฟยไม่มีปัญหาที่จะเรียกฮั่นเทียนหยูเป็นพี่อยู่แล้ว ฮั่นเทียนหยูเป็นนักศึกษามหาลัยปีที่สองแล้วดังนั้นชัดเจนแล้วว่าเขาแก่กว่าเจียงเฟยอยู่ราวๆ4-5ปี ดังนั้นการเรียกฮั่นเทียนหยูว่าพี่ก็สมควรแล้ว!

เอาล่ะ! ฉันจะไม่รั้งนายไว้แล้ว ลุงต้าและคนอื่นๆคงไม่ปล่อยให้พวกเราอยู่กันอย่างสงบนานนักหรอก ถ้านายมีปัญหาก็มาหาฉันได้เลย พออาการฉันดีขึ้นแล้วเดี๋ยวจะเรียกนายออกไปเที่ยวด้วยกัน!”

ฮั่นเทียนหยูให้เบอร์ติดต่อกับเจียงเฟยเอาไว้พร้อมกับยิ้มกว้างเกลื่อนใบหน้า

ตกลงงั้นผมไปก่อนแล้วกัน ครั้งหน้าก็ขับรถระวังๆด้วย ถ้าเกิดสถานการณ์แบบเดียวกันขึ้นอีกผมคงไม่ได้อยู่ช่วยได้ตลอดหรอกนะ!” เจียงเฟยวางแผนว่าจะออกจากโรงบาลซักที เขาไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องของฮั่นเทียนหยูผู้นี้ มองๆดูแล้วนี่ก็เป็นเพียงการบังเอิญพานพบเท่านั้นไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

อย่ากังวลเลย! ไม่มีครั้งที่สองแน่!” เมื่อเจียงเฟยจากไปแล้วรอยยิ้มของฮั่นเทียนหยูก็หายไป เขากำหมัดแน่น หน้ากากชายทรงเสน่ห์ที่สวมใส่พลันบิดเบี้ยวมืดครึ้มกลายลงจนน่ากลัว

ในเมื่อแกเลือกจะผิดกฎของเกมก่อนถ้างั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ก็อย่าได้โทษฉันแล้วกัน น้ำเสียงเย็นชาของฮั่นเทียนหยูดังกึกก้องไปทั่วห้องผู้ป่วยที่ว่างเปล่า

 

 

รีวิวผู้อ่าน