เมื่อทุกๆสิ่งเสร็จสิ้นหมดแล้วเจียงเฟยก็นำอุปกรณ์สามชิ้นที่เขาเลือกไว้ใช้เองออกมาดู
[ชุดเกราะไรเดอร์แห่งขวากหนาม (ชุดเกราะ , ชั้นเยี่ยม)]
[พลังป้องกัน + 45]
[VIT + 5]
[อัตราการหลบหลีก + 1]
[เมื่อสวมใส่ : ได้รับสกิลติดตัว – เกราะแห่งขวากหนาม – ทุกๆครั้งที่ได้รับความเสียหายทางกายภาพจะสะท้อนความเสียหาย5หน่วยกลับไปยังศัตรูและทำให้ศัตรูติดพิษ – พิษจะลดความเร็วในการโจมตีของศัตรูลง20% คงอยู่เป็นระยะเวลา5วินาที]
[เสียงคำรามอันกราดเกรี้ยวของหมีสงคราม (เกราะไหล่ , อีปิค]
[พลังป้องกันกายภาพ + 65]
[พลังป้องกันเวทย์มนตร์ + 30]
[VIT + 8]
[อัตราการเกิดคริติคอล + 5]
[อัตราการหลบหลีก + 5]
[เมื่อสวมใส่ : ได้รับสกิล – แบทเทิลคราย(เสียงกู่ร้องแห่งสงคราม) – สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ8เมตรรอบกายเป็นจำนวน100หน่วยและลดพลังโจมตีของพวกมันลง20% คงอยู่เป็นระยะเวลา10วินาที ระยะเวลาคูลดาวน์ 3 นาที! (สกิลนี้สามารถเพิ่มค่าความโกรธได้มหาศาล)]
[รูบี้ไวเปอร์แห่งผู้ลายมนตรา (เครื่องประดับ , อีปิค]
[พลังโจมตีกายภาพ + 20]
[พลังโจมตีเวทย์มนตร์ + 20]
[VIT + 10]
[ค่าต้านทานเวทย์มนตร์ + 5]
[เมื่อสวมใส่ : ได้รับสกิล – มานาเบิร์น(เผามาน่า) – ลดมานาทั้งหมดที่ท่านมีและเผาผลาญพลังมาน่าของเป้าหมาย50%และในเวลาเดียวกันจะสร้างความเสียหายให้กับเป้าหมายในจำนวนเท่าๆกับค่ามาน่า50%ที่ถูกเผาลดไป! ระยะเวลาคูลดาวน์ 5 นาที!(ไม่สามารถใช้กับบอสได้)]
หลังจากใส่อุปกรณ์ทั้งสามชิ้นเจียงเฟยก็ใช้เงินไปอีก200โกลเพื่อซื้อวัตถุดิบสำหรับสร้างโล่เกราะ(ไอเทมเสริมพลัง)มาอีก แม้ว่าโล่จะทำได้เพียงดูดซับความเสียหายทางกายภาพแต่ก็ดีพอจะใช้เป็นปราการด่านสุดท้าย! ค่าสถานะโดยรวมของเจียงเฟยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ นอกจากนี้ค้อนเพลิงของช่างตีเหล็กเทวะเองก็ยังเพิ่มค่าVITให้เขาอีกมหาศาลด้วยเช่นกัน ด้วยการนั้นทำให้พลังชีวิตของเขาเหนือระดับ5,000ไปแล้ว!
ตอนนี้ค่าสถานะของเจียงเฟยเรียกได้ว่าทะลุกราฟไปแล้ว
[ชื่อผู้เล่น : เวเดอร์ไกร์เดอร์]
[Level : 16]
[อาชีพ : ช่างตีเหล็กเทวะ (ลูกศิษย์)]
[ค่าประสบการณ์ : 112,475/125,000]
[พลังชีวิต : 5,080/5,080]
[มานา : 360/360]
[พลังโจมตีกายภาพ : 88+90]
[พลังป้องกันกายภาพ : 184+265]
[พลังป้องกันเวทย์ : 72+50]
ถ้าเทียบกันด้านตัวเลขเจียงเฟยสามารถยืนอยู่ในระนาบเดียวกับอาชีพที่เด่นทางด้านการต่อสู้ได้อย่างสบายๆ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีสกิลใช้งานเพิ่มเติมถึงแปดสกิล!
[พุ่งชน : พุ่งเข้าชนเป้าหมายสร้างความเสียหายแน่นอน50หน่วยและทำให้เป้าหมายติดสถานะมึนงงเป็นเวลา2วินาที ระยะที่สามารถใช้การได้คือ3-20เมตร ระยะเวลาคูลดาวน์ : 5นาที!]
[หมัดเหล็ก : ทุบเป้าหมายเดี่ยวสร้างความเสียหายแน่นอน300หน่วย ระยะเวลาคูลดาวน์ 50 วินาที!]
[ทุบสามครั้ง : ทุบเป้าหมายด้วยค้อนเพลิงสามครั้งติดต่อกัน เพิ่มโอกาสการเกิดเป็นอุปกรณ์ขั้นสูง5%ถ้าสกิลนี้ถูกใช้ในการตีเหล็ก – สร้างความเสียหายเท่ากับ5%ของพลังชีวิตสูงสุดสามครั้งให้กับเป้าหมายถ้าสกิลนี้ถูกใช้ในการโจมตี – ระยะเวลาคูลดาวน์ 20 วินาที!]
[ลดอุณหภูมิฉับพลัน : เป่าลมพายุเยือกแข็งออกไปทางด้านหน้า ถ้าถูกใช้กับอุปกรณ์ที่เกือบจะเสร็จสมบูรณ์อัตราการเกิดเป็นอุปกรณ์ขั้นสูงจะเพิ่มขึ้น1% - ถ้าใช้กับศัตรูจะสร้างความเสียหายเท่ากับ10%ของพลังชีวิตสูงสุด – เป้าหมายจะติดสถานะเยือกแข็งเป็นเวลา1วินาที หลังจากผ่านไป1วินาทีความเร็วในการเคลื่อนที่ของเป้าหมายจะลดลงครึ่งนึงเป็นเวลา5วินาที! – ระยะเวลาคูลดาวน์ 1 นาที!]
[แบทเทิลคราย : สร้างความเสียหายให้ศัตรูในรัศมี8เมตรรอบกาย100หน่วยและลดพลังโจมตีของพวกมันลง20%เป็นระยะเวลา10วินาที – ระยะเวลาคูลดาวน์ 3 นาที! (สกิลนี้สามารถเพิ่มค่าความโกรธได้มหาศาล!]
[มานาเบิร์น : ลดมานาทั้งหมดที่เหลืออยู่ของท่านและเผาค่ามาน่าของเป้าหมาย50% ในเวลาเดียวกันเป้าหมายจะได้รับความเสียหายเท่ากับมาน่าที่สูญเสียไป! – ระยะเวลาคูลดาวน์ 5 นาที! (ไม่สามารถใช้กับบอสได้)]
[โล่เอจิสม่วงแดง : เพิ่มพลังป้องกันของผู้ใช้ขึ้นมาในพริบตาทำให้ความเสียหายโดยรวมทั้งหมดที่ได้รับจากการโจมตี3ครั้งถัดไปลดลงเหลือ50%! – ระยะเวลาคูลดาวน์ 5 นาที!]
[ปราการหุ้มเกราะ – เมื่อเปิดใช้งานจะดูดซับค่าความเสียหายได้เท่ากับ20%ของพลังชีวิตสูงสุดเป็นระยะเวลา10วินาที – ระยะเวลาคูลดาวน์ 5 นาที!]
น่าเสียดายแม้จะเป็นปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเป็นแทงค์ที่แข็งที่สุดในเกมแล้วแต่เขาก็ยังขาดสกิลที่จำเป็นในการเป็นตัวแทงค์อยู่ดีซึ่งนั่นก็คือสกิลในการเพิ่มค่าความโกรธ กระนั้นแล้วเขาก็ยังเป็นตัวแทงค์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเกม – ไม่สิ! เป็นผู้เล่นตัวแทงค์ที่แข็งและหนาที่สุดในจีน!
หลังจากอ่านคำอธิบายสกิลทั้งหมดแล้วเจียงเฟยก็ตัดสินใจออกไปเก็บเลเวลนอกเมือง ยังไงเสียระยะเวลาคูลดาวน์หนึ่งวันก็หมดลงไปแล้ว ดันเจี้ยน ‘ส่วนลึกในป่าราตรี’ ระดับความยากปกติถูกซีเร็ตเป็นที่เรียบร้อย การโซโล่ดันเจี้ยนคงทำให้เขาอัพเป็นเลเวล18ได้แน่นอน
ในตอนนี้เขาขาดอีกเสี้ยวเดียวก็จะอัพเป็นเลเวล17แล้ว ทางข้างหน้าอาจจะลาบลื่นสบายๆแต่การโซโล่ดันเจี้ยนน่าจะทำให้หลอดค่าประสบการณ์ของเขาพุ่งทะยานได้ด้วยความเร็วน่าตะหนกอย่างแน่นอน
เจียงเฟยวางแผนจะลงดันเจี้ยนตัวคนเดียวดังนั้นเขาเลยไม่ได้บอกสาวๆในกิล แม้ว่าเขาจะนำพวกเธอไปเอาเฟิร์สเคลียของดันเจี้ยนระดับอีลิทมาแล้วแต่สาวๆส่วนมากในกิลยังขาดทักษะขนาดที่ว่าดันเจี้ยนระดับปกติก็ยังลำบากด้วยซ้ำ ดังนั้นโรเซ็ตโรสและคนอื่นๆในปาร์ตี้หลักของกิลจึงนำสมาชิกคนอื่นๆออกไปลงดันเจี้ยนระดับปกติเพื่อฝึกฝน
“เฮ้ยๆไอ้หนู ในที่สุดก็โผล่มาซักทีนะ!” ในตอนที่เจียงเฟยกำลังเดินอยู่ในป่าราตรีนั้นน้ำเสียงหยาบกร้านก็ดังมาจากทางด้านหลัง
“หือ?” เจียงเฟยหันไปมอง โลกมันกลมจริงๆ ที่แท้ก็พวก ‘สามหน่อหมาป่า’ นี่เอง!
“เฮ้ยไอ้หนูได้ข่าวว่าช่วงนี้ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเลยไม่ใช่รึไง? ได้ยินมาว่าแกโซโล่ดันเจี้ยนห้าคนได้เลยนี่” หมาป่าพิษกล่าวขณะเดินวนรอบตัวเจียงเฟยและมองเขาอย่างดูถูก
“ไอ้หนูบอกความลับของดันเจี้ยนมา แกเจอบัคใช่ไหมล่ะ? ถ้าแกบอกพวกเราจะฆ่าแกแค่ครั้งเดียวหรือไม่งั้นพวกเราจะไปดักรอฆ่าแกที่สุสานและแสดงให้เห็นว่าพลังของคนเลเวลสูงกว่าเป็นยังไง อยากจะกลับไปหมู่บ้านเริ่มต้นไหมละ?” หมาป่าดุร้ายขู่
แม้ว่าเจียงเฟยจะโด่งดังในชั่วข้ามคืนแต่แนวคิดฝังหัวที่ว่า ‘ผู้เล่นสายวิชาชีพสร้างความเสียหายให้ใครไม่ได้หรอก’ ยังคงติดตรึงอยู่ในใจของหลายๆคนรวมไปถึงกิลใหญ่ๆทั้งสี่ด้วย นอกจากสาวๆในภาคีอัศวินที่ได้เห็นมากับตาผู้เล่นคนอื่นๆต่างก็เชื่อว่าเจียงเฟยเป็นเพียงคนขี้โกงที่ใช้บัคบางอย่างในการเคลียดันเจี้ยน พวกเขากระทั่งคิดด้วยว่าเนื่องจากบัคเช่นเดียวกันนี้ทำให้ภาคีอัศวินโรเซ็ตสามารถเอาเฟิร์สเคลียของดันเจี้ยนระดับอีลิทมาครอบครองได้!
ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดให้ความสนใจกับพลังต่อสู้ของเจียงเฟยเลยแม้แต่น้อยแน่นอนว่ารวมไปถึงหมาป่าทั้งสามหน่อนี่ด้วย หมาป่าพิษบังเอิญเห็นเจียงเฟยที่บริเวณทางเข้าโรงตีเหล็กในวันนี้ดังนั้นพวกเขาทั้งสามจึงเริ่มสะกดรอยตามเขา ยังไงเสียถ้าพวกเขาล่อเจียงเฟยในเมืองก็คงโดนทหารNPCจับเอาอย่างแน่นอน ดังนั้นทั้งสามคนจึงตัดสินใจรอให้เจียงเฟยออกนอกเมืองเสียก่อน!
“ในฐานะของผู้เล่นสายวิชาชีพแกควรจะมุดหัวอยู่ในเมืองแท้ๆแต่กลับโผล่ออกมาโชว์พลังแบบนี้ หึหึคงต้องโทษที่พวกเราดวงดีด้วยแหละนะ! ไอ้หนูถ้าแกไม่อยากกลับไปหมู่บ้านเริ่มต้นก็บอกเกี่ยวกับบัคในดันเจี้ยนมาดีกว่า!”
หมาป่าหิวเดินเข้ามาหาเจียงเฟย เขาชี้นิ้วมาจนนิ้วเกือบจะทิ้งกับจมูกของเจียงเฟยอยู่ลอมล่อแล้วโดยไม่ได้คิดเลยว่าการกระทำของเขาเป็นการกระทำที่เหย่อหยิ่งจองหองสิ้นดี! สำหรับหมาป่าทั้งสามหน่อแล้วเจียงเฟยก็คือปลาที่ดิ้นออกมาจากลำน้ำและมานอนกองอยู่บนเขียงรอโดนเชือดแล้ว สิ่งเดียวที่พวกเขาต้องทำมีเพียงลงดาบเท่านั้น!
“พวกแกยังจำคำพูดที่ฉันพูดตอนอยู่ที่หมู่บ้านเริ่มต้นได้รึเปล่า?” เจียงเฟยถามพร้อมด้วยรอยยิ้มเย็นเยียบ
“แกพูดห่าอะไรวะ?” หมาป่าพิษถามออกมาด้วยท่าทีประหลาดใจ
หมาป่าดุร้ายหัวเราะลั่น
“ไอ้หนูอย่ามาทำไก๋ดีกว่า ชัดเจนอยู่แล้วว่าแกเป็นแค่คลาสสายผลิตเท่านั้น” เขาไม่มีเหตุผลต้องกลัวช่างตีเหล็กอยู่แล้ว!
“ฮึ่ม! แกกำลังถ่วงเวลารอให้สาวๆพวกนั้นมาช่วยสิท่า? ตอนนี้ฉันให้เวลาแกตัดสินใจสามวินาทีไม่งั้นก็อย่าโทษที่พวกเรารุนแรงไปล่ะ!” หมาป่าหิวขัดขึ้น
“พวกแกสามตัวเนี่ยนะ? ขอทีเหอะ อย่างพวกแกไม่ต้องใช้คนมากกว่านี้หรอก” เจียงเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มดุจปิศาจ ตั้งแต่ที่เจียงเฟยติดอาวุธให้ตัวเองด้วยสกิลต่อสู้เขาก็สู้กับมอนสเตอร์มาโดยตลอดไม่มีแม้แต่ครั้งเดียวที่เขาสู้กับผู้เล่นด้วยกัน ยังไงก็ตาม ในเมื่อสามหน่อนี่เสนอตัวเข้ามาหาเจียงเฟยเองทำไมเขาถึงจะไม่รับ ‘คำท้า’ และลงฝึกซักท่าสองท่ากันล่ะ?
ไม่เหมือนกับทั้งสามหน่อนี่ที่ไม่ทราบถึงความสามารถในการต่อสู้ของเจียงเฟยเพราะเจียงเฟยทราบข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับพวกมันดีเนื่องจากพลังลึกลับของแหวน! สองในสามคนของพวกมันเป็นนักรบเลเวล16และอีกคนหนึ่งเป็นแบนดิทเลเวล15 แม้ว่าเลเวลพวกมันจะใกล้ๆกับเจียงเฟยแต่อุปกรณ์ของพวกมันก็เป็นเพียงกระดาษชำระเท่านั้นถ้าเทียบกับเจียงเฟยที่ดูราวกับรถถังเดินได้!
พวกมันคิดอะไรกันอยู่? หรือจะมั่นใจเกินเหตุจนทำให้มองข้ามจุดอ่อนของพวกตนไป? พวกมันควรจะทราบสิว่าอุปกรณ์ของพวกมันไม่ต่างอะไรไปจากก้อนดินบนพื้น! การหาเรื่องคนอื่นโดยไม่ทราบความสามารถของอีกฝ่ายจะไปต่างอะไรกับการกระโดดลงเหวโดยคาดหมายว่ามันจะตื้นมันสระว่ายน้ำของเด็ก!