px

เรื่อง : The Almighty Ring
Chapter 62 : ยาลูกกลอนปิศาจ


 

อูววว...

ซอมบี้นักบวชปิศาจขยับตัวเคลื่อนไหวอีกครั้งและปลดปล่อยสายฟ้าออกมาอีกเส้น!

ไปตายซะไอ้ตัวพ่นสายฟ้า!”

เจียงเฟยจัดการแช่งแข็งมันจนกลายเป็นก้อนน้ำแข็งอีกครั้งด้วยลมหายใจเยือกแข็ง

ทริปเปิ้ลแบช!

มานาเบิร์น!

-1275! (มานาเบิร์น!)

-640!

นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เจียงเฟยใช้มานาเบิร์น! กลับกลายเป็นว่าสกิลนี้ได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อสกิลนี้เผาผลาญมาน่าของซอมบี้นักบวชปิศาจเลขสองแถวก็ปรากฏขึ้นมาบนหัวของมันแถวหนึ่งสีฟ้าและอีกแถวหนึ่งสีแดง!

เลขสีฟ้าที่มีตัวเลขเกิน1,000คือจำนวนมานาทั้งหมดที่อีกฝ่ายโดนเผาไปส่วนเลขสีแดงที่เด้งขึ้นมา600กว่าๆคือความเสียหายที่อีกฝ่ายได้รับ! เนื่องจากพลังชีวิตของซอมบี้นักบวชปิศาจในตอนนี้เหลือน้อยกว่า500แล้วมันจึงล่วงอย่างรวดเร็ว!

ติ๊ง! ท่านสังหารซอมบี้นักบวชปิศาจ ได้รับค่าประสบการณ์ 2,750 หน่วย!”

ติ๊ง! ได้รับยาลูกกลอนปิศาจ!”

[ยาลูกกลอนปิศาจ : สามารถใช้ป้อนให้กับสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ขี่โดยมีโอกาสที่สมถรรนะหรือระดับการเติบโตของสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ขี่ตัวนั้นเพิ่มมากขึ้น]

พระเจ้า! ของดีนี่หว่า!” เจียงเฟยยิ้มหน้าบาน!

ระบบสัตว์เลี้ยงยังไม่เปิดในตอนนี้ มีเพียงนักล่ากับผู้วิเศษเท่านั้นที่สามารถอัญเชิญสัตว์เลี้ยงได้ด้วยสกิลของสายอาชีพ ยังไงก็ตามสัตว์เลี้ยงเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในตารางสกิลของพวกเขาอัตราการเติบโตของพวกมันจึงคงที่ตายตัว แน่นอนว่านักล่าหรือผู้วิเศษไม่จำเป็นต้องกังวลว่าสัตว์เลี้ยงของตนจะตายเนื่องจากต่อให้ตายไปจริงๆพวกเขาก็สามารถอัญเชิญออกมาอีกครั้งได้อยู่ดี

แต่เมื่อผู้เล่นมีเลเวลถึง30ระบบสัตว์เลี้ยงและระบบสัตว์ขี่จะถูกเปิด เมื่อถึงตอนนั้นคนที่มีเงิน ชื่อเสียงหรือมีโชคดีมากพอก็อาจจะมีโอกาสได้รับไข่สัตว์เลี้ยงซึ่งสามารถฝักจนกลายเป็นสัตว์เลี้ยงส่วนตัวของพวกเขาได้ในที่สุด ยังไงก็ตามสัตว์เลี้ยงเช่นนี้มีแก่นชีวิตจำกัด ทุกๆครั้งที่มันตายพวกมันจะสูญเสียแก่นชีวิตไป การตายหลายๆครั้งเข้าจะนำไปสู่การตายอย่างถาวรของพวกมัน

สัตว์เลี้ยงเหล่านี้มีค่าสถานะไม่ตายตัว พวกมันสามารถออกมาดีก็ได้แย่ก็ได้ เหมือนกับอุปกรณ์สวมใส่ทั้งหลายเพราะสัตว์เลี้ยงเองก็แบ่งออกเป็นห้าเกรดเช่นกันคือ – ปกติ , ชั้นดี , ชั้นเยี่ยม , อีปิคและตำนาน แม้ว่ายาลูกกลอนปิศาจจะไม่สามารถเพิ่มเลเวลของสัตว์เลี้ยงหรือใช้อัพเกรดระดับของมันให้กลายเป็นเกรดสูงกว่าเดิมได้เหมือนกับการเปลี่ยนสัตว์เลี้ยงระดับปกติให้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงชั้นดีก็ตามแต่มันก็ยังมอบโบนัสพิเศษให้อยู่ดี! ดังนั้นยาลูกกลอนปิศาจนี้จึงมีค่าหลายตังแน่ๆในอนาคต!

หลังจากรู้เช่นนี้เจียงเฟยจึงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจและออกล่าซอมบี้ไปตลอดทาง โชคไม่ดีที่รอบๆนี้มีซอมบี้นักบวชปิศาจอยู่ไม่มากนัก เขาจะพบมันตัวหนึ่งหลังจากที่สังหารซอมบี้กินซากไปราวๆเจ็ดถึงแปดตัวได้ ยังไงก็ตามหลังจากที่กวาดผ่านเส้นทางมากว่าชั่วโมงเต็มท้ายที่สุดเจียงเฟยก้ยังเก็บยาลูกกลอนปิศาจมาได้กว่ายี่สิบเม็ดอยู่ดี!

ยาลูกกลอนปิศาจไม่ได้มีโอกาสดร็อปง่ายดายขนาดนั้นแต่ต้องขอบคุณแหวนลึกลับของเจียงเฟยทำให้เขามีค่าลัคมหาศาล ดังนั้นทุกๆครั้งที่สังหารซอมบี้นักบวชปิศาจจึงแทบจะการันตีเลยว่ามันจะดร็อปยาลูกกลอนปิศาจแน่นอน!

ฮี่ๆ! ดูเหมือนที่เขากล่าวกันว่าถ้าไม่หารายได้พิเศษก็จะไม่มีวันรวยนี่คงเป็นเรื่องจริงแฮะ ยาลูกกลอนปิศาจพวกนี้มีค่ามากกว่าเอาเวลาไปทำงานให้กิลใหญ่ทั้ง4พวกนั้นเยอะ – เทียบได้กับทำงานให้พวกนั้นสองวันติดต่อกันเลยก็ว่าได้!”

เจียงเฟยยิ้มแต้มองดูยาลูกกลอนปิศาจที่นอนอยู่ในกระเป๋า ยาลูกกลอนปิศาจเหล่านี้สามารถขายได้เม็ดละราวๆ1,000โกลเลยทีเดียว เพียงแค่เริ่มต้นมาไม่นานเขาก็ทำเงินได้มหาศาลแล้ว!

แต่ความรู้สึกผ่อนคลายของเจียงเฟยก็พลันหายไปอย่างรวดเร็วเพราะพื้นดินด้านหน้าแปรเปลี่ยนเป็นพื้นหินไปแล้ว แน่นอนว่าพื้นหินเช่นนี้คงไม่มีซอมบี้โผล่มาอีกซึ่งก็หมายถึงไม่มีเม็ดยาลูกกลอนปิศาจอีกเช่นกัน!

พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ...

ในตอนที่เจียงเฟยเดินผ่านไปสองฝากฝั่งของถ้ำก็พลันมีเปลวไฟปรากฏ คบเพลิงที่ห้อยติดกำแพงพลันมีเพลิงถูกจุดขึ้นมาเปลี่ยนให้ถ้ำอันมืดมิดในคราแรกส่องสว่างราวกับกลางวัน!

เจียงเฟยเดินไปบนทางที่มีแสงไฟสลัวๆส่องตลอดทางและก้าวเข้าไปยังโถงขนาดใหญ่!

โถงแห่งนี้สวยงามเป็นอย่างมาก ดูราวกับเป็นสรวงสวรรค์และผืนปฐพีแห่งใหม่ภายในภูเขาเลยก็ว่าได้ ยิ่งไปกว่านั้นสถานที่แห่งนี้ยังเต็มไปด้วยไม้แกะสลักและภาพวาดอีกด้วย – ดูแล้วโดดเด่นสวยงามเป็นยิ่งนัก!

กำแพงทั้งสี่ด้านของห้องโถงถูกฝังเอาไว้ด้วยไข่มุกเรืองแรงจำนวนแปดสิบเอ็ดลูกซึ่งแสงที่ส่องออกมาจากมันทำให้ทั่วทั้งห้องโถงดูราวกับแดนแห่งเทพนิยายบนผืนโลกเลยก็ว่าได้!

ตรงกึ่งกลางปรากฏแท่นบูชาที่มีเปลวเพลิงสีม่วงทองรุกไหม้อยู่ด้านบน เปลวเพลิงที่รุกไหม้อย่างบ้าคลั่งทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นราวกับว่าต้องการเผาไหม้ห้องโถงให้มอดไหม้!

เบื้องหน้าแท่นบูชาเป็นโรงศพคริสตัลโปร่งใสและมีเงาร่างคล้ายมนุษย์นอนอยู่ภายใน

นี่มันอะไรกัน? เจียงเฟยพึมพำออกมา

แกว๊ก…”

ในตอนที่เจียงเฟยเหยียบย่างเข้ามาในห้องโถงเสียงกรีดร้องแหลมสูงก็ดังขึ้นมาตามมาด้วยเงาสีดำทมิฬร่างหนึ่งพุ่งเข้าใส่เจียงเฟย!

นี่มันอะไร?

เจียงเฟยผงะถอยออกไปตามสัญชาตญาณทำให้หลบการโจมตีของเงาสีดำไปได้ ในเวลาเดียวกันเขาก็พยายามมองสิ่งที่พุ่งเข้ามาให้ชัดเจน!

[ผู้บังคับบัญชาค้างคาวโลหิตวิลเลี่ยม (แวมไพร์ , อีลิทขั้นสูง)]

[Level : 18]

[พลังชีวิต : 13,000]

[พลังโจมตี : 185]

[สกิล : เพิ่มความเร็ว , สายฟ้าจู่โจม , ดูดเลือด , กัด , กัดกระชากอย่างบ้าคลั่ง]

[หมายเหตุ : ผู้นำของเหล่าค้างคาวโลหิตหาใช่เพียงอีลิทขั้นสูงธรรมดาๆ เขามีพลังโจมตีที่ด้อยค่าจนน่าสังเวชแต่กลับเร็วจนน่าเหลือเชื่อ เขาคือศัตรูตัวฉกาจสำหรับเหล่านักอาคมทั้งหลาย!]

แกว๊ก!” ผู้บังคับบัญชาค้างคาวโลหิตส่งเสียงกรีดร้องแหลมสูงออกมาและพุ่งเข้าโจมตีเจียงเฟยอีกครั้ง

-1

-1

-1

-1

...

เนื่องจากพลังโจมตีของผู้บังคับบัญชาค้างคาวโลหิตมีไม่สูงมากนักมันจึงไม่อาจเจาะการป้องกันของเจียงเฟยได้แม้แต่นิดเดียว แต่การโจมตีห้าครั้งต่อวินาทีก็ถือว่าน่าประหลาดใจอยู่ไม่น้อย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้ชื่อว่าฝันร้ายของเหล่า นักเวทย์

อาชีพสายเกราะผ้าไม่มีทางทึกทนแบบเจียงเฟยอยู่แล้ว การที่ต้องรับมือกับศัตรูที่มีความเร็วมหาศาลขนาดนี้กระทั่งเวลาให้ร่ายเวทย์ก็คงไม่มี!

แม้ว่าผู้บังคับบัญชาค้างคาวโลหิตตนนี้จะเป็นฝันร้ายของเหล่านักเวทย์แต่เจียงเฟยคือฝันร้ายของมัน!  ผู้บังคับบัญชาค้างคาวโลหิตสร้างความเสียหายได้เพียง1หน่วยต่อครั้งเท่านั้นขณะเดียวกันก็สามารถหลบการโจมตีจากเจียงเฟยไปได้อย่างหมดจด

ยังไงก็ตามเจียงเฟยยังมีสกิลติดตัวซึ่งได้มาจากชุดเกราะไรเดอร์อยู่อีกนั่นก็คือ – เกราะหนาม!

[เกราะหนาม เมื่อใดที่ท่านได้รับความเสียหายทางกายภาพท่าจะสะท้อนความเสียหายกลับไปยังผู้โจมตี5หน่วยและทำให้เป้าหมายติดพิษ – ความเร็วในการโจมตีของศัตรูจะลดลง20% เป็นเวลา5วินาที]

สกิลนี้ทำให้ผู้บังคับบัญชาค้างคาวโลหิตไม่ต่างอะไรไปจากถุงเลือด!

ความเสียหายยังคงเด้งขึ้นมาบนหัวของเจียงเฟยอย่างต่อเนื่อง -1 -1 -1 -1 -1...

กลับกันทางฝ่ายของผู้บังคับบัญชาค้างคาวโลหิตเองก็ -5 -5 -5 -5 -5 -5...

เมื่อการต่อสู้ลากยาวไปเรื่อยๆผู้บังคับบัญชาค้างคาวโลหิตก็ยิ่งสิ้นหวังเพราะยิ่งมันโจมตีมากเท่าไหร่พลังชีวิตของมันก็ยิ่งลดมากเท่านั้น!

ดวงตาของเจียงเฟยเบิกกว้างราวกับกระทะ กระทั่งว่าโดนลดความเร็วในการโจมตีลงไป20%แล้วแต่กงเล็บของมันก็ยังคงฟาดมาที่เขาห้าครั้งต่อวินาทีเช่นเดิม ลองจินตนาการดูสิว่ามันเร็วแค่ไหน!

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ 5นาทีต่อมาเจยีงเฟยก็เสียเลือดไปแล้วมากกว่า1,300ขณะที่ตัวบอสเสียเลือดไปแล้วกว่า6,000จากการโดนสะท้อนความเสียหายซึ่งทำให้พลังชีวิตของมันลดลงไปเกือบครึ่งนึงแล้ว!

มาถึงจุดนี้เจียงเฟยเริ่มรู้สึกรำคาญขึ้นมาบ้างแล้ว บอสตัวนี้บินวนไปวนมารอบๆตัวเขาราวกับแมลงวัน ความเร็วของมันมีมหาศาลขนาดที่ว่าเขาโจมตีมันไม่โดนเลยแม้แต่ครั้งเดียว การเคลื่อนไหวของมันเร็วจนถึงขนาดที่ว่ากระทั่งสกิลพื้นที่ระยะกว้างเช่นพายุเยือกแข็งก็ยังไม่อาจทำอะไรมันได้!

สกิลเดียวที่มีผลต่อผู้บังคับบัญชาค้างคาวโลหิตก็คือแบทเทิลคราย ยังไงก็ตามความเสียหายเพียง100นั้นแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีผลเลยก็ว่าได้เนื่องจากความสามารถหลักจริงๆของแบทเทิลครายคือการลดพลังโจมตีกายภาพของคนที่โดนเสียมากกว่า แต่ผู้บังคับบัญชาค้างคาวโลหิตตัวนี้ก็เป็นบอสที่มีพลังโจมตีน่าสังเวชอยู่แล้ว ตั้งแต่เริ่มมันไม่อาจเจาะการป้องกันของเจียงเฟยได้เลยดังนั้นลดพลังโจมตีไปก็ไม่มีความหมายอยู่ดี ความเสียหายจากการสะท้อนจึงเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยเขาได้!

เหี้ยไรวะเนี่ย! แบบนี้เมื่อไหร่จะจบ!” เจียงเฟยกล่าวด้วยความอับจน

 

 

รีวิวผู้อ่าน