“ตูม!”
-1,724! (ความเสียหายถูกดูดซับไป 1,296)
วอร์สตอมกระทืบเข้าใส่เกราะปราการของเจียงเฟย
เฮฟวี่แสลช!
-2,056!
ซันเดอร์!
-2,892!
การโจมตีต่อเนื่องสามครั้งของบอสกระหน่ำลงมาครั้งแล้วครั้งเล่าและกรั่งความมั่นใจของเจียงเฟยเองก็เริ่มสั่นคลอนขึ้นมาแล้ว
เขาเหลือบตามองดูพลังชีวิตที่เหลืออยู่ของตน
108
จากพลังชีวิต6,400เหลืออยู่เพียง108ราวกับเศษเกลือในมหาสมุทร เลือดเพียงกระจุกเดียวนี้ทำให้เขายังพอยืนอยู่ได้เพียงเท่านั้น
“เขายังรอด!” แฮปปี้ดั้งค์แทบไม่อยากจะเชื่อสายตา เมื่อเขาเห็นว่าเจียงเฟยไม่อาจเรียกโล่สีม่วงแดงออกมาได้ในครั้งนี้หัวใจของเขาก็จมลง ความสามารถอันทรงพลังแน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับระยะเวลาคูลดาวน์ที่นานไม่แพ้กัน เจียงเฟยอาจจะมีพลังป้องกันและพลังชีวิตมากกว่าตัวแทงค์ชั้นยอดของพวกเขาแต่พลังโจมตีของบอสมันบ้าบอจนเกินเหตุ!
“ฮีลเลอร์ฮีลเข้าไป!” ในเวลานี้ไม่จำเป็นต้องมีผู้ใดกล่าวเตือนพวกเขา ทีมฮีลเลอร์ต่างก็อัดสกิลของพวกตนอย่างบ้าคลั่งราวกับว่ากำลังจะเป็นบ้าในไม่ช้า เจียงเฟยรอดมาได้อีกครั้ง
เนื่องจากผลของวอร์สตอมเจียงเฟยจึงติดสถานะสตั้น ยังไงก็ตามบอสเองก็หมดก๊อกแล้ว นับว่าเป็นความพยายามเยี่ยงวีรบุรุษโดยแท้และเจียงเฟยก็เกือบจะทนไม่ไหวแล้วแต่ท้ายที่สุดก็ยังมาจนสุดทางอยู่ดี!
“หัวหน้าครับศัตรูบุก! มีคนเห็นบิลลี่บอยนำคนของเมจิทีฟมุ่งหน้ามา...”
เรื่องที่แฮปปี้ดั้งค์กลัวที่สุดเป็นจริงขึ้นมาแล้ว!
“เชี่ยเอ๊ย!”
คนอื่นโยนและสุภาพชนอย่างแฮปปี้ดั้งค์กลับเริ่มสบทออกมาด้วยท่าทีไม่น่ามองนัก กิลของเขาต้องมีสปายอยู่แน่นอน! ไม่งั้นไม่มีทางที่ข่าวเรื่องนี้จะกระจายออกไปได้เร็วแบบนี้หรอก กิลใหญ่ทั้งสามกิลแน่นอนว่าไม่ได้มาที่นี่เพื่อช่วยเขาอย่างแน่นอน ยิ่งกว่าสิ่งใดเลยก็คือบิลลี่บอยเองก็มาด้วยและสิ่งที่เจ้าคนบ้านั่นต้องการก็ไม่ใช่อะไรเลยนอกเสียจากเลือดจากซากศพของศัตรู
“ยื้อพวกมันเอาไว้ อย่าให้คนจากสามกิลหลักเข้ามาได้ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ฉันต้องการเวลาอีกแค่สองนาทีเท่านั้น!” เนื่องจากบอสใกล้จะตายแล้วแฮปปี้ดั้งค์จึงตัดสินใจยอมเสี่ยง
เขาไม่ทราบว่าเจียงเฟยทราบเกี่ยวกับบอสตัวนี้มากขนาดไหนแต่ข้อมูลก่อนหน้าที่เคยได้จากเจียงเฟยล้วนเป็นข้อมูลที่แน่นปึ้ก ถ้ามีโอกาสได้ป้ายคำสั่งอาณาเขตนี้มาเขาก็อยากจะลองเสี่ยงดู เขากระทั่งไม่ลังเลที่จะฟาดฟันกับกิลใหญ่อีก3กิลที่เหลือด้วยซ้ำ แต่ถ้าบอสตัวนี้ไม่ดร็อปมันออกมาความพยายามทั้งหมดของเขาก็จะสูญเปล่า
แฮปปี้ดั้งค์ต้องเลือกแล้วว่าจะลุยหรือถอย
“รับทราบ!” สมาชิกของเขาล้วนศรัทธาในตัวเขาเต็มพิกัด พวกเขายินยอมทำตามคำสั่งทุกคำสั่งโดยไม่แม้แต่จะคิด
“เหล่าอสูร...จะทำให้พวกแก...ต้องชดใช้...” ภายในเวลาเพียงหนึ่งนาทีต่อมาในที่สุดบอสก็ตายลง
“ติ๊ง! ท่านสังหารบอสระดับลีดเดรอ์อูเลบา ดิ คิลมองเกอร์ ได้รับค่าประสบการณ์125,000หน่วย!”
“ท่านสังหารหัวหน้าโจรให้กับจักรวรรดิ ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 2,000 หน่วย!”
“น้องไกร์เดอร์เก็บของเลย!” เนื่องจากเจียงเฟยอยู่ใกล้บอสที่สุดแฮปปี้ดั้งค์จึงยกเลิกข้อจำกัดการเก็บไอเทมของสมาชิกในปาร์ตี้ เขามีสิ่งอื่นที่ใหญ่กว่าจำเป็นต้องกังวล กิลหลักทั้งสามเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เขาตัดสินใจเชื่อมั่นในข้อตกลงที่เจียงเฟยกล่าวอย่างไม่ลืมหูลืมตา ตราบใดที่เขาได้ป้ายคำสั่งอาณาเขตมาทุกๆสิ่งก็ดีหมดนั่นแหละ
“ทราบแล้ว!” เจียงเฟยเก็บของจากร่างบอสอย่างรวดเร็ว
แสงสีทองส่องประกายออกมา สิ่งของระดับตำนานปรากฏขึ้นมาภายในมือของเจียงเฟย – มันก็คือป้ายคำสั่งอาณาเขต!
“เร็วเข้า! เอาป้ายคำสั่งอาณาเขตออกไปจากที่นี่ซะ! ที่เหลือเดี๋ยวฉันจัดการเอง!” เจียงเฟยโยนป้ายคำสั่งอาณาเขตให้กับแฮปปี้ดั้งค์ที่กำลังวิ่งเข้ามา
“ตกลง!” แฮปปี้ดั้งค์ทราบดีว่าตนเองต้องยอมวางมือจากไอเทมอื่นๆที่เหลือ เขาไม่มีเวลากระทั่งจะมาดีใจด้วยซ้ำที่ได้ป้ายคำสั่งอาณาเขตมา เขาฉีกคัมภีร์กลับเมืองออกอย่างรวดเร็วในเวลาเดียวกันกับที่กิลใหญ่ทั้งสามมาถึงพื้นที่จุดนี้
เมื่อแสงสีขาวนำพาแฮปปี้ดั้งค์จากไปแล้วเจียงเฟยก็ยัดไอเทมที่เหลือใส่กระเป๋าจนหมด พอเขาเงยหน้าขึ้นมาฉากที่ทำให้ความคิดผู้คนปลิดปลิวก็รอคอยเขาอยู่!
ผู้เล่นนับหมื่นเข้าห้ำหั่นกัน ภาพเหตุการณ์เช่นนี้เป็นอะไรที่เจียงเฟยไม่เคยมีโอกาสได้เห็นมาก่อนแม้ว่าจะเล่นมาแล้วหลายต่อหลายเกมก็ตาม ตัวเขาอาจจะโด่งดังอยู่นิดๆแต่ก็ในหมู่ของผู้เล่นโซโล่เท่านั้น ผู้เล่นโซโล่เช่นเขาไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งระดับชาติระหว่างกิลใหญ่ๆอยู่แล้ว พวกเขาจะเลือกหลบไปยังจุดปลอดภัยและสนใจแต่ธุระส่วนตนเสียมากกว่า
นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เจียงเฟยได้เห็นการต่อสู้ในระดับนี้แล้วยังมาอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างการต่อสู้อีกด้วย ผู้ที่น่าจับตามองที่สุดในสนามรบตอนนี้ก็คือคู่รักกิ่งทองใบหยกอย่างเลดี้คาสโนว่าและบิลลี่บอย!
ตัวเลดี้คาสโนว่าที่สูงกว่าสองเมตรแต่กลับเหวี่ยงกระบองที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเธอเสียอีก เลเวลของเธอเองก็สูงมาก อุปกรณ์เองก็ทรงพลังและฮีลเลอร์ที่ตามหลังมาคอยสนับสนุนเองก็มีไม่น้อย เธอเหวี่ยงกระบองไปเรื่อยๆโดยไม่สนโลกดูราวกับเครื่องบดเนื้อที่วิ่งผ่านทะลุกลุ่มคนก็ไม่ปาน
บิลลี่บอยไม่ได้เป็นนักสู้ที่ทรงพลังมานักเมื่อเผชิญหน้าเพียงลำพัง ความแข็งแกร่งของเขามาจากสติปัญญาและแผนการ จะดีจะร้ายยังไงเจียงเฟยก็เห็นชัดเจนเลยว่าเขาเป็นผู้นำกองกำลังขนาดยักษ์เข้าตะลุมบอน การเคลื่อนไหวของพวกเขาถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี โดยจะสับทุกอย่างที่เห็นให้สิ้น นี่ไม่ใช่การต่อสู้แล้วนี่มันการฆ่าล้างฝ่ายเดียวชัดๆ!
เทียบกับคู่รักกิ่งทองใบหยกแล้วภูติแสยะยิ้มและดาบครามแห่งทิศใต้แทบจะกลายเป็นคนธรรมดาไปเลย ยิ่งดูก็ยิ่งคิดว่าพวกเขาเป็นเพียงกองหนุนให้เมจิทีฟเท่านั้น น่าเศร้ายิ่งนักที่คงไม่หลงเหลือสิ่งใดให้พวกเขาเก็บ
สิบนาทีต่อมาก็ไม่เหลือร่องรอยของกิลดิ เอรีสโตแคสอีก พวกเขาทั้งหมดถูกฆ่าล้างไปจนสิ้น โชคดีที่คนระดับสูงๆของกิลทั้งสามสั่งคนของพวกตนเอาไว้ก่อนว่าให้ละเว้นเจียงเฟยไม่งั้นเขาคงโดนเหยียบจนแบนไปแล้ว
เจียงเฟยรู้สถานะของตนเองดี ไม่ว่าเขาจะทรงพลังเพียงใดแต่ก็ไม่อาจต้านทานผู้เล่นจำนวนมหาศาลได้ในคราเดียวอยู่ดีไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงการความฝันของลูกผู้ชายที่จะได้สู้กับศัตรูแบบร้อยต่อหนึ่งเลย ที่เขายังรอดอยู่ได้ก็เพราะอีกฝ่ายอนุญาตแท้ๆ!
เหล่าหัวหน้าของกิลใหญ่ทั้งสามเองก็มีความคิดเป็นของตน อย่างแรกเลยคือเจียงเฟยใช้ประโยชน์จากป้ายคำสั่งอาณาเขตไม่ได้อยู่แล้วดังนั้นเขาจึงไม่ใช่คนที่ถือมันเอาไว้แน่นอน ดังนั้นถ้าพวกเขาฆ่าเจียงเฟยไปพวกเขาก็จะได้เพียงแค่ของจากบอสเพียงนิดหน่อยเท่านั้น ยังไงก็ตามการฆ่าเจียงเฟยไม่ต่างอะไรกับการที่กิลใหญ่ทั้งสามส่งช่างตีเหล็กที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเมืองดอร์นไลท์ไปยังหน้าประตูของกิลดิ เอรีสโตแคสเลย!
ความเป็นกลางของเขาในตอนนี้นี่แหละคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้แตะเจียงเฟย สปายของกิลดิ เอรีสโตแคสซึ่งแอบอยู่ในสามกิลใหญ่วางแผนจะเข้าโจมตีเจียงเฟยเพื่อป้ายความผิดให้กับกิลใหญ่ทั้งสามแต่ก็ถูกจับได้เสียก่อนและถูกสังหารลงจนหมด พายุร้ายพัดผ่านเจียงเฟยไปโดยที่ไม่ได้แตะสัมผัสเส้นผมของเขาแม้เพียงเส้น