px

เรื่อง : The Almighty Ring
Chapter 75 : คำขอจากราชินีประจำชั้นเรียน


 

เทียบกับการลงดันกับสาวๆในภาคีอัศวินโรเซ็ตแล้วนักเลงพวกนี้กวาดผ่านดันเจี้ยนได้เร็วกว่าเยอะ!

แรกเริ่มเลยคือเจียงเฟยหาอุปกรณ์สวมใส่มาเปลี่ยนให้กับจ้าวเฟิงเพื่อยกระดับขึ้นมาอีกขั้น หลังจากนั้นเขาก็พาเพื่อตุ้ยนุ้ยของเขากับพวกนักเลงเก็บเลเวลจน20 ยังไงก็ตามเนื่องจากเจียงเฟยเลเวล22แล้วเขาจึงได้ค่าประสบการณ์จากดันเจี้ยนระดับอีลิทเพียงน้อยนิด!

ติ๊ง! ดิ เอรีสโตแคสได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการและกลายเป็นกิลแรกที่ได้ครอบครองอาณาเขตภายในเมืองดอร์นไลท์!”

ติ๊ง! พิกัดที่ใช้ในการสร้างป้อมปราการของดิ เอรีสโตแคสได้รับการยอมรับแล้ว การสร้างจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า จากนี้อีก30วันผู้เล่นคนอื่นๆไม่อาจเข้าโจมตีผู้เล่นของดิ เอรีสโตแคสได้!”

เมื่อพวกเขาเดินออกมาจากดันเจี้ยนเจียงเฟยและคนอื่นๆก็ได้รับคำประกาศจากระบบพร้อมๆกัน

โฮ่ๆ แฮปปี้ดั้งค์ไม่ยอมให้เวลาเสียเปล่าเลยนะ!” เจียงเฟยหัวเราะ แม้ว่าแฮปปี้ดั้งค์จะเพิ่งได้ป้ายคำสั่งอาณาเขตไปเมื่อวานแต่แค่นั้นก็ยังไม่พอใช้สร้างอาณาเขตภายในเมืองอยู่ดีเพราะยังจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายอีกมากถึง50,000เหรียญทอง!

เป็นการปล้นกันกลางวันแสกๆเลยก็ว่าได้ กระทั่งเจ้าสัวอย่างแฮปปี้ดั้งค์เองก็คงไม่มีความสุขในเรื่องนี้แน่ ยังไงเสียเกมก็เพิ่งเปิดมาได้ไม่กี่วัน ในเวลานี้ผู้เล่นยังใช้ค่าเงินหลักๆเป็นเหรียญเงินกันอยู่เลย เกมนี้กำลังทำให้ทุกๆคนกลายเป็นคนขี้เหนียวอย่างช้าๆแต่เรื่องนี้ก็โทษพวกเขาไม่ได้เนื่องจากทุกๆเหรียญมาจากหยาดโลหิต หยาดเหงื่อและหยาดน้ำตาของพวกเขา!

แม้ว่าแฮปปี้ดั้งค์จะเป็นเจ้าสัวคนหนึ่งแต่เงินในโลกแห่งความเป็นจริงก็ใช่ว่าอยากแลกเข้ามาเป็นเงินเกมก็แลกได้เลย แม้ว่าเขาจะเอาเงินจริงเข้ามาทุ่มสุดท้ายก็เป็นหนทางที่หนักหน่วงไม่น้อยอยู่ดี ท้ายที่สุดสมาชิกทุกคนของดิ เอรีสโตแคสก็จำเป็นต้องลงขันกัน สมาชิกบางคนก็มอบให้30เหรียญเงินบ้าง บางคนก็ให้20เหรียญเงินบ้าง โชคดีสุดยอดกิลเหล่านี้ต่างก็เป็นกิลขนาดใหญ่กันทั้งนั้น การเจียดเงินเจียดสมบัติอาจจะตัดไม่ได้แต่ถ้าแค่ตัวเลขตัดได้แน่นอน!

สมาชิกระดับหัวกระทิของดิ เอรีสโตแคสต่างก็มีตำแหน่งหน้าที่ดีๆกันทั้งนั้น ยังไงเสียพวกเขาก็เซ็นสัญญาเป็นพนักงานอย่างถูกกฏหมายไปแล้ว แฮปปี้ดั้งค์จะรับหน้าที่ในการจ่ายเงินเดือนให้กับพวกเขา พวกเขาจึงสนับสนุนกิลได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจใดๆ ยังคงเป็นปริศนาเล็กๆว่าทำไมคนระดับต่ำๆของกิลถึงเต็มใจช่วยเหลือแต่ไม่ต้องสืบเสาะมากก็ทราบ — ไอ้บิลลี่บอยนี่แหละเหตุผลหลัก

เมื่อวานบิลลี่บอยใช้เวลาทั้งวันในการออกล่าคนของดิ เอรีสโตแคสพร้อมกันกับกิลใหญ่อีก2กิลที่เหลือทั้ง — อโคเซียสแซนจัวรี่และออมนิซอร์ด หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น เขาส่งปาร์ตี้ออกไปหลายๆปาร์ตี้เพื่อเก็บผู้เล่นของดิ เอรีสโตแคสรอบๆ ท้ายที่สุดกระทั่งสมาชิกที่มั่นใจในตัวเองที่สุดของกิลดิ เอรีสโตแคสก็ไม่กล้าที่จะออกจากเมืองด้วยซ้ำ พวกเขาถูกบีบจนกลายเป็นผู้ลี้ภัยที่อยู่ได้เพียงแต่ในเมือง ทำได้เพียงพึ่งพาความช่วยเหลือจากทหารNPC

เวลาเพียงวันเดียวทำให้เลเวลเฉลี่ยของคนในกิลดิ เอรีสโตแคสลดลงไปถึง1.7เลเวล — สมาชิกของเขาถูกสังหารไปรวมแล้วกว่า50,000ครั้ง อุปกรณ์สวมใส่ดร็อปเกือบหมดจนพวกเขาแทบจะแก้ผ้าเดินกันอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะป้ายสร้างเมืองที่มอบความหวังไร้ที่สิ้นสุดให้กับคนเหล่านี้พวกเขาอาจจะออกจากกิลดิ เอรีสโตแคสไปแล้วก็เป็นได้

ในที่สุดดิ เอรีสโตแคสก็จำเป็นต้องใช้ตัวเลือกสุดท้ายคือการรวมเงินกันเพื่อเร่งการสร้างเมืองของพวกตน เมื่อมาถึงตรงนี้ในที่สุดพวกเขาก็ผ่อนคลายได้เสียที!

ตราบใดที่พวกเขาไม่เป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีคนจากกิลอื่นๆก่อนพวกเขาก็จะไร้เทียมทานและพวกเขาก็จะไม่ถูกบีบให้เข้าสู่โหมดสังหารผู้เล่นโดยผู้เล่นคนอื่นๆอีกด้วย ท้ายที่สุดพวกเขาก็สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง!

ขณะที่แฮปปี้ดั้งค์โล่งใจฝ่ายที่เริ่มกังวลกลับเป็นกิลอื่นที่เหลืออีกสามกิลแทน ไม่มีผู้ใดคิดเลยว่าจะมีระบบป้องกันเช่นนี้คอยคุ้มครองผู้เล่นด้วย ตอนนี้แผนการปิดตายดิ เอรีสโตแคสก็เป็นอันล่มไป พวกเขาในตอนนี้เหลืออยู่เพียงสองทางเลือกเท่านั้น หนึ่งคือหาป้ายสร้างเมืองของตัวเองมาให้ได้ สองคือจับมือกันเพื่อคอยต้านกระแสของดิ เอรีสโตแคส!

ฮะๆๆๆ...น้องไกร์เดอร์ขอโทษด้วยนะเมื่อวานฉันยุ่งไปหน่อยเลยยังไม่มีเวลาได้ขอบคุณนายเลย...

ไม่นานนักข้อความเสียงจากแฮปปี้ดั้งค์ก็ถูกส่งมา เสียงของเขาดังก้องราวกับว่ากำลังอยู่ในห้องอาบน้ำก็ไม่ปาน

พวกเราทั้งคู่ต่างก็ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการทั้งนั้น.... เจียงเฟยยิ้ม เขาไม่ต้องเดาก็ทราบว่าแฮปปี้ดั้งค์ทักมาเพื่อชักชวนเขาเข้าร่วม

ดิ เอรีสโตแคสรอดจากตาพายุมาได้แล้ว กระทั่งแฮปปี้ดั้งค์เองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันแต่หลังจากนี้พายุเหตุการณ์คงสงบไปอีกซักพัก เขามีเวลาอยู่อย่างสงบๆอีกหนึ่งเดือนเต็มๆและเวลาเท่านี้ก็มากพอจะใช้เพื่อทำให้ตำแหน่งของกิลพวกเขามั่นคง ดิ เอรีสโตแคสมั่นใจมากว่าพวกตนจะกลายเป็นกลุ่มอิทธิพลที่ทรงพลังที่สุดในเมืองดอร์นไลท์อย่างแน่นอน เขาจึงคิดจะใช้สถานะนี้ในการชักชวนช่างตีเหล็กสาธารณะผู้นี้มาเป็นของตน

น้องไกร์เดอร์นายคิดว่าไง? ดิ เอรีสโตแคสถูกกำหนดให้ครอบครองทุกอย่างแน่นอนแล้ว อยากจะเข้าร่วมทีมแห่งชัยชนะบ้างไหม? แฮปปี้ดั้งค์คิดจะผูกมิตรอย่างชัดเจน

ฮะๆ ผมบอกได้เลยว่าคุณคงพูดแบบนั้นได้เต็มปากแต่ผมสนใจในการสร้างอุปกรณ์มากกว่าดังนั้นช่วยลืมมันไปเถอะ... เจียงเฟยส่ายหัว  เจ้าหมอนี่มันล้อเล่นรึไง? ถ้าเขาเข้าร่วมกิลจริงๆเขายังจะมีอิสระอยู่ไหมล่ะ? เจียงเฟยไม่คิดจะหวดค้อนอยู่ในเมืองตลอดทั้งวันหรอกนะ!

ฮะๆ น้องไกร์เดอร์นายไม่จำเป็นต้องให้คำตอบตอนนี้ก็ได้แค่เก็บไปคิดซักหน่อยก็พอ ประตูของดิ เอรีสโตแคสพร้อมเปิดต้อนรับนายเสมอ!” แฮปปี้ดั้งค์เองก็ไม่ร้อนใจ

เดี๋ยวพวกเราค่อยว่ากัน... เจียงเฟยไม่คิดจะต่อล้อต่อเถียงอีก หลังจากคุยกันอีกไม่กี่คำเจียงเฟยก็เลิกคุยกับแฮปปี้ดั้งค์

พี่สงหาที่เหมาะๆสำหรับเก็บเลเวลแล้วพาพวกนี้ไปเก็บไป...

หลังจากวางสายจากแฮปปี้ดั้งค์แล้วเจียงเฟยก็หันมาพูดกับพี่สง

ทราบแล้วนายน้อย! ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกเรา วันนี้ยังไม่มีพวกเราคนไหนเสียเลเวลเลย!” พี่สงทุบหน้าอกตัวเองยืนยัน

พี่เฟย แม่ราชินีประจำชั้นเรียนถามฉันว่านายเล่นเกมนี้ด้วยไหมจะให้ฉันตอบว่ายังไงดี?

ซุนเหมิงเหมิงอ่ะนะ? เธอก็เล่นดอร์นเบรคด้วย? เจียงเฟยถาม

ใช่แล้ว! คนจากห้องเราเพียบเลยล่ะที่เล่น!” จ้าวเฟิงตอบ แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นเพราะว่าดอร์นเบรกไม่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันของพวกเขา ถ้าเกมออกมาประกาศว่าตัวเกมจะไม่รบกวนการนอนหลับของผู้เล่นถ้างั้นคนอย่างพ่อหัวโบราณของเจียงเฟยและพ่อแม่อีกหลายๆครอบครัวคงเต็มใจให้ลูกเข้ามาเล่นเกม

เอาเถอะบอกเธอไปเลย!” เจียงเฟยยักไหล่ เขาไม่มีความจำเป็นต้องซ่อนเรื่องเล่นเกมเอาไว้อีกต่อไป

 “ติ๊ง! คิวตี้พายต้องการเพิ่มท่านเป็นเพื่อน ท่านจะยอมรับหรือไม่?

ไม่นานหลังจากนั้นเจียงเฟยก็ได้รับคำร้องขอเป็นเพื่อน

ยอมรับ... ขณะที่เจียงเฟยรับคำขอนี้ตาข้างหนึ่งของเขาก็กระตุกไปด้วย ราชินีประจำห้องเรียนของเขาช่างบ้าบิ่นไม่น้อยเลยจริงๆ ตัวเธอไม่มีความน่ารักและมีแต่ความดุร้ายทั้งนั้นแต่กลับกล้าใช้ชื่อในเกมแบบนี้ บางทีเขาควรจะส่งคำร้องไปทางฝ่ายบริการลูกค้าและรายงานเกี่ยวกับเรื่องฉ้อฉลนี้ของเธอดีรึเปล่านะ!

เฮ้ นายคือเจียงเฟยรึเปล่า? น้ำเสียงแจ่มใสของซุนเหมิงเหมิงดังมาตามสาย

มีอะไรให้ช่วยไม่ทราบคุณตัวแทนประจำชั้นเรียนผู้ทรงอำนาจ? เจียงเฟยถาม

ฉันได้ยินมาว่านายเล่นเกมเก่งนี่จริงหรือเปล่า? ซุนเหมิงเหมิงถาม

ก็พอใช้ได้ เจียงเฟยพยักหน้ารับ

ถ้างั้นมาช่วยพวกเราเคลียอันโนนดันเจี้ยน(ดันเจี้ยนลึกลับ)หน่อย!” ซุนเหมิงเหมิง สั่ง

เลเวลเท่าไหร่? จำกัดจำนวนปาร์ตี้กี่คน?

เลเวล15! จำกัดสิบคน!”

เฮือก... เจียงเฟยสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ แม้จะเป็นเพียงอันโนนดันเจี้ยนเลเวล15แต่จำนวนคนที่จำกัดมากถึง10คนนี่แหละที่ฟังดูเป็นปัญหา เพราะนี่อาจจะหมายความว่ามันโหดหินยิ่งกว่าดันเจี้ยนระดับวีรบุรุษในระดับเดียวกันเสียอีก! (อันโนนดันเจี้ยนจะโหดกว่าดันเจี้ยนทั่วไป)

มาเจอแล้วก็คุยกันก่อน ฉันอยากจะเห็นองค์ประกอบในปาร์ตี้ของเธอก่อน ถ้ามันโอเคเราก็ออกเดินทางได้เลย!” เจียงเฟยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดขึ้นมา เขาไม่ต้องการให้สัญญาใดๆในตอนนี้ อันโนนดันเจี้ยนไม่เหมือนดันเจี้ยนทั่วๆไป ถ้าเขาตายขึ้นมาเขาก็จะเสียเลเวลไปเต็มหนึ่งเลเวล

ได้เลย! พวกเราอยู่ที่ประตูตะวันออกของเมืองดอร์นไลท์ นายมาได้เลย!” ซุนเหมิงเหมิงตอบ

เจ้าอ้วนไปดูกันว่ารอบๆตัวราชินีประจำชั้นเรียนของเราในเกมเป็นยังไงบ้าง!” พอเจียงเฟยขานเรียกจ้าวเฟิงเขาก็พร้อมจะออกเดินทางแล้ว

ฉันก็อยากไปด้วย!” มิสซิสออซัมหยุดทุกสิ่งที่กำลังทำอยู่ในพริบตา เธอต้องการจะไปด้วยกันกับเจียงเฟย

  

 

 

รีวิวผู้อ่าน