“อย่างแรกเลย ถ้าสูตรการตีเหล็กหรือสูตรการสร้างเครื่องประดับดร็อปฉันจะขอเก็บเอาไป” เจียงเฟยกล่าวอีกครั้ง
“แล้วทำไมพวกเราต้องยอมวะ?” Azure Roc Prince คือคนแรกที่แย้งขึ้นมา ทุกๆคนทราบดีว่าสูตรการสร้างเหล่านั้นมีค่าขนาดไหน — กระทั่งมากกว่าอุปกรณ์สวมใส่ด้วยซ้ำ!
“ข้อหัวตี้ให้ผมด้วย ทุกๆคนต้องทำตามที่ผมสั่ง ถ้ามีคนไหนไม่ทำตามและเอาแต่วุ่นวายไปทั่วผมคงต้องเชิญออก!” เจียงเฟยเมินAzure Roc Prince และกล่าวต่อ
“เจียงเฟย...” ซุนเหมิงเหมิงดึงแขนเจียงเฟย เธอรู้สึกว่าคำขอของอีกฝ่ายดูจะมากเกินไป
“ถ้าเธอตกลงผมก็เอาด้วยแต่ถ้าไม่เดี๋ยวผมไปก็ได้!” เจียงเฟยกล่าวออกมาอย่างหนักแน่น บุคลิกของเขาเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว เขามักจะระบุข้อกำหนดเอาไว้ให้ชัดเจนและเข้มงวดตั้งแต่แรก หลังจากนั้นเขาก็จะเปลี่ยนเป็นสุภาพเรียบร้อย เขาชอบที่จะคุยให้ชัดเจนไปก่อนเพื่อไม่ให้เกิดข้อขัดแย้งขึ้นภายหลัง
“เหมิงเหมิง มิสซัคคิวบัสขายข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งดันเจี้ยนให้กับกิลอโคเซียส แซนจัวรี่แล้ว...” ทันใดนั้นหนึ่งในสมาชิกปาร์ตี้ก็พูดขึ้นมา
“อะไรนะ?!” ทุกๆคนพลันตื่นตระหนกขึ้นมา ไม่มีพวกเขาคนใดคิดเลยว่ามิสซัคคิวบัสที่ออกจากปาร์ตี้ไปอย่างไม่ยินดีจะใจดำถึงขั้นขายพวกเขาให้กับกิลใหญ่ แต่เดิมแล้วซุนเหมิงเหมิงคิดจะให้ไอเทมบางอย่างกับมิสซัคคิวบัสในกรณีที่พวกเขาเคลียดันเจี้ยนได้จริงๆ เธอไม่คิดเลยว่ามิสซัคคิวบัสจะมุทะลุขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้วางแผนจะเล่นกับคนในปาร์ตี้เล็กๆอย่างพวกเธออีกต่อไป!
“แล้วเอายังไงดีตอนนี้?” ซุนเหมิงเหมิงหันไปถามสมาชิกในปาร์ตี้
“ลุยไปเถอะยังไงก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย!” เมื่อตัดสินใจกันได้แล้ว เจียงเฟยจึงเป็นตัวเลือกเดียวที่เหลือ ถ้าพวกเขายังลังเลกันอีกก็คงไม่จำเป็นต้องตัดสินใจใดๆกันอีกต่อไป
“เอาล่ะ ฉันจะปล่อยครั้งนี้ผ่านไป แต่ถ้านายทำตัวมุทะลุแบบนี้อีกฉันจะไม่ปล่อยไปง่ายๆแน่!” ซุนเหมิงเหมิงโบกหมัดไปมาด้านหน้าเจียงเฟย
“ฮะๆ...” เจียงเฟยยิ้มเจื่อนออกมา ในความคิดของเขาคิดขึ้นว่า ‘ถ้าเธอไม่ใช่เพื่อนร่วมชั้นเรียนของฉันฉันคงไม่มาอยู่แล้ว เข้าใจ๋?’
ไม่นานนักซุนเหมิงเหมิงก็เพิ่มเจียงเฟยและจ้าวเฟิงเข้าตี้ จากนั้นเธอก็ส่งสิทธิความเป็นหัวหน้าตี้ให้กับเจยงเฟย
“พระเจ้า พลังชีวิตมากกว่า7,000? ล้อกันเล่นรึเปล่าเนี่ย?” สมาชิกในปาร์ตี้ของซุนเหมิงเหมิงต่างก็อยู่ไม่สุขกันขึ้นมา กระทั่งว่าเอาพลังชีวิตของคนในปาร์ตี้ของพวกเขาสามคนที่มากที่สุดมารวมกันก็ยังเทียบเจียงเฟยไม่ได้!
“โคตรโปร! เหมิงเหมิงเธอไปหาผู้เล่นระดับเทพแบบนี้มาจากไหนกัน?” พวกเขาเริ่มมองมาที่เจียงเฟยด้วยความชื่นชม
“เอาล่ะ! ขอให้ทำตามกฎนี้ด้วย ทุกๆคนต้องมั่นใจว่าเหลือเรดโพชั่นระดับกลางอยู่กับตัวเกินกว่าสองขวดเสมอ ฮีลเลอร์จำเป็นต้องมีบลูโพชั่นระดับต่ำอย่างน้อยกองนึง!” หลังจากเจียงเฟยได้รับสิทธิในการเป็นหัวหน้าปาร์ตี้มาแล้วเขาก็เมินเสียงนกเสียงกาและเริ่มกล่าวออกมา
“อะไรนะ พวกเราต้องซื้อโพชั่นด้วย?”
สีหน้าของหลายๆคนจมลง ยังไงเสียโพชั่นพวกนี้ก็ไม่ได้ถูกเลย เรดโพชั่นระดับกลางขวดหนึ่งก็มีราคาแพงกว่า30เหรียญเงินแล้วและสองขวดก็แทบจะเรียกได้ว่าต้องใช้เงินของพวกเขาเกือบครึ่งเลยทีเดียว!
แม้ว่าบลูโพชั่นจะถูกลงมาแต่บลูโพชั่นกองหนึ่งก็มีราคาอยู่เกือบๆ1เหรียญทองแล้ว อัศวินทั้งสองคนคงล้มละลายแน่นอน!
“ดูของสวมใส่ของพวกคุณบ้างเถอะ อันโนนดันเจี้ยนเทียบได้กับดันเจี้ยนระดับวีรบุรุษในเลเวลเดียวกันเลยนะ — บางทีอาจจะโหดกว่าด้วย ด้วยสภาพของพวกคุณตอนนี้อย่างมากก็ทำได้เพียงลุยดันเจี้ยนระดับปกติเท่านั้น กระทั่งดันเตี้ยนระดับอีลิทพวกคุณก็ยังเคลียไม่ได้ด้วยซ้ำแต่คิดจะลงอันโนนดันเจี้ยนโดยไม่เอายาไปด้วยเนี่ยนะ พวกคุณคิดจะฆ่าตัวตายรึไง?” เจียงเฟยพูดขึ้นด้วยความโมโห
“เหมิงเหมิงหรือพวกเราจะไม่ไปดี?”
หนึ่งในอัศวินกล่าวขึ้นอย่างไม่เต็มใจนัก เขาไม่พร้อมจริงๆที่จะสละเงินในกระเป๋าที่มีอยู่เพียงน้อยนิด...
“ถ้าปอดแหกก็ออกไปเถอะ! ผมเรียกคนมาแทนได้ตลอดเวลา!” เจียงเฟยแค่นเสียง ถ้าคนพวกนี้ไม่ไปจะดีมากเลย พาแค่ซุนเหมิงเหมิงไปเพื่อนำทางเขาไปยังดันเจี้ยนคนเดียวก็มากพอแล้วส่วนที่เหลือเดี๋ยวเขาเรียกพวกพี่สงและผองเพื่อนหรือสาวๆในภาคีอัศวินมาก็ได้ ไม่ว่าจะเรียกใครมาก็ทรงพลังกว่าคนพวกนี้ทั้งนั้น!
“จริงด้วย พวกเราอ่อนแอเกินไปสำหรับดันเจี้ยนนี้ เหมิงเหมิงฉันคิดว่าพวกเราขอผ่านดีกว่า...”
แต่เดิมแล้วพวกเขาคิดถึงกันแต่เพียงสมบัติล้ำค่าที่จะได้จากดันเจี้ยนเท่านั้นแต่ในตอนนี้เจียงเฟยดึงพวกเขากลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้ว
ก่อนหน้านี้ตัวแทงค์ของพวกเขาก็ล่วงราวกับกองขี้ คำว่าปาร์ตี้ของพวกเขาอ่อนแอเกินไปไม่เคยปรากฏในสมองของพวกเขาเลยแต่เจียงเฟยก็แสดงให้เห็นแล้ว พวกเขาไม่เหมาะกระทั่งจะลุยดันเจี้ยนระดับอีลิทด้วยซ้ำและดันเจี้ยนแห่งนี้เองก็โหดหินยิ่งกว่าดันเจี้ยนระดับวีรบุรุษเสียอีก — นี่ไม่เท่ากับการฆ่าตัวตายหรอกหรือ?
“เอาล่ะก็ได้ ถ้าได้อะไรดีๆมาฉันจะมาแบ่งให้พวกนายแล้วกัน...” หัวใจของซุนเหมิงเหมิงจมลงเนื่องจากสมาชิกปาร์ตี้ของเธอขอถอนตัวออกไปคนแล้วคนเล่า
“ทำไมต้องแบ่งให้ด้วย? พวกนายควรเอาอย่างมิสซัคคิวบัสบ้างนะ ขายพิกัดของอันโนนดันเจี้ยนให้กิลใหญ่กิลอื่นๆไง นั่นน่าจะมากพอแล้ว!” เจียงเฟยหัวเราะ
“แบบนั้นควรแล้วหรอ?”
แม้ว่าพวกเขาจะเข้าอันโนนดันเจี้ยนด้วยไม่ได้แต่ก็ยังเล่นเกมด้วยกันได้ คนเหล่านี้ต้องเลือกแล้วระหว่างมิตรภาพกับความเห็นแก่ตัว
“พวกคุณพกจริยธรรมาเข้ามาในเกมด้วยรึไง? ยังไงซะขายไปก็ไม่ได้ทำให้ฉันลำบากอยู่แล้ว! สบายใจได้ขายพวกมันไปได้เลย เงินที่ได้มาก็เก็บไปเลยไม่มีปัญหา!” เจียงเฟยยืนยันอย่างหนักแน่น
เจียงเฟยไม่ได้สนใจเรื่องที่มิสซัคคิวบัสขายพวกเขาเลย ยังไงเสียกิลใหญ่ทั้งสี่ก็ยังไม่อาจเคลียดันเจี้ยนระดับอีลิทได้ด้วยซ้ำ ดังนั้นต่อให้รู้ตำแหน่งที่ตั้งลับนี้ไปอย่างมากก็คงทำได้เพียงส่งคนเข้าไปตรวจสอบพื้นที่เท่านั้น ผู้เล่นระดับหัวกระทิไม่มีทางลงมาเสี่ยงกับการเสียเลเวลอย่างแน่นอน ดังนั้นเชิญมารวมกันหน้าดันเจี้ยนตามสบาย ยังไงก็ไม่มีใครแย่งดันเจี้ยนนี้ไปจากเจียงเฟยได้ในเร็วๆนี้อยู่แล้ว!
“ถูกแล้ว ทำตามที่พวกนายต้องการเถอะ...” ซุนเหมิงเหมิงเองก็พยักหน้ารับ
“ตกลง ถ้างั้นพวกเราขอตัวนะ!” เมื่อทุกๆคนได้ยินดังนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันไปหาผู้ซื้อทันที ยังไงเสียเรื่องนี้ก็อาจจะกวาดเงินได้ไม่น้อยเลย ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อนของพวกเขายังอนุญาติแล้วด้วย
“ไง! แล้วนายล่ะไม่ไปหรอ?” เจียงเฟยหันหลังกลับไปและพบว่า Azure Roc Prince ผู้นั้นไม่ได้จากไปกับคนอื่นๆ เขายังคงอยู่ในปาร์ตี้เหมือนเดิม
“ทำไมต้องไป? ฉันจะอยู่! แล้วยังไง? หรือนายจะเตะฉันออกจากตี้โดยไม่มีเหตุผล?” Azure Roc Prince มองไปที่ซุนเหมิงเหมิงแล้วพูดขึ้น
เขาไม่อยากจะออก ตัวเขาในตอนนี้ไปเหยียบขาของสาวสวยอย่างมิสซัคคิวบัสเข้าแล้วดังนั้นตัวเลือกเดียวที่เหลือให้ตามจีบจึงมีเพียงซุนเหมิงเหมิงผู้น่ารัก การปรากฏตัวของเจียงเฟยทำให้เขาเขาหวานอมขมกลืนไม่น้อยดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะยอมให้เจียงเฟยเล่นเกมกับซุนเหมิงเหมิงสองต่อสองเป็นแน่
ยิ่งไปกว่านั้น Azure Roc Prince ยังทราบด้วยว่าเจียงเฟยผู้นั้นคงมีปัญหากับซุนเหมิงเหมิงแน่ถ้ามันมาหาเรื่องเขาแบบไร้เหตุผลแล้วพอจบวันเขาค่อยเอาตำแหน่งของอันโนนดันเจี้ยนไปขายก็ได้ — นี่คือสถานการณ์ที่มีแต่ได้กับได้ชัดๆ!
“อยากทำอะไรก็ทำเถอะ...”
เจียงเฟยเบ้ปาก ไม่มีความจำเป็นต้องไปเถียงกับไอ้งั่งแบบนี้อยู่แล้ว
องค์ประกอบของปาร์ตี้ในตอนนี้เป็นไปดังนี้ — เจียงเฟยเป็นตัวแทงค์ จ้าวเฟิงเป็นดาเมจสนับสนุน ซุนเหมิงเหมิงที่มีอาชีพแบทดิทกับนักล่าอีกคนที่ไร้ประโยชน์ไม่ต่างไปจากกระดาษชำระ เจียงเฟยตัดสินใจแล้วว่าเขาต้องมีฮีลเลอร์อีกสองคน แทงค์รองอีกคนหนึ่งและหน่วยโจมตีระยะไกลอีกสามคน
เขาเริ่มกวาดตาดูรายชื่อของนักเลงทั้งหลายแต่ก็หยุดอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นชื่อของสาวบ้าอย่างมิสออซัม ขนทั่วตัวของเขาตั้งชันขึ้นมาและรีบเปลี่ยนไปไล่ดูรายชื่อของคนในภาคีอัศวินโรเซ็ตแทน
“หัวหน้ากิลส่งคนมาช่วยผมเคลียอันโนนดันเจี้ยนหน่อย!” เจียงเฟยส่งข้อความไปหาโรเซ็ตโรส
“อยากได้อาชีพอะไรบ้างล่ะ?” โรเซ็ตโรสตอบกลับมาแทบจะในทันที
“ฮีลเลอร์สอง แทงค์รองหนึ่ง สายโจมตีระยะไกลอีกสาม!” เจียงเฟยพูด
“ไม่มีปัญหา! นายอยู่ไหน?” น้ำเสียงของโรเซ็ตโรสดูจะกระตือรือร้นมากยิ่งขึ้นไปอีก
“ประตูตะวันออก!” เจียงเฟยส่งพิกัดให้กับอีกฝ่าย
“เดี๋ยวเจอกัน!” โรเซ็ตโรสตัดสายไปทันทีราวกับว่าเธอเริ่มออกตัววิ่งมาแล้ว