“จริงหรอ? ถ้างั้นก็เยี่ยมไปเลย!”
เฉินไค่หยินปิติอย่างเหลือล้น ตัวเขาไม่ใช่นักธุรกิจ ไม่ต้องกล่าวถึงผลประโยชน์เพราะสิ่งเดียวที่เขาต้องการมีเพียงการป้องกันมิให้ต้องมีชีวิตสูญเสียไปอย่างเปล่าประโยชน์ไปมากกว่านี้!
“ผมคงเอายามาให้ไม่ได้ในวันสองวัน อาจจะต้องใช้เป็นซักเดือนหรืออาจจะสองเดือน!” เจียงเฟยพูดหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง แม้ว่ายาเพิ่มเลือดขนาดเล็กจะไม่ได้แพงมากนักแต่อย่าได้ลืมว่าเขาต้องหาให้กองทหารทั้งกรม กองทหารไม่ใช่มีขนาดเล็กเสียเมื่อไหร่ เกมเพิ่งเปิดมาได้ไม่นานดังนั้นจึงเป็นการยากที่เขาจะหาเงินได้หลายๆแสนเหรียญทองแต่ในเวลาไม่กี่เดือนถัดจากนี้เขาคงได้เงินจากการขายอุปกรณ์มามากพอจะซื้อโพชั่นได้ตามต้องการแน่นอน
“ไม่มีปัญหาเลย! ฮ่าๆ...ในฐานะของตัวแทนประเทศและตัวแทนของเด็กๆเหล่านั้นลุงต้องขอขอบใจเธอจริงๆ...” เฉินไค่หยินหัวเราะ แม้ว่าเวลาหนึ่งเดือนในเกมอาจจะดูค่อนข้างยุติธรรมแล้วแต่ในชีวิตจริงเป็นเพียงเวลาเสี้ยวพริบตาเท่านั้น กระทั่งยาแก้หวัดยังจำเป็นต้องใช้เวลาในการรวบรวมดังนั้นไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงยาปาฏิหาริย์เช่นนี้เลย!
“แค่กๆ!...” แม้ว่าเฉินไค่หยินจะถูกนำกลับมาจากหน้าประตูแห่งความตายโดยโพชั่นของเจียงเฟยแล้วแต่เขาก็สภาพร่างกายของเขาก็ยังเปราะบางและอ่อนแออยู่ดี การพูดคุยอย่างออกรสบวกกับการหัวเราะสุดเสียงด้วยความดีใจทำให้แผลของเขาเปิดอีกครั้ง ชายชราสำลอกโลหิตออกมามหาศาล
“อะไรกัน? ลุงเฉินช่วยกลืนมันลงไปช้าๆนะครับ...” เจียงเฟยรีบหยิบเอาโพชั่นเพิ่มเลือดออกมาจากแหวนมิติและส่งมันให้เฉินไค่หยินดื่มทันที
“เฮ้อ...” พร้อมกับเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ดังตามมาสีหน้าของเฉินไค่หยินก็กลับมาเต็มไปด้วยเลือดฟาดอีกครั้ง
“นี่นับว่าเป็นยาแห่งปาฏิหาริย์โดยแท้...ก่อนหน้านี้ที่ดื่มมันลุงยังอยู่ในอาการโคม่าจึงไม่มีโอกาสได้เห็นผลของมันด้วยตาตนเองแต่มาตอนนี้นับได้ว่าต่างออกไปโดยสิ้นเชิง! ฮ่าๆถ้าเหล่าทหารได้ยาเช่นนี้ไปอยู่ในมือต่อให้ฉันต้องตายก็ไม่เสียดายแล้ว นับว่าคุ้มจริงๆ!”
“อาเฟยอย่าได้กังเวลไปเพราะประเทศเราจะไม่รับของมาโดยไม่มีการมอบสิ่งใดตอบแทน พวกเราจะคุยกันเรื่องค่าตอบแทนในภายหลัง!” ในเวลานั้นเองฮั่นเทียนอวี่ก็แทรกขึ้นมา กลุ่มธุรกิจของครอบครัวเขาเองก็หยั่งรากลึกลงไปในกรมทหารเช่นกัน
“ถูกแล้ว! เสี่ยวเฟยลุงลืมเรื่องนี้ไปเลย แม้ว่าลุงจะไม่รู้ว่ายานี่คืออะไรแต่มันก็ต้องไม่ถูกอย่างแน่นอนแม้ว่ารอยแผลจากกระสุนจะไม่หายไปในชั่วข้ามคืนก็ตาม เธอสบายใจได้พวกเราจะไม่ทำให้เธอต้องเสียเปรียบอย่างแน่นอน!” เฉินไค่หยินเองก็หัวเราะและกล่าวออกมาเช่นกัน
“ลุงเฉินพูดเกินไปแล้วครับ คุณและคนของคุณต่อสู้โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อปกป้องประเทศแต่กลับไม่มีผู้ใดสามารถตอบแทนพวกคุณได้เลย การที่ผมมอบยาเหล่านี้ให้ฟรีๆนับว่าเป็นเรื่องเหมาะสมแล้ว!”
เจียงเฟยส่ายหัว
“เอาล่ะ! อาเฟย ร่างกายของลุงเฉินยังอ่อนแออยู่มากดังนั้นเขาจำเป็นต้องพักผ่อนให้เยอะ พวกเราไปคุยกันข้างนอกเถอะ!”
หลังจากฮั่นเทียนอวี่และเจียงเฟยบอกลาเฉินไค่หยินแล้วพวกเขาก็เดินออกจากห้องพักผู้ป่วยไป
เมื่อพวกเขากลับมายังห้องพักผ่อนเอรอนก็จัดการตรวจสอบดูว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติบนร่างกายของเขา หลังจากนั้นฮั่นเทียนอวี่จึงหันมาหาเจียงเฟย ตัวเขาไม่เคยแสดงสีหน้าเคร่งขรึมและดุดันแบบนี้มาก่อนเลย
“ฉันคุยเรื่องนี้กับลุงเฉินไว้แล้วแต่ไม่ว่านายจะมอบวิธีการทำหรือตัวยาให้พวกเราเลยพวกมันก็จำเป็นต้องผ่านมือฉันก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นพวกฉันก็จะส่งมันให้กับกองทหารเอาไปในฐานะของยาที่ถูกวิจัยและพัฒนาขึ้นมาจนสำเร็จโดยกลุ่มธุรกิจแมนต้า! ฉันสามารถจ่ายให้นายได้อย่างงามในเรื่องนี้แต่นายจะไม่ได้รับชื่อเสียงใดๆ! น้องชายนายเข้าใจความหมายของมันรึเปล่า?”
“พี่ใหญ่อวี่อย่ามาทำตัวเป็นคนเลวไปหน่อยเลย ผมต้องขอบคุณพี่มากกว่า!” เจียงเฟยพยักหน้ารับ ถ้าเขาสมองกลัวคงคิดไปว่าฮั่นเทียนอวี่ต้องการใช้โอกาสนี้ขโมยเครดิตของเขาอย่างแน่นอนแต่เจียงเฟยทราบดีว่าฮั่นเทียนอวี่ทำเช่นนี้เพื่อปกป้องเขา
เจียงเฟยรู้สถานภาพตนเองดี การเป็นคนเพียงคนเดียวที่สามารถหายาแห่งปาฏิหาริย์เช่นนี้ได้จะชักนำปัญหาเข้ามาแน่นอน บริษัทมากมายทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมายจะพากันเข้าหาเขา แน่นอนว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มาดีแน่นอน
บางคนอาจจะกระทั่งจับตัวเขาไปเพื่อรีดความลับของเขา ถ้าถึงตอนนั้นแม้แต่แหวนลึกลับก็คงช่วยเขาไม่ได้
เห็นได้ชัดว่าฮั่นเทียนอวี่คาดการณ์เอาไว้หมดแล้ว เฉินไค่หยินเองก็รู้สึกขอบคุณเจียงเฟยอย่างมากที่ยอมเสี่ยงให้ความลับตนเปิดเผยเพื่อช่วยเขา พวกเขาจึงจำเป็นต้องวางแผนดันเจียงเฟยให้อยู่ห่างจากปัญหา แลบวิจัยและพัฒนาของกลุ่มธุรกิจแมนต้าจะเป็นผู้ส่งยานี้ให้กับทางการทหาร นั่นคือข้ออ้างที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นกลุ่มธุรกิจแมนต้ายังทรงพลังเอามากๆอีกด้วย แทบจะเรียกได้ว่าพวกเขาสามารถครองประเทศได้เลยก็ว่าได้ต่างจากเจียงเฟยที่เป็นเพียงเด็กนักเรียนคนหนึ่งเท่านั้น แม้ว่าประเทศจะไม่ได้บังคับเอามันจากเขาแต่สปายชาวต่างชาติคงไม่ปล่อยเขาไว้แน่ เขาคงจะถูกรีดความลับออกมาในเวลาเพียงไม่กี่นาที!
“ฮะๆ พี่ใหญ่อวี่เอาแบบนี้แล้วกัน เดิมทีแล้วผมไม่อยากจะพูดถึงเรื่องเงินแต่ถ้ามันทำให้พี่รู้สึกดีขึ้นตอนนี้ผมคิดว่าผมต้องการเงินแล้ว!”
เจียงเฟยไม่ใช่คนโลภแน่นอนแต่แหวนของเขามันต้องกินเพรชเป็นจำนวนมากเพื่ออัพเลเวลเพียงเลเวลเดียว ตอนนี้ในเมื่อมีโอกาสให้รางวัลกับมันเจียงเฟยจึงไม่คิดจะปล่อยผ่าน!
“เวร! ไอ้น้องคนนี้ไม่มีเงินใช้ทำไมไม่บอกพี่!” ฮั่นเทียนอวี่กรอกตา เงินคือสิ่งเดียวที่เขาใช้ได้แบบไร้ขอบเขต
“ฮี่ๆ ผมไม่เคยคุยเรื่องเงินกับคนอื่นตรงๆอยู่แล้ว สองสิ่งนี้มันแตกต่างกันสุดขั้วเลยนะ!”
เจียงเฟยยังคังตั้งมั่นในหลักการของตน
“เอาเถอะ! ถ้างั้นมาคุยเรื่องเงินกัน”
ฮั่นเทียนอวี่หัวเราะ
“ได้เลยครับ!”
เจียงเฟยพยักหน้ารับ การที่มีรัฐบาลเป็นลูกค้าขาประจำทำให้เขาสบายใจเพราะถ้าเขายื่นมือไปขอเงินกับฮั่นเทียนอวี่ตรงๆจะไม่กลายเป็นว่าฮั่นเทียนอวี่ให้เงินเขาเพราะเขาช่วยลุงเฉินเอาไว้หรอกหรือ?
“ฉันจะบอกนายให้ชัดเจนก่อนเลยแล้วกัน กรมทหารจะซื้อยาจากกลุ่มธุรกิจแมนต้าในราคาหนึ่งพันดอลล่าล์ต่อขวด แน่นอนว่าถ้าตัวเลขนี้ไม่ตรงตามที่นายต้องการกลุ่มธุรกิจแมนต้าก็จะโปะส่วนที่เหลือเอง!” ฮั่นเทียนอวี่กล่าว
กรมทหารแน่นอนว่ามีงบจำกัดแต่คำพูดของฮั่นเทียนอวี่เองก็มีความหมายชัดเจนราวกับแก้วคริสตัล กลุ่มธุรกิจแมนต้าจะขายขายโพชั่นให้กับกรมทหารในรคานี้ ถ้าเจียงเฟยต้องการมากกว่านี้กลุ่มธุรกิจแมนต้าก็จะโปะส่วนที่ขาดให้! คำพูดของเขาแสดงออกชัดเจนว่าผลประโยชน์คือสิ่งสุดท้ายที่อยู่ในสมองของพวกเขา!
“ขวดละพันดอลล่าล์?” เจียงเฟยถามเสียงสูง อัตราการแลกเปลี่ยนเหรียญทองในตลาดมืดอยู่ที่สิบต่อหนึ่งเท่านั้น กระทั่งยาเพิ่มเลือดขนาดกลางเองก็มีราคาแพงกว่า30เหรียญเงินขึ้นมานิดหน่อยเท่านั้นซึ่งราคานี้เทียบได้กับเงินเพียงสามดอลล่าล์ เพียงแค่เปลี่ยนมือโพชั่นเหล่านี้กลับราคาดีดขึ้นไปถึงหนึ่งพันดอลล่าล์ไปซะแล้ว โลกใบนี้บ้าไปแล้วจริงๆ
แน่นนอนว่าการคำนวณของเจียงเฟยค่อนข้างตกหล่นไปบ้าง จริงอยู่ว่าโพชั่นชนิดนี้มีราคาเพียงสามดอลล่าล์ภายในเกมเท่านั้นแต่ภายในเกมยังมีอาชีพนักบวชอยู่อีกและการตายภายในเกมเองก็เสียเพียงเลเวลตัวละครเท่านั้น แต่ในชีวิตจริงทุกๆสิ่งจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิง โพชั่นนี้จะสามารถใช้เพื่อช่วยชีวิตได้มากมาย! ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าเสียโฉม มะเร็ง หรืออะไรก็ตามความเป็นไปได้ล้วนมีไม่สิ้นสุด!
การซื้อชีวิตในราคาเพียงหนึ่งพันดอลล่าล์ไม่ว่าจะมองยังไงก็คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฮั่นเทียนอวี่ถึงยอมให้กลุ่มธุรกิจแมนต้าโปะราคาที่เหลือถ้าหากทางกรมทหารมีไม่พอจ่าย
“อะไรหรอ? ไม่พองั้นหรอ? ถ้างั้นก็ไม่เป็นไรนายบอกราคามาได้เลยเดี๋ยวพี่โปะที่เหลือให้เอง!” ฮั่นเทียนอวี่ถาม
“ไม่ครับนี่ก็นับว่ามากมายสำหรับผมแล้ว — มันทำให้ผมรู้สึกผิดนิดหน่อยก็เท่านั้น...” เจียงเฟยกล่าวความจริงออกมา
“อ๋อ! ไม่เป็นไรหรอก ถ้างั้นก็เอาราคาตามนี้แหละ!”
ฮั่นเทียนอวี่หัวเราะ