[หมวกเกราะแห่งปณิธาน (หมวกเกราะ , ชั้นเยี่ยม)]
[พลังป้องกัน + 70]
[พลังป้องกันเวทย์ + 40]
[VIT + 8]
[ค่าความต้านทานเวทย์ + 15]
[เมื่อสวมใส่ : ได้รับสกิล – ปณิธานดุจเหล็กกล้า – ยกเลิกสถานะผิดปกติจำพวกCCเช่น สถานะหวาดกลัว , หลงเสน่ห์ , ควบคุมจิตใจและอื่นๆ! – ระยะเวลาคูลดาวน์ :3นาที!]
“ฮี่ๆ หมวกนี่ไม่เลวเลย!” เจียงเฟยแสยะยิ้มเล็กน้อย มันเป็นเพียงไอเทมระดับชั้นเยี่ยมขั้นสูงแต่เขากลับพอใจไม่น้อย ยังไงเสียนี่ก็ถือเป็นของขวัญฟรีๆชิ้นหนึ่ง ถ้าเขาเลือกทำเควสจนเสร็จแบบปกติรางวัลเช่นนี้คงไม่ปรากฏ!
“เอาล่ะถ้างั้นผมคงต้องขอไปก่อนแล้ว เดี๋ยวอีกไม่นานผมจะเอาวัตถุดิบอย่างอื่นกลับมาให้!” เจียงเฟยยิ้มและโบกมือบ๊ายบาย
“อย่าได้เร่งร้อนไปนักเวเดอร์ไกร์เดอร์ ข้ารู้ดีว่าวัตถุดิบเหล่านี้หาได้ไม่ง่ายนักดังนั้นข้าจะเขียนจดหมายให้แก่เจ้า เจ้าจงนำจดหมายนี้ไปหาผู้ที่มีนามว่าเอเนียลเทรสซ่าเถิดแล้วเขาจะช่วยเจ้าเอง!” คำกล่าวถัดมาของเจ้าหญิงอิซซาเบลล่าทำให้เจียงเฟยหยุดชะงัก
“ติ๊ง! เจ้าหญิงอิซซาเบลล่ามอบเควสลับให้กับท่าน – ตามหาคนช่วย! ท่านจะยอมรับเควสหรือไม่?”
“เควสลับ? รับ!” เจียงเฟยพยักหน้ารับทันที เควสลับใน ‘ดอร์นเบรค’ ไม่เคยมีเควสไหนธรรมดาและมักจะมาพร้อมกับค่าประสบการณ์มหาศาลและรางวัลตอบแทนยอดเยี่ยมเสมอๆ มีเพียงคนโง่เท่านั้นที่จะหันหน้าหนีไม่รับเควส
“เอาไปซะ!” เจ้าหญิงอิซซาเบลล่าส่งจดหมายให้เจียงเฟย
“ติ๊ง! เควสมีการอัพเดท!”
[ชื่อเควส – ตามหาคนช่วยเหลือ]
[เป้าหมายเควส – ตามหาเอเนียลเทรสซ่าตามพิกัดดังนี้ XXX,XXX และมอบจดหมายของเจ้าหญิงให้แก่เขา]
[รางวัลเควส : ค่าประสบการณ์ 10,000 หน่วย , เงิน 50 เหรียญเงิน]
“ชิๆ...” เจียงเฟยเบ้ปากเล็กน้อย รางวัลพวกนี้น้อยเกินไปจริงๆ ยังไงซะเขาก็จำเป็นต้องใช้ค่าประสบการณ์อีกนับล้านเพื่อเลเวลอัพขณะเดียวกันเงินเพียงห้าสิบเหรียญเงินเองก็เป็นเพียงจำนวนน่าสมเพชเท่านั้น กลับกันเควสนี้สุดท้ายแล้วก็เป็นเพียงแค่การส่งจดหมายเท่านั้น น่าจะเรียกว่าโดนใช้ไปทำธุระมากกว่าจะเป็นเควสด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นไปได้มากยิ่งว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของเควสต่อเนื่อง
แท้จริงแล้วเป็นเจียงเฟยที่หวังไว้มากเกินไป เมื่อใดก็ตามที่ผู้เล่นคนอื่นเคลียเควสได้พวกเขามักจะได้รางวัลแป็นเงินเพียงหนึ่งถึงสองเหรียญเงินเท่านั้น ค่าประสบการณ์10,000แต้มกับการที่ต้องไปส่งจดหมายเพียงเท่านี้นับว่าน่าเหลือเชื่อแล้ว!
‘ฮึ! ไปเร็วเข้าสิเจ้าหนู! เมื่อใดที่จดหมายนี้ถูกส่งถึงมือผู้อาวุโสของข้ามาดูกันว่าเมื่อนั้นเจ้าจะยังขู่ข้าต่อไปได้อีกหรือไม่!’
เมื่ออิซซาเบลล่าเห็นว่าเจียงเฟยยอมรับเควส มุมปากของเธอก็ขดขึ้นเป็นรอยยิ้มดูถูกสายหนึ่ง
ยังไงเสียเจียงเฟยก็เหยียบหางเธอเข้าเต็มเปาและอิซซาเบลล่าก็ไม่ใช่คนที่จะยอมถูกกระทำฝ่ายเดียวเสียเมื่อไหร่ ถ้าเธอสู้เจียงเฟยไม่ได้ถ้างั้นเพียงแค่หาคนช่วยก้พอ เธอยังต้องพึ่งเจียงเฟยให้อีกฝ่ายหาวัตถุดิบสำหรับคืนชีพให้ตนอยู่แต่อย่างน้อยที่สุดคนช่วยก็ต้องสามารถจับตามองเขาได้ด้วย
“ตกลง งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวเลยแล้วกัน!”
เจียงเฟยหมุนตัวโดยที่ยังไม่สืบทราบอันใดเลย เขาเป็นนักเล่นเกมมือฉมังก็จริงอยู่แต่ไม่เคยเจอNPCวางแผนตลบหลังใส่โดยที่ไม่มีวี่แววใดๆแบบนี้มาก่อน
นักผจญภัยที่ดีใจกับการเก็บเกี่ยวในครั้งนี้เดินจากไปอย่างอารมณ์ดี ส่วนเจ้าหญิงอิซซาเบลล่าก็หันตัวและเดินเข้าไปหาซากร่างของตัวเอง – พร้อมด้วยเห็ดหลินจือโลหิตในมือ
“วิ้ว....”
พร้อกับคลื่นพลังจิตวิญญาณสายหนึ่งเห็ดหลินจือโลหิตทั้งห้าต้นก็ละลายกลายเป็นลูกแก้วสีดำแดงดั่งโลหิต!
“แหมะ…แหมะ...”
โลหิตหยดลงบนโรงคริสตัล โลหิตส่องแสงสีแดงออกมาและซึมเข้าสู่ซากศพที่นอนอยู่ภายใน
ใบหน้าของเจ้าหญิงดูจะเปล่งปลั่งและมีชีวิตชีวายิ่งกว่าคราแรก ยังไงเสียก็ดูดีกว่าเมื่อก่อนไม่น้อย ดวงตาของเธอกระพริบไหวตลอดเวลา
“ยินดีด้วยที่ร่างกายของพระองค์ฟื้นฟูแล้ว!” ผู้บัญชาการค้างคาวโลหิตวิลเลี่ยมกล่าวขึ้น
“อืม! ข้าเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่านักผจญภัยผู้นี้จะมีความสามารถเพียงนี้ เขากลับนำเอาเห็ดหลินจือโลหิตมาได้โดยใช้เวลาไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น!” อิซซาเบลล่ายิ้มออกมาอย่างอ่อนแรง
“จริงเช่นพระองค์ทรงกล่าว! เรื่องที่เวเดอร์ไกร์เดอร์ผู้นี้มีความสามารถเป็นเรื่องจริงไม่ผิดแน่นอนแต่เขากลับละโมบโลภมากเกินไปและไม่มีความเคารพในตัวผู้อื่นเลย!”
ถ้าเจียงเฟยได้ยินเขาคงเสียใจกับการกระทำของตนเองอย่างแน่นอน เขาเล่นเกมมาแล้วก็หลายเกมและทราบขีดจำกัดของNPCมาไม่น้อย เขาไม่คิดเลยว่าNPCในเกมนี้จะมีความคิดเป็นของตนจริงๆ พวกเขาในตอนนี้ชัดเจนแล้วว่ามีแค้นฝังลึกกับเจียงเฟย!
“ความโลภไม่ใช่ปัญหาหรอก ยิ่งเขาโลภมากเท่าใดก็ยิ่งง่ายต่อการควบคุมมากเท่านั้น! แต่ความไร้มารยาทของเขานี่แหละที่ทำให้ข้าอยากจะกระชากรอยยิ้มบนใบหน้านั่นให้เป็นจุลย์ยิ่งนัก!”
อิซซาเบลล่าพยักหน้ารับคำ เธอตัดสินใจแล้วว่าเมื่อใดที่ผู้อาวุโสของเธอมาเธอจะมอบบทเรียนราคาแพงให้กับเจียงเฟยอย่างแน่นอน เจ้าหญิงผู้ทรงอำนาจเช่นเธอจะต้องไม่ – ไม่มีวันถูกขู่เข็ญเช่นนี้!
...
เจียงเฟยไม่ได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลยและยังคงมุ่งหน้านำจดหมายไปส่งให้เอเนียลเทรซ่าดังเดิม เขาไม่ได้ทราบเลยว่า ‘คนช่วยเหลือ’ ที่เจ้าหญิงกล่าวแท้จริงแล้วกลับเป็น ‘หัวหน้างาน’ คอยคุมงานเสียมากกว่า!
“ทางเข้าสู่ความว่างเปล่า? ที่ไหนกันล่ะนี่?” เจียงเฟยพึมพำกับตัวเองเมื่อมาถึงสถานที่ที่พิกัดกำหนดเอาไว้
หลังจากเดินมากว่าหนึ่งชั่วโมงเจียงเฟยก็เริ่มผิดหวังขึ้นมา เป้าหมายของเขายังไม่มีวี่แววว่าจะปรากฏเลย
“แมร่งเอ๊ย! เอเนียลเทรสซ่าคนนี้มันเป็นฤาษีอสูรรึไงวะ?” เจียงเฟยโอดครวญ
มอนสเตอร์ในบริเวณรอบๆมีเลเวลมากกว่า40ทั้งสิ้นและจนถึงตอนนี้เจียงเฟยก็ยังไม่ถึงเป้าหมายเสียที
“โชคดีที่พวกมันไม่เข้ามาขวางเราไม่งั้นเราคงผ่านพวกมันไม่ได้แน่!”
เจียงเฟยขมวดคิ้ว
มอนสเตอร์เลเวล40ทั่วๆไปคงไม่อาจฆ่าเขาได้แต่ด้วยระยะห่างของระดับเลเวลทำให้เขาเองก็ไม่อาจโจมตีพวกมันได้เช่นกัน แม้ว่าเขาจะอยากเก็บค่าประสบการณ์ที่นี่ไม่น้อยแต่ก็ทำได้เพียงแค่ฝันไปเท่านั้น
เจียงเฟยเดินมาแล้วกว่าสามชั่วโมงและตอนนี้ก็มองเลเวลของมอนสเตอร์รอบๆไม่ออกแล้ว แหวนลึกลับที่เพียงบอกต่อเขาเพียงว่ามอนสเตอร์เหล่านี้มีเลเวลมากกว่า60เท่านั้น
“ติ๊ง! ท่านค้นพบทางเข้าสู่ความว่างเปล่า! ได้รับค่าประสบการณ์ 1,250 แต้ม!”
หลังจากผ่านการโหลดแม็พใหม่ในที่สุดเจียงเฟยก็มาถึงเป้าหมายเสียที!
“เวร! ถ้ารู้ว่าต้องเดินมาไกลขนาดนี้ฉันจะไม่มาแน่นอน!” เจียงเฟยเริ่มเสียใจแล้วที่รับเควสนี้มาเพราะเขาต้องเดินทางมากว่าสามชั่วโมงเต็ม ถ้าเขารู้ก่อนว่าจะเป็นแบบนี้เจียงเฟยจะไม่รับเควสนี้ในเลเวลเท่านี้แน่นอน เควสนี้ไม่มีการจำกัดระยะเวลาดังนั้นเจียงเฟยสามารถรอจนกว่าจะเลเวล30แล้วค่อนมาทำก็ยังได้ เมื่อถึงตอนนั้นอะไรๆคงดีกว่านี้เยอะ!
“ช่างมันเถอะ! ในเมื่อมาแล้วก็ส่งๆให้มันจบๆไป!”
เจียงเฟยมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายต่อ
เจียงเฟยมุ่งหน้าต่อด้วยความระมัดระวัง เขาไม่กล้าออกห่างจากถนนเส้นหลักมากนักเพราะรอบๆนี้มีมอนสเตอร์เลเวล60ถึง70อยู่กันยั้วเยี้ยไปหมด ถ้าเขาดึงดูดความสนใจของพวกมันมาเจียงเฟยคงตกอยู่ในปัญหาเข้าจริงๆ
พิกัดที่เควสนำมานำเจียงเฟยมายังข้างๆทะเลสาบเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่แห่งนี้มีบ้านไม้หลังหนึ่งตั้งอยู่ ใกล้เคียงนี้ไร้ซึ่งมนุษย์และปราศจากมอนสเตอร์
“ก๊อกๆๆ....”
“มีใครอยู่ไหมครับ?” เจียงเฟยเคาะประตู
“แอ๊ด...” ประตูไม่ได้ล็อค – เรียกว่าไม่มีกลอนจะดีกว่า ลูกบิดประตูนั่นเพียงแค่ดันประตูก็เปิดแล้ว
เจียงเฟยเดินเข้าไปภายในอย่างระมัดระวัง เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านดูเรียบง่ายเป็นอย่างยิ่ง มีเตียงหลังหนึ่ง โต๊ะตัวหนึ่งและเก้าอี้อีกตัวหนึ่ง บนโต๊ะมีตะเกียงน้ำมันและหนังหนาเล่มหนาเล่มหนึ่งวางเอาไว้ นอกจากนี้ก็ไม่มีสิ่งใดแล้ว – แม้แต่สิ่งมีชีวิต
“มีใครอยู่ไหมครับ?” เจียงเฟยถามขึ้นพร้อมๆกับเดินเข้ามาภายในกระท่อมไม้
กระท่อมแห่งนี้มีขนาดค่อนข้างเล็ก กระทั่งผ่านหน้าประตูมาแล้วเขาก็สามารถมองเห็นห้องทั้งห้องได้ทันที เมื่อเดินผ่านประตูเข้ามาเขาก็ไม่พบอย่างอื่นอีกแต่อย่างใด
“คนที่ให้เรามาเจออยู่ไหนล่ะเนี่ย? ลูกศรกำกับเควสชี้ไปด้านหน้าแท้ๆ!” เจียงเฟยเริ่มสงสงัย เขาเดินมายังโต๊ะตัวที่อยู่ใกล้ๆและเปิดหนังสือเล่มหนาที่วางอยู่อย่างลวกๆ
“วางมันลง!” น้ำเสียงดุดันดังขึ้นมา