px

เรื่อง : Sword Among Us
Chapter 1: คนในกระจก


Chapter 1: คนในกระจก

ทัวร์นาเมนต์ของ The Sword Among Us ได้ถูกจัดตั้งขึ้นที่ภูเขาฮัวซาน!

 

ลูกศิษย์ของสำนักเส้าหลินต่างพร้อมใจกันยอมเสียสิทธิ์ในการเข้าแข่งขันที่ยอดเยี่ยมที่สุดรอบสิบหกคน เนื่องจากว่าเขาไม่ได้แสดงตัวขึ้นมา

 

เมื่อเป็นลูกศิษย์สำนักเส้าหลินลึกลับ เนื่องจากว่าเขาเป็นม้ามืดที่สุดในการแข่งขันของการแข่งขัน The Sword Among Us ในภูเขาฮัวซาน แต่เมื่อคนนับล้านคนมองมาที่เขาเพื่อที่จะดูว่าเกิดอะไรขึ้นนั้นเอง เขาก็ยอมสละสิทธิ์! ข่าวใหม่นี้จากเว็บบอร์ดทางการของโลกศิลปะการต่อสู้ทำให้ทุกคนตกตะลึง ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกม

 

วันต่อมา แฮปปี้ก็ถูกพบว่ากำลังทะเลาะเบาะแว้งกับใครบางคนอยู่ใต้ตีนภูเขาเฉาฉี (1) สุดท้ายแล้ว เขาก็ถูกฆ่าไปหลายต่อหลายครั้ง โดยผู้เฒ่าของสำนักห้าพิษที่ซึ่งแอบซุ่มไว้นานแล้ว

 

พลังของเขาก็ตกลงอย่างต่อเนื่อง...

 

สุดท้ายแล้ว แฮปปี้ที่ได้เข้าไปเป็นหนึ่งในสิบหกคนของการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะสู้กลับผู้เฒ่าพิษห้าคนพร้อมกันได้ ความหวังของเขาที่จะเข้าร่วมการแข่งก็ได้ถูกบดขยี้ลงไป เฉินไคซิ่นก็ก็ได้ลบตัวละครที่ชื่อ แฮปปี้ออกไปจากเกม ในวันนั้น เขาก็ได้ออกไปจากโลกแห่งศิลปะการต่อสู้

 

และสิ่งที่เขาไม่ได้คาดคิดเลยก็คือ เขาจะสามารถตื่นขึ้นมาจากความฝันอันเลวร้ายนี้ได้

 

เฉินไคซิ่นส่ายหัวอย่างรุนแรง ในขณะที่เขาก็ยืนมึนงงอยู่ในห้องสี่คนของหอ ดวงตาของเขาก็กวาดตามองลงไปบนปฏิทินบนโต๊ะของเขา – 2013 เขาก็อดที่จะเชื่อไม่ได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องจริง เขาก็จับไปที่หัว ซึ่งมันยังคงปวดอยู่ เขาก็เหมือนสติจะไม่อยู่กับตัว เรี่ยวแรงก็ไม่มีเหลือ เขาก็วิ่งไปยังห้องน้ำอย่างไม่รีรอ เพื่อที่จะได้รับรู้ถึงความจริง

 

เขาก็สับสนกับสิ่งที่เขาเห็น

 

ชายที่อยู่ในกระจกอ้าปากกว้าง การแสดงออกของเขาก็เต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อ

 

ชายในกระจกดูยังหนุ่มยังแน่นมาก

 

ชายคนนี้ก็มีหน้าตาที่เหมือนกันกับเฉินไคซิ่น เมื่อตอนที่เขายังเป็นเด็กมหาวิทยาลัย เขาก็ยังดูค่อนข้างหล่อและก็มีร่างกายที่ดูมีกล้ามอย่างพอดีด้วยเช่นกัน เขาก็สวมเสื้อยืดอดิดาสราคาถูกและกางเกง เขาก็ยังดูใสซื่ออย่างมากอีกด้วย.... ทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกย้อนกลับไปสามปี

 

แต่…’ เฉินไคซิ่นในกระจกก็จับไปที่คางที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคยของตัวเอง พร้อมกับความคิดที่ยุ่งเหยิงไปหมดมันเป็นไปได้ยังไง?!’

 

แม้ว่าเขาจะดูสับสน คนสามคนที่อยู่ข้างเขาก็ไม่ได้สนใจอะไร

 

สามคนนี้ก็คือเพื่อนร่วมห้องและเพื่อนที่ดีของเฉินไคซิ่น แม้แต่ตอนที่เฉินไคซิ่นตัดสินใจที่จะทำตัวเหลวแหลกและมัวแต่ดื่มเหล้า พวกเขาก็ยังคอยจับตาดูเขาไว้ พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะทำให้แฮปปี้ ตื่นขึ้นมาพบกับความจริงอันเลวร้าย

 

แฮปปี้ดูผิดปกตินะ

 

เด็กหนุ่มที่ดูสูงและผอมก็ดันแว่นของเขา เขาก็พูดออกมาเหมือนกับว่าเขาพึ่งจะค้นพบมัน แต่คนอีกสองคนที่เหลือกรอกตาใส่เขา

 

เหอะ

 

มันจะมีใครที่กินไวน์ขาวไปขวดหนึ่ง ไวน์แดงอีกครี่งขวด และกระป๋องเบียร์อีกหกกระป๋องจะปกติอีกวะ? ไอ้นี่มันกินเหล้าโคตรเก่งเลย….”

 

เฮ้ พวกเราไม่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องที่เขาดื่มได้เยอะแค่ไหน ใช่ไหม? ดูดิ การแสดงออกของแฮปปี้ดูแปลกออกไปนะ เขาก็ดูโกรธแค้นและผิดหวังอย่างมาก เขาแม้แต่ยิ้มใส่กระจกอย่างเย็นชา... พระเจ้า ไม่ใช่ว่าแฮปปี้กำลังคิดว่าจะฆ่าตัวตายใช่ไหมเนี่ย?

 

นายตาบอดหรือไง ห้ะ? ทำไมนายไม่ลองถอดแว่นตาออกดูละ มันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าแฮปปี้ยิ้มต่างหาก…”  เฉินฟ่านก็จ้องไปที่ไบ๋หลางที่สูงและมีผิวสีแทน เขาก็ไม่ยอมแพ้และจ้องกลับอย่างดุเดือด

 

เห้ย พวกนาย เลิกได้แล้ว พวกเรากำลังพูดเรื่องแฮปปี้อยู่นะ คนสุดท้ายในพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะรอให้พวกเขาจ้องตากันต่อไปได้

 

โรคจิต นายได้ยินเขาแล้วใช่ไหม เป็นกรรมการและบอกพวกเรามาว่าใครเป็นคนถูกกัน…”

 

นายเป็นคนที่กวนฉันก่อนนะ!”

 

อย่าเรียกฉันว่าโรคจิต ชื่อของฉันคือฉี่ซี่ ต่างหากเล่า ฉี่ซี่โต้กลับ

 

ไบ๋หลางก็พูดสิ่งที่อยู่ในหัวของเขาออกมาเอาเถอะ มันไม่สำคัญหรอกว่านายชื่ออะไร เรื่องที่สำคัญกว่าก็คือ...

 

ความโกรธของฉี่ซี่ก็ทะลุจุดเดือดทันที เขาก็แทบจะพ่นไฟออกมาเลยได้ด้วยซ้ำไป! “นายหมายความว่าไง ห้ะ? ไอ้ที่ว่ามันไม่สำคัญหน่ะ! นี่มันชื่อฉันเลยนะโว้ย ชื่อฉัน เข้าใจไหม?

 

เห้ย

 

เมื่อเขาเห็นคนบางคนแทบจะระเบิดออกมาด้วยความโกรธ เฉินไคซิ่นก็พบว่าเขาไม่สามารถที่จะทนให้พวกเขากัดกันได้อีกต่อไป

 

ถ้าพวกนายต้องการที่จะเถียงกันละก็ ไปทำข้างนอกสิ

 

เอาเถอะ! ชายที่อกหักเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในวันนี้อยู่ดี พวกเราจะเคารพกับการตัดสินใจของนายเอง

 

นิสัยการพูดไม่คิดของไบ๋หลางทำให้ฉี่ซี่และเฉินฟ่านรู้สึกอับอายแทน พวกเขาสองคนอยากที่จะเอาสบู่ไปยัดปากเขามาก แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากผลักเขาออกไป

 

ในเวลาเดียวกัน เฉินไคซิ่นที่ดูหัวโล่งไปหมด ก็พอจะเข้าใจได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นจากเพื่อนสนิทสามคน

 

ไบ๋หลางเป็นนักเรียนระดับท็อปของคณะวิศวะคอมพิวเตอร์ เขาใช้สายตาที่ย่ำแย่ของเขาในการตามหาแฟนสาว แต่ก็ไม่สามารถที่จะหาได้แม้แต่คนเดียว แม้ว่ามันจะผ่านไปสามปีก็ตาม เขาก็เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ พี่ชายขาวที่โดดเดี่ยว ที่ซึ่งอยู่ตัวคนเดียวเสมอๆ ตอนกลางวัน

 

เฉินฟ่านเป็นเพื่อนในคณะของไบ๋หลาง เขาก็ดูค่อนข้างดำและก็เป็นคนแปลกๆ ในคณะและในห้อง โชคร้ายที่เขาทำให้ผู้หญิงรู้สึกไม่ปลอดภัย ดังนั้นเขาจึงยังไม่มีแฟนด้วยเช่นกัน เขาก็ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม พี่ชายดำที่โดดเดี่ยว ซึ่งจะอยู่คนเดียวในตอนกลางคืน

 

คนสุดท้ายก็คือฉี่ซี่ ที่ถูกเรียกว่าโรคจิตโดยไบ๋หลางและเฉินฟ่าน...

 

เขาก็เป็นคนที่มีความรับผิดชอบ แต่ตั้งแต่ที่เขาเป็นคนเดียวในห้องที่มีแฟน เขาก็เลยเป็นคนที่โดนเนรเทศ และโดนข่ม หลังจากโดนล้อเล่นไป ชื่อเล่นอันทรงเกียรติของเขาก็คือชายที่สามารถแตกได้เจ็ดครั้งในคืนเพียงคืนเดียวเมื่อชื่อเล่นของเขาเป็นที่รู้จักกับทุกคน เขาก็กลายเป็น พี่ชายที่โดดเดี่ยวเจ็ดครั้งที่เหงาหงอยในยามเช้าและยามกลางคืน (และเป็นคนเดียวที่ไม่สมกับฉายา)

 

พวกเขาสามคนเป็นที่รู้จัก เมื่อเป็นสามหมาป่าอันเหงาหงอยแห่งคณะวิศวะคอม!

 

……

เมื่อเสียงประตูปิดดังขึ้น เฉินไคซิ่นก็จำได้ว่าเขาดูเหมือนจะดื่มไปเยอะ เมื่อคืนนี้ เขาก็ไม่ได้มีความทรงจำมากมายเท่าไหร่กับการดื่มเหล้าในมหาวิทยาลัย แต่แม้จะเป็นแบบนั้น มันก็มีครั้งหนึ่งที่เขาจดจำได้เป็นอย่างดี.... มันเป็นเพราะว่า เขาอับอายกับตัวเองมากที่สุดเลยในเวลานั้น

 

มันเป็นเพราะการบอกรักครั้งแรกของเขา

 

ในช่วงเทอมสอง ในยามค่ำคืนที่สว่างสไว แฮปปี้ก็ได้ไปพบกับผู้หญิงในฝันของเขาหน้าหอพัก มันเป็นผู้หญิงที่เขาตกหลุมรักมาได้สองปีแล้ว และก็เป็นคนที่รู้จักกันว่าเป็นผู้หญิงที่สวยและอ่อนโยนที่สุดในคณะ – ซูซิ่น

 

ซูซิ่นก็ยืนอยู่ด้านนอกตรงทางเดินคนเดียว และก็จ้องไปที่ด้านนอกที่สว่างสไวไปด้วย

 

ในเวลาเดียวกัน เฉินไคซิ่นก็เหมือนมีความกล้าขึ้นมา เขาก็เดินไปให้ร่มกับซูซิ่นอย่างบ้าบิ่น หลังจากนั้น เหตุการณ์หน้าอายก็เกิดขึ้น – ซูซิ่นก็ก้มลงหยิบร่มของเธอออกมาจากกระเป๋า แต่เธอก็ประหลาดใจ เธอก็เห็นเฉินไคซิ่นยื่นร่มให้เธออย่างใจกว้าง พร้อมกับใบหน้าที่แดงฉานของเขา

 

ในช่วงเวลาของเทอมสอง ฉากนี้เป็นฉากที่คลาสสิคมากที่สุดและเป็นเรื่องโจ๊กมากที่สุดในคณะ ด้วยเหตุนี้ เด็กหนุ่มก็เริ่มต้นดื่มเหล้าอย่างหนักหน่วง

 

ความทรงจำของเฉินไคซิ่นก็เริ่มที่จะชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ภาพเมื่อสามปีก่อนมันปรากฏขึ้นเหมือนกับเกิดขึ้นเมื่อวาน ใบหน้าของเฉินไคซิ่นในกระจกก็แดงขึ้น และการแสดงออกของเขาก็เหมือนกับว่าจะหัวเราะและร้องไห้ไปในเวลาเดียวกัน!

 

มันไม่สามารถที่จะบังเอิญมากได้ขนาดนี้ใช่ไหม?

 

แม้ว่าจะผ่านไปหลายปีตั้งแต่ตอนนั้น ทุกครั้งที่เฉินไคซิ่นคิดถึงเรื่องนี้ และจำได้ว่าเขาดูโง่แค่ไหน เมื่อเขาไม่รู้ว่าจะให้ร่มหรือไม่ให้ร่มดี เขาก็จะรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก...

 

เนื่องจากเรื่องนี้ ทุกครั้งที่มีคลาสเรียน ใครบางคนก็จะเอาเรื่องนี้มาล้อเขา พวกเขาก็ยอมที่จะเสียสละเขาไป เพื่อทำให้บรรยากาศมันสนุกสนานขึ้น

 

เฉินไคซิ่นในกระจกก็กำหมัดด้วยความโกรธเคืองและพูดออกมาฉันได้ย้อนเวลามาแล้ว ถ้างั้นทำไมฉันจะไม่ทำงานให้หนักขึ้น เพื่อไปให้ไกลขึ้นในครั้งนี้ละ?

 

เด็กหนุ่มสามคนที่แอบฟังอยู่ด้านนอกห้องน้ำก็พูดไม่ออก พวกเขาก็มองกันเองอย่างสับสน เมื่อพวกเขาได้ยินเด็กหนุ่มที่อกหักพูดอะไรแปลกๆแบบนั้น

 

ไม่ใช่ว่าเขากำลังเศร้า เรื่องที่เขาไม่รุกมากกว่านี้อยู่เหรอ?

 

เฉินฟ่านไม่ได้คาดคิดเลยว่าเด็กหนุ่มที่อกหกจะเปลี่ยนไปจากเด็กหนุ่มเวอร์จิ้นกลายเป็นโรคจิตหนุ่มในค่ำคืนเดียว เขาก็ค้นพบว่าเขาไม่สามารถยอมรับสถานการณ์นี้ได้

 

ไบ๋หลางก็พูดจาเหลวไหลออกมาสมกับเป็นคนที่พวกเราฝึกฝนมา เขาก็ได้รับสืบทอดมรดกมาจากสามหมาป่าที่โดดเดี่ยวจากคณะวิศวะคอมมาจริงๆ!”

 

มรดก ตีนเอ็งสิ! มีแค่คนตายเท่านั้นแหละที่จะมอบมรดกให้กับคนอื่น!” ฉี่ซีก็ตบหัวไบ๋หลางอย่างต่อเนื่อง

 

อึ้ก!”

 

โอ้ย

 

แม้ว่าทั้งสามคนต้องการที่จะหยุดเถียงกันก็ตามที มันก็สายเกินไปแล้ว

 

เฉินไคซิ่นก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ทั้งสามคนก็หัวเราะเจื่อนๆออกมา ก่อนที่พวกเขาจะหันมามองแฮปปี้ พวกเรารู้ว่านายยังโอเคดี ถ้านายรู้สึกไม่ดีแล้วละก็ ไม่เป็นไรหรอก พวกเราเก็บเงินมาซื้อหมวก VR ให้นายได้แล้ว พรุ่งนี้ พวกเรา สี่หมาป่าจะสามารถเข้าไปสู้พร้อมกันได้ พวกเราจะสู้ไปด้วยกันในโลกศิลปะการต่อสู้ พวกเราไม่ควรที่จะสนใจเกี่ยวกับข่าวลือในมหาวิทยาลัยหรอก

 

ฉี่ซี่ก็รีบเอาแผนการที่พวกเขาเตรียมการไว้นานแล้ว มาหันเหความสนใจของเฉินไคซิ่น

 

เฉินไคซิ่นก็เคยได้รับประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนแล้ว ในความเป็นจริง มันเป็น เมื่อสามปีก่อน

 

เมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับมัน เขาก็กรอกตาและหยิบใบเสร็จที่มีหน้าเหมาเจ๋อตุงบนมัน หลังจากนั้นเขาก็พูดออกมาไม่กี่ประโยคจ่ายด้วยการมัดจำใช่ไหม แล้วจะต้องจ่ายให้ครบเต็มจำนวนในเวลาสามปี

 

โลกศิลปะการต่อสู้ก็ได้เข้าตลาดในเวลาไม่ถึงเดือน และมันก็เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับระยะเวลาอันสั้น มันก็ดึงดูดผู้เล่นมากกว่าห้าล้านคนจากรอบโลก และหมวก VR ซึ่งเป็นเวิธีการเชื่อมต่ออันแสนพิเศษ ก็ขายชิ้นละ 3,600 หยวน (หมื่นห้ากว่าบาท)

 

เวร

 

ฉี่ซี่และอีกสองคนก็มองเฉินไคซิ่นยื่นเงินร้อยหยวนมาให้ เหมือนกับว่าเขาได้คาดเดาไว้แล้ว มันก็ทำให้พวกเขามึนงงไปชั่วขณะไอ้เวร นายต้องการที่จะมัดจำของบางอย่างที่มีราคาสามพันกว่าหยวนเนี่ยนะ? นายรู้นี่หว่า

 

ใครเป็นคนปล่อยข่าวกันวะ?

 

ไม่มี ไม่ใช่ฉันแน่ๆ!” ไบ๋หลางและเฉินฟ่านก็เริ่มที่จะสงสัยกันเอง

 

เลิกเดาได้แล้ว เมื่อคืนนายละเมอพูดออกมาต่างหากเล่า และนายก็พูดออกมาชัดซะขนาดนั้น ฉันก็เลยได้ยินมันทุกคำ

 

นายหมายความว่ามันมีอะไรบ้าๆเกิดขึ้นงั้นเหรอ?

 

ไบ๋หลางก็ดันแว่น และไม่เชื่อสิ่งที่เขาได้ยิน

 

แต่เฉินไคซิ่นไม่ได้สนใจเขา

 

ไหนหมวกละ?

 

แม้ว่าโลกของศิลปะการต่อสู้นั้นอยู่ในตลาดน้อยกว่าหนึ่งเดือน แต่ก็มีคนจำนวนหนึ่งที่มีชื่อเสียงจากมันได้แล้ว เขาก็จำได้ว่า เมื่อเขาเข้าเกมในครั้งแรก โลกของศิลปะการต่อสู้ก็มีฝ่ายมากกว่าห้าหมื่นฝ่ายแล้ว ในความเป็นจริง ผู้ฝึกฝนตนที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ได้ถึงจุดสูงสุด คู่มือเก้าหยิน และ สกิลเก้าหยางศักดิ์สิทธิ์ ก็กำลังจะปรากฏขึ้น ด้วยเหตุนี้ มันจึงมีสกิลศิลปะการต่อสู้อีกจำนวนมากที่ซึ่งมีคนได้รับมันมาแล้ว

 

ฉี่ซี่และอีกสองคนก็พูดไม่ออก

 

พวกเขาคิดว่ามันคงจะเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะพาเด็กเรียนดีในหอของเขามาเข้าร่วมในโลกของศิลปะการต่อสู้ พวกเขาก็คาดไว้ว่าจะต้องโน้มน้าวอย่างมาก ที่จะให้เขาเข้ามาในเกม ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงประหลาดใจว่าเขาเป็นพวกที่ซ่อนความสามารถในการเล่นเกมไว้ และเมื่อดูดีๆ เขาก็ดูเหมือนกับนักเล่นเกมมืออาชีพยังไงยังงั้น

 

หรือว่าเขาเป็นพวกตำนานที่ไม่ค่อยอยากเผยความสามารถกัน?

 

หมวกอยู่ในตู้ของนาย นั่นนะ

 

ถ้ามีใครแกล้งนายตอนที่นายเข้าเกม จำไว้ว่าให้บอกพวกเขาเกี่ยวกับชื่อของฉันนะ ฉันชื่อว่าเจ็ดน้อยโดดเดี่ยว ฉี่ซี่พูด

 

ฉันดำน้อยโดดเดี่ยว และไป๋หลางคือ ขาวน้อยโดดเดี่ยว ทำไมนายไม่ตั้งชื่อว่าหัวใจน้อยโดดเดี่ยวกันละ? เฉินฟ่านก็ตั้งชื่อไร้สาระให้กับเฉินไคซิ่น

 

เมื่อเฉินไคซิ่นหยิบหมวกที่นุ่มและพับเก็บได้ เขาก็อยู่เงียบเป็นเวลานาน ก่อนที่จะเงยหัวขึ้น

 

ฉันจะตั้งชื่อว่าแฮปปี้

 

ในเวลาเดียวกัน เฉินไคซิ่นก็ตัดสินใจ!

 

สามปีต่อมา หลังจากทัวร์นาเมนต์ The Sword Among Us ในภูเขาฮัวซาน... ชื่อของเขาจะต้องเป็นที่จดจำของทุกคนบนโลก!

 

โน้คคนแปล :

 

  1. ภูเขาเฉาฉี : เป็นส่วนหนึ่งของภูเขาซงซาน ในเขตเติงเฟิง เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน (ภูเขาเฉาฉีเป็นที่ตั้งของสำนักเส้าหลิน)

รีวิวผู้อ่าน