px

เรื่อง : เนตรเซียนทะลุสมบัติ
ตอนที่ 12 เจ้าเด็กน้อยกับอาจารย์ใหญ่


ตอนที่ 12 เจ้าเด็กน้อยกับอาจารย์ใหญ่

หลังจากเห็นสีหน้าแปลกๆ ของทั้งสองฝ่าย เฉาหยวนเต๋อก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาว่า “มีอะไรรึเปล่าครับ? ”

กัวปาผีหันไปมองหยางโป “ภาชนะสำริดเป็นของที่หยางโปซื้อมาจากแผงลอยราคาแค่ไม่กี่สิบหยวน ไม่ได้สวยหรือมีราคาอะไร อีกอย่างเจ้าเด็กนี่ก็เป็นแค่เด็กในร้านผมเท่านั้นแหละครับ”

เฉาหยวนเต๋อแสดงสีหน้าแปลกใจขึ้นมา ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นอย่างไร จึงคิดว่าพวกเขาคงจะเป็นญาติหรือไม่ก็เป็นเด็กที่ร่วมหุ้นเปิดร้านกับเถ้าแก่กัว สิ่งที่ทำให้เขาคิดแบบนั้นก็เพราะการแสดงความสามารถที่น่าตกตะลึงของหยางโปที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนจนทำให้เขาไม่คิดว่าหยางโปจะเป็นแค่เด็กในร้านธรรมดาๆ คนนึงเท่านั้น

คำพูดของกัวปาผีชัดเจนถึงเจตนารมของเขามาก เขาต้องการจะสื่อว่าหยางโปเป็นเพียงแค่เด็กของร้านกู่เต๋อจายคนหนึ่งเท่านั้นและเขาเป็นถึงอาจารย์ใหญ่ไม่ได้มีความจำเป็นต้องลงมาคลุกคลีด้วย

เฉาหยวนเต๋อชะงักไปครู่หนึ่งก่อนที่จะยิ้มแล้วพูดออกมา “อ่อ แบบนี้นี่เอง”

กัวปาผีรู้สึกโล่งอกขึ้นมาเพราะคิดว่าในที่สุดอีกฝ่ายก็เข้าใจความหมายของเขาเสียที

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเฉาหยวนเต๋อจะพูดต่อว่า “แต่ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ครับ เด็กหนุ่มตาดีๆก็มีเยอะแยะไป คนอี่นๆต่างก็ต้องผ่านจุดนั้นมาทั้งนั้น พอซื้อเยอะเข้าความสามารถในการแยกแยะก็พัฒนาขึ้นมาเองแหละครับ จริงไหมเจ้าหนู? ว่าแต่...ขอฉันดูของที่นายซื้อมาหน่อยได้รึเปล่าล่ะ?”

หยางโปไม่สามารถคาดเดาถึงความคิดชั่วร้ายที่ซ่อนอยู่ภายในใจของเฉาหยวนเต๋อได้ แต่เขาก็รู้ได้ว่าอีกฝ่ายพยายามพูดดีเพื่อที่จะบังคับให้เขานำภาชนะสำริดออกมา

กัวปาผียิ้มด้วยสีหน้าเจื่อนๆก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “หยางโป ในเมื่ออาจารย์เฉาสนใจจะดูของที่นายซื้อมาขนาดนี้ นายก็เอาออกมาให้เขาดูหน่อยสิ ถ้าเป็นของแท้ขึ้นมาก็สามารถทำราคาได้เป็นอย่างดีเลยไม่ใช่เหรอ?”

หยางโปหันไปหาเฉาหยวนเต๋อแล้วพูดขึ้นว่า “เมื่อกี้เถ้าแก่ก็บอกไปแล้วว่าของชิ้นนั้นเป็นของที่ซื้อมาจากแผงลอยธรรมดาๆ แต่ในเมื่ออาจารย์เฉาสนใจอยากจะช่วยดูให้ ผมก็ยินดีจะนำมาให้ดูครับ”

พูดจบ หยางโปก็เดินขึ้นห้องไปหยิบภาชนะสำริดออกมาก่อนที่จะยื่นมันให้กับเฉาหยวนเต๋อ ตอนที่อีกฝ่ายรับมันไป หยางโปก็มองไปที่อีกฝ่ายราวกับต้องการจะดูปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น

ใบหน้าของเฉาหยวนเต๋อยังคงราบเรียบและเขาก็มีร่างกายที่ผอมบาง บนจมูกของเขามีแว่นตาหนาที่สวมใส่อยู่ อีกฝ่ายหันมายิ้มให้หยางโปเล็กน้อย ในขณะที่หยางโปขมวดคิ้วของเขาตอบกลับไป

กัวปาผีหันมาหาหยางโปก่อนที่จะส่งซิกเพื่อเรียกให้อีกฝ่ายเดินออกมาจากจุดที่อาจารย์เฉานั่งอยู่ก่อนที่จะกระซิบพูดกับหยางโปว่า “หยางโป แกรู้จักกับอาจารย์เฉามาก่อนรึเปล่า? ”

กัวปาผีเองก็มีสายตาที่หลักแหลมเพราะเขาก็สามารถรู้สึกได้ว่าหลังจากที่เฉาหยวนเต๋อเดินเข้ามาในร้าน เขาก็เอาแต่สนใจมาที่หยางโปแถมยังเอาแต่สนับสนุนเขาอีก ซึ่งมันทำให้กัวปาผีไม่เข้าใจเลยว่าเด็กในร้านตัวเล็กๆอย่างหยางโปจะทำให้อาจารย์จากมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆภายในประเทศสนใจเขาได้อย่างไรกัน

หยางโปชะงักไปครู่หนึ่งก่อนที่จะแกล้งถามขึ้นมาว่า “อาจารย์เฉาเป็นอาจารย์ที่ไหนเหรอเถ้าแก่? ผมไม่เคยเรียนมหาวิทยาลัยมาก่อนผมจะไปรู้จักอาจารย์ได้ยังไงล่ะ?”

กัวปาผีพยักหน้าก่อนที่จะรู้สึกว่าจริงอย่างที่หยางโปพูด เขาจึงพูดต่อว่า “เขาเป็นอาจารย์คณะโบราณคดีของมหาวิทยาลัยจินหลิง แถมยังเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับด้านโบราณวัตถุของประเทศเลยนะ”

พูดจบกัวปาผีก็เดินกลับไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้

หลังจากที่ทั้งสองคนเดินกลับมานั่งแล้ว เฉาหยวนเต๋อก็หันมามองทั้งสองราวกับว่าไม่ได้สังเกตเห็นว่าเมื่อครู่ทั้งสองได้ปลีกตัวออกไปคุยเรื่องของเขา เขาว่างภาชนะลงบนโต๊ะก่อนที่จะหันไปหาหยางโป “นายคือเสี่ยวหยางสินะ ยินดีด้วยนะเสี่ยวหยาง ของชิ้นนี้เป็นภาชนะสำริดในยุคราชวงศ์ซางตอนต้น”

กัวปาผีได้ยินเช่นนั้นก็ดีดตัวขึ้นมาราวกับถูกน้ำร้อนลวกที่ก้นของเขา “ห้ะ? นี่ของจริงเหรอ?”

เฉาหยวนเต๋อพนักหน้า “นี่เป็นของจริงครับ”

แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะมีข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้ว แต่หลังจากที่ได้ยินอีกฝ่ายยืนยันเช่นนั้น หยางโปก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา เพราะมันสามารถนำมาใช้เป็นพื้นฐานในการต่อรองได้อย่างน้อยๆ ก็คงจะทำให้เขาได้ไม่น้อยเลยล่ะ

“บนตัวภาชนะสำริดชิ้นนี้มีการจารึก 3 จุด ซึ่งทำให้สามารถทำราคาได้เป็นอย่างดีเลย” เฉาหยวนเต๋อพูดอธิบายต่อ

กัวปาผีแทบจะไม่เชื่อสิ่งที่เขาได้ยิน “อาจารย์เฉา นี่เป็นของแท้จริงๆเหรอ? ถ้าเป็นอย่างที่คุณว่ามันก็คงจะทำเงินได้เป็นอย่างดีเลยสินะครับ? หยางโปแกนี่โชคดีชะมัดเลย”

“เอ้อจริงสิหยางโป นายยังไม่ได้บอกเลยว่านายไปเจอมันที่ไหน ฉันจะได้ไปหาบ้างถือว่าเป็นการช่วยเหลือกันและกันไง” กัวปาผีถามขึ้นมา

“เถ้าแก่กัว” เฉาหยวนเต๋อตอบเสียงเบา “เถ้าแก่กัวถึงแม้ว่าคุณจะรู้สถานที่ แต่คุณคิดว่าคุณจะสามารถซื้อมันได้เหรอครับ?”

“ก็ไม่แน่นะครับ! ” กัวปาผีมีความมั่นใจมากว่าเขาสามารถหามันได้ แม้แต่เจ้าหยางโปยังสามารถหาได้ ทำไมคนอย่างเขาที่ทำงานด้านนี้มานานกว่าแถมยังมีประสบการณ์มากกว่าหยางโปตั้งหลายเท่าจะหาไม่ได้ล่ะ?

เฉาหยวนเต๋อมองกัวปาผีพร้อมกับแอบยิ้มในใจ นี่เขาคงจะคิดกีดกันอีกฝ่ายเพื่อตัดเส้นทางร่ำรวยของคนอื่นสินะ? ดูเหมือนว่ากัวปาผีจะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดถึง เพราะที่เขาต้องการจะพูดก็คือเมื่อวัดกับระดับของหยางโปแล้วยังจะเหลือของตกถึงมือเถ้าแก่กัวอยู่อีกเหรอต่างหากล่ะ! แต่เถ้าแก่นี่ดันไม่เข้าใจความหมายของเขาซะงั้น

 

หยางโปมองเฉาหยวนเต๋อที่ดูเอือมระอาราวกับจะอัดหน้าเถ้าแก่ที่มั่นใจในตัวเอง เขาก็พูดขึ้นมาว่า “ผมไปเจอที่แผงลอยที่ถนนจานเหยียนตรงวัดฟูจื่อ แต่ผมก็ไม่รู้นะว่าแผงนั่นจะยังอยู่รึเปล่า”

“ไม่เป็นไร ฉันหาเองได้” ยังไม่รอให้หยางโปพูดอะไรต่อจากนั้น เถ้าแก่กัวก็ออกไปนอกร้านก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “แกเฝ้าร้านให้ดีล่ะ”

หลังจากกัวปาผีออกจากร้านไป ภายในร้านก็เหลือแค่หยางโปและอาจารย์เฉา จนทำให้บรรยากาศเงียบไปชั่วขณะ

เฉาหยวนเต๋อยิ้มออกมาก่อนที่จะพูดกับหยางโปว่า “คิดไม่ถึงเลยจริงๆนะเนี่ย”

“คิดไม่ถึงอะไรเหรอครับ? คิดไม่ถึงว่าผมจะเป็นเด็กเฝ้าร้านขายวัตถุโบราณสินะครับ?”

เฉาหยวนเต๋อพยักหน้า “ก็ใช่ เมื่อกี้เถ้าแก่กัวบอกว่านายเป็นเด็กที่ร้าน ฉันก็เลยคิดว่าของที่นายเอาไปขายที่ร้านจี๋หย่าถางเป็นเพราะได้รับคำแนะนำจากเถ้าแก่กัวซะอีกนะเนี่ย ก่อนหน้านี้ฉันกับเถ้าแก่กัวก็เคยติดต่อกันมาก่อน แต่ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนช่วยเหลือใครแบบนั้น พอเห็นท่าทางของเขาแล้วดูเหมือนว่าของที่นายเอาไปขายวันนั้นจะเป็นของที่นายหามาได้ด้วยตัวเองจริงๆสินะ”

หยางโปยิ้มโดยไม่พูดอะไรออกมาเพราะเขาไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องอธิบายอะไรมากไปกว่านี้

“เสี่ยวหยางนายยังอายุน้อยอยู่เลย แต่เด็กวัยรุ่นอย่างนายกลับประสบความสำเร็จในการจำแนกวัตถุโบราณได้ถึงระดับนี้ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ” เฉาหยวนเต๋อกล่าวชื่นชม

หยางโปไม่ชอบที่จะต้องเผชิญหน้ากับการพูดจาถ่อมตนเหล่านี้เขาจึงทำแค่เพียงพยักหน้า “คุณพูดเกินไปแล้ว”

เฉาหยวนเต๋อหัวเราะออกมา “เถ้าแก่กัวไม่อยู่แล้ว งั้นพวกเรามาคุยเรื่องราคาของภาชนะสำริดนี้กันดีกว่า วันนั้นนายขายเครื่องลายครามหยีโหล่วจวินออกไปแล้ว ฉันมั่นใจว่าวันนี้นายเองก็คงจะเต็มใจที่จะขายภาชนะชิ้นนี้ให้กับฉันนะ”

หยางโปรู้สึกดีใจขึ้นมา ก่อนหน้านี้เขาเองก็ยังคิดอยู่ว่าจะขายมันออกไปยังไงดี ก่อนหน้านี้เขาเองก็เดาไว้แล้วว่าราคาของภาชนะชิ้นนี้คงไม่สูงมากและเฉาหยวนเต๋อก็คงจะไม่ทุ่มทุนซื้อของชิ้นนี้ในราคาที่สูงหรอก

“อาจารย์เฉาเป็นคนตัดสินใจอะไรรวดเร็ว งั้นคุณว่ามาก่อนเลยดีกว่าครับ” หยางโปเองก็ตอบกลับไปโดยใช้คำตอบที่ทำให้ตัวเองปลอดภัยมากที่สุด

เฉาหยวนเต๋อยิ้ม “ฉลาดจริงๆเลยนะนายเนี่ย แต่ที่ฉันซื้อของชิ้นนี้ไม่ใช่เพราะอยากจะได้เองหรอกนะ เพื่อนฉันวานให้ฉันช่วยหาให้อีกทีน่ะ แต่นายสบายใจได้ฉันไม่ทำให้นายขาดทุนหรอก”

“ขอบคุณมากเลยครับอาจารย์เฉา” หยางโปพูด

 

รีวิวผู้อ่าน