px

เรื่อง : เนตรเซียนทะลุสมบัติ
ตอนที่ 15 การประมูลใต้ดิน


ตอนที่ 15 การประมูลใต้ดิน

ระหว่างที่ทั้งสองคนเดินผ่านซอยเล็กๆ ที่ไม่มีชื่อ หยางโปก็เริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น “ถ้าไกลเกินไป ผมไม่ไปแล้วดีกว่า”

“ไม่ไกลๆ ข้างหน้าก็ถึงแล้วล่ะ นายสบายใจเถอะไม่มีการขโมยชิงทรัพย์ระหว่างทางหรอก ยังไงฉันก็ต้องป้องกันให้กับลูกค้าของฉันอยู่แล้ว”

หยางโปพยักหน้า “ทำไมจู่ๆ คุณถึงเรียกผมขึ้นมาล่ะ? ”

หลี่เอ้อร์ชะงักไปครู่หนึ่ง “นายไม่สังเกตเหรอ ว่าภายในตลาดมืดมีคนจำนวนมากต่างก็พากันเลือกนู้นเลือกนี่ แต่คนส่วนใหญ่ต่างก็มีของในมือกันหมด บางคนถึงกับต้องใช้กระเป๋าหนังงูเพื่อใส่มันเลย มีไม่กี่คนหรอกที่จะเป็นแบบนายที่ไม่มีอะไรในมือสักชิ้น”

“ซึ่งมันก็เห็นได้ชัดแล้วว่านายจะต้องไม่สนใจของพวกนั้นแน่ๆ คนที่เป็นแบบนายคือลูกค้าของพวกเรา”

“ในมือของผมมีเงินอยู่ไม่เยอะนะ” หยางโปพูด

หลี่เอ้อร์ไม่ได้สนใจกับคำพูดของเขา “มีเงินในมือไม่เยอะก็แสดงว่ามีอยู่ในบัตรน่ะสิ ไม่ต้องกังวลหรอกถึงไม่มีเงินแต่ไปดูไว้ก่อนก็ได้ รอให้ถึงคราวหน้าถ้านายพร้อม นายก็ค่อยมาซื้อก็ได้นี่”

หยางโปรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา เขาเดาว่าอีกฝ่ายคงจะไม่ได้ทำการซื้อขายได้ง่ายขนาดนั้นเพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่อยู่เมืองเก่า ต่างก็ทำการแลกเปลี่ยนซื้อขายกันตลอด หลังจากที่ได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้นเขาก็รู้ทันทีว่ามันเป็นการเสนอการซื้อขายระยะยาวนี่เอง

ไม่นานนัก หลี่เอ้อร์ก็หยุดเดินก่อนที่จะชี้ไปที่บ้านเล็กๆหลังหนึ่ง “ถึงแล้ว”

หยางโปเงยหน้ามองก่อนที่จะเห็นบ้านขนาดเล็กที่มีการใช้กระเบื้องอิฐในการสร้างโดยมีรูปแบบโบราณ เขาเคยผ่านที่นี่มาก่อน แต่ไม่รู้เลยว่ามันถูกซ่อมแซมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแล้ว

หลี่เอ้อร์เคาะประตูก่อนที่จะตะโกนชื่อตัวเองออกมาพร้อมกับผลักประตูเดินนำหยางโปเข้าไปด้านใน

ภายในบ้านถือว่าไม่ได้มีความสูงมากนัก ภายในนี้ติดตั้งด้วยหลอดไฟสีเหลืองที่ให้แสงสว่างแบบสลัวๆ ตอนนี้มีคนนั่งอยู่ด้านในซึ่งกำลังพูดคุยพักผ่อนตามอัธยาศัยโดยมีกลิ่นชาหอมฟุ้งกระจายไปทั่วทุกที่

ตอนที่หยางโปเดินเข้ามาด้านใน ทุกคนต่างก็หันมามองที่เขา แต่เพียงครู่เดียวพวกเขาก็หันกลับไปสนใจเรื่องของตัวเองต่อ นี่เป็นครั้งแรกที่หยางโปเดินทางมาที่นี่ แต่คงเป็นเพราะอายุของเขายังน้อยแถมยังมาที่นี่คนเดียวจึงทำให้คนที่นี่ไม่ได้สนใจเขาเท่าไหร่นัก

ทันใดนั้นหยางโปก็รู้สึกถึงสายตาของใครบางคนที่จ้องมาที่เขา เขาเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบกับชายผมบางที่สวมใส่เสื้อสีดำกำลังหวีผมปาดไปด้านหลังเพื่อปกปิดศีรษะล้านของเขา นั่นมันผู้ดูแลชวีนี่!

ผู้ดูแลชวีหันมามองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะหลับกลับไปอย่างรวดเร็ว หยางโปเกิดอาการตื่นตระหนกขึ้นมา เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะต้องมาเจอกับอีกฝ่ายที่นี่ ก่อนหน้านี้เขาเกือบจะถูกผู้ดูแลชวีหลอกซะแล้ว แต่ก็เป็นเพราะเขาที่เดินตามอีกฝ่ายไปจึงทำให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น แต่ก็ช่างเถอะเพราะยังไงตอนนี้เขาเอาแต่คิดว่าเมื่อไหร่จะได้เงินไปรักษาพ่อของเขาเร็วๆ ต่อให้มีเรื่องอะไรเขาก็ไม่กลัวหรอก

หยางโปกวาดสายตามองด้านใน ภายในนี้มีคนประมาณ 7-8 คน มีบางคนที่มาคนเดียวแต่ก็มีอีกส่วนที่มากันเป็นคู่

หลังจากที่หยางโปนั่งลงแล้ว เขาก็มองไปรอบๆ ที่นี่เป็นเหมือนโรงเตี๊ยมน้ำชาขนาดเล็กซึ่งด้านหน้ามีเวทีที่จัดวางไว้ข้างหน้า และแน่นอนว่าไม่มีใครในนี้ใช้มัน ทุกคนดูเหมือนว่าจะไปนั่งออกันที่ทางฝั่งทิศเหนือของร้าน ส่วนหยางโปเลือกที่จะนั่งให้ห่างไกลจากคนเหล่านั้นให้มากที่สุด นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาที่นี่เขาจึงอยากจะสังเกตสถานการณ์ภายในนี้สักหน่อย

อันที่จริงหลังจากที่เห็นสถานการณ์ภายในนี้แล้ว หยางโปก็พอจะเดาได้ถึงรูปแบบในการเจรจาซื้อขายของที่นี่ เพราะตอนนี้สถานที่ที่เขาอยู่มันถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นเหมือนกับการทำการประมูลใต้ดิน ที่นี่มีคนน้อยมากและเขาคิดว่าการเสนอราคาก็คงจะไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่เพียงแค่เขาไม่รู้ว่าของที่นำมาประมูลนั้นมีคุณภาพขนาดไหนก็เท่านั้น

หยางโปแอบรู้สึกผิดหวังขึ้นมาเล็กน้อย ถ้าหากเขารู้ว่าจะมาที่นี่เขาคงจะนำเงินมาเยอะกว่านี้

ในเวลาอันรวดเร็วเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงของคนที่พูดคุยกันจะเงียบลง ดูเหมือนว่าทุกคนกำลังรอคอยกับสิ่งนี้อยู่

ใครบางคนก้าวเท้าเข้ามาจากด้านนอกประตูพร้อมกับโบกมือและหัวเราะให้กับทุกคนที่อยู่ภายในนี้ “ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนพวกเรา ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมที่นี่ เงื่อนไขของที่นี่ง่ายมาก หากมีอะไรไม่ถูกต้องก็ยกโทษให้ด้วยนะครับ ”

ทุกคนหัวเราะออกมาเพื่อเป็นการตอบรับผู้ที่มาถึง ดูเหมือนว่าคนเหล่านั้นจะคุ้นเคยกับเขาอยู่ไม่น้อย ชายคนนั้นเดินตรงยังจุดที่อยู่ตรงกลางก่อนที่จะเริ่มพูดขึ้น “เอาล่ะครับ เราจะไม่พูดอะไรให้ยืดเยื้อเอาเป็นว่าเราจะใช้กฎเดิมแบบทุกครั้งที่ผ่านมานะครับ”

ระหว่างที่พูดเขาก็กวาดตามองไปรอบๆ ทันทีที่เห็นหยางโปสีหน้าของเขาก็ชะงักไป “เอ๋? ดูเหมือนว่าวันนี้เราจะมีเพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกหนึ่งคนด้วยนะครับเนี่ย งั้นผมขอแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกันนะครับ”

“ผมแซ่เหมย ชื่อของผมคือเหมยเหล่าซาน การแลกเปลี่ยนซื้อขายของพวกเราง่ายมากครับ แต่จะต้องปฏิบัติตามกฎที่มี และห้ามไม่ให้ทำการถ่ายภาพหรือบันทึกเสียงในที่นี้ หากพบว่าละเมิดกฎก็อย่าหาว่าผมไม่เตือนก็แล้วกันนะครับ ”

ตอนที่พูดเขาก็กวาดตามองผู้คนไปรอบๆ ราวกับเป็นสิงโตที่กำลังมองหาเหยื่อยังไงยังงั้น

 

สีหน้าของหยางโปยังคงนิ่งเฉยไร้ซึ่งปฏิกิริยาใดๆ สิ่งเหล่านี้ก็ถือว่าสมเหตุสมผลอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เขาเองก็ไม่ได้คิดที่จะทำเรื่องแบบนั้นตั้งแต่แรก

“เหล่าซาน...รีบเปิดประมูลเถอะ เรื่องพวกนี้พวกฉันฟังจนเบื่อแล้ว ว่าแต่วันนี้นายเอาของดีมาประมูลรึเปล่า?” เสียงของชายแก่อายุราวๆ 60 กว่าปีดังขึ้นด้วยความหงุดหงิดกับการบรรยายที่ยืดเยื้อของเขา

เหล่าซานเผยรอยยิ้มออกมา “คุณปู่หยีจับตาดูให้ดีก็แล้วกันครับ ของที่เอามาวันนี้จะต้องทำให้คุณพอใจแน่ๆ”

“เยี่ยมเลย งั้นก็เริ่มเปิดประมูลเถอะ”

ระหว่างที่พูดอยู่นั้นก็มีคนยกถาดขึ้นมาก่อนที่จะวางมันลงบนโต๊ะที่อยู่ตรงกลางและของตรงหน้าก็คือแจกันลายครามบทกวี

“ใครที่สนใจสามารถขึ้นมาดูใกล้ๆได้นะครับ” เหมยเหล่าซานยิ้มพร้อมกับพูด

แจกันใบนี้มองไกลๆจะเห็นว่ามีรูปทรงคอแคบ โดยมีการเคลือบขวดด้วยสีขาว ราวกับมีหญิงสาวรูปงามวัย 16 มายืนอยู่ตรงหน้า บนขวดแจกันมีอักษรกวีที่ถูกเขียนลงไปบนนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายของวรรณกรรม จนทำให้ดึงดูดสายตาผู้คนให้ขึ้นไปชื่นชม

หยางโปสังเกตเห็นกฎของภายในนี้แล้วว่าผู้อาวุโสจะได้ขึ้นไปชมก่อนก่อนที่จะให้คนอื่นๆทยอยขึ้นไป ดังนั้นเขาจึงนั่งรออย่างไม่รีบร้อนและปล่อยให้คนอื่นดูให้เสร็จก่อนที่เขาจะเดินขึ้นไป การได้มาดูการแลกเปลี่ยนซื้อขายแบบนี้ถือเป็นโอกาสในการเรียนรู้ที่หาได้ยากและเขาจะไม่ยอมปล่อยโอกาสดีๆนี้ไปแน่นอน

หลังจากมองดูอย่างละเอียด แสงสว่างก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าก่อนที่จะพุ่งเข้ามาในตาของเขา หยางโปพยักหน้าเบาๆ ดูเหมือนว่าของชิ้นนี้จะเกิดขึ้นในยุคสมัยของจักรพรรดิซุ่นจื้อซึ่งถือว่าหาได้ยากมาก

หยางโปกลับไปนั่งที่เดิมอีกครั้ง พร้อมกับในใจที่รู้สึกได้ถึงความเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น เพราะต่อให้เขารูดเงินในบัตรทั้งหมดที่มีเขาก็ไม่มีทางที่จะได้ของชิ้นนี้มาครอบครองแน่ๆ

ทว่าทันใดนั้นเหมยเหล่าซานก็พูดขึ้นว่า “เปิดประมูลที่ 100,000หยวน ในแต่ละครั้งห้ามประมูลต่ำกว่า 1,000 หยวน”

คนที่จะมาอยู่ที่นี่ได้ไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ หลังจากที่เริ่มทำการเปิดประมูลการเสนอราคาก็เริ่มต้นขึ้น

“105,000 หยวน”

“110,000 หยวน”

“130,000หยวน”

    ……

 “180,000 หยวน”

หยางโปนั่งดูบรรยากาศการประมูลภายในที่แห่งนี้ด้วยความสงบ ไม่ใช่ว่าของทุกชิ้นจะมีไว้ให้กับเขาเสมอไป ขอแค่ได้ของที่สามารถนำไปขายต่อเพื่อแลกกับค่ารักษาของพ่อเขาได้ก็เพียงพอแล้ว เขาไม่ได้หวังมากไปกว่านี้

หลังจากการประมูลเริ่มต้นขึ้นในที่สุดการเสนอราคาก็ค่อยๆ ชะลอตัวลง

“230,000 หยวน” ชายแก่แซ่หยีตะโกนขึ้น

หลังจากนั้นก็ไม่มีใครทำการเสนอราคาขึ้นมาอีก จนในที่สุดเหมยเหล่าซานก็พูดสรุปการประมูลในครั้งนี้ “คุณปู่หยีได้ของชิ้นนี้ไปครับ”

จากการคำนวณของหยางโป แจกันใบนี้หากนำออกไปขายสามารถทำเงินสูงกว่านี้ได้อีกหลายหมื่นหยวน แต่จากการประมูลสินค้าแล้วหลังจากได้ของไปยังต้องมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของภาษีและค่าธรรมเนียมด้วย

รีวิวผู้อ่าน