px

เรื่อง : The Strongest System จบแล้ว!!!
บทที่ 37 : ฮ่าๆๆ พวกมันไปกันหมดแล้ว!!


บทที่ 37 : ฮ่าๆๆ พวกมันไปกันหมดแล้ว!!

 

สายลมพลิ้วพัดโบกสะบัดหยอกเย้าราวกับสายลมจะเอื้อมมือมาปลอบประโลมร่างทั้งสองที่กำลังนอนอยู่ใต้แผ่นฟ้าอย่างสงบ

ภายในป่าช่างเงียบสงบ...ไร้ซึ่งสรรพเสียงสำเนียงใด

ร่างงดงามไร้ที่ติพร้อมใบหน้าที่ราวกับสวรรค์สร้าง หากสตรีผู้นี้บอกว่าตนเองไม่งดงาม คงยากที่จะบอกแล้วว่าเทพธิดาจะหน้าตาเป็นเช่นไร...ส่วนทางด้านชายหนุ่มก็มีใบหน้าหล่อเหล่า ร่างกายกำยำสมส่วนหน้าท้องและทุกส่วนของร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้ามที่สมบูรณ์แบบไร้ส่วนเกินแม้แต่นิด..แต่อนิจจาที่เป้าของมันสภาพช่างดูน่าสังเวชยิ่งนัก

ขนาดของเป้ามันตอนนี้แม้ผ้าทั้งผืนก็ไม่สามารถปกปิดไว้ได้ หากเป็นความใหญ่โตทางธรรมชาติรับรองว่าสาวใดได้ลิ้มลองต้องบรรลุถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงเพียงการเคลื่อนไหวแค่ไม่กี่กระบวนท่า แต่ทว่า...ความใหญ่โตในยามนี้มันเกิดมาจากอาการฟกช้ำดำเขียวที่แลดูไปน่าสยดสยองยิ่งนัก

...หนี่หมันเทียนที่สลบไสลกำลังจมอยู่ในความฝัน ...ภายในฝันนั้น นางได้เป็นผู้นำนิกายกระบี่เหลียนลง นางนำพาเหล่าศิษย์ในนิกายฟาดฟันเข่นฆ่าเหล่ามารจนหมดสิ้นไปจากแผ่นดิน  ด้วยน้ำมือของนางในที่สุดนิกายของนางก็ได้เป็นหนึ่งในใต้หล้า ....แต่ในขณะที่นางกำลังจะนั่งลงบัลลังก์เจ้ายุทธจักรในฝันนั้น ก็มีมือของมารร้ายตนหนึ่งเอื้อมมากระชากนางจนตกลงขุมนรก ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางทำมาจะถูกพังทลายลงไปสิ้นด้วยน้ำมือนั้น

"อาาา..."

หนี่หมันเทียนค่อยๆลืมตาขึ้นมา ร่างกายของนางสัมผัสได้ถึงสายลมและกลิ่นดิน และพริบตานั้นสัมผัสที่คุ้นเคยในมือกลับหายไป ..ตอนนี้ นางพบว่ากระบี่คู่กายได้หายสาบสูญไปเสียแล้ว

'เกิดอะไรขึ้น?'

ทันใดนั้นนางเริ่มรู้สึกปวดแปลบที่หน้าอกของนาง และตอนนี้นางพบว่ามันใหญ่โตขึ้น....อาจเรียกได้ว่ามหึมา นั่นทำให้ตัวของนางเริ่มสั่นเทิ้ม เมื่อรู้สึกเจ็บที่หน้าอก นางก็พลันเอื้อมมือไปจับด้านล่างของนางโดยสัญชาติญาณของสตรี ก่อนที่นางจะโล่งใจเล็กน้อย ...ยังดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ตอนนี้นางได้แต่นั่งกุมเข่าด้วยความไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น สภาพของนางสั่นเทิ้มราวกับลูกนกกำลังจะออกโผบิน และเมื่อสำรวจสิ่งของในตัว นางก็พบว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างได้หายสาบสูญไป

หนี่หมันเทียนพยายามย้อนคิดเรื่องราวว่าก่อนหน้านี้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่นางก็จำได้แค่เพียงว่า มีชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามา หลังจากนั้น นางก็สิ้นสติไปโดยไม่ทราบสาเหตุ

'สวรรค์ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?'

นางเป็นถึงสตรีที่มีระดับการบ่มเพาะอยู่ที่ระดับศักดิ์สิทธิ์ดังนั้นความเข้มแข็งของจิตย่อมมีเหนือคนธรรมดา แต่นางก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น อยู่ๆมาเจอแบบนี้จะให้นางเข้มแข็งอยู่ได้อย่างไร?

ในขณะที่หนี่หมันเทียนตกอยู่ในความหวาดกลัว มือของนางก็บังเอิญไปสัมผัสกับอะไรบางอย่าง ราวกับเป็นแผ่นกระดาษอะไรทำนองนั้น

"นี่…"

หนี่หมันเทียนที่กำลังอกสั่นขวัญแขวนกลับเต็มไปด้วยโทสะในพริบตา อารมณ์ของนางเปลี่ยนไปหลังจากที่ได้อ่านข้อความบนกระดาษ

"เล่ยเฟิง ... " หนี่หมันเทียนกัดฟันด้วยความแค้น

"นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ... " ในขณะนั้นเอง โม่อี้ซวนก็พลันได้สติขึ้นมา

"โม่อี้ซวน เจ้า... " เมื่อหนี่หมันเทียนหันไปมองทางโม่อี้ซวน นางก็พบว่าตัวมันเปลือยเปล่าซ้ำที่เป้ากางเกงยังพองโตอย่างน่าสะพรึง นางได้แต่อุทานออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เปลี่ยนไปเป็นสีแดง "เจ้ามารร้าย หน้าไม่อายยิ่งนัก!"

"หนี่หมันเทียน ... เจ้า" เมื่อโม่อี้ซวนหันมา และพบกับหนี่หมันเทียนมันพลันสังเกตถึงอะไรบางอย่างก่อนที่จะตกอยู่ในความตะลึง

เหตุใดหน้าอกที่แบนราวกับไม้กระดานซักผ้าก่อนหน้านี้ กลับกลายเป็นยอดเขาเทียมสวรรค์ได้กัน?

แต่ในขณะนั้นเองโม่อี้ซวนก็เหลือบไปเห็นกระดาษที่เขียนข้อความวางอยู่บริเวณด้านข้างของเขา เมื่อเขาอ่านจบโทสะของเขาก็แทบจะพุ่งสูงเทียมฟ้า แต่ในขณะที่เขากำลังจะลุกขึ้นนั้น ความเจ็บปวดมากมายมหาศาลที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนก พลันปะทุออกมาจากพวงสวรรค์ของเขา มันเจ็บปวดมากจนเขาต้องกรีดร้องออกมา

"อ๊าคคคคคคคคคคคคคคคค !!!"

โม่อี้ซวนได้กรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียง ด้วยการบ่มเพาะระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 7 ทำให้เสียงของมันนั้นดังกังวานกึกก้องไปทั่วผืนป่าน้ำเสียงมันช่างน่าเวทนานัก...ความเจ็บปวดที่แทบจะทานทนไม่ไหว ทำให้มันตาพร่าเลือนแทบสิ้นสติ

โม่อี้ซวนพยายามอย่างสุดกำลังเพื่ออดทนต่อความเจ็บปวด แต่ความเจ็บปวดมันก็ถาโถมราวกับคลื่นยักษ์กลางมหาสมุทรซัดกระหน่ำเข้ามา

"มะ..มันยังใช้การได้อยู่หรือไม่?" หัวใจของโม่อี้ซวนดิ่งวูบลงไปในวังวนแห่งความหวาดกลัว และในขณะนั้นเองเขาพึ่งตระหนักได้ว่าลายแทงขุมทรัพย์ 7 เซียนศักดิ์สิทธิ์ที่เขากำไว้ในมืออย่างแน่นหนาได้อันตรธานหายไป

"ลายแทงขุมทรัพย์ 7 เซียนศักดิ์สิทธิ์... ยะ..อยู่ที่ใด ... " โม่อี้ซวนตกใจอย่างมาก...มันตกใจมากยิ่งกว่าการที่มันกำลังจะกลายเป็นชายไม่ใช่ชายเสียอีก

โม่อี้ซวนถึงกับพูดอะไรไม่ออก หากเป็นแค่เสื้อผ้าหรือแหวนมิติหายไปเขายังพอทานทนได้ อย่างมากก็แค่เศร้าเสียใจและเสียดาย แต่นี่กลับเป็นถึงลายแทงขุมทรัพย์ 7 เซียนศักดิ์สิทธิ์ที่มันทุ่มเทชีวิตเพื่อได้มา ตอนนี้ลายแทงนั้นกลับหายไป.... มันไม่อาจยอมรับความสูญเสียในเรื่องนี้ได้

หนี่หมันเทียนที่ยังเจ็บปวดระบมที่หน้าอก นางได้แอบเปิดเสื้อเพื่อมองดูหน้าอกของนาง และเมื่อพบว่ามันมีรอยแดงเป็นรูปมืออยู่ที่บริเวณเต้านมของนาง นั่นทำให้นางถึงกับโมโหจนแทบคลั่ง ...

แต่ทว่าเมื่อได้ยินเสียงตะโกนด้วยความตื่นตระหนกของโม่อี้ซวนนางพลันได้สติขึ้นมา

ลายแทงขุมทรัพย์ 7 เซียนศักดิ์สิทธิ์หายไปแล้วงั้นเหรอ?

"ไอ้สารเลวบัดซบ ต่อให้ข้าต้องแลกกับระดับการบ่มเพาะทั้งหมดของข้าๆก็ยินดี ขอเพียงได้ส่งเจ้าลงขุมนรกโลกันต์ "หนี่หมันเทียนไม่อาจรักษาความสงบของนางได้แล้วในยามนี้ ทำเรื่องบัดซบกับเรือนร่างของนางไม่พอ ยังกล้าขโมยลายแทงขุมทรัพย์ 7 เซียนศักดิ์สิทธิ์ ไปอีก

โทสะของผู้บ่มเพาะระดับศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่เรื่องที่สามารถดูแคลนได้

ก่อนที่จะตัดผ่านไปยังระดับศักดิ์สิทธิ์นั้นยังถือว่าผู้บ่มเพาะยังเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาอยู่ แต่เมื่อใครก็ตามตัดผ่านไปยังระดับศักดิ์สิทธิ์ได้สำเร็จ มันผู้นั้นไม่อาจนับได้ว่าเป็นมนุษย์ธรรมดาได้อีกแล้ว มันอาจเรียกได้ว่าเป็นเซียนผู้หนึ่ง

"เนตรมารไร้จำกัด!!"

โม่อี้ซวนระเบิดพลังขั้นศักดิ์สิทธิ์ออกมาเต็มพิกัด ตอนนี้มันไม่สนใจเรื่องความเจ็บปวดของน้องชายตนเองแม้แต่นิด มันฝืนใช้พลังงานทั้งหมดควบรวมไปที่ดวงตา ก่อนที่จะใช้ออกด้วยวิชาเนตรขั้นสูง พร้อมทั้งกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างดุร้าย

ถึงแม้มันจะอยู่ในสภาพล่อนจ้อนมีผ้าเตี่ยวพันไว้รอบเอว แต่ทว่าท่าทางของมันกลับสง่างามและดูภูมิฐานอย่างมาก

ความสามารถของระดับศักดิ์สิทธิ์อันน่ากลัวได้ถูกใช้ออกมาให้โลกได้ประจักษ์

"มารไร้จำกัด!!!!" โม่อี้ซวนที่ลอยตัวอยู่บนฟ้าตะโกนออกมาอย่างกราดเกรี้ยว ก่อนที่กลุ่มไอแห่งความชั่วร้ายดำมืดจะแผ่พุ่งออกมาจากฝ่ามือของมัน หลอมรวมกลายเป็นวิญญาณมารร้ายจำนวนหนึ่ง วิญญาณมารร้ายเมื่อได้ออกมายลโลกกว้างอีกครั้งพวกมันก็ส่งเสียงร้องโหยหวนออกมา...ชวนให้ผู้ที่ได้ฟังต้องหวาดกลัวจนหัวหด

"ไปตามหามันให้เจอ แม้จะต้องพลิกฟ้าผ่าปฐพีก็ต้องลากคอมันมาให้ข้า ...ไป!!" โม่อี้ซวนกล่าวออกมาด้วยความอำมหิต

"เจตกระบี่ครองภพ"

ในขณะที่โม่อี้ซวนใช้วิชา มารไร้จำกัด เพื่อส่งวิญญาณชั่วร้ายออกไปค้นหาหลินฟ่านนั้น หนี่หมันเทียนก็ใช้วิชา เจตกระบี่ครองภพ ส่งกระบี่ไร้สภาพ พุ่งไปราวกับเส้นแสงทำลายวิญญาณมารร้ายจนหมดสิ้น

วิญญาณมารร้ายแตกสลายทันทีที่ถูกกระบี่ไร้สภาพของหนี่หมันเทียน

"หนี่หมันเทียนเจ้าคิดที่จะทำอะไร?" โม้อี้ซวนหันไปเหลือบมองหนี่หมันเทียนด้วยแววตาอำมหิต

"ลายแทงขุมทรัพย์ 7 เซียนศักดิ์สิทธิ์ ต้องไม่มีวันตกอยู่ในเงื้อมมือพวกมารจากนิกายปีศาจเช่นเจ้า" หนี่หมันเทียนกล่าวออกมาในขณะที่ลอยตัวอยู่บนท้องฟ้า รอบตัวของนางมีกระบี่ไร้สภาพ ก่อร่าง ลอยหมุนวนอยู่อย่างสวยงาม

"ศิษย์พี่หญิง ... "ทันใดนั้นเอง แสงศักดิ์สิทธิ์แหวกม่านเมฆออกเป็นทาง ก่อนที่จะปรากฏเงาร่างกำลังเคลื่อนที่ตามลำแสงมาอย่างรวดเร็ว ...กำลังเสริมของนิกายกระบี่เหลียนหลงกำลังจะมาถึงแล้ว

ท่าทางของโม่อี้ซวนพลันแปรเปลี่ยนในทันที "หนี่หมันเทียนถึงวันนี้เจ้าจะได้เปรียบ แต่อย่าได้ใจให้มันมากไปนัก ผลลัพธ์ของการดื้อรั้น ฝืนใช้พลังศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอย่างที่เจ้าคิด"

"เจ้ายังคิดว่ามีปัญญา รอดเงื้อมมือข้าไปได้อีกเช่นนั้นหรือ?" ถึงนางจะพลาดลายแทงขุมทรัพย์ 7 เซียนศักดิ์สิทธิ์ไป แต่ทว่านางไม่คิดที่จะปล่อยให้มารร้ายตรงหน้าหลบหนีไปได้เป็นอันขาด

โม่อี้ซวนมองไปที่หนี่หมันเทียนด้วยสายตาเย็นชาก่อนที่จะเอ่ยออกมาอย่างท้าทาย "หนี่หมันเทียน ข้าก็อยากจะรู้นัก ว่าเจ้าจะอาศัยอะไรในการหยุดยั้งข้า"

ทันใดนั้นเองพลังงานที่แท้จริงของโม่อี้ซวนก็สั่นสะเทือนออกมา อากาศรอบข้างเริ่มปริแตก ห้วงมิติข้างตัวของโม่อี้ซวนถูกฉีกออกอย่างน่าสะพรึงก่อนที่มันจะเลือนหายไปในห้วงมิติดังกล่าว     

หนี่หมันเทียนได้แต่ตกตะลึง การแหวกห้วงมิติออกเช่นนี้มันต้องใช้พลังอำนาจของระดับ สู่สวรรค์ และตอนนี้โม่อี้ซวนมีระดับการบ่มเพาะเพียงแค่ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 7 เท่านั้น นี่หมายความว่ามันได้ใช้วิชาที่เกินตัวของมัน

...ไม่ต่างอะไรกับการเล่นพนันที่เดิมพนันด้วยชีวิต

ใบหน้าของหนี่หมันเทียนเริ่มซีดลง นางกระอักเลือดออกมา ก่อนที่จะไม่สามารถพยุงร่างไว้บนนภาได้อีก นางกำลังร่วงหล่นลงมาด้วยความเร็ว

"ศิษย์พี่หญิง ... " ในขณะนั้น คนกลุ่มหนึ่งที่ขี่กระบี่บินก็ปรากฏร่างออกมา ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะเหินไปรับร่างหนี่หมันเทียนที่กำลังร่วงหล่น ได้อย่างทันท่วงที ใบหน้าของสตรีที่เหินร่างไปรับหนี่หมันเทียนนั้นฉายแววกังวลออกมาอย่างมเห็นได้ชัดเมื่อนางสัมผัสถึงอาการของศิษย์พี่ในอ้อมกอด ...

"ระ...รีบไป คนร้ายที่ขโมยลายแทงขุมทรัพย์ 7 เซียนศักดิ์สิทธิ์ไม่น่าจะหนีไปได้ไกลนัก รีบไปตามหามันให้พบ " เมื่อกล่าวจบ หนี่หมันเทียนก็พุ่งตัวหายไปทันที

ผลข้างเคียงของการฝืนใช้พลังศักดิ์สิทธิ์จนเกินขีดจำกัดมันร้ายแรงมากนัก หากไม่จำเป็นจริงๆ หนี่หมันเทียนไม่คิดที่จะใช้มันเด็ดขาด แต่ตอนนี้นางไม่มีทางเลือกอีกแล้ว

หากนางปล่อยให้โม่อี้ซวนออกไปตามหาโจรเช่นนี้ มันย่อมต้องหาตัวโจรนั่นพบอย่างแน่นอน และลายแทงขุมทรัพย์ 7 เซียนศักดิ์สิทธิ์ ต้องตกอยู่ในเงื้อมมือมารร้ายเช่นมัน แผ่นดินนี้คงถึงกาลอวสาน

"ศิษย์พี่หญิง ..."

"รีบไปหาตัวมันเร็วเข้า!! ... "

"ทราบแล้ว ศิษย์พี่"

...

โม่อี้ซวนที่กำลังเคลื่อนร่างภายในห่วงมิติตอนนี้มันกำลังฝืนร่างกายอย่างมาก ลมหายใจมันอ่อนลงเรื่อยๆ ร่างกายของมันเริ่มสั่นเทิ้มและไม่อาจจะคงสภาพการลอยตัวเอาไว้ได้ ...มันหลับตาลงก่อนที่พลังงานความมืดน่าสะพรึงกลัวจะล้นทะลักพวยพุ่งออกมาอย่างมหาศาล ....มันฝืนเปิดผนึกประตูพลังมารแล้ว

ณ กลางป่าที่ไร้ผู้คน

บนพื้นดิน กลับมีสายตาคู่หนึ่งที่คอยจับจ้องการเคลื่อนไหวทุกอย่าง และเฝ้าสังเกตสถานการณ์ทั้งหมดอย่างใจเย็น...เมื่อร่างของคนทั้งหมดเริ่มเหินบินจากไป มันก็เริ่มออกมาจากที่ซ่อน

"ฮ่าฮ่าฮ่า โชคดีชิบหายเลยเว้ยยยย ไอพวกโง่เชิญไปหาข้ากันให้ตาแตกเถอะ! ไอ่จั๊ดง่าวเอ๊ย บิดานึกแล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ ดีนะที่ข้าตัดสินใจขุดหลุมหลบแบบนี้  รู้จักป่าวน้อง ไฮดิ้ง อ่ะ ไฮดิ้ง มันก็จะหายากๆหน่อยนะ ฮ่าฮ่าฮ่า " ....หลินฟ่านที่ขุดหลุมลงไปแอบคนทั้งหมด กล่าวออกมาพร้อมเสียงหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ คนทั้งหมดรีบบินออกไปตามหาตัวมัน ทั้งๆที่ตัวมันอยู่ใกล้แค่ปลายจมูกนี่เอง ...นี่ต้องยกความดีความชอบให้ระบบเทพวิชา ที่ทำให้ไม่มีใครสามารถตรวจสอบพลังของมันได้

 

 

 

 

รีวิวผู้อ่าน